“กระดาษทะลุแล้วนะครับ” เสียงทุ้มพร่าดังอยู่เหนือสมุด
มือที่เกร็งจนกดหัวลูกลื่นทะลุกระดาษปล่อยปากกาลงเมื่อสติถูกดึงกลับมา
ตาคมสีน้ำตาลเลื่อนจากสมุดมายังใบหน้าเรียวละมุน ก่อนปลายจมูกโด่งลากผ่านผิวแก้มเนียนใสขณะที่เขายืดตัวขึ้น แต่ความอุ่นร้อนบนบ่าอีกข้างของเธอยังไม่ผละไป
นิดาเหลือบตาขึ้นมองเจ้าของมือหนาที่จุดไฟร้อนกรีดเป็นริ้วไปทั่วสรรพางค์กาย เขาส่งยิ้มมุมปากตอบกลับมา เขาชื่อ ธีร์ คลาร์ก เป็นครูหน้าใหม่ เท่าที่นิดารู้ เขาไม่ได้เป็นครูประจำ แต่โรงเรียนจ้างมาเป็นกรณีพิเศษ จบโทเมืองนอก เพิ่งเข้ามาสอนตอนที่นิดาขึ้น ม.6 และสอนเฉพาะห้องเธอ
ราก รูท ตรีโกณ ดิฟ และอะไรอีกสารพัดที่เธอเรียกชื่อไม่ถูกมันน่าเบื่อ สมองเธอไม่รับ แต่คลาสเลขกลับมีเสน่ห์เมื่อเขาเข้ามาสอน
ม.6 เทอมแรกผ่านไปด้วยคะแนนที่กระเตื้องขึ้นมาหน่อย และเธอยังตอบรับคำชวนไปเรียนพิเศษข้างนอกกับเขาด้วย
ธีร์เหมือนแสงอาทิตย์เจิดจ้านำความมีชีวิตชีวามาให้เด็กสาวในโรงเรียน หล่อคม ดวงตาสีน้ำตาลมีหลายมิติ แข็งกร้าว ดุดัน แต่ก็หวานจนคนสบตาด้วยแทบละลาย ริมฝีปากกระจับน่าลุ่มหลง ผมสีน้ำตาลหยักศกน้อยๆ ตัวสูงใหญ่ชวนจินตนาการจนนักเรียนหญิงพากันเพ้อ และบางคนก็...ให้ท่า
สรรพคุณชวนฝันของเขาถูกพูดปากต่อปากไปหลายโรงเรียน คลาสที่เขาเปิดสอนนอกโรงเรียนมีสาวๆ แย่งกันสมัครและเต็มทันที
มีแต่นักเรียนผู้หญิง ห้องฉุนด้วยกลิ่นโคโลญตีกับน้ำหอม
ที่นิดาไปเรียนด้วยก็ไม่ใช่ว่าจะสนใจทำคะแนนไปยื่นเข้ามหาวิทยาลัย เธอไม่ชอบการแข่งขัน และไม่ได้ขยันเรียนขนาดนั้น เธอเรียนตามหน้าที่พลเมืองโดยที่ยังไม่มีเป้าหมายในชีวิตว่าอยากทำอะไร ชอบอะไรก็ยังไม่รู้เลย รู้แต่ว่าอยากทำสิ่งที่แตกต่างไปจากธุรกิจของครอบครัว ฝันจะทำอะไรก็ได้ที่ทำให้รู้สึกภูมิใจในตัวเอง แต่ด้วยความที่ยังไม่ค้นพบตัวเอง จึงเลือกเรียนคณะที่ตรงกับธุรกิจของที่บ้านไว้ก่อน เธอตั้งใจจะเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม
เธอเกลียดเลข แต่ยอมเรียนพิเศษเลข เพราะชอบครูสอนเลข...ก็แค่นั้น และเป็นคนเดียวที่ธีร์กันที่นั่งไว้ให้...โดยไม่ต้องสมัคร
นิดาเป็นเด็กสาววัยสิบเจ็ด รูปร่างเล็กบาง แต่ทรวดทรงของเธอสมบูรณ์แบบ คมชัดทั้งอก เอว สะโพก ส่วนเครื่องหน้าก็ดั่งฟ้าประทาน ตำแหน่งดรัมเมเยอร์ไม้แรกเป็นของเธอทุกปี เป็นดาวเด่นของโรงเรียน ทุกเช้าหน้าห้องเรียนของเธอจะมีแต่หนุ่มๆ มายืนออ
“อืมมมม”
เธอได้ยินเสียงที่ออกมาพร้อมลมหายใจของธีร์ก่อนเสียงออดจะดังขึ้น
กริ๊งงงงง
“เดี๋ยวเจอกันนิดา”
ก้มลงมากระซิบอีกครั้ง ลมหายใจร้อนต้องผิวที่ท้ายทอย ลงน้ำหนักมือกดบ่าเธอเป็นครั้งสุดท้ายก่อนผละออก แล้วเอ่ยกับนักเรียนทั้งห้องขณะก้าวไปหน้าห้อง
“เอาละครับเด็กๆ กลับไปทำต่อที่บ้านแล้วค่อยเอามาส่ง วันหยุดยาวนี้ใครจะเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดก็ขอให้เดินทางปลอดภัยนะ แล้วเจอกันครับ”
“คร้าบบบ”
“ค่า”
นักเรียนในห้องตอบอย่างพร้อมเพรียงกัน แล้วสาละวนเก็บสมุดหนังสือเพื่อย้ายห้องไปเรียนวิชาถัดไป
ธีร์ทอดสายตามองนิดานิ่ง เธอสบตาเขาแว่บหนึ่ง มือลนลานปัดไปโดนกระเป๋าใส่เครื่องเขียนตกจึงก้มลงไปเก็บ เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งก็เห็นแผ่นหลังของเขาที่กำลังลับออกไปจากห้องเรียน หัวใจดวงน้อยกระตุกวาบเมื่อทันใดนั้นเขาก็หันกลับมายิ้มให้เธอ แววตานั้นไม่เหมือนแววตาที่เขาใช้มองเพื่อนๆ ของเธอ อีกไม่กี่ชั่วโมงเธอก็จะได้เจอกับเขาอีกครั้งที่บ้านของเขาในคลาสสอนพิเศษ
“หล่ออะ อยากได้”
“อะดรีนาลีนพุ่งมาก”
ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเป็นวี้ดกับน้ำชา สาวแสบหลังห้องที่ชะม้ายชายตาใส่ธีร์อย่างเปิดเผย
“นิ เย็นนี้ก่อนนิไปเรียนพิเศษ ไปกินไอติมกันก่อนไหม” เล็ก เพื่อนสนิทของนิดาถามขึ้นระหว่างเดินเปลี่ยนห้องเรียน
“ไปสิ ไปร้านฟอร์ยูแอนด์ฟอร์มีนะ” นิดาตอบโดยไม่ลังเล แต่ขอเลือกร้านที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านครูที่เธอต้องไปเรียนพิเศษ
“งั้นไปแท็กซี่นะ” เล็กเสนอ เพราะทุกเย็นนิดาจะต้องซ้อมดรัมเมเยอร์ก่อน กว่าจะเสร็จก็เย็นมาก จึงต้องพึ่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างจากโรงเรียนไปบ้านครูธีร์
เรื่องเรียนนิดาคาบเส้นมาตลอด ในทางตรงกันข้าม เรื่องกิจกรรมเธออยู่แนวหน้า
“ก็ดีเหมือนกัน ตอนเย็นฝนยิ่งชอบตกอยู่ด้วย” ตอนนี้เป็นช่วงฤดูฝน และฝนก็มักจะตกตอนเย็น ตรงเวลาเลิกเรียนเสมอ
เมื่อถึงเวลาเลิกเรียนก็เป็นอย่างที่สองสาวคิดไว้ ฝนเริ่มตั้งเค้ามาแต่ไกล ทั้งสองวิ่งออกไปหน้าโรงเรียนและขึ้นแท็กซี่คันหน้าสุดที่มาจอดเข้าคิว
“เออนี่ หยุดตั้งสี่วันไปไหนหรือเปล่า” เล็กถามเมื่อทั้งสองขึ้นมานั่งบนแท็กซี่เรียบร้อยแล้ว
“อยู่กรุงเทพฯ นี่แหละ ไม่ได้ไปโคราชหรอก” นิดามีบ้านอยู่ทั้งที่กรุงเทพฯ และที่จังหวัดนครราชสีมา บิดาของเธอถือหุ้นใหญ่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ ส่วนที่นครราชสีมานั้นบิดาได้ปูรากฐานไว้ให้ลูกชายและลูกสาวด้วยการซื้อที่ดินผืนใหญ่กว่าพันไร่เพื่อทำธุรกิจรีสอร์ตและไร่องุ่น คชาพี่ชายของเธอเข้าไปบริหารงานที่นั่นได้สองปีแล้วหลังจากเรียนจบ รับช่วงต่อจากที่บิดาทำไว้ให้ นิดาจะไปที่นั่นในช่วงปิดเทอมหรือไม่ก็วันหยุดยาว
“มีนัดกับพี่ภัทรละซี้ รู้นะ” เล็กเคยเห็นนิดากับหนุ่มรุ่นพี่นอกโรงเรียนในวันหยุดครั้งหนึ่ง แต่นิดาก็ไม่เคยนำมาเล่าให้ฟัง
“แหม ดักคอเชียวนะ”
“รึเปล่าล่ะ”
“จะรู้ไปทำไม”
“น้าๆ อยากรู้ความคืบหน้า ใช่ไหมล่ะ พี่ภัทรมาใช่ปะ”
เล็กยังกระเซ้าไม่เลิก เธอแอบเชียร์นิดากับรุ่นพี่คนนี้มาตั้งแต่ม.3 ตอนที่ภัทรเข้ามาตีสนิทกับเธอเพื่อใช้เป็นสะพานไปหานิดา...นักเรียนหญิงที่ไม่มีใครจีบติด กว่านิดาจะยอมคุยกับภัทรได้ก็ตอนเธออยู่ม.6 เทอมสอง ซึ่งตอนนั้นภัทรก็เข้ามหาวิทยาลัยไปแล้ว
“จ้า” นิดาตอบรับในที่สุด “ไม่ต้องถามมากกว่านี้แล้วนะ” นิดาไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากสักเท่าไร จึงไม่อยากพูดถึง
“เย้” เล็กถึงกับตีอกชกลมด้วยความดีใจ ที่เห็นพัฒนาการความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่