บทนำ

937 คำ
      วสุกัญญารับยาบำรุงครรภ์จากเภสัชกรแล้วค่อยแวะเข้าห้องน้ำก่อนกลับบ้าน อายุครรภ์ของเธอมากขึ้นก็เริ่มต้องเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้น หลังจากทำธุระเรียบร้อย ออกมาที่ด้านนอกเพื่อล้างมือเธอพบว่ามีคนยืนล้างมืออยู่ก่อนหน้า ทางนั้นมองเธอผ่านเงาสะท้อนของกระจกก่อนทักทายด้วยท่าทีเป็นมิตรทั้งยังชวนคุยอีกด้วย           “กี่เดือนแล้วคะ” เสียงถามสดใสทีเดียว เธอยิ้ม ตามองลงที่หน้าท้องนูนก่อนตอบกลับไป “หกเดือนแล้วค่ะ” ค่อยขยับไปอีกอ่างแล้วยื่นมือล้างที่ตรงนั้น            “ว้าว ใกล้จะคลอดแล้วสินะคะ คุณแม่ยังสวยอยู่เลยไม่รู้ว่าถึงคราวฉันบ้างจะสวยแบบนี้ไหมนะคะ” หญิงคนนั้นยังคงชวนสนทนาต่อ ถามว่าลูกในท้องของเธอเป็นหญิงหรือชาย เธอไม่ได้คุยอะไรมากนัก ถามคำถามมาเธอก็ตอบออกไปเท่านั้น แค่ยืนล้างมือนั่นหญิงคนนั้นก็คุยกับเธอได้หลายคำถามแล้ว วสุกัญญาไม่ได้ร่ำลาใคร เธอมักถูกเรียกว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยมีมิตรไมตรีเท่าไรนักเพียงเพราะพูดน้อยและไม่ค่อยยิ้มให้ใครง่าย ๆ ทันทีที่เดินออกจากห้องน้ำ ก็พบว่าหญิงสาวคนที่พยายามชวนเธอคุยเดินตามหลังออกมาด้วย หล่อนเรียกหาคนที่ยืนรอด้านนอกด้วยเสียงที่ดังอยู่พอประมาณ           “พี่เบญคะ”           ชื่อที่หลุดออกจากปากของหล่อนทำเอาวสุกัญญาใจหาย หัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ พร้อมคิดเข้าข้างตัวเองไปว่าโลกคงไม่กลมและแคบถึงขนาดนั้นหรอก โชคชะตาจะไม่เล่นตลกกับเธอใช่ไหม  แต่แล้วก็พบว่าทุกอย่างกำลังล้อเล่นกับความรู้สึกของเธออยู่           ชายร่างสูงใหญ่ท่วงท่าอากัปกิริยาคุ้นเคยที่ถูกเรียกว่า ‘พี่เบญ’ กำลังตรงมาทางนี้แล้ว  เขาคงเป็น ‘พี่เบญ’ ของหญิงสาวคนสวยคนนั้น แต่นั่นก็ไม่น่าหวั่นใจมากเท่ากับเขาคือ ‘เบญจมินทร์’ ผู้ซึ่งเป็นอดีตสามีของเธอ และเธอกับเขาก็เพิ่งเซ็นใบหย่าปลดปล่อยอิสรภาพให้กันและกันไปเมื่อห้าเดือนก่อนนี้เอง           เบญจมินทร์ไม่ได้ชะลอฝีเท้าของเขาลง  ชายหนุ่มเดินตรงมาทางนี้ และสายตาคมของเขาก็ไม่ได้จับจ้องไปยังคนที่เรียกหาเขาด้วยซ้ำ เพราะเอาแต่มองมาที่เธอ  สายตาของเขากวาดมองที่ชุดของเธอ มองหน้าท้องนูนดันชุดออกมาเพราะมีเจ้าตัวน้อยกำลังโตขึ้นทุกวันอยู่ในท้องของเธอนิ่ง ๆ ปากหนักของเขาเปิดออกช้า ๆ กำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่แล้วหญิงสาวหน้าตาสวยสดใส ท่าทางร่าเริงก็ตรงเข้าไปคล้องแขนของเบญจมินทร์พร้อมแหงนหน้าบอกด้วยรอยยิ้มสดใส           “เราไปกันเถอะค่ะ พี่หมอรอแล้วป่านนี้ รอบนี้ฝากไข่กับน้ำเชื้อเลยนะคะ ถ้าหลังจากนี้เรายังไม่ติดลูกอีกก็คงต้องให้พี่หมอช่วยเราแล้วล่ะค่ะ”          บทสนทนาของทางนั้นเสียดแทงหัวใจของวสุกัญญาไม่น้อย           วสุกัญญาไม่ได้อยู่รอฟังว่าสองคนนั้นคุยอะไร วางแผนอะไรกันอีก เธอเดินโอบครรภ์ของเธอเอง หันกลับไปยังประตูทางออกของโรงพยาบาล ภาพตรงหน้าเธอเลือนรางแบบเดียวกับความทรงจำที่เคยมีต่อเขา หลังหย่าขาดจากกัน เธอรู้ว่าเขาเข้าพิธีสมรสต่อจากนั้นในทันที           และเธอก็ไม่อยากเป็นตัวถ่วงในชีวิตของเขา เธออยากเห็นเขาก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ตั้งแต่เบญจมินทร์คบหากับเธอเขาก็ถูกตัดขาดทุกทางจากครอบครัวของเขา ลูกชายที่เคยอยู่แบบสุขสบายต้องมาลำบาก เท่านั้นไม่พอยังถูกตัดแข้งตัดขาจนธุรกิจที่เขากับเธอช่วยกันก่อตั้งขึ้นมาเสียหายไปหลายรอบแล้ว           เธออยากให้เขาประสบความสำเร็จ เขาไม่จำเป็นต้องมีเธอก็ได้ เธอยอมปล่อยให้เขาไปพบกับความเจริญก้าวหน้า ไปตามทางที่เขาฝันและปรารถนา ได้แต่หวังว่าเขาจะไม่ตามหาเธอ และไม่ติดใจเรื่องที่เธอตั้งครรภ์นี่หรอก           หลังหย่าขาดจากกัน วสุกัญญาย้ายมาอยู่ยังอีกซีกของเมือง เธอได้อยู่บ้านเช่าเล็ก ๆ ที่มีพื้นที่มากพอให้สุนัขได้วิ่งเล่น และเตรียมรอเจ้าตัวน้อยในครรภ์ที่กำลังลืมตาดูโลกในไม่ช้านี้ วันนี้ นาทีนี้แล้วเธอไม่ค่อยได้คิดถึงตัวเองเท่าไรนัก  โรงพยาบาลที่เลือกฝากครรภ์ก็กัดฟันยอมจ่ายเพื่อให้ได้แพทย์ดี ๆ แต่ก็ไม่วายมาเจอกับเขาที่นี่อีกครั้ง หรือรอบหน้าเธอจะย้ายโรงพยาบาลดีนะ ครุ่นคิดพร้อมกับเตรียมตัวลงจากรถที่มาส่งยังหน้าบ้านเช่า เธอชำระค่าโดยสารแล้วค่อยเปิดประตูลงไป  ดันรั้วออกแล้วล็อกมันลงอย่างเดิม เดินตรงเข้าบ้าน นั่งพักไม่ทันหายเหนื่อยดีเลย ออดที่ด้านหน้าก็ร้องดังขึ้น วสุกัญญาลุกขึ้นยืนมองจากด้านใน เห็นร่างสูงใหญ่ที่คุ้นเคยยืนตากแดดตรงนั้นก็นึกอยากให้เขาอยู่ตรงนั้นไปเลยนาน ๆ แต่ก็อดเห็นใจเขาไม่ได้ ใจของเธอไม่แข็งพอ  ขยับหลบพร้อมกับคิดไปว่า แล้วนี่เขารู้แล้วอย่างนั้นหรือว่าเธอพักที่บ้านเช่าหลังนี้ 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม