“นายนี่เป็นคนนิสัยเสียเสมอต้นเสมอปลายจริง ๆ” ริต้าที่กำลังก้มหน้าทำแผลให้กับกองทัพพูดขึ้น คำพูดของเธอทำให้คนฟังถึงกับคิ้วกระตุก เพราะกองทัพกำลังตีความหมายจากคำพูดของริต้าอยู่
ริต้าที่ตั้งใจทำแผลหลังมือให้กับกองทัพ เธอไม่ทันเธอสายตาดุของกองทัพที่กำลังมองเธออยู่ ใบหน้าสวยของริต้าดูตั้งอกตั้งใจทำแผลให้กับเขาจนทำให้กองทัพได้แต่นิ่งมองใบหน้าสวยของเธอที่สะกดสายตาของเขา
“ไอ้กองทัพ มึงสร้างเรื่องอีกแล้วนะเว้ย” เสียงร้องเรียกชื่อกองทัพดังมาจากหน้าร้านของริต้า คิ้วเรียวสวยขมวดกันเป็นปมด้วยความสงสัยว่าเสียงเรียกนั้นเป็นของใคร เพราะมีแต่เสียงที่ลอยเข้ามาแต่ยังไม่พบเจ้าของเสียงที่ตะโกนเรียก
“นายชื่อกองทัพเหรอ”
“ไม่รู้?”
“อ้าว!!ก็ฉันไม่ใช่ทะเบียนราษฎร์จะรู้ได้ไง” ริต้าตอบกวนประสาทกลับกองทัพ ทำให้คนฟังถึงกับใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มระงับอารมณ์ของตัวเอง ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้หญิงเขาคงเขกกระบาลไปนานแล้ว
“ไอ้สัส!!มึงไม่ตอบคำถามกู”
“เออ คิดค่าเสียหายมา”
“กูจะคิดให้มึงหมดตัวไปเลย ไอ้สัส!!เป็นนักธุรกิจดี ๆ ไม่ชอบ ชอบเป็นนักเลง ไอ้ห่า” เสียงบ่นของปริญทำให้ริต้าถึงกับหลุดขำออกมา
“มึงพูดมาก!!”
“สวัสดีครับคนสวย” ปริญเลิกสนใจกองทัพแล้วหันมาทักทายริต้าแทน รอยยิ้มหวานที่ปริญยิ้มให้ริต้าทำให้เธอถึงกับยิ้มตอบกลับอย่างเป็นมิตร เพราะดูจากลักษณะของปริญ เขาดูไม่ได้มีพิษสงอะไรแม้แต่น้อย
“ค่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมปริญ เป็นเจ้าของห้างที่นี่” ปริญยืนมือไปจับมือริต้าเป็นจังหวะเดียวกับที่กองทัพปัดมือปริญลงเสียก่อน
“ริต้าค่ะ เป็นเจ้าของร้านนี่”
“จริงเหรอครับ ทางห้างของเราให้ความร่วมมือดีไหมครับ”
“แย่มาก” ยังไม่ทันที่ริต้าจะตอบปริญ กองทัพก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน ทำให้ทั้งริต้าและปริญต่างพากันหันหน้ามามองกองทัพเป็นตาเดียว
“มึงชอบเสือกเรื่องของคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” ปริญถามกองทัพด้วยความสงสัย เพราะปกติกองทัพมักจะไม่ยุ่งเรื่องของใครและไม่มีใครนั้นกล้ายุ่งเรื่องของเขาเช่นกัน
“มึงเป็นเจ้าของห้างหรือนักสืบ ถามอยู่ได้”
“เออ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวนะคะ” ไม่อยากอยู่ฟังทั้งสองทะเลาะกัน เพราะเธอไม่ได้สนิทกับพวกเขาอีกอย่างเธอก็ต้องรีบเข้าไปเคลียร์บัญชีของร้านด้วย ก่อนที่เธอจะปลีกตัวออกจากวงสนทนาและเดินเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง
“มึงจะไปไหนก็ไปไอ้ปริญ”
“แล้วมึงจะอยู่ที่นี่เพื่ออะไร อีกอย่างนี่ก็ห้างกู กูจะอยู่ส่วนไปก็เรื่องของกูครับ”
“งั้นกูขอซื้อห้างนี่ต่อ”
“ไอ้สัส!!”
“มึงคิดอะไรกับเจ้าของร้านนี่ปะเนี้ย” ปริญถามกองทัพด้วยความสงสัย เพราะตอนนี้เพื่อนของเขาไม่มีท่าทีจะลุกออกจากร้านนี้ไปไหน
“ก็เสือกอีกแหละ”
“ไม่บอกกูก็ไม่ไป กูจะรออยู่นี่”
“เฮ้อ!!ไว้กูจะเล่าให้ฟังแต่ตอนนี้มึงจะไปไหนก็ไปไอ้คุณปริญ” กองทัพดันหลังเพื่อนให้ออกจากร้านไปทันที สายตาสงสัยของปริญยังคงเก็บไม่มิดแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ เพราะเขามีประชุมต่อจึงจำใจต้องวางเรื่องของเพื่อนแล้วเดินออกจากร้าน
“นี่คุณยังไม่กลับอีกเหรอ”
“ถ้ากลับจะเห็นไหม”
“กวนตีน” ริต้าที่นั่งดูบัญชีของร้านใกล้จะเสร็จเงยหน้าขึ้นมามองทางประตู กลับพบว่าเป็นกองทัพที่เปิดประตูเข้ามาอย่างไร้มารยาท
“พูดให้มันเพราะ ๆ หน่อย” ริต้าทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เธอยังคงนั่งอยู่เอกสารบัญชีอยู่บนโต๊ะทำงานโดยไม่สนใจคนที่เข้ามาใหม่แม้แต่น้อย
“เรื่องวันนั้น?” กึก!!อยู่ ๆ กองทัพก็เปิดประเด็นขึ้นมา ทำเอาริต้าถึงกับชะงักไป เพราะเธอไม่คิดว่ากองทัพจะจำเธอได้
“นายจำผิดคนแล้ว”
“ใครแม่ง!!จะจำเมียตัวเองไม่ได้” กองทัพพูดหน้าตายใส่ริต้า เขาไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับประโยคของตัวเองแม้แต่น้อย ยังคงพูดต่อทั้งที่ริต้ายกมือเบรกเอาไว้
“ลืมไปเถอะ ฉันถือว่าฉันทำทาน”
“ลืมไปคนเดียวเถอะ” ใบหน้าดุดันของกองทัพหลังจากที่เขาได้คำตอบจากริต้า ที่ไม่แม้แต่จะสนใจเรื่องที่เกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ
“อ้าว!!คุณ แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไง โวยวายไปเยื่อพรหมจรรย์ฉันกลับมาเหรอ” ตอนนี้ริต้า เริ่มหงุดหงิดใส่กองทัพ เพราะเขาเซ้าซี้ของเขา เธอไม่รู้ว่าเขานั้นต้องการอะไรด้วยซ้ำถึงพูดถึงเรื่องที่ตัวเองได้ทำเรื่องเลวทรามกับคนอื่นแบบนั้น
“ผมขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้น”
“อืม ถือว่าแล้วกันไป”
“ไม่!!”
“โว้ย!! อะไรของคุณ คุณจะเอายังไงคุณกองทัพ” ใบหน้าสวยพร้อมบวกเธอปิดสมุดบัญชีพร้อมกับใบหน้าตึงตัง ยันตัวลุกจากเก้าอี้เดินเข้ามาหากองทัพที่ยืนกอดอกอยู่
“คุณต้องรับผิดชอบผม”
“ห๊ะ? รับผิดชอบอะไร”
“ผมก็เสียตัวให้คุณคนแรกเหมือนกันครับ คุณริต้า” ใบหน้าหล่อโน้มหน้ามาพูดทีละประโยคกับริต้า จนเธอต้องถอยห่างออกจากร่างสูง
“คำพูดหลอกผู้หญิงละสิ” เมื่อได้สติริต้ากอดอกเชิดหน้ามองกองทัพ รูปร่างหน้าตาอย่างกองทัพไม่น่าจะโสดหรือไม่ถ้าโสดคือเขาต้องเป็นเพลย์บอยตัวพ่อบอกเลย
“หึ!!”
“อย่าเข้าใกล้ฉันนะ อะ อื้ม!!” ยังไม่ทันที่ริต้าจะพูดจบ ร่างสูงของกองทัพโชยโอกาสประกอบปากจูบริต้าทันที ปากอมชมพูระเรื่อที่ด่าเขาไม่หยุด ทำให้กองทัพอดใจไม่ไหวใช้มือประคองใบหน้าสวยโน้มใบหน้าหล่อประกอบจูบริต้าอย่างเร่าร้อน
ร่างบางขัดขืนแต่ก็ไม่สามารถสู้แรงของกองทัพได้ จูบเร่าร้อนแปลเปลี่ยนเป็นจูบที่อ่อนหวานละมุนกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งทั่วโพรงปาก เพราะแรงกระแทกก่อนหน้านี้ ก่อนที่กองทัพจะถอนจูบจากคนตัวเล็กเพราะดูท่าแล้วเธอคงหายใจไม่ทัน
“อื้ม!!ไอ้บ้า ปล่อย”
“มีผมเป็นผัวมีอะไรเสียหาย มีอะไรต้องอาย”
“แต่นายอย่าลืม ว่านายข่มขืนฉัน” ริต้าเน้นทีละคำ อันที่จริงกองทัพควรรู้สึกผิดมากกว่านี้แต่นี่อะไรเขาไม่มีความรู้สึกผิดแม้แต่น้อย แถมยังสถาปนาตัวเองว่าเป็นผัวของเธออีก ทำเอาริต้าแทบกุมขมับกับผู้ชายนี่
“จะยังไงก็ใช่ ผมถือว่าผมเสียตัวให้คุณแล้ว ช่วยรับผิดชอบผมด้วย” กองทัพไม่ยอมแพ้ เขายังคงเรียกร้องให้ริต้ารับผิดชอบตัวเขา เพราะเขาไม่เคยแตะต้องตัวผู้หญิงคนไหนให้เป็นมลทินร่างกายตัวเองจะมีก็แต่ริต้าที่เขาพร้อมให้เธอลูบไล้ได้ทุกส่วนของร่างกาย
“นี่นายบ้ารึเปล่า นายกองทัพ”
“ผมพูดจริง”
“ประโยคที่ต้องพูดว่ารับผิดชอบมันควรเป็นฉันมากกว่านะ ฉันเป็นผู้หญิงนะ” ริต้าแวดเสียงใส่กองทัพ เพราะดูเหมือนคนอย่างกองทัพต้องชนะเท่านั้น
“งั้นก็เรียกร้องให้ผมรับผิดชอบคุณสิ”