3. น่าจะหนักกว่า

926 คำ
ปัจจุบัน ช่วงดึก_ "ช่วยไม่ได้...อยากขายตัวก่อนเอง" ร่างกำยำรีบก้าวขายาวกระโดดลงรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ หลังไปดื่มแอลกอฮอล์มาจำนวนมาก บวกกับอารมณ์ขุ่นในกายมันร้อนพรั่งพรู ให้เกิดความคิดฉุนเฉียว สองเท้าแกร่งก้าวเดินไปทางสวนหลังคฤหาสน์ เป็นห้องพักสำหรับพวกแม่บ้านและคนงาน ซึ่งในเวลาเงียบสนิทไม่มีคนออกเพ่นพ่าน ตึก! ตึก! ตึก! เสียงฝีเท้าแกร่งยังก้าวย่ำไปพร้อมกับความคิด หากเขาไม่หาหนทางกำจัดต้นตอเรื่องเมื่อเช้าได้ มันจะคอยทำร้ายความรู้สึกมารดาซะเปล่าๆ "......" สายตาคมกริบไล่มองตามบานประตู จนมาสะดุดอยู่หน้าห้องนึงที่ว่างเปล่ามานาน ทั้งที่เห็นแม่บ้านวุ่นวายทำความสะอาดอยู่เมื่อเช้า...ทว่าตอนนี้ก็ยังไร้คนอยู่อาศัย "มันจะมากเกินไปแล้ว!" เสียงเข้มสบถบอกด้วยความโมโห ทำอาการหัวร้อนเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เพราะรู้แล้วว่าเด็กสาวคงได้เข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหญ่ ได้อภิสิทธิ์มีอำนาจพอๆ กับเจ้าของ ปั้ง! ปลายเท้าแกร่งยกถีบเก้าอี้ตัวว่างเปล่าตรงทางเดิน ก่อนจะรีบมุ่งเข้าประตูบ้านหลังใหญ่ แข่งกับความร้อนระอุในใจ กึ่ก! "ง่ายๆ แค่นี้เราทำได้ใช่ไหมปลาวาฬ" ภาพที่เห็นเต็มสองตาคู่คม คือบิดาเดินออกจากห้องส่วนตัวพร้อมปลาวาฬ ในมือของเธอยังถือถาดแก้วน้ำดื่ม ทั้งที่ตัวเองใส่ชุดแขนขายาวพร้อมเข้านอนแล้ว "ป๊าทำอย่างนี้ได้ยังไง! ม๊าก็นอนอยู่ในห้องไม่ใช่เหรอ!" "ว๊าย!" น้ำเสียงหวานหลุดร้องตกใจ ตอนถูกร่างกำยำตรงมากระชากแขนเรียวให้ห่างจากตัวบิดาเขา จนเธอเกือบหกล้มยังดีที่มีราวกั้นช่วยไว้ "ทำไมลูกทำอย่างนี้ต่างหากฟอเรสต์! ป๊าพึ่งพาหนูปลาวาฬเข้าไปดูแลแม่เราเองนะ" ฟรองซัวส์จะเข้าไปช่วยเด็กสาวให้ทรงตัวยืน กลับถูกลูกชายมาขวางคั่นกลาง "ผมอยากรู้เหมือนกันนะว่าจิตใจป๊าด้วยทำอะไร! ส่วนเธอก็เหมือนกัน อย่ามาตีหน้าซื่อเพราะหวังผลประโยชน์จากพ่อของฉัน!" ร่างกำยำหันมาตะคอกต่อว่าทางปลาวาฬ ทำหญิงสาวตกใจกลัวกำถาดสองมือแน่นเกร็งจนสั่นระริก "ปลาวาฬไม่ได้หวังอะไร..." ดวงคู่กลมมันสั่นเทา มีน้ำตาตีตื้นจนเอ่อรอล้นออก "เพราะแบบนี้สินะพ่อฉันถึงหลงสงสารเธออยู่ได้!" "พอเถอะฟอเรสต์! แม่เรายังไม่ทันนอนหลับนะ จะเข้าไปพร้อมกันเลยไหมล่ะ" ท่านเลือกเดินไปเปิดประตู เผยให้เห็นบุคคลด้านในกำลังพยามจับไม้เท้าพยุงตัวยืน จนท่านต้องรีบเข้าไปช่วยภรรยาก่อน "ก็ดีเหมือนกัน อยากรู้ว่าจะหน้าด้านสู้หน้าแม่ฉันได้อีกนานเท่าไหร่!" "อึก! ปะปลาวาฬเจ็บ" มือใหญ่เอื้อมมาล็อคท้ายทอยเล็ก บังคับให้เธอต้องเดินนำโดยมีเขาทำตัวเป็นผู้คุมนักโทษ "ทำไมฟอเรสต์ถึงต้องรุนแรงกับหนูปลาวาฬด้วยล่ะลูก" เป็นน้ำเสียงอ่อนโยนของซาร่าพูดขึ้น ท่านไม่เคยเห็นลูกชายใช้ความรุนแรงในบ้าน โดยเฉพาะถ้าเป็นเด็กและสตรี "ก็แค่เดินช้า" เขาผละมือออกแล้วมาเช็คปลายเสื้อฮู้ด ทำให้เด็กสาวได้เห็นท่าทีขยะแขยงที่จงใจแสดงออก "ให้ปลาวาฬช่วยคุณซาร่าไหมคะ" ใบหน้าใสสะอาดยังเผยรอยยิ้ม เลือกจะสนใจมองสิ่งที่ผู้อุปการะกำลังทำ คือการพาซาร่าไปนั่งลงบนรถเข็น "ไม่ต้องห่วงฉันหรอกจ๊ะ ขาเริ่มแข็งแรงแล้ว แค่มาวันเดียวยังช่วยพยุงม๊าได้ทั้งวันเลย" ท่านหันไปทางลูกชาย พลางสลับมองหน้าสามีขอความคิดเห็น "หนูปลาวาฬกำลังจะเรียนแพทย์ด้วยนะ อีกหน่อยก็มีหมออยู่ในบ้านแล้ว" ฟรองซัวส์เอ่ยบอก ให้คลายสถานการณ์ลดความตึงเครียดแก่ภรรยา "ก็แค่เรื่องบังเอิญ แล้วม๊าก็จะจ้างพยาบาลส่วนตัวต่างหากไม่ใช่เหรอ จะให้เด็กอ่อนประสบการณ์มาช่วยดูแลทำไม?" ฝ่ายเป็นลูกชายไปจับรถเข็นข้างหลัง เลื่อนล้อพาซาร่าไปใกล้โต๊ะ ที่มีขวดน้ำดื่มวางอยู่ "จะไปไว้ใจคนนอกตลอดก็ไม่ได้นะฟอเรสต์ ดูอย่างรอบที่แล้วสิ เครื่องเพชรม๊ายังหายไปตั้งเยอะเลย" "ดูแล้วคราวนี้ก็น่าจะหนักกว่า" น้ำเสียงเข้มกระแทกบอก เพราะครั้งที่แล้วพยาบาลส่วนตัวแอบทำเรื่องไม่งามกับบิดา จนเขาจับได้ถึงขั้นต้องไล่ออก แต่ปกปิดกันมารดารู้เรื่องทั้งหมด "คุณซาร่าเรียกใช้ปลาวาฬได้ตลอด..." "ไม่ต้อง! ห้องฉันก็อยู่ใกล้แค่นี้เอง คนนอกอย่างเธอไม่น่าจำเป็น" ฟอเรสต์พูดตัดบท แค่ได้ยินเสียงหวานมันชวนให้แสลงหู "ห้องหนูปลาวาฬอยู่ตรงข้ามกับห้องลูกนะฟอเรสต์ แต่ว่าเรียนหมอก็หนักนี่จ๊ะ ต้องค้างหอมหาลัยด้วยใช่ไหม" "ค่ะ อาจจะมีบางวันที่เลิกเร็ว ปลาวาฬจะรีบกลับมาดูแลคุณซาร่านะคะ" หญิงสาวเลือกจะเดินไปย่อตัวลงข้างรถเข็น จับเท้าซาร่ายกลง เพราะท่านใกล้จะเข้านอนตามคำที่ฟรองซัวส์บอก ผลั๊ก! "ถ้าเวลาที่ฉันอยู่ด้วย เธออย่ามาแตะต้องตัวแม่ฉันเด็ดขาด!" เขาใช้ร่างกำยำเดินมากระแทกให้หญิงสาวล้มตัวลง แล้วช้อนอุ้มมารดาขึ้นเอง ท่าทางผละกำลังแข็งแรง "ค่ะ ปลาวาฬจะขออนุญาตก่อนนะคะ" .....................................................
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม