สายวันของวันร่างสูงเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงนอน มือหนาควานหาร่างเล็กที่เขาตักตวงความสุขเมื่อคืน ก่อนที่เขาจะพบกับความว่างเปล่า ตาคมค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาโฟกัสรอบ ๆ ตัว แต่กลับพบแต่ความว่างเปล่า คิ้วเข้มขมวดกันเป็นปมด้วยความสงสัย
ถึงแม้ว่าเมื่อคืนเขาจะเมามากแต่เขาจำได้หมดทุกอย่างและคิดว่าตื่นเช้ามาเขาจะรับผิดชอบผู้หญิงคนนี้ ที่เขาพรากความบริสุทธิ์ของเธอแต่อันที่จริงเธอนั้นก็พรากความบริสุทธิ์ของเขาไปเช่นกัน
เมื่อนึกขึ้นได้ร่างสูงของกองทัพรีบยันตัวลุกขึ้นจากเตียงและเดินเข้าไปดูในห้องน้ำ เผื่อว่าเธอนั้นกำลังอาบน้ำอยู่แต่แล้วก็พบกับความว่างเปล่า
“ไปไหนแล้ววะ?” กองทัพพึมพำกับตัวเอง ก่อนที่เขาจะรีบเข้าไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินออกเคาะประตูห้องนอนของเพื่อนรักอย่างก้องภพที่คาดว่าน่าจะนอนที่สนามแข่งเมื่อคืน
ปัง ปัง ปัง
“ใครวะ?” เสียงหงุดหงิดของก้องภพที่เปิดประตูออกมา เพราะเสียงทุบประตูดังลั่น
“กูเอง”
“มึงมีเชี้ยอะไรวะ”
“กูอยากดูก้องวงจรปิด ทางเดินเมื่อคืน” กองทัพบอกความต้องการกับเพื่อน เพราะเขาไม่รู้จักชื่อผู้หญิงเมื่อคืนด้วยซ้ำ ทำให้เขาต้องมาไล่ก้องวงจรปิดถ้าเห็นภาพเธอ
เขามั่นใจว่าก้องภพต้องรู้ว่าเธอเป็นใครแน่นอน ผู้หญิงเมื่อคืนถ้าจะให้กองทัพคาดเดาคงเป็นพริตตี้ของสนามแน่นอน
“เอาไปทำอะไรวะ”
“หาคน”
“เออ ๆ เดี๋ยวกูโทรบอกลูกน้องให้ มึงจะรอหรือไปทำงานก่อนวะ”
“ส่งมาให้กูทางไลน์” กองทัพแจ้งรายละเอียดเวลาและจุดให้กับก้องภพ ก่อนที่เขาจะรีบเดินออกจากห้องพักของสนามแข่งและรีบขับรถกลับบ้านของตัวเอง เพราะเขาต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปประชุมบ่ายนี้
“อ้าว!!กองทัพ เมื่อคืนลูกไปไหนมา” เมื่อกองทัพขับรถกลับมาถึงบ้าน เสียงเอ่ยทักของคุณแม่ก็ดังขึ้น ทำให้เขาต้องรีบเดินเข้าไปหาผู้เป็นแม่และรีบหอมแก้มฟอดใหญ่
“นอนที่สนามครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ วันนี้ผมมีประชุม” เพราะไม่อยากถูกซักไซ้ให้มากความ กองทัพรีบเดินขึ้นห้องนอนของตัวเองเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที ก่อนที่เขาจะรีบเดินลงมาจากห้องและขับรถไปที่บริษัททันที
เพราะเขารู้ว่าแม่ต้องถามแน่นอนซึ่งปกติเขามักจะกลับมานอนที่บ้านเสมอ ถึงแม้ว่าจะดึกแค่ไหนก็ตาม และข้อนี่ทำให้เขาต้องหลีกเลี่ยงคุณแม่ให้มากที่สุด
“ท่านประธานสวัสดีค่ะ” บริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีพนักงานจำนวนมากตามพากันหลบให้กับท่านประธานที่รีบเดินเข้ามาภายในบริษัทด้วยอารมณ์หงุดหงิดขั้นสุด
“พิธาวันนี้มีงานอะไรเอามาให้หมด” เจ้านายหนุ่มเดินเข้าไปในห้องทำงานแต่ก็ไม่ลืมที่จะแวะบอกกับเลขาส่วนตัวหน้าห้องให้รีบขนงานมาดับอารมณ์หงุดหงิดภายในใจ
“ครับท่าน” เมื่อเห็นว่าเจ้านายหนุ่มอารมณ์ไม่ดี พิธาจึงรีบกุลีกุจอลุกจากโต๊ะและหอบเอกสารงานทั้งหมดเข้าไปในห้องท่านประธานด้วยความเร็ว เพราะดูจากอารมณ์ของท่านประธานวันนี้เหมือนไปกินรังแตนที่ไหนมา
งานที่เลขาขนมาวางไว้บนโต๊ะทำงาน ทำให้กองทัพหยิบแฟ้มงานขึ้นมาดูอย่างรวดเร็ว ก่อนจะส่งสายตาไล่ให้พิธาออกจากห้องทำงานไป เพราะตอนนี้เขาต้องการความเป็นส่วนตัวและความสงบภายในจิตใจ
ปึก!!
“เป็นเชี้ยไรวะ?” มือหนาปิดแฟ้มเอกสารอย่างแรงตามอารมณ์ของตัวเอง เสียงบ่นพึมพำกับตัวเองที่ตอนนี้เขาแทบจะไม่มีสมาธิอ่านข้อความในเอกสารแม้แต่น้อย ภาพเหตุการณ์บนเตียงเมื่อคืนแวบเข้ามาในหัวของเขาตลอดเวลา
ครืด ครืด ครืด
“กว่าจะโทรมาได้นะไอ้ก้อง” สายเรียกเข้าจากมือถือเครื่องหรู เมื่อรู้ว่าใครเป็นคนโทรเข้ามาทำให้กองทัพรีบกดรับทันทีและไม่รอช้าให้ปลายสายเอ่ยทักทายก่อน
“กูก็รีบแล้วไง เมื่อคืนกูหนักไปหน่อย ไม่เหมือนมึงทั้งคืนยังลุกไปทำงานไหว” น้ำเสียงทีเล่นทีจริงของก้องภพทำให้กองทัพถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่
“มึงรีบพูดมา”
“ผู้หญิงที่มึงลากเข้าห้องไปเมื่อคืน ชื่อริต้า เป็นพริตตี้ที่มาแทนพริตตี้อีกคนหนึ่ง”
“แล้ว?”
“ตอนนี้ริต้าเธอไม่ค่อยรับงานพริตตี้เพราะผันตัวไปเป็นเจ้าของแบรนด์บำรุงผิว” กองทัพนิ่งฟังคำบอกเล่าจากเพื่อนรัก ก่อนที่มุมปากจะยักยิ้มออกมาด้วยความพอใจ
“ว่าแต่มึงไปชอบน้องริต้า ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”
“เสือก!!”
“อ้าว!!ก็กูแค่อยากรู้ไง เพราะน้องริต้าเป็นพริตตี้ตัวท็อปที่ผู้ชายหิวนะเว้ย ไม่เว้นแม้แต่นักธุรกิจยังตามจีบกันเป็นพรวนแต่น้องเขาไม่เคยสนใจใครเลย”
“หึ!! แค่นี้”
“เฮ้อ!!เดี๋ยวดิวะ? ไอ้” ยังไม่ทันที่ก้องภพจะได้คำตอบ กองทัพชิงตัดสายทิ้งทันทีเมื่อเขาได้คำตอบที่น่าพึงพอใจ ยิ้มมุมปากที่ใครเห็นก็ต้องขนลุกซู่ สายตาเป็นประกาย สมองกำลังอะไรบางอย่าง
“แล้วเจอกันริต้า!!”