บทที่ 4. ตอน เจ้าเป็นของข้า
“เจ้าเจ็บมากหรือไม่”
เยี่ยเหวินจ้าวเอ่ยถาม แต่นางกลับนอนนิ่งไม่ยอมตอบ เขาจึงแก้เชือกมัดมือ รวมถึงผ้าคาดตานางออก
หลิวซืออินจึงได้เห็น ใบหน้าของโจรชั่วที่ข่มเหงนาง คนผู้นี้มีใบหน้าหล่อเหลา รูปลักษณ์ราวกับคุณชายผู้สง่างาม ต่างจากภาพโจรในความคิดของนาง ว่าจะต้องมีใบหน้าอัปลักษณ์ท่าทางโหดเหี้ยม
เขาหน้าตาดีแล้วอย่างไร คนหน้าตาดีใช่ว่าจะเป็นโจรไม่ได้
นางเมินหน้าหนีไม่ยอมมองหน้าอีกฝ่าย ไม่อยากจดจำคนเลว ที่ข่มเหงสร้างรอยราคีให้นาง หากมีชีวิตรอดกลับไป จะขอลืมคืนวันเลวร้ายนี้ไปให้ได้
“มองหน้าข้า!”
เขาจับปลายคางบังคับให้มองหน้า หลิวซืออินหลับตาไม่ยอมมองหน้า นางเกลียดชังคนผู้นี้ ไม่อยากมองให้เสียสายตา
"ถึงเจ้าจะชิงชังรังเกียจข้า ตอนนี้เจ้าก็เป็นของข้าแล้ว มันไม่มีทางย้อนกลับไปได้อีก"
"แล้วอย่างไร ข้าไม่ได้เต็มใจ เจ้ามันแค่โจรชั่วข่มเหงคนไร้ทางสู้" นางก่นด่าเขา
"สวมเสื้อผ้า เราจะกราบไหว้ฟ้าดินกัน"
เยี่ยเหวินจ้าวรู้ดีว่านางเกลียดชังเขา แต่ถึงอย่างไรเขาก็ต้องรับผิดชอบชีวิตนาง ด้วยการรับนางเป็นภรรยา
"ไม่ ข้าไม่ทำ ฝันไปเถอะ"
หลิวซืออินแม้ภายนอกจะดูเป็นคนอ่อนหวาน แต่ยามดื้อรั้นขึ้นมา นางก็ไม่ยอมถูกบังคับง่ายๆ
"สวมเสื้อผ้า แล้วกราบไหว้ฟ้าดินกับข้า"
เขาเอ่ยย้ำ แต่หลิวซืออินไม่ยอมขยับตัว เยี่ยเหวินจ้าวมองสตรีจอมดื้อดึงคนนี้แล้ว รู้สึกอยากปราบพยศนางขึ้นมา ตกเป็นของเขาแล้วยังไม่ยอมกราบไหว้ฟ้าดินด้วย อยากจะรู้นักว่า จะดื้อรั้นได้ถึงไหน เขายื่นมือไปกระชากชุดเจ้าสาวที่คลุมร่างของนางออก
“ว้าย!”
หลิวซืออินกรีดร้องด้วยความตกใจ รีบคว้ามาปกปิดร่าง เนื้อตัวของนางเปลือยเปล่ามีเพียงชุดขาดวิ่นชุดนี้เท่านั้น แก้มนวลร้อนผ่าว เมื่อสบสายตาคมวาวของอีกฝ่าย อยากให้เขาเอาผ้ามาปิดตานางไว้เช่นเดิม ดีกว่าต้องทนเห็นสายตาที่เขามองเนื้อตัวนาง
“ข้าเห็นของเจ้า มาหมดทั้งตัวแล้ว ปกปิดไปก็ยังจำได้”
ดวงตาคู่คมนั้น จับจ้องเรือนกายงดงามไม่ละสายตา
“ข้าขอร้องเจ้า ปล่อยข้าไปเถอะนะ”
หลิวซืออินพยายามกลั้นสะอื้นไม่ร้องไห้ออกมา รู้สึกอดสูเหลือเกิน นางถูกเขาย่ำยีอย่างไร้ทางสู้ แล้วเขายังพูดจาให้ต้องอับอายอีก
“สตรีหากออกเรือนแล้ว ก็ต้องถูกบุรุษทำเช่นนี้ทุกคน”
คำพูดของเขาคล้ายต้องการจะบอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นล้วนเป็นเรื่องทั่วไปของชายหญิง มือที่จับปลายคางคลายออกมาทาบบนแก้ม ใบหน้าของเขาโน้มเข้ามาใกล้
“ข้าไม่ได้แต่งกับเจ้า”
หลิวซืออินเอ่ยค้าน หรุบตาลงไม่ยอมมองหน้าเขา กิริยานั้นทำให้เยี่ยเหวินจ้าวไม่ชอบใจ
“แม้เจ้าไม่ได้แต่งกับข้า แต่เจ้าก็เป็นของข้าแล้ว”
“ข้าเป็นแค่คนที่ถูกเจ้าข่มเหง”
“จะอย่างไร ข้าเป็นเจ้าของร่างกายของเจ้า สิ่งนี้คือสิ่งที่เจ้าต้องยอมรับ”
เยี่ยเหวินจ้าวเอ่ยย้ำ รู้สึกว่าสตรีนางนี้ช่างดื้อดึงยิ่งนัก
“ไม่ ข้าไม่ยอมรับ เจ้าโจรชั่ว ข้าเกลียดเจ้า!”
นางไม่ยอมรับว่าเขาเป็นสามีของนางเด็ดขาด ในสายตาของหลิวซืออิน คนผู้นี้คือโจรชั่ว สารเลว คนที่นางจะเกลียดชังไปชั่วชีวิต
“ดี เมื่อข้าให้โอกาสเจ้าแล้ว เจ้าไม่ยอมรับ เช่นนั้นเจ้าก็อย่าหาว่า ข้าโหดร้ายก็แล้วกัน”
เยี่ยเหวินจ้าวก้มลงจูบนางบดขยี้ริมฝีปากคนดื้อดึงอย่างดุดัน กอดรัดร่างนุ่มนิ่มไว้ไม่ให้ดิ้นหนี อยากรู้นักนางจะดื้อได้นานแค่ไหน
ริมฝีปากนุ่มยังหวานล้ำ เขาดูดดึงกลีบปากทั้งบนและล่าง บดเคล้าอย่างหนักหน่วง ความหวานหอมของนาง ทำให้เขามึนเมา ยากระตุ้นกำหนัดในสุราที่ดื่มก่อนหน้า คล้ายยังไม่หมดฤทธิ์ ยิ่งจูบก็ยิ่งรู้สึกหวาน ยิ่งจูบก็ยิ่งอยากจะจูบไม่เลิกรา ยิ่งได้ครอบครองเรือนร่างงดงามก็ยิ่งหลงใหล มือป่ายปะลูบไล้ไปบนร่างนุ่มเนียนละมุน ขยำสะโพกหนั่นแน่นเต็มกำมือ
ขณะเสียดสีกายแกร่งกับบุปผางาม แนบชิดจนระอุร้อน จากที่คิดจะหยุดกระทำ แล้วพานางกราบไหว้ฟ้าดินให้ถูกต้อง ตอนนี้ความปรารถนาของเขา กลับทำให้ความคิดนั้นเลือนไป ร่างนุ่มหอมของนางเป็นของเขาแล้ว จึงไม่คิดจะปล่อยนางไปอีก
หลิวซืออินพยายามดิ้นรนขัดขืน แต่ก็สู้ไม่ได้ นางส่ายหน้าหนี แต่ก็ถูกริมฝีปากบดเคล้าอย่างหนักหน่วง จนแทบหายใจแทบไม่ทัน มือหนาลูบไล้ไปทั่วร่างนุ่มเนียน กระตุ้น โลมเล้า เสียดสีร่างไปมา ทำให้รู้สึกทั้งหวาดหวั่น และปั่นป่วนไปหมด กายสาวเหมือนก้อนแป้ง ถูกนวดคลึงให้เปลี่ยนรูปไปตามใจนึก หัวใจทำงานหนักทั้งตื่นกลัว ทั้งผวาสั่น ด้วยความรู้สึกแปลกป่วน ที่ตัวนางไม่รู้ว่ามันคืออะไร
เยี่ยเหวินจ้าวจุมพิตริมฝีปากนุ่ม มอบความวาบหวามอย่างอ่อนโยน ก่อนจะจุมพิตไปบนลำคอขาวผ่อง บรรจงใช้ริมฝีปากแตะบนผิวนุ่มเนียนราวกับผ้าไหม ปลอบประโลมไม่ให้หวาดผวา ด้วยการลูบไล้แผ่วเบา ทรวงอกอวบอิ่มถูกเคล้าคลึง ก่อนจะใช้ริมฝีปากผ่าวร้อน ครอบครองยอดทรวงสีหวาน ขบเม้ม ดูดดึง จนเจ้าของทรวงงามสั่นสะท้าน
“ยะ... อย่านะ...”
หลิวซืออินผวาเฮือก ร้องห้ามเสียงพร่า มือน้อยผลักไส แต่เขาไม่ยอมให้นางได้ต่อต้าน ดูดเม้มริมฝีปากแรงขึ้น มือกอบกุมคลึงเคล้า นวดเฟ้นความนุ่มหยุ่น ราวกับก้อนแป้งซาลาเปาไปมา แรงต้านทานของนางพลันอ่อนลง ไม่อาจฝืนความปรารถนาที่เขากำลังสร้างขึ้นได้ น้ำตาไหลรินออกมา แล้วหยดลงตามหางตา เม้มปาก ร่างงามบิดเกรียวสะท้านไหว แสนละอายนักที่เกิดความรู้สึกนี้ขึ้นมา
“เจ้าไม่ต้องกลัว ข้าจะไม่ทำให้เจ้าเจ็บอีกแล้ว...”
เยี่ยเหวินเจ้าละริมฝีปากออก จากยอดทรวงแสนหวาน ยื่นหน้าไปกระซิบข้างหู ปลอบประโลมให้นางผ่อนคลายความหวาดหวั่น แล้วค่อยๆ รูดตัวลง จุมพิตตามลำคอ แล้วหยุดชื่นชมทรวงอวบงามอีกครั้งอย่างหลงใหล สตรีนางนี้งดงามราวกับเทพธิดา งามกว่าสตรีหลายคนที่เขาเคยพบ ความแค้นถูกสะสางไปแล้ว นางคือคนที่เขาต้องรับผิดชอบดูแลไปชั่วชีวิต
เยี่ยเหวินจ้าวตั้งหน้าตั้งตา เก็บเกี่ยวความสุขจากเรือนร่างงดงามนี้
"จำเอาไว้ ว่าข้าเป็นสามีเจ้า"
///