ตลอดทั้งวันลดาแทบจะคิดไม่ตกกับเรื่องที่ใกล้จะเกิดขึ้น เพราะนิสัยด้านลบของแฟนหนุ่มนั้นคือจะมีความรุนแรงอยู่เสมอเมื่อรู้ว่าเธอต้องทำงานใกล้กับบุรุษคนอื่น ถ้าหากว่าเรื่องนี้รู้ถึงหูเธอก็ไม่อยากจะนึกเลยว่ามันจะเป็นเช่นไร แต่ก็คงเดาได้ว่ามันคงไม่ต่างจากครั้งก่อน ๆ ตั้งแต่ครั้งที่เธอยังเรียน แฟนหนุ่มอย่างภีรวัฒน์นั้นมักจะมีอาการไม่พอใจยามเมื่อเธอเข้าใกล้หรือทำอะไรที่มันใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่น ๆ ซึ่งไม่ใช่เขา จนบางครั้งเธอกับภีรวัฒน์มักจะมีปากเสียง ถกเถียงกับเรื่องแบบนี้อยู่เป็นประจำ ก่อนที่เขาเองนั้นจะหายไปจากชีวิตเธอเป็นอาทิตย์และจะกลับมาพร้อมกับดอกไม้ช่อโตเป็นการง้อและขอโทษเธอเหมือนกับทุก ๆ ครั้ง
"เห้อจะทำยังไงดี จะปิดบังก็ไม่ได้ ถ้าบอกไปเรื่องมันก็จะบานปลายไปกันใหญ่"ได้แต่นั่งกลุ้มใจไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดี มีแฟนขี้หึงขี้หวงหนักเอาการแบบนี้มันหน้ากลุ้มใจเสียจริง ๆ
"หรือว่าจะปรึกษายัยสรดี"เพราะทุกครั้งที่มีเรื่องให้เธอเครียดหรือเรื่องที่หาทางออกไม่เจอลดามักจะปรึกษาเพื่อนคนนี้ซึ่งทั้งสองสนิทกันมาตั้งแต่สมัยเรียนลดาให้ความไว้วางใจเพื่อนคนนี้เป็นอย่างมาก และทุกครั้งก็มักจะได้คำปรึกษาที่ดีจากเพื่อนอย่าง'อัปสร' ว่าแล้วก็รีบหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาต่อสาย รอได้ไม่นานปลายสายก็กดรับพร้อมกับมีน้ำเสียงหวานของเพื่อนสาวดังมาตามสาย
"ว่าไงจ๊ะลดาคนสวยของอัปสร"เสียงของอัปสรเพื่อนสาวคนเดียวซึ่งลดาสนิทมากด้วยที่สุดเอ่ยทักด้วยความอารมณ์ดี สายตาคมเฉี่ยวของอัปสรตอนนี้กำลังมองกำไลข้อมือซึ่งมีคนใจดีซื้อให้เป็นของขวัญเมื่อเช้านี้ด้วยความดีใจ
"แหม น้ำเสียงดีใจแบบนี้กำลังดีใจอยู่กับอะไรสักอย่างใช่ไหมล่ะ"ลดาเอ่ยว่าอย่างคนรู้ทัน เพราะถ้าเพื่อนของเธอกำลังตกอยู่ในห้วงอารมณ์ของความสุขนั้นก็มักจะใช้น้ำเสียงและคำพูดแบบนี้อยู่เสมอซึ่งทุกครั้งเธอก็เดาถูกเหมือนกับเช่นตอนนี้
"รู้ทันอีกแล้วนะจ๊ะ"
"คราวนี้เป็นอะไรล่ะ กระเป๋า รองเท้าหรือว่าเสื้อผ้า"
"ไม่ใช่จ้ะคนสวย ครั้งนี้เป็นกำไลของแบรนด์ดังเชียวนะพึ่งจะได้มาเมื่อตอนเช้านี้เอง"ว่าแล้วก็หมุนแขนเรียวของตัวเองซึ่งมีกำไลสีเงินสวมอยู่ มันเป็นสิ่งที่กำลังฮิตอยู่ในตอนนี้ซึ่งราคาของมันไม่ต้องพูดถึง แพงหูฉี่จนพนักงานธรรมดาทำงานมีเงินเดือนไม่กี่หมื่นอย่างเธอไม่กล้าเฉียดใกล้ แต่ที่ได้มาเพราะมีคนรู้ใจซื้อให้ต่างหาก
"ลดาล่ะอิจฉาสรจัง ว่าแต่เมื่อไหร่จะเปิดตัวแฟนจ้ะ คบกันมาตั้งหลายปีลดายังไม่เคยเห็นแม้แต่หน้าของแฟนสรเลย"เท่าที่รู้มาเพื่อนสาวและแฟนคบหากันมาก็หลายปี ถ้าสมองของเธอจำไม่ผิดก็หลังจากที่เธอคบกับแฟนหนุ่มอย่างภีรวัฒน์ได้เพียงแค่ไม่กี่เดือน ไม่นานหลังจากนั้นเธอก็ได้ข่าวว่าอัปสรกำลังมีคนรู้ใจที่คบหากันอยู่ แต่ไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็นแม้แต่ชื่อและรูปลักษณ์ของชายคนนั้น
"อีกไม่นานเธอก็ได้เห็นเองแหละลดาว่าแฟนของฉันเป็นใคร ว่าแต่เธอโทรมามีอะไรอย่างนั้นเหรอ"
"คือว่าฉันมีเรื่องจะปรึกษาและมีเรื่องจะถามเธอสักหน่อย"น้ำเสียงเศร้าสลดไม่สดใสเหมือนเช่นดั่งเคยทำเอาอัปสรถึงกับขมวดคิ้วชนกัน มันต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างที่ทำให้เพื่อนอย่างลดากำลังคิดหนักอยู่ในตอนนี้
"จะปรึกษาเรื่องอะไรว่ามา"
"คือว่า"หลังจากนั้นลดาก็ได้เล่าปัญหาหนักอกหนักใจอยู่ในตอนนี้ให้อัปสรได้ฟังจนหมดเปลือกเรียกได้ว่า เหตุการณ์ในเมื่อตอนเช้าถูกเล่าออกมาโดยไม่มีประโยคไหนตกหล่น หลังจากเธอเล่าจบทั้งสองฝ่ายก็เกิดอาการเงียบจนทำเอาคนที่ร้อนรนในหัวใจในตอนนี้ถึงกับนั่งไม่ติดเก้าอี้
"สรอย่าเงียบสิ ตอนนี้ลดาใจไม่ดีเลย"
"ถ้าบอกไปแล้วทุกครั้งมันจะเป็นเหมือนที่ผ่านมาก็ไม่จำเป็นต้องบอก ลดาฟังฉันนะ ถึงเธอกับภีมจะเป็นแฟนกันก็จริง แต่บางครั้งคนเราก็จะต้องมีเรื่องของตัวเองบ้างไม่จำเป็นจะต้องบอกกันทุกเรื่องจริงไหม เธอเป็นพนักงานก็ต้องย่อมทำตามหน้าที่ของตัวเองถ้าหากมัวแต่ห่วงความรู้สึกของคนอื่นแล้วตัวเธอต้องถูกมองว่าเป็นคนไร้ความรับผิดชอบ เป็นฉันนะฉันจะยอมทำตามคำสั่งของเจ้านาย
"แต่ถ้าภีมเขาเกิดรู้เรื่องนี้ขึ้นมาลดาจะทำยังไงดี"
"เธอไม่บอก ฉันไม่เล่า แล้วภีมจะรู้ได้ไง"สมองน้อย ๆ ตอนนี้เข้าขั้นอาการเบลอกำลังคิดตามคำพูดของเพื่อนสนิท และมันก็จริงอย่างที่อัปสรพูด บางครั้งคนเราก็ต้องมีเรื่องที่เป็นของตัวเองบ้าง ไม่จำเป็นต้องรายงานให้แฟนต้องรู้เสมอไป
"ถ้าอย่างนั้นสรต้องสัญญากับลดานะว่าจะไม่บอกเรื่องนี้ให้ภีมรู้"เพราะถ้าหากว่าแฟนของเธอรู้เรื่องมันก็จะเหมือนกับทุก ๆ ครั้งซึ่งตอนจบจะต้องเกิดการทะเลาะระหว่างเขาและเธอ
"อืม ฉันจะไม่บอก"
"ว่าแต่ตอนนี้ที่โรงแรมงานยุ่งมากเลยเหรอ ช่วงนี้ลดาเห็นว่าภีมหายไปสองสามวันแล้ว"คำถามของลดาทำเอาอัปสรถึงกับยกยิ้มตรงมุมปากเพียงเล็กน้อยและมันจะกลับมาเป็นปกติเมื่อประตูห้องทำงานของรองประธานโรงแรมแห่งนี้เปิดออก พร้อมกับชายร่างกำยำซึ่งอยู่ในชุดสูทเดินออกมาก่อนจะหยุดยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานของเธอ
"ใช่ ช่วงนี้ภีมงานยุ่งมากเลย ฉันกับเขาต้องช่วยกันเคลียร์งานจนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน นี่ก็จะออกไปพบลูกค้าอีก"
"ขนาดนั้นเลยเหรอ"
"ใช่สิ เธอน่ะอย่าคิดมากเลยลดา ภีมเขาน่ะรักเธอจะตายไม่มีวันนอกใจเธอหรอก"พูดแล้วก็ส่งสายตาเชิญชวนไปให้กับชายหนุ่มซึ่งยืนส่งยิ้มหวานอยู่ตรงหน้า นิ้วเรียวปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดบนของตัวเองออกจนทำให้เห็นร่องอกขาวอวบชวนให้น่าสัมผัส
"ได้ยินสรพูดมาแบบนี้ลดาก็เบาใจ สรไปทำงานต่อเถอะจ้ะ ลดาไม่กวนแล้ว"เมื่อได้รู้ในสิ่งที่ตนเองกำลังสงสัยก็เหมือนกับยกภูเขาออกจากใจ ลดากดวางสายแล้วหันมาตั้งหน้าตั้งตาทำงานที่เหลือต่อโดยเธอนั้นไม่รู้เลยว่าเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอกำลังทำอะไรอยู่ในตอนนี้
"เราจะไปพบลูกค้าที่ไหนดีครับคุณเลขา"
"ที่โรงแรมก็ได้นะคะบอส เสร็จจากพบลูกค้า เราสองคนจะได้ไปเสร็จบนห้องกันต่อ"ขาเรียวอ้าออกกว้างอย่างเชิญชวน ทำเอาคนมองอยู่ถึงกับกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ในใจร้อนรุ่มอยากจะจับผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าขยำให้แหลกคาเตียง
"ถ้าอย่างนั้นเราไปกันดีกว่าครับ จะได้ไม่เสียเวลา" เพราะตอนนี้ไฟราคะของทั้งคู่เริ่มปะทุขึ้นแล้ว