EP 15
1270 คำ
เขาได้ยินคำนี้จากปากอากงกับพ่อบ่อยครั้ง จนจำขึ้นใจได้หมดแล้ว เพราะอากงมักจะพูดในเวลากินข้าววันรวมครอบครัว ต่อหน้าทุกคน อันประกอบไปด้วยพ่อแม่ของเขา
บรรดาเมียๆ ของพ่อกับลูกๆ ที่เกิดจากเมียใหม่ หรือไม่ก็ตอนที่อากงเข้าประชุมบอร์ด มีทั้งผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นน้องต่างแม่ของเขา และผู้บริหารที่เป็นเก่าแก่ แต่ก็จัดว่าเป็นคนนอกอยู่ดีในสายตาเขา
“ป๊าเองก็ภูมิใจในตัวแกเหมือนกันนะ”
และบ่อยครั้งที่พ่อจะสมทบตามคำของอากง เขาเดาไม่ออกจริงๆ ถ้าพ่อรู้ว่าเขาช่วยแม่ด้วยการฉกผู้หญิงที่พ่อหมายตาไว้มากินแทน พ่อยังจะภูมิใจในตัวเขาอยู่หรือเปล่า
คิดแล้วเขาก็ละเหี่ยใจ ก็แค่ปลอบใจตัวเอง ว่าที่ทำไปทั้งหมดนั้น ก็เพื่อให้แม่ไม่ต้องเครียด จนเส้นเลือดในสมองแตกไปเท่านั้น พ่อนั่นล่ะจะเป็นบาปไปเปล่าๆ
คนนอนข้างๆ เปลี่ยนจากตะแคงเป็นหงาย วรวัชรเห็นก้อนเนื้อนุ่มๆ และหวานล้ำ โผล่ออกมาจากชายผ้าห่มเพียงเล็กน้อย เลยเอื้อมมือไปดึงผ้าขึ้นคลุม ให้คนกำลังหลับใหลเหมือนไม่ได้สติ ผิวขาวๆ ตั้งแต่ใต้คางลามมายันเนินอก มีจุดแดงเป็นจ้ำๆ และเขารู้ว่าใต้ผ้าห่มนั้นมีอีกเพียบ เพราะเป็นคนประทับตราเอาไว้เองทุกจุด
เขาเพิ่งจะเข้าใจแม่ก็ตอนนี้เอง ว่าทำไมต้องกลัวเด็กสาวคนนี้นัก และเป็นทุกข์เป็นร้อนในทุกครั้ง ที่พ่อพาลูกค้าไปกินอาหารร้านที่เธอทำงานเป็นโฮสเตสอยู่ นับตั้งแต่พ่อได้ไปลองกินร้านนี้แล้วเห็นเธอเข้า ตั้งแต่นั้น
ร้านนี้กลายเป็นร้านประจำของพ่อมาร่วมสี่ห้าเดือนแล้ว เขาเองก็ได้ยินพ่อพูดบ่อยๆ ว่าอยากกินเค้ก แต่ดันพาลูกค้าไปร้านอาหารจีน ซึ่งเขาไม่ได้ใคร่จะสนใจอะไรมากมายนัก เนื่องจากงานรัดตัวมาก
แต่แม่ของเขาสนใจเอามากๆ เลยตามสืบสาวราวเรื่อง จนได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร หลังจากนั้นแม่ก็สั่งเลขาของพ่อ ให้คอยรายงานแม่ตลอดเรื่องของเค้กชิ้นนี้ จากนั้นคำพูดประเภทที่ว่า
“ดูสิคิว ป๊าเราน่ะให้ทิปยัยเด็กนั่นทีละเป็นหมื่นๆ แล้วยังเคยเรียกมาคุย ว่าถ้าต้องการจะให้ป๊าช่วยเหลืออะไรก็บอกได้ ป๊ายินดีจะช่วยทุกอย่าง ขอแค่ให้มันบอกเท่านั้น ม้าจะทำยังไงดี?”
และอีกหลายๆ คำถามที่เขาได้ยินจากปากแม่ แต่ก็ปล่อยให้มันผ่านไป เพราะเห็นว่าเป็นการบ่นแบบผู้หญิงๆ ที่ได้สามีเจ้าชู้เท่านั้น อีกทั้งเขาเข้าใจไปเอง ว่าพ่อคงจะได้เธอไปแล้ว เพราะปกติพ่อไม่เคยมือหนักกับผู้หญิงคนไหนขนาดนี้
ก็ดูเธอสิ ‘สวยเขย่าหัวใจชายได้ขนาดนี้’
แม้ในยามหลับใหล แม้ในยามไม่ได้แต่งหน้าทาปาก และแม้ในยามที่ไม่ได้ใส่อะไร เขากล้าพนันได้เลย ว่าโมเดลลิ่งคนไหนได้เห็นเธอ จะต้องฉกไปเป็นเด็กในสังกัด
แล้วปั้นให้เป็นดาราหรือนักร้องจนโด่งดังได้แน่ๆ แต่ก็อย่างว่า คนเราจะโชคดีไปซะทุกอย่างย่อมไม่มี ยังต้องมีปัญหาให้ต้องเผชิญเหมือนที่เธอกำลังเจอ
และเป็นปัญหาที่หนักหนาเสียด้วย เรื่องอาการแม่เธอนั้น เขาพอเบาใจได้บ้างแล้ว เมื่อมีหมอเก่งๆ กับเงินถึงๆ แต่เรื่องพี่ชายนี่สิ การจะให้รอดจากคุกออกมานั้นมีโอกาสน้อยมาก ลำพังจะทำให้โทษลดลงจากหนักเป็นเบา ก็ต้องใช้เงินในกระเป๋าเขาไปหลายบาท ชักจะสงสัยแล้ว ว่าเขาเป็นขาเปย์เหมือนพ่อไปแล้วหรือยังไง แต่เขาก็รู้ดีว่าที่ทำไปทั้งหมดนั้น ก็เพื่อความสบายใจของแม่มากกว่าเรื่องอื่นใด
ชายหนุ่มค่อยๆ ลุกจากเตียง เดินเปลือยเข้าห้องน้ำ กลับออกมาก็คว้ากางเกงว่ายน้ำมาใส่ เดินออกไปนอกห้องแล้วกระโจนลงไปราวกับฉลามตกมัน ลำแขนยาวๆ จ้วงไปข้างหน้า ถึงขอบสระก็หมุนตัวดีดกลับไปอีกด้าน
ด้วยการใช้เท้าทั้งสองถีบขอบสระ ดำผุดดำว่ายแล้วไปโผล่ขึ้นเหนือน้ำอีกครึ่งสระ นี่คือการกระทำของคนที่เคยเป็นนักกีฬาว่ายน้ำเท่านั้น ไม่งั้นทำนั้นไม่ได้แบบนี้ และฉายาของเขาตอนอยู่มหาวิทยาลัยก็คือ ‘Shark Kew’
คนที่เพิ่งสูญเสียเยื่อพรหมจรรย์ ไปให้เจ้าของเงินหลายล้านเมื่อวานนี้ ค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงด้วยอาการล้านิดๆ เพลียหน่อยๆ ถึงจะรู้ว่าเก้าโมงเข้าไปแล้ว ตอนมองนาฬิกาบนหัวเตียง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกตกอกตกใจใดๆ และนี่เป็นหนึ่งในไม่กี่วัน ที่คนขยันอย่างรดาวดีตื่นสาย และเป็นสายมากๆ ด้วย เพราะปกติจะตื่นตั้งแต่ตีสี่ หรือช้าสุดคือตีห้า เพื่อมาช่วยแม่ทำกับข้าว ใส่รถเข็นไปขายหน้าหมู่บ้านเกือบทุกวัน
พอเจ็ดโมงเธอก็จะกลับเข้าไปอาบน้ำแล้วไปเรียน เลิกเรียนก็จะไปทำงานพาร์ตไทม์เป็นโฮสเตสที่ร้านอาหารจีน กว่าจะกลับถึงบ้านก็เที่ยงคืนหรือตีหนึ่ง นอนได้ไม่กี่ชั่วโมง ก็ต้องลุกไปช่วยแม่แล้ว ส่วนพี่ชายนั้นไปอยู่บ้านแฟนตั้งแต่เรียนจบ ปวส. เพราะดันทำผู้หญิงท้อง แล้วก็ไม่ค่อยได้มาหาแม่กับน้องเลย เรียกว่าเอาชีวิตไปไว้กับบ้านแฟนจนหมด
เพราะลูกสองเมียหนึ่ง ทำให้พี่แทบไม่มีเวลาว่างมาหาเลย เงินทองที่เคยให้แม่กับน้องสมัยยังเรียนไปทำงานไปตอนไม่มีครอบครัว ตอนนี้ก็ไม่มีมาให้เลย
แถมบางครั้งยังต้องขอยืมแม่หรือไม่ก็น้องอีก ยืมแกมขอ เพราะไม่เคยคืน มีแต่มายืมใหม่ตลอด แต่เธอกับแม่ก็เข้าใจดี เพราะภาระพี่เยอะจริงๆ ครอบครัวแฟนของพี่ ก็ไม่ได้มีอะไรมากมายเลย จนกว่าบ้านเธอด้วยซ้ำ หากจะพูดตรงๆ
รดาวดีหันไปมองเตียงอีกฟาก ก็ไม่เห็นใครแล้ว เงี่ยหูฟังข้างนอก ก็ไม่มีเสียงอะไร เลยคิดว่าผู้ชายที่ได้ความสาวของเธอไปแล้วนั้น น่าจะออกไปทำงาน หรือไปไหนๆ แล้ว ในหัวยังจำถ้อยคำดูหมิ่นดูแคลนของเขาได้ดี ซึ่งผิดกับตอนที่เขาพาเธอออกมาจากออฟฟิศพ่อแทบจะคนละคน หรือแทบจะคนละอารมณ์ก็ว่าได้
‘ก็นายมันเป็นผู้ชายไบโพลาร์นี่นา อารมณ์เลยขึ้นๆ ลงๆ ไม่คงที่’
เธอให้คำจำกัดความกับเขาไว้แบบนี้ มือขาวค่อยๆ คว้าเสื้อคลุม พาดอยู่ปลายเตียงมาสวมเพื่อปิดกายเปลือยไว้ ตั้งใจว่าจะไปอาบน้ำ แต่ก็เห็นประตูเปิดออกช้าๆ แบบไม่ได้เคาะ ผู้ชายไบโพลาร์ก้าวเข้ามา ในชุดเกือบจะพร้อมไปทำงานก็ว่าได้ กางเกงสแลคสีดำกับเสื้อเชิ้ตสีครีม รีดเรียบกริบหุ้มกายเขาไว้ รองเท้าหนังขัดมันวาว แทบจะส่งแทนกระจกได้ มองยังไงๆ มาดเขาก็
- ผู้เขียน
