“อะ...เอ่อ...” ถึงแม้ว่าตามแผนแล้วเธอต้องไปกับพวกเขา แต่เมื่อเจอสถานการณ์เช่นนี้เธอไม่อยากไปแล้ว คนเมื่อวานที่มาจีบเธอกับคนวันนี้อยู่คนละสถานะกัน เธอนึกถึงวิธีแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าที่ธีร์สอนไว้หากเจอลูกค้าลวนลาม
บัวต้องไม่ช้ำ น้ำต้องไม่ขุ่น
“นิต้องขอโทษพี่ๆ ทุกท่านด้วยนะคะ เสียดายจังเลย แต่ทางเราจะมีทีมงานที่ชำนาญเส้นทางกว่านิคอยดูแลทุกท่านอยู่แล้วนะคะ พวกพี่ๆ มีปัญหาอะไรสามารถขอความช่วยเหลือได้เลยค่ะ นิต้องขอโทษอีกครั้งนะคะ” น้ำเสียงของนิดาทำให้ทุกคนเชื่อว่าทางทีมงานมีการจัดสรรหน้าที่กันไว้เช่นนั้นจริงๆ ทั้งที่อันที่จริงแล้วก็คือทีมงานชุดเดียวกัน
ดาวและทีมงานพากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะดูท่าแล้วลูกค้ากลุ่มนี้จะคะนองไม่เบา ไม่อยากให้นิดาโดนลวนลามทั้งวาจาและการกระทำ
“ไม่เป็นไรครับ หวังว่าจะมีโอกาสหน้านะครับ อย่างน้อยก็กินข้าวด้วยกันสักมื้อ นะครับน้องนิดา” เขาทิ้งท้ายแล้วยักไหล่ ก่อนจะกลับไปยืนที่เก่า สายตาไม่ได้ละไปจากใบหน้าของสาวน้อยเลย
“มีพี่ๆ ท่านไหนอยากถามอะไรอีกไหมคะ ถ้าไม่มี นิจะพูดถึงบ่อน้ำพุที่เราจะไปกันต่อคร่าวๆ ” นิดาถามหลังจากที่หนุ่มเจ้าปัญหาเดินกลับไปยืนที่เก่าแล้ว
“สวัสดีครับ เดี๋ยวผมขอพูดเรื่องบ่อน้ำพุเองนะครับ”
เสียงพูดที่ดังขึ้นจากด้านข้างดึงสายตาทุกคู่ให้หันไปยังเจ้าของเสียง ขณะที่นิดายืนนิ่งเป็นหิน ไม่รู้ว่าเขามายืนฟังตั้งแต่เมื่อไร แต่ชั่ววินาทีก็ดึงสติกลับมาได้ และรักษามารยาทด้วยการยิ้มให้เขาที่ย่างก้าวเข้ามายืนเคียงข้างเธอ
“นิขอแนะนำวิทยากรอีกท่านนะคะ” เธอเอ่ยกับผู้ฟังและหันกลับมาทางเขา “พี่ธีร์ค่ะ เป็นผู้จัดการคนเก่งของเราค่ะ”
เสียงปรบมือดังขึ้นให้การต้อนรับ
“เชิญพี่ธีร์เลยค่ะ”
นิดาส่งมอบหน้าที่ต่อให้เขา โดยที่เธอก็ยังยืนอยู่ข้างๆ เขาพลางส่งยิ้มให้ผู้ฟังไปด้วย
“อีปั๋ง มึงจะจิกกูทำไม เล็บมึงแทบจะฝังเข้าไปในขากูแล้วนะ” สาวประเภทสองตัวท็อปของบริษัทกระซิบด่าเพื่อนซี้ที่จิกเล็บอยู่บนขาเนียนๆ ของตน
“กูอยากกรี๊ด อยากกินผู้คนนั้น” ปั๋งบอกกับเจนนี่พร้อมทำหน้าทำตาหิวโซ
“สงบเสงี่ยมเจียมสังขารมั่ง ผัวมึงมีรอบเอวแล้ว แค่นี้กูก็ปวดหัวจะแย่” เจนนี่ปรามเพื่อน “แต่จะว่าไป งานดีเนอะ”
“มึงหันไปดูผู้จัดการพวกเราดิ๊ หน้าย่นเป็นหมาชาไป่ไปเลยไหมวะ อุตส่าห์โชว์จีบสาวกลางฝูงชนแบบนี้ ฮิๆ”
“กูไม่กล้าว่ะ แต่หน้าแหกหมอไม่รับเย็บแหละ สม”
ขณะที่ชายใจสาวทั้งคู่พากันเม้าธ์กระจาย อีกมุมหนึ่งก็กำลังซุบซิบเป็นนกกระจอกสลับกับมองไปด้านหน้า
“ณเดชญาญ่าหลุดออกมาจากจอปะวะ” สาวกเอ็นวายเอ่ยขึ้น
“จะใช่แฟนกันไหมแก ดูหน้าคล้ายกันเหมือนเป็นเนื้อคู่” อีกคนเอ่ยไปในทางเดียวกัน
“แกดูสายตาคุณธีร์มองคุณนิดาสิ ฉันว่ามันหวานมากเลยนะ”
“เรียกว่าหวานประเจิดประเจ้อเลยนะมึง” อีกคนว่า
“จะศึกชิงนางไหมแก”
“ไม่รู้ สยองว่ะ สงสารคนของเราเนอะ คิกๆ แต่คุณธีร์หล่อกว่า”
“เอาละครับ ขอให้ทุกท่านสนุกสนานกับการเที่ยวนะครับ” ธีร์จบการบรรยาย และได้รับเสียงปรบมือจากแขกที่มาร่วมฟัง เขาเอื้อมมือแตะเอวนิดาเบาๆ ให้เดินออกไปหาทีมงานของรีสอร์ตที่ยืนอยู่ด้านข้าง
“ดาวครับ เดี๋ยวพี่ขอพาน้องไปกับพี่นะ” ธีร์บอกดาวทันที
“เอ่อ...” นิดาทำท่าจะเอ่ยถาม แต่สายตาที่ธีร์ใช้มองดาวทำให้เลขาฯ สาวไม่กล้าปฏิเสธ
“คะ..ค่ะ เชิญค่ะ” ดาวตอบออกไปด้วยความงุนงง เพราะธีร์มีท่าทีเหมือนไม่พอใจอะไรบางอย่างในตัวหญิงสาว และทันทีที่เธอพูดจบเขาก็คว้าแขนเรียวเล็กบังคับให้เธอเดินไปด้วยกัน
...............
บ้านสไตล์ล็อฟต์ริมลำธารที่ตั้งอยู่ตรงหน้าคือสิ่งปลูกสร้างใหม่ที่นิดาไม่เคยเห็นมาก่อนบนพื้นที่รีสอร์ตของเธอ บ้านหลังนี้อยู่ห่างจากบ้านพักหลังอื่นๆ มากพอสมควร ให้ความเป็นส่วนตัวสูง ดูแล้วน่าจะสร้างเสร็จได้ไม่นาน หน้าบ้านมีระเบียงกว้างยื่นออกไปยังลำธารไม่ต่างจากบ้านพักหลังอื่น เพียงแต่ของที่นี่ใหญ่เกินกว่าจะเรียกระเบียง
คำว่า ‘ลาน’ น่าจะเหมาะสมกว่า กลางลานไม้มีช่องขนาดพอดีกับลำต้นของต้นไม้ใหญ่ที่หยัดยืนมาจากด้านล่าง และแผ่กิ่งก้านสาขาด้านบน กิ่งไม้ใหญ่กิ่งหนึ่งถูกใช้เป็นที่แขวนชิงช้าไม้ ซึ่งกำลังแกว่งเบาๆ
ฝั่งตรงข้ามลำธารก็เป็นที่ดินของนิรชาเช่นกัน ตอนนี้ยังเป็นทุ่งกว้างสีเขียวขจีดูสบายตา สุดลูกหูลูกตาคือทิวเขา กลิ่นธรรมชาติและหญ้าสดลอยมาบางเบาตามสายลมโชยอ่อน เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ รับความสดชื่น
ตัวบ้านมีขนาดใหญ่กว่าบ้านพักหลังอื่นๆ พอสมควร แต่ก็ยังคงคอนเซ็ปต์ของที่นี่ไว้ ถ้าเดาไม่ผิด ด้านข้างตัวบ้านน่าจะมีห้องอาบน้ำไร้หลังคา เผื่อกรณีที่ผู้พักอาศัยต้องการเสพธรรมชาติ นอนดูดาวขณะนอนแช่ตัวอยู่ในอ่างอาบน้ำ
แต่ดูจากรองเท้าที่วางอยู่บนชั้นข้างประตูตรงระเบียงด้านบน แสดงว่าบ้านหลังนี้มีคนเข้าพัก การมาเยือนบ้านพักที่มีคนเช่าไม่ใช่มารยาทที่พึงกระทำ ทว่าธีร์ก็ยังไขกุญแจบ้านหน้าตาเฉย
นิดายื้อตัวเองไว้เมื่อเขารั้งให้เธอเข้าไปในบ้าน ชายหนุ่มจึงเปลี่ยนมาช้อนตัวเธอขึ้นอุ้ม แล้วพาไปด้านใน เขาเดินไปสี่ห้าก้าว เลี้ยวไปด้านขวา มีเตียงห้าฟุตตั้งอยู่ใกล้กับผนังกระจกที่ด้านนอกเป็นแอ่งน้ำใส และชั้นหินที่มีน้ำตกไหลลงมาเป็นชั้นๆ แซมด้วยความเขียวขจีของเฟิร์นและไม้เลี้อย เป็นธรรมชาติที่ชวนตะลึง ในบ้านหากไม่นับรวมห้องน้ำจะไม่มีประตู ก่อนที่จะเข้ามาในห้องนอนหากเดินต่อไปอีกนิดจะเป็นโซนนั่งพักผ่อน ลึกเข้าไปอีกเป็นส่วนของห้องครัว แบบแปลนไม่ค่อยต่างจากบ้านพักหลังอื่น เพียงแต่พื้นที่ใช้สอยเยอะกว่า และมีวิวธรรมชาติที่สวยงามกว่า
“นี่บ้านของพี่กับนิ รังรักของเรา” ธีร์ยิ้มมุมปาก