08 | เสียเป็นแสน แขนไม่ได้จับ

1342 คำ
“ถามพี่กรูละกัน บรรเทิงแต่เช้าเลยกู” ติณห์ดึงทึ้งผมตัวเองจนยุ่งเหยิงก่อนจะคว้าโทรศัพท์มาเสิชข้อมูลในกูเกิ้ล แล้วกูควรเสิชว่ายังไงวะ! ได้กลิ่นกางเกงในแล้วเป็นลม? มันขมคอมากจนทนไม่ไหว แบบนั้นเหรอ? บ้าเอ๊ย! บรรเทิงบวกบรรลัยของแท้จริงๆ พอได้ขอมูลจนสมใจ ยาดมไม่มี สิ่งที่จะทำให้คนเป็นลมรู้สึกตัวเร็วขึ้นคือการอยู่ในที่ที่เย็นสบาย เสื้อผ้าที่ใส่ก็ไม่ควรรัดแน่นจนเกินไป แต่เสื้อตัวเดียวของเขาที่เธอใส่ก็ไม่เห็นว่ามันจะรัดแน่นตรงไหนเลย ถ้าแค่นี้อึดอัด ถอดทิ้งก็เห็นก้อนกลมๆ ขาวๆ อ่ะดิ ทีนี้ว้าวุ่นเลยนะ โดนลักหลับแน่นอน เพราะกูคนหนึ่งแหละที่จะไม่ทน! เกือบสิบนาทีที่พัดๆ วีๆ สลับกับการยกแขนขาวๆ ขึ้นมาเขย่า พอเธอลืมตาเท่านั้นแหละ มองเขาน้ำตาคลอเบ้า แล้วคืออะไร จะมาร้องไห้งอแงให้กูง้อเนี่ยมันไม่ได้นะเว้ย ง้อใครไม่เป็น! “อะไร แค่นี้ถึงกับเป็นลม?” คนโดนแกล้งจนภาพตัดเบือนหน้าหนี นึกถึงสิ่งที่เขาทำน้ำตาถึงกับคลอเบ้า บ้าบอมาก เล่นอะไรไม่นึกถึงจิตใจกันเลย “หันหน้าหนีนี่คือ ไม่ง้อนะเว้ย เธอไม่ใช่เมียฉันนะ” “รู้ว่าไม่ใช่ แต่จำเป็นต้องแกล้งกันขนาดนี้ไหม” “ทำไม รังเกียจไข่ฉัน?” “สกปรก ลามก ทุเรศสิ้นดี” “หึ! ปากดีแบบนี้แปลว่าหายแล้วอ่ะดิ” “ไม่หาย โกรธมาก ไม่มีแรงซักเสื้อผ้าต่อแล้วด้วย หนูไม่ทำแล้ว ลุงไปทำเองเลย” หนอย! คำก็ลุงสองคำก็ลุง เอาซะกูนึกสภาพหน้าตัวเองตอนแก่เลย “เกินไป แค่นี้บอกไม่มีแรงซักเสื้อผ้า สำออยว่ะ” “ลองให้หนูเอาของหนูให้ลุงดมคืนไหมล่ะ” “เอามาดิ กลิ่นเก่าไม่เอานะ แน่จริงถอดของใหม่มาเลย จะดมให้ แล้วหายกันเลย” “อีลุงโรคจิต ลามก ผีทะเล” เนี่ย! เป็นเยอะแล้วกูเนี่ย โดนด่าซะยับ จะจับมาลงโทษให้สมกับความปากดีก็ทำไม่ได้อีก “เออๆ ไม่ซักก็ไม่ซัก แล้วถ้าอยากให้พาไปซื้อเสื้อผ้าก็เลิกสำออย รีบลุกไปอาบน้ำถ้าจะไป” หมับ~ ไม่พูดพร่ำทำเพลง พูดจบปุ๊บ ลุกปั๊บเลย กะไปผลาญเงินในกระเป๋ากูชัดๆ แล้วเท่าที่เห็นนะ รสนิยมดีซะด้วย ซวยเลยกู ต้องแบ่งเงินที่เก็บไว้แดกเบียร์ให้คนอื่นใช้ เมียก็ไม่ใช่ ภาระจริงๆ มิลลิหายเข้าไปอาบน้ำ และตอนนี้ก็ทำได้เพียงหาเสื้อยืดของเขามาใส่ก่อน ดีที่มีแผ่นปิดจุก ก็ทำให้ไม่น่าเกลียดเกินไปด้วยการเอาแจ็คเก็ตยีนส์ตัวยาวของเขามาใส่ทับ มัดผมรวบๆ ง่าย สไตล์เซอร์ๆ สบายๆ ไปก่อน อุปกรณ์การแต่งตัวไม่เอื้ออำนวยจริงๆ “ชุดนี้พอได้ไหมคะ น่าเกียจไหม?” “เหมือนพวกขโมยเสื้อผัวไปใส่” ปรายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้า สวยนะ แต่กูไม่ชมให้ได้ยินแน่นอน “ก็พอได้ เพราะชุดที่ใส่เป็นของว่าที่ผัว” “ใครจะยอมเป็นผัวเธอ?” “ลุงนั่นแหละ” “ไม่มีทาง ขนาดเห็นขาอ่อนเธอ แก้มก้นก็เห็น ยังไม่มีอารมณ์เลย” ตอบกลับปุ๊บ ทำหน้ามุ่ยใส่ทันที เด็กๆ แบบนี้ โน้น! ทางไอ้หลามเลย อย่างเขาเนี่ย ชอบคนเป็นงาน สวยอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเป็นงานด้วย ขี้เกียจสอน เสียเวลา “แล้วคิดไว้รึยังว่าวันนี้จะผลาญเงินฉันสักเท่าไหร่” “ขอบัตรไม่จำกัดวงเงินเลยได้ไหม เดี๋ยวหนูใช้เอง” “ฉลาดเป็นกรด กะเอาให้ฉันหมดตัวเลยเหรอ” “ไม่หมดหรอกมั้ง พ่อลุงบอกว่าลุงรวยจะตาย ปกติก็ใช้เงินซื้อสาวๆ มากินบ่อยๆ ตอนนี้ก็แค่โยกย้ายเงินจำนวนนั้นมาให้หนูใช้ก็แค่นั้นเอง” “เจริญล่ะ ของแท้จริงๆ” มิลลิยกยิ้ม เธอนั่งอยู่ในรถที่แอร์เย็นสบาย มีคนขับรถให้นั่ง ถึงจะต้องรบกันด้วยคำพูดบ่อยๆ แต่ก็ไหวอยู่สบายมาก แม้จะอึ้งกับการเอาคืนด้วยการใช้กางเกงในมายัดจมูกเธอก็เถอะ แต่อะไรทนได้เธอก็จะทน “นี่! ถามจริง แล้วคิดยังไงถึงมาตัวเปล่าวะ คนเรามันต้องมีของติดไม้ติดมือมาด้วยหรือเปล่า ไม่มากก็น้อย ยังไงมันก็ต้องมีอยู่แล้วไหม” “ถ้ามีก็เห็นแล้วไงคะ” ไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปอธิบายเรื่องส่วนตัว ปัญหาของเธอมันก็คือปัญหาของเธอนั่นแหละ ไม่ควรไปบอกหรือยกมันไปไว้ที่ใคร อะไรปล่อยผ่านได้ก็ปล่อยผ่าน ไม่ต้องเก็บมาคิดมาใส่ใจ “แปลกคนจริงๆ” จนกระทั่งมาถึงห้างสรรพสินค้า บัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงิน เขาไม่ให้ก็เหมือนให้ มิลลิหยิบชุดมากกว่าสิบ ไม่รวมชุดนอนและชุดลำลองที่เธอบอกต้องใช้เวลาอยู่บ้าน ซื้อเสื้อผ้าเสร็จ ไปต่อด้วยบรา กางเกงใน เครื่องสำอาง สกินแคร์ น้ำหอม แบบนี้แหละ แบบนี้เลยที่เขาเรียกว่าเสียเป็นแสนแขนไม่ได้จับ และดูท่าทางน่าจะเกาะแน่นเหมือนปลิงเลย “หนูหิวแล้ว~” ได้ของจนพอใจก็หันมาทำตาใส คิดยังไงถึงอ้อนด้วยการทำตาปริบๆ เหมือนเด็กสามขวบของจริง “เรากินอะไรกันดีคะ ชาบูดีไหม หรือลุงอยากทานข้าวคะ” “ข้าว” “ได้ค่ะ เอาเป็นสไตล์ไหนดีคะ หนูให้ลุงเลือกร้าน” “ร้านไหนขายข้าวไข่เจียว ก็ร้านนั้นแหละ” “อ้าว จะพาไปกินข้าวไข่เจียวเองเหรอ หนูอยากกินเป็ดย่าง อยากกินสุกี้” “ไม่มีเงิน ตอนนี้อย่างเดียวที่กินได้คือข้าวไข่เจียว จะกินหรือไม่กิน” “ลุงใจร้ายมากเลยอ่ะ” “ฉันมีทางเลือกอื่นให้ด้วยนะ” “แบบไหนคะ” มิลลิทำตาปริบๆ หิวจนท้องร้อง ปั่นป่วนหมดแล้ว และไม่ได้อยากกินข้าวไข่เจียวด้วย อยากกินอะไรที่มันมากกว่านั้น “เอาบรากับกางเกงในของเธอไปคืนร้านสิ เลือกมาได้ไงตัวละเกือบห้าพัน แล้วหยิบมาเป็นสิบ อยากมีเงินซื้อของดีๆ กินก็เอาไปคืน” “ไม่เอา หนูไม่กล้า” เนี่ย! แล้วมาทำหน้างอแงใส่ ถามว่าได้ผลไหม ไม่มีทาง วันนี้ยังไงก็ข้าวไข่เจียว ไข่เจียวจริงๆ ตากลมมองข้าวไข่เจียวที่วางตรงหน้าตาปริบๆ จากนั้นก็มองชามก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟของเขาที่เนื้อเยอะมาก “พี่ติณห์ เปลี่ยนกันได้ไหม~ หนูอยากกินก๋วยเตี๋ยว” มองอ้อนคนที่ยัดเยียดเมนูที่เธอไม่เลือก ส่วนเขาไปกินอย่างอื่น และมันก็น่ากินกว่าของเธอ “ไม่เรียกลุงแล้วเหรอ?” “ไม่ค่ะ ไม่เรียกแล้ว หล่อขนาดนี้จะเรียกลุงได้ยังไงคะ ต้องเรียกพี่เท่านั้นค่ะ” “เหรอ…” “ใช่ค่ะ สรุปเราเปลี่ยนกันได้ไหมคะ หนูอยากกินก๋วยเตี๋ยวมากกว่า” “ไม่อ่ะ พอดีว่าฉันก็อยากกินก๋วยเตี๋ยวเหมือนกัน” “งั้นกินด้วยได้ไหม หรือไม่ก็ขอตังค์เพิ่ม เดี๋ยวหนูเดินไปซื้อเอง” “ไม่ให้ จะใช้เงินสิ้นเปลืองอะไรนักหนา ข้าวก็วางอยู่ตรงหน้า รีบๆ กินไป” “ใจร้าย ทำร้ายจิตใจกันเกินไปแล้ว” “ถ้าไม่ไหวร้องไห้กลับบ้านเลยก็ได้นะ จะไปส่งให้ถึงที่เลย” ———————- วันนี้บอกจะไปส่งให้ถึงที่ อย่าให้เห็นว่าหลังจากนี้กอดขากลัวน้องทิ้งไปล่ะ 5555555555 ฝากกดไลก์นิยาย เก็บนิยายเข้าชั้น ฝากกดติดตามนักเขียนด้วยนะคะ 🙏🏻🙏🏻
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม