@ในสวน@เซฟเฮาส์
แสงดาวเดินไปเรื่อย ๆ ตามทางเดินที่ปูด้วยอิฐไว้สองข้างทางเต็มไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับนานาพันธุ์บ้างก็ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวนบวกกับลมพัดโชยเอื่อยทำให้คนตัวเล็กผ่อนคลายลงไปบ้าง
"คิดถึงอาสรเหรอ?" เป็นแดนชลที่พูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ
"เรียกว่าเป็นห่วงถึงจะถูกค่ะ" แสงดาวเปรย ๆ
"ไม่เป็นไรหรอก แค่ไปทำภารกิจสำคัญน่ะ เดี๋ยวก็กลับ"
"....." แสงดาวเงียบ แล้วทำท่าจะเดินกลับเอาดื้อ ๆ
"จะกลับแล้วเหรอ?"
"ค่ะ รู้สึกง่วงมาเฉยเลย" แสงดาวเองก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกันว่าทำไมถึงได้ง่วงเร็วขนาดนี้
"งั้นก็ไปนอนเถอะ เดี๋ยวเฮียเดินไปส่งที่ห้อง" ว่าแล้วชายหนุ่มใช้มือแตะที่ข้อศอกสาวเจ้าเพื่อให้สาวเจ้าเดินนำหน้าไป...
@หน้าห้องนอนแสงดาว
"เข้าห้องเถอะ เดี๋ยวเฮียจะไปที่ห้องปฏิบัติการเสียหน่อย มีอะไรก็เรียกนะ"
"ค่ะ ขอบคุณค่ะเฮีย" ว่าจบหญิงสาวก็ปิดประตูห้องนอนแล้วรีบเข้าไปอาบน้ำเพื่อจะได้นอนซักทีทำไมง่วงตาจะปิดแบบนี้นะ
แสงดาวใช้เวลาอาบน้ำไม่ถึงสิบนาทีแล้วรีบออกมาหาเสื้อผ้าใส่ลวก ๆ แบบโนบราเพราะง่วงมากแล้วรีบสอดตัวเข้าในผ้าห่มแล้วหลับเป็นตาย
สามสิบนาทีผ่านไป
แกร่ก.. เสียงไขกุญแจ
"หมดฤทธิ์แล้วซินะ หึหึ" แดนชลลูบไล้ไปตามกรอบหน้าระเรื่อยลงมาที่ลำคอระหงลงมาถึงแอ่งชีพจร ชายหนุ่มเผลอกลืนน้ำลายอึกใหญ่
《โนบราซ๊ะด้วย ถ้าจะใส่ยาแรงไปหน่อย ว่าแต่เห็นภายนอกคิดว่าไม้ฝากระดาน ดูใกล้ ๆ แล้วก็พอมีนะนี่》ชายหนุ่มคิดทะลึ่งในใจ
...ขอเฮียฟังเสียงหัวใจ ตรวจชีพจรดูหน่อยนะว่ายังเต้นอยู่รึเปล่า... ว่าแล้วชายหนุ่มก็ก้มลงไปจูบซับที่แอ่งชีพจรระเรื่อยมาถึงร่องอกเผลอจูบแรงจนเกิดรอยจาง ๆ ...อือ...เสียงคนตัวเล็กคำรามในลำคอ มือไม้ยกขึ้นปัดสะเปะสะปะไปยังเอิญไปโดนหน้าชายหนุ่มอย่างจัง อู๊ย....ดุจังขนาดหลับยังบ่นยังตบได้อีก ขอหอมนิดหอมหน่อยก็ไม่ได้ ก็เราหอมไปทั้งตัวเลย เมื่อไรจะมองมาที่เฮียซักทีนะ รอมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้วเนี่ย แต่ไม่เป็นไร พักผ่อนเถอะ อย่าเครียด ขนาดนอนยังคิ้วผูกโบว์อีก..แน่ะ...ว่าแล้วยังมะเถียง..ยัยกุ้งแห้งเอ๊ย" แดนชลมโนอยู่คนเดียวเพราะอีกคนหมดฤทธิ์ไปแล้ว
...จุ๊บ... แดนชลจูบหน้าผากคนตัวเล็กเบา ๆ แล้วต้องตัดใจเดินออกจากห้องไปอย่างอ้อยอิ่ง
............
@เช้าวันใหม่
แสงดาวกระพริบตาถี่เพื่อปรับสายตาจากแสงที่แยงเข้ามามาผ่านผ้าม่านสีอ่อน
"อือ สายแล้วเหรอนี่ ทำไมตื่นสายจังเรา แดดแรงขนาดนี้" ว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์มือถือมาดูเวลาพบว่าเป็นเวลา 07.15 น. จึงรีบจัดการตัวเองในห้องน้ำ แสงดาวเลือกเสื้อผ้าสบาย ๆ มาสวมใส่ เป็นเสื้อที่มีเนื้อผ้านุ่มลื่นพริ้ว ๆ คอปาดสีเอิร์ธโทนกับกางเกงขาห้าส่วนผ้าพริ้วสีเดียวกันแล้วรีบลงไปชั้นล่างอย่างรวดเร็ว แสงดาวรีบก้าวลงบันไดพลางเหลียวซ้ายแลขวามองหาคนรู้จักแต่ไม่เห็นใครจึงเดินไปที่ครัวเพื่อที่จะชงกาแฟดื่มและทำอาหารเช้าพวกขนมปังปิ้งหรือแซนด์วิชง่าย ๆ กินรองท้อง แต่พบว่าบนโต๊ะอาหารมีแซนด์วิชทูน่า และเหยือกกาแฟ วางบนเครื่องทำความร้อน เพียงแค่เทใส่แก้วก็พร้อมดื่มได้แล้ว แสงดาวรู้ทันทีว่าเป็นฝีมือใคร คนตัวเล็กยกยิ้มมุมปากพร้อมกับหันมองไปรอบ ๆ แต่ไม่พบใครจึงเดินถือแก้วกาแฟและจานแซนด์วิชเข้าไปในห้องปฏิบัติการเพื่อทำงานค้างให้สำเร็จ โดยไม่รู้เลยว่ามีใครอีกคนที่แอบมองเธอผ่านอแอพพลิเคชั่นในมือถือพร้อมกับยิ้มในหน้าอยู่อย่างนั้นจนใครต่อใครก็พากันแปลกใจว่าทำไมเพราะอะไรคนที่เคยหน้านิ่งถึงได้อมยิ้มได้เป็นนานสองนาน
"อารมณ์ดี?" แดนไตรแซวพี่ชาย
"เออ" แดนชลรีบปิดแอพพลิเคชั่นแล้วเก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกง
"แน่ะ แอบเก็บซ๊ะด้วย ทุกทีเคยวางบนโต๊ะทำงาน คนสำคัญละซิ" แดนไตรยังแซวไม่เลิก
"ว๊ะ ไอ้นี่ เรื่องของนายเอาให้รอดก่อนเถอะ" แดนชลทำโวยวายกลบเกลื่อน
"หมูในอวยน่าเฮีย เมื่อไรก็ได้สบาย ๆ " แดนไตรคุยโว
"หรา......ขอโทษเถอะ ถุ_" แดนชลสบถ
"เอ๊า! เฮียไม่สุภาพกับน้อง เดี๋ยวฟ้องป๊าเลยนี่"
อีกด้านของผู้มาใหม่
"เออ กุเห็น กุได้ยินล๊ะ สม อย่างมึงอ่ะต้องโดนแบบนี้ ชอบแส่เรื่องชาวบ้านดีนัก ทีเรื่องของตัวเองไม่มีปัญญาต้องให้กุช่วย กุก็ช่วยจนไม่รู้ว่าจะช่วยยังไงแล้ว" เป็นเขตแดนที่พูดแทรกขึ้นหลังจากยืนฟังอยู่นานแล้ว
"ป๊า....ดามไม่ยอมน๊า...ป๊าลำเอียงน่า.." แดนไตรทำสะดีดสะดิ้งแบบสาวสองเรียกเสียงหัวเราะจากพี่ชายและบิดาได้อย่างไม่ยาก
"ดูมัน ดูมัน ดูมันทำ ว๊ะไอ้นี่มันห่ามมันรั่วได้ใครว๊ะ" เขตแดนได้แต่พึมพำกับความรั่วเกรียนของลูกชายคนเล็กเบา ๆ
"ป๊ามาถึงนี่มีอะไรรึเปล่าครับ?" แดนชลถามอย่างสงสัย
"ก็ไม่มีอะไรมาก มาทำธุระนิดหน่อยน่ะ แล้วก็มาพบเพื่อนเก่า แต่อีกเดี๋ยวต้องไปต่อล๊ะ ไปนะ"
"อะ ครับ" แดนชลตอบรับอย่าง งง ๆ