03 เอ็นดู

1422 คำ
“ทำไมรีบ ไม่อยากอยู่กับอาเหรอคะ” ยังไม่อยากปล่อยไปเลย กว่าเขาจะหาเวลาว่างมาอยู่ตรงนี้ได้ไม่ได้ง่าย ช่วงนี้มีเปิดตัวสินค้าใหม่ ไหนจะรีสอร์ทหลายที่กำลังขยับขยาย “พ่อกับแม่ใกล้กลับบ้านแล้วค่ะ ถ้ารู้ว่าหนูมาหาคุณอาคนเดียวต้องโดนพ่อกักบริเวณแน่เลย” “งั้นขออาจูบอีกรอบ” เหมือนบอกไม่ใช่ขอ ไม่รั้งรอให้รัมภาได้ตอบ เขาสอดลิ้นแทรกเข้ามาในโพรงปาก กวาดความหวานของคาราเมลจากปากเธอ จูบไม่อยากปล่อย กระทั่งหญิงสาวหายใจไม่ออกจึงกระตุกคอเสื้อร้องท้วง “อื้อ…” เสียงดัง จ๊วบ ริมฝีปากร้ายถอนออกอย่างนึกเสียดาย “โทษทีนะคะ จูบน้องไข่หวานจนอาไม่อยากปล่อย อารักน้องไข่มากรู้ไหม” “ค่ะ” รัมภาพยักหน้ารับรู้ เวลานี้กลีบปากเธอแดงระเรื่อด้วยฝีปากของเขา “เรื่องของเราอย่าเล่าให้ใครฟังนะคะ ไม่งั้นเราได้แยกจากกันแน่ น้องไข่เข้าใจใช่ไหม” “เข้าใจค่ะ” “เก่งมากคนดี” “คุณอาพักผ่อนนะคะ อย่าโหมงานหนักรู้ไหม” “รู้ค่ะ กลับบ้านดี ๆ นะคะ” หอมที่แก้มสองข้างก่อนจะปล่อยมือจากเอวบางให้เธอเป็นอิสระ ทว่าไม่วายคว้ามือเล็กมากุมไม่อยากปล่อยให้เธอไป “คุณอา เดี๋ยวจะไม่ทันนะคะ” พ่อกลับมาก่อนเธอได้แย่แน่ คุณอายอมปล่อยมือ แต่ก่อนจะปล่อยก็ก้มลงมาหอมหลังมือเสียก่อน เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เอา พอให้หัวใจคนแก่ได้กระชุ่มกระชวย รัมภาส่งรอยยิ้มหวานแล้วเดินออกจากห้องนอนของอนุวัฒน์ “เยส ในที่สุดก็สำเร็จ” กระโดดบนที่นอนด้วยความดีใจ ลืมไปเลยว่าตัวเขาไม่ใช่เด็กหนุ่มวัยรุ่นอีกแล้ว หลายชั่วโมงต่อมา เวลา 18.45 น. บนโต๊ะอาหารมีอาหารหลากหลายเมนูที่ทำโดยแม่บ้านประจำบ้านหลังนี้ รอบโต๊ะมีสมาชิกครอบครัวนั่งประจำที่ และอีกหนึ่งคนที่เรียกว่าแขกประจำบ้านก็ได้ “เสนอหน้ามาแดกข้าวบ้านกูอีกแล้ว เงินเก็บไว้ทำเหี้ยอะไรไม่รู้จักหาซื้อข้าวแดกเอง หัดซื้อแดกบ้าง ไม่ใช่หาแดกแต่ของฟรี” ว่าที่พ่อตาในอนาคตอ้าปากพ่นคำหมา ๆ ใส่ทันทีที่อนุวัฒน์นั่งประจำที่ของเขา “ไม่เจอตั้งหลายวัน แทนที่จะดีใจเพื่อนมากินข้าวด้วย มึงนี่มันเพื่อนยังไงกันวะ” ส่ายหัวใส่เพื่อนสนิท ตั้งแต่มันได้ยินว่า คนดีของพี่เป้ง ไอ้เคลิ้มไม่เคยพูดดีอีกเลย กีดกันและดูแลลูกสาวทุกอย่าง เขาต้องลักลอบเวลามันเผลอถึงได้ใกล้ชิดคนดีของเขา ไอ้มารความรัก “มึงมันไม่น่าไว้ใจ ชอบมองหน้าลูกสาวกู ไข่เจียวหนูอย่าไปหลงคารมคนเลวอย่างมันนะลูก อย่าอยู่กับมันสองต่อสอง อย่าไปฟังคำพูดเลี่ยน ๆ ของมัน คนอย่างมันเชื่อไม่ได้” อย่าได้หวังจะได้เด็ดดอกไม้ลูกสาวสุดรักสุดหวง คนอย่างไอ้เคลิ้มไม่เอาเพื่อนเป็นลูกเขย เป็นตายยังไงก็ไม่เอา ยิ่งไอ้เป้งที่เถื่อนถ่อยตบผู้หญิงรังแกคนแก่ อย่าหวังมาเป็นลูกเขย ไอ้เคลิ้มคนนี้ไม่ต้องการลูกเขยโว้ย แต่เหมือนพ่อจะไม่รู้ว่าไม่ทันแล้วพ่อ ลูกพ่อรักเขาแล้ว จูบกันแล้วด้วย “ไม่ให้กูมองหน้าน้องไข่ จะให้กูมองอะไร” พูดพลางสายตาเลื่อนไปมองที่หน้าอกของรัมภา “ไอ้เป้ง! ไอ้เฒ่าลามก ไอ้วัวแก่ มึงรีบมีเมียเป็นตัวเป็นตนสักทีเถอะ” คนเคยเสืออย่างไอ้เคลิ้มมีเหรอจะอ่านสายตากวนตีนของเพื่อนสารเลวไม่ออก ว่าแล้วอยากกระทืบให้จมตีน 18 ปีไอ้เป้งไม่เคยลดเลิกเรื่องลูกสาวสุดรักของเขาสักครั้ง ไม่ได้ ยังไงก็จะให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นไม่ได้ มันควรมีเมียสักทีเขาจะได้เบาใจลงบ้าง แต่นี่อะไรไอ้ห่าราก ไม่มีเมียแถมยังชอบกินฟรีไปเรื่อย “โอ๊ย! เลิกจ้องตาเลิกกัดกันเหมือนตอนวัยรุ่นได้ไหมคะ นี่รุ่นจะลงโลงกันแล้วนะ พี่เลิกจิกกัดพี่เป้งได้แล้วน่า พี่เป้งแค่เอ็นดูลูกสาวเรา” นุ่นนิ่มห้ามปรามผู้ใหญ่ที่ทำตัวเหมือนเด็ก ทั้งที่อายุอานามไม่ใช่น้อยกันแล้ว ดีที่ลูก ๆ ชินกับสถานการณ์แบบนี้ ทุกอย่างจึงดูเป็นเรื่องปกติที่น่าปวดหัว “เอ็นดูกูไม่เคยว่า แต่ถ้าวันไหนมันให้ลูกเราดูเอ็นมึงจะทำไงอ้วน” ประโยคนี้กระซิบกระซาบเบา ๆ “ไอ้พี่!” นุ่มนิ่มยื่นมือหยิกที่พุงของสามี กล้าพูดเรื่องแบบนี้บนโต๊ะอาหาร หืม มันน่าตบกะโหลกสักที แก่แต่ตัวจริง ๆ ลูกโตขนาดนี้แล้วยังไม่รู้อะไรควรพูดไม่ควรพูดตอนไหน “โอ๊ยอ้วน รังแกกูตลอดเลย” ทำหน้าเง้างอนเมียต่อ เออดีจริง โมโหเพื่อนแล้วมาลงที่เมีย ไม่แคล้วหันไปหาลูกสาว “น้องไข่” “คะพ่อ” รัมภาเงยหน้าสบตาผู้เป็นพ่อ รู้ดีว่าพ่อจะพูดอะไร “ไข่เจียวลูกรัก จำไว้นะลูก หนูไม่จำเป็นต้องมีแฟนก็ได้ โลกนี้ไม่ได้สร้างให้เราจำเป็นต้องมีแฟน พ่อกับแม่จะหาให้หนูทุกอย่าง ที่พ่อบอกแบบนี้เพราะพ่อไม่อยากให้หนูเสียใจรู้ไหม ผู้ชายน่ะไว้ใจไม่ได้ ดูอย่างกะเพราหมูสับสิ เปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าทั้งที่อายุแค่นี้เอง” ว่าแล้วก็ขอเหน็บลูกชายทั้งสองหน่อยเถอะ ปวดประสาทขยันก่อเรื่อง มีลูกแฝดทำให้เคลิ้มเข้าใจหัวอกพ่อแม่เลยว่าปวดสมองกับเขาตอนวัยรุ่นมากแค่ไหน แฝดรองแฝดเล็กขยันก่อเรื่องไม่เว้นวัน นึกว่าเขาสมัยวัยรุ่นคูณสองเถอะ ตาย ๆ เหมือนเวรกรรมตามทัน อยากย้อนเวลาไปเป็นเด็กดีของแม่กับพ่อ “ไหงมาวกหาเราอะพ่อ” “ก็พวกมึงทำจริง แล้วจำไว้หัดป้องกัน ไม่อย่างนั้นพอเกิดเรื่องพวกมึงต้องรับผิดชอบ อย่าทำตัวไร้ความรับผิดชอบเด็ดขาด ถ้ากูรู้ว่าพวกมึงไร้ความรับผิดชอบโดนดีแน่” หันมาขู่ลูกชายทั้งสองด้วยใบหน้าดุดัน ถ้าเลือกได้อยากสต๊าฟลูกไว้ที่อายุ 5 ขวบ ไม่อยากให้โตมาเล้ย โดยเฉพาะไข่เจียวน้อยที่สวยวันสวยคืน “เอาน่าพ่อ ยังไงเราก็ไม่พลาด” เทวาเทวัญพูดพร้อมเพรียงกัน เคลิ้มส่ายหัวเอือมระอาแล้วหันมาเตือนลูกสาวต่อ “เนี่ยแล้วน้องไข่คิดดูนะลูก เจ้าแฝดของลูกอายุเท่านี้ยังเปลี่ยนผู้หญิงขนาดนี้ แล้วอาเป้งที่อายุเท่าพ่อจะขนาดไหนกัน พ่อว่ามีเป็นโขยง ที่ครองตัวโสดไม่ใช่อะไรนะ เอาไว้เผื่อเลือก เก็บไว้กินบ่อย ๆ ไงลูก หนูอย่าได้ไปใกล้เชียวนะ จำที่พ่อเคยบอกได้ไหม” มีโอกาสพร้อมดักทางเพื่อนไว้ทุกครั้ง “เกินไปไอ้เคลิ้ม พูดซะกูเลว ไข่เจียวเข้าใจผิดพอดี” คนเคยทำผิดเริ่มร้อนตัว เมื่อก่อนใคร ๆ ก็ทำกัน ไอ้คนพูดยังเคยทำ เดี๋ยวนี้เขาก็เพลาลง แต่ไหงไอ้ว่าที่พ่อตาเสือกเอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ให้ว่าที่เมียของเขาฟังจนไม่หลงเหลือความดี ลุกไปเตะปากว่าที่พ่อตาสักทีดีไหมวะ “ไม่ต้องห่วง ลูกกูไม่เข้าใจผิด เรียกว่าเข้าใจถูกดีกว่า มึงมันชั่ว อย่าเชียวนะ อย่ามาใกล้ลูกกู น้องไข่รีบกินข้าวรีบเข้านอนลูก อะไรที่พ่อบอกพ่อสอนคือเรื่องจริงทั้งนั้น พ่อไม่มีวันโกหกหนู” “น้องไข่อย่าไปฟังพ่อบ้า ๆ ของหนูพูดนะคะ อาไม่เลวแบบนั้น เรื่องเก่าเรื่องเก็บพ่อหนูมันก็หามาพูด” “ค่ะ” รัมภาส่งยิ้มให้อนุวัฒน์ สรุปเธอต้องเชื่อหรือไม่เชื่อที่พ่อพูดดี ทำไมคุณอาพูดวกไปวนมา คล้ายว่าที่พ่อพูดคือเรื่องจริง โอ๊ยไข่เจียวปวดหัว พ่อก็ขยันทะเลาะกับคุณเหลือเกิน เจอกันเมื่อไหร่ก็ใส่กันเมื่อนั้น ทำอย่างกับว่าเกลียดกัน ถ้าเกลียดกันมากทำไมไม่เลิกคบกันเป็นเพื่อนสักที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม