“หนาวเหรอครับน้องนิ” บอกตรงๆ ว่าไม่ชอบที่สาวน้อยที่เขาหมายปองเดินเข้ามาโดยมีสูทแบรนด์ดังตัวนี้คลุมอยู่บนตัว มันหมายความว่าเธอให้ความสำคัญกับเจ้าของสูทตัวนี้ ไม่ต่างอะไรจากเธอควงมันมากินข้าวกับเขา
“เวลาอยู่ในห้องแอร์ นิชอบยืมเสื้อของพี่ธีร์มาคลุมน่ะค่ะ” ถึงจะดูใจร้าย แต่เธอจำเป็นต้องพูดออกไปเช่นนี้ เขาจะได้เลิกหวังในตัวเธอ
ปราบถอนหายใจและยิ้มแกนๆ “สำหรับน้องนิครับ” เขายื่นช่อดอกไม้มาให้เธอ
นิดาชั่งใจว่าจะรับหรือไม่ “พี่ปราบคะ ถ้าพี่ปราบมาในฐานะพี่ชายหรือรุ่นพี่ นิจะรับไว้ แต่ถ้าพี่ปราบคิดกับนิมากกว่านั้น นิต้องขอโทษด้วยนะคะ”
“น้องนิพูดตรงจังเลยนะครับ ตัดบัวไม่เหลือใยเลย” ปราบหน้าเจื่อน เขาไม่เคยพลาดเรื่องจีบผู้หญิง แต่คราวนี้ดูท่าจะยาก
“ดูเหมือนใจร้ายใช่ไหมคะ แต่นิว่าถ้าเราพูดตรงๆ แบบนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ จะทำให้เรารักษามิตรภาพเอาไว้ได้นะคะ ดีกว่ามองหน้ากันไม่ติด” เธอส่งความจริงใจผ่านสีหน้าและแววตา
“โอเค” ปราบถอนหายใจอีกครั้ง “ดอกไม้ช่อนี้ในฐานะพี่ชายที่เอ็นดูน้องสาวครับ”
“ขอบคุณค่ะ” นิดาเอื้อมมือไปรับช่อดอกไม้จากเขา “กินอาหารกันดีกว่านะคะพี่ปราบ มื้อนี้นิเลี้ยงค่ะ”
“ขอโทษนะครับน้องนิ มีอะไรติดผมไม่ทราบ” ปราบทำเป็นมองบนเส้นผมดำขลับที่ไม่ได้มีอะไรติดอยู่บนนั้นเลยสักนิด แต่ด้วยความอยากสัมผัสจึงเอื้อมมือออกไป ทว่ายังไม่ทันถึงมือเขาก็ถูกปัดออกไปอย่างแรง สายตาแข็งกร้าวจ้องเข้าไปในดวงตาของปราบ
“พี่กินด้วยได้ไหมครับที่รัก” ธีร์เลื่อนเก้าอี้ตัวข้างๆ เธอออกนั่ง คว้าแก้วน้ำของเธอมาดูดหลอด จากนั้นก็โอบไหล่รั้งเธอเข้ามาหอมฟอดใหญ่อย่างแสดงความเป็นเจ้าของ ส่งยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตาให้กับผู้ชายตรงหน้า ขณะที่กรามขบแน่น โกรธจัดที่ไอ้หน้าตี๋จะแต๊ะอั๋งนิดา
“อ้าวพี่ธีร์” นิดาเลื่อนจานข้าวมาใกล้ๆ เขา “พี่ธีร์กินกับนินะคะ นิกินคนเดียวไม่หมด” พูดเสียงอ้อน วางมือข้างหนึ่งลงบนต้นขาของเขา ลูบเบาๆ แค่เห็นภาพนี้ คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็เดาความสัมพันธ์ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง แค่เพื่อนแค่พี่ หรือเจ้าชายกับลูกน้อง คงไม่มานั่งลูบขา หอมแก้มกันแบบนี้หรอก
“จ้ะ พี่ป้อนนะคะ” เขายิ้มให้เธอ แล้วเลื่อนสายตาไปยังอีกคน “คุณปราบใช่ไหมครับ ผมจำชื่อถูกไหม” ถามเสียงนิ่งแฝงความเย็นชา
“ชะ...ใช่ครับ” ปราบรีบรับคำ ความหวังถูกดับเหมือนถ่านแดงๆ ถูกหย่อนลงไปในถังน้ำเย็น นิ้วนางข้างซ้ายของเธอยังว่าง แต่ดูเหมือนหัวใจเธอจะไม่ว่าง เขาไม่เคยเห็นเธอมองใครด้วยสายตาละมุนขนาดนี้ แม้แต่ไอ้หนุ่มหน้าหล่อที่เธอเคยควงในมหาวิทยาลัย
“ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะครับ ผม ธีร์ คลาร์ก ครับ”
“เช่นกันครับคุณธีร์” ปราบยิ้มเจื่อนๆ
“ผ่านมาทางนี้เหรอครับ หรือว่าลืมของไว้”
ปราบอยากจะบอกว่าเขาทิ้งหัวใจเอาไว้ที่นี่ แต่ถ้าบอกไปเช่นนั้นไอ้ผู้จัดการต้องเล่นงานเขาแน่ ดูมันจะหวงนิดามาก
“ครับ ทางผ่าน พอดีใกล้เที่ยงก็เลยลองโทร.ชวนน้องกินข้าว“ เขาเสพูดไปแบบนั้นขุ่นๆ
“แค่นั้นก็แล้วไป ถ้ามากกว่านี้คงจะมีปัญหา” ธีร์หรี่ตาจ้องเขม็ง วันนี้ผู้ชายตรงหน้าไม่ได้มาในฐานะลูกค้าที่มาเช่าสถานที่ของรีสอร์ต เขาไม่จำเป็นต้องรักษามารยาทอะไรมากมาย
“เอ่อ น้องนิครับ พี่กลับก่อนดีกว่า ต้องรีบไปธุระต่อ ขอบคุณนะครับที่เลี้ยงข้าวพี่” ปราบเห็นว่าหากอยู่ต่อไปก็มีแต่เจ็บใจและเจ็บช้ำ การเอาตัวออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดคือทางออกที่ควรทำที่สุด ไม่มีประโยชน์ที่จะประวิงเวลาต่อไป
“ค่ะพี่ปราบ ขับรถดีๆ นะคะ”
“ครับ” ปราบลุกขึ้น เขาก้มหัวให้ธีร์เล็กน้อย แล้วเดินออกไป
“เอาเสื้อพี่มาคลุมนี่หนาวหรือว่ากันโป๊คะ” ธีร์ถามหลังจากป้อนข้าวให้นิดา และตักใส่ปากตัวเอง
“ผู้จัดการนี่ไม่โรแมนติกเลย” เธอต่อว่า แต่ไม่ตอบคำถามเขา
“พี่โง่น่ะ เฉลยหน่อยสิ”
“ใช้ความรู้สึกสิคะ แล้วจะรู้คำตอบ” นิดาบีบจมูกโด่งๆ ของเขา
“ใช้ความรู้สึกเหรอ” เขาจับมือนิดาที่อยู่บนต้นขา ขยับมาที่เป้ากางเกง น้องชายของเขาตื่นตัวตั้งแต่โดนเธอลูบต้นขาแล้ว “นี่ไง”
นิดาอายจนหน้าแดง ดึงมือออก รอให้น้องชายเขาสงบจากนั้นก็ชวนเขา “ไปค่ะ กลับออฟฟิศกัน” เธอลุกขึ้นแล้วหยิบช่อดอกไม้ขึ้นมา
เขาประสานมือข้างหนึ่งกับมือเธอเดินไปด้วยกัน “เดี๋ยวพี่พาไปหาลูกค้าข้างนอก”
ทั้งสองยิ้มให้สิริขณะเดินผ่านหน้าเคาน์เตอร์ แต่พอก้าวออกมานอกสโมสร ธีร์ก็ดึงช่อดอกไม้ไปจากมือเธอ แล้วโยนลงถังขยะ
“ไม่เห็นสวยเลย” เขาหันมาบอกเธอ
*********
คอสโมโพลิแทนและวิสกี้ถูกนำมาเสิร์ฟยังโต๊ะบนชั้นลอยของไนต์คลับแห่งหนึ่งที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความโรแมนติก ด้านล่างนักดนตรีกำลังขับกล่อมบทเพลงรักมอบความสุขให้กับผู้มาใช้บริการ ซึ่งมีทั้งมาเป็นคู่ และเป็นกลุ่ม
หลังจากพานิดาไปพบลูกค้าในตัวเมือง ธีร์ก็ขับรถมายังไนต์คลับแห่งนี้ซึ่งตั้งอยู่บนเชิงเขา บรรยากาศดี ดนตรีไพเราะ เครื่องดื่มรสละมุน คือจุดขายของที่นี่
ทั้งสองนั่งอยู่บนโซฟาขนาดสองคนนั่ง อยู่ในมุมที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ธีร์พาดแขนไปตามพนัก มืออีกข้างยกเครื่องดื่มส่งให้เธอ ก่อนจะหยิบของตนเองขึ้นมาบ้าง
“ดีสมชื่อเลยนะคะ”