2

842 คำ
“กลับมาแล้วค่ะ” เสียงใสแจ๋วของเด็กหญิงสวรินทร์ดังมาก่อนตัวเสียอีก ไม่กี่วินาทีจากนั้นเจ้าตัวก็วิ่งตึง ๆ เข้าไปหาแม่ที่ยืนกำโทรศัพท์อยู่กลางห้องพัก ก่อนจะโอบแขนรอบต้นขาของวสุกัญญาแน่น คนเป็นแม่กอดตอบ แล้วค่อยคลายใจลง เมื่อลูกสาวของเธอกลับถึงห้องพักเสียที เธอยกมือลูบไปมากับศีรษะของลูกค่อยเงยหน้าขึ้นถามเพื่อนรุ่นพี่ที่อาสาพาแม่ตัวดีออกไปหาอะไรกินที่ห้างใกล้ ๆ “ไปถึงไหนกันมาน่ะพี่ยุ้ย ถึงได้กลับเอาป่านนี้ กัญโทรหาก็ไม่ติด ใจคอไม่ดีเลย” “ทีแรกก็ว่าจะพาไปห้างใกล้ ๆ นี่แหละแต่มันไม่ค่อยมีอะไรไง พี่เลยพายัยรินรินนั่งรถไปถึงโน่นเลย” ยุ้ย เพื่อนรุ่นพี่ของเธอเอ่ยชื่อห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านกลางเมือง เด็กหญิงรีบเสริมอย่างต้องการโอ่แม่ว่าตนไปทำอะไรที่ไหนมาบ้าง “น้องได้ขึ้นรถไฟสูง ๆ ด้วยค่ะแม่ สนุกมาก ๆ เลย” “ปล่อยให้แม่คอยอยู่ตั้งนาน เป็นห่วงแค่ไหนรู้ไหมเนี่ย” “เว่อร์จริง ๆ เลย ไปกับพี่น่าเป็นห่วงตรงไหนกัน ใช่ไหมยัยรินริน” เด็กหญิงพยักหน้าไว ๆ ตอบรับว่าใช่ เธอมองสองคนป้าหลานที่เข้าขากันเป็นอย่างดีก็ส่ายหน้าแกล้งพูดไปว่า “แม่นึกว่าป้ายุ้ยเอาลูกสาวของแม่ไปขายแล้วเสียอีก” “ป้ายุ้ยไม่กล้าเอาน้องไปขายหรอกค่ะ เพราะป้ายุ้ยรักน้อง” “ขี้ตู่ ใครเขารักเรากันยัยอ้วนกลม” ยุ้ยบอกจบหอบเอาหลานสาวลงนอนที่เตียงกลางห้องพัก หยอกล้อกันเสียงดังจากนั้น วสุกัญญามองลูกสาวด้วยรอยยิ้ม เธอชอบฟังเสียงหัวเราะใส ๆ เช่นนี้เหลือเกิน แล้วค่อยเดินไปยังห้องอาบน้ำ ก่อนจะพยักหน้าเรียกแม่ตัวดีให้เข้าไปด้านใน ยุ้ยจึงค่อยเข้ามาคุยต่อจากนั้น “อบรมรอบบ่ายเครียดมากไหม” “ไม่มีอะไรหรอกพี่ยุ้ย นี่ไง หนูสรุปให้พี่แล้ว” “ขอบใจจ้า ไม่เสียแรงเลยที่อาสาเลี้ยงหลานให้ เขาเช็กชื่อรอบบ่ายไหม” “เออ เขาเช็กด้วยนะพี่ยุ้ย แล้วเขาก็ไม่ให้เซ็นชื่อแทนกันด้วย รอบบ่ายพี่ขาดประชุมนะคะ รู้หรือยัง” “เอ๊ย จริงดิ” ยุ้ย สาวรุ่นพี่ร้องถามตกอกตกใจ วสุกัญญายิ้มจนตาเกือบปิดที่อำเพื่อนรุ่นพี่ได้ ก่อนบอกไปว่า “ล้อเล่นค่ะ” “แหม เดี๋ยวนี้มีอารมณ์มาล้อเล่นด้วยนะยะ สงสัยหัวใจจะเป็นสีจมปู ไง พี่หมอโทรมายัง” “เกี่ยวอะไรกับพี่กรณ์ด้วยเล่า” เธอบอกปัดแล้วเลี่ยงไปหยิบชุดนอนออกมารอท่าลูก “แล้วพรุ่งนี้ คุณหมอเขาจะมารับกลับบ้านไหม” ยุ้ยยังคงถามต่อ เธอทำเฉย ตอบปัดไปอีกว่า “ไม่รู้สิคะ จะมาทำไม ไม่มามั้ง” “มาแหง ๆ คอยดูนะพอมาถึงก็จะยิ้ม ๆ บอกเสียงละมุน ๆ ว่า ‘ผมผ่านมาแถวนี้พอดีเลยแวะมารับกัญน่ะครับ’ ทำคะแนนขนาดนี้ไม่ใจอ่อนสักทีละจ๊ะคุณแม๊” ยุ้ยถามกระเซ้าเย้าแหย่เธอไม่หยุด วสุกัญญาไม่ได้ตอบไปว่าอะไร ทำเพียงยิ้มบาง ๆ เท่านั้น แล้วหายเข้าไปห้องน้ำจัดแจงอาบน้ำสระผมเป็นการตัดบทสนทนากับเพื่อนรุ่นพี่ไปเสีย พรุ่งนี้เธอและคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมประชุมด้วยกันมีอบรมและทำแบบทดสอบช่วงเช้า ต่อจากนั้นแล้วจึงกลับกันได้ จนถึงเวลาเลิกจากประชุมจึงได้พบว่ารถของนายแพทย์ปกรณ์มาจอดรอที่ด้านหน้าของโรงแรม พอเห็นเธอเดินออกมาจากห้องประชุมเขารีบเดินตรงเข้ามาหาทันที เด็กหญิงสวรินทร์กระตุกมือของแม่ รอจนแม่ย่อตัวลงหาก็ค่อยเปิดปากบอกแม่ไป “เรากลับเองได้ไหมคะแม่” เธอถามลูกกลับทันที “ทำไมล่ะคะ” “น้องไม่ชอบคุณลุงหมอเลยค่ะ” “ทำไมคะ หืม ไหนเราคุยกันสิ” เด็กหญิงสวรินทร์หน้าบึ้งก่อนบอกไปว่า “เดี๋ยวเราค่อยกลับไปคุยกันที่บ้านนะคะ” วสุกัญญายิ้มอ่อน เห็นแล้วก็อดนึกไปถึงอีกคนที่นิสัยแบบนี้ไม่ได้ ทำไมจะต้องเหมือนกันด้วยก็ไม่รู้ แล้วค่อยยืดตัวขึ้นเพื่อไหว้นายแพทย์ปกรณ์ เขาเดินเข้ามาสมทบแล้วเธอจึงค่อยบอกเขาออกไป “บอกแล้วไงคะว่าไม่ต้องมารับน่ะ” “พี่ผ่านมาธุระแถวนี้พอดีก็เลยแวะมารับน่ะ” “เหมือนที่ป้ายุ้ยบอกเลย” เสียงบ่นไม่ดังมาจากเด็กหญิงสวรินทร์ก่อนจะถูกจับมือแล้วดึงเบา ๆ จูงไปยังรถยนต์ของนายแพทย์ปกรณ์ในเวลาต่อมา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม