“หายรึยังเนี่ย”
“มึงจะให้กูหายหรือให้กูหายใจไม่ออกตายกันแน่ กดมาแรงขนาดนี้” มังกรเหลือบมองคนตรงหน้าก่อนจะแสยะยิ้มพึงพอใจ นอนมองลมรำเพยที่พะว้าพะวังอยู่กับคนที่ถูกต่อยชนะลงมาแล้ว แต่ไม่สามารถเดินไปหาก็ได้ เพราะเธอต้องคอยถือผ้าห่อน้ำแข็งประคบจมูกโด่งที่พึ่งเผลอเอาศอกกระแทกจนเลือดอาบ
“พูดมากขนาดนี้ก็คงหายแล้วมั้ง ถือเองสิ! ฉันจะไปหาพี่สิงห์แล้ว”
“ไม่! มึงเป็นคนทำกูเจ็บนะรำเพย” มังกรเอ่ยเสียงดุ
“แต่ก็หายแล้วไม่ใช่เหรอ” ลมรำเพยเองก็ตอบกลับเสียงอ่อยอย่างรู้สึกผิด
“แล้วถ้ากูสำลักเลือดเพราะมึงล่ะ”
“เลือดมันหยุดแล้วหนิ”
เธอพลางย่นหน้าพยายามบิดข้อมือที่ถูกคว้าไป ก่อนกดน้ำแข็งลงบนสันดั้งของมังกรอีกครั้ง ดีที่มังกรไม่ได้ร่วมขึ้นเวทีซ้อมในครั้งนี้ด้วย ไม่งั้นเธอคงรู้สึกผิดมากกว่านี้
“แต่ปากกูยังได้กลิ่นสนิมอยู่เลย”
“สำออย! โดนต่อยมาเป็นร้อยเวทีเลือดไม่ออกสักหยด โดนศอกแค่ทีเดียวร้องอย่างกับหมา”
“ให้กูศอกหน้ามึงบ้างดีไหม ไม่ต้องไปเลยนะรำเพย”
ลมรำเพยถอนหายใจถึงแม้จะรู้สึกผิดก็เถอะ แต่เธอก็อยากไปแสดงความยินดีกับสิงหาอยู่ดี ตอนนี้คู่สุดท้ายกำลังขึ้นชกแล้ว นอกจากไม่ได้ดูแล้ว ยังต้องมาคอยปรนนิบัติคนที่ทำเหมือนจะเป็นจะตายเพราะเลือดกำเดาไหลอีก
แต่จะไม่ทำก็ไม่ได้เพราะเธอก็คงถูกพ่อแพ่นกบาลที่ไปทำลูกชายเพื่อนรักของพ่อบาดเจ็บแล้วหนีไปหาผู้ชายแน่ ๆ
ลมรำเพยเม้มปากแน่น ยิ่งเห็นคนที่นอนเป็นระนาบไปกับพื้น ความคิดที่จะหนีก็ถูกล้มเลิกโดยพลัน ความเซ็งปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวาน เพราะตอนนี้ชายเสื้อถูกมังกรคว้าแล้วยึดไว้แน่น
ความเงียบทำให้เธอหันไปสบดวงตาดำสนิทที่เหลือบขึ้นมาจ้องเธอ ลมรำเพยเพิ่งรู้ว่าขนตาที่ล้อมกรอบดวงตาเรียวของคนที่เห็นหน้ากันมาแต่เด็ก ทั้งงอนและยาว คิ้วเข้มที่เรียงเส้นสวยถูกกันเก็บราวกับหนุ่มเจ้าสำอาง เรียวปากแดงก่ำของเขาบางเฉียบกว่าเธอซะอีก หนำซ้ำยังเปื้อนรอยเลือดกำเดา
ลมรำเพยยื่นมือไปแตะมันเบา ๆ แล้วเช็ดออก
ความอุ่นร้อนและกระแสไฟประหลาดที่ปลายนิ้วมือทำให้หญิงสาวนิ่วหน้า รู้ตัวอีกทีมังกรก็กลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่ตามลมรำเพย ก่อนจะเบือนหน้าหนี
“จะมองอีกนานปะ อย่ามาหลงเสน่ห์กูนะ กูไม่อยากอมตีนมึง”
“ใครเขาจะให้อม ตีนได้สกปรกกันพอดี”
“จิ๊” คนตัวสูงจิ๊ปากอย่างขัดใจ
“ไม่เถียงด้วยแล้ว ไปดีกว่า” ว่าพลางปาดแก้มที่ร้อนผ่าวคล้ายว่าทำอะไรไม่ถูก อาการลมรำเพยในตอนนี้เหมือนคนถูกจับได้ทำให้เร่งรีบไม่ทันได้มอง วางมือที่กำลังจะค้ำยันตัวเองให้ลุกยืนลงกลางเป้าตุงของคนเจ็บ
!!!
“ไอ้มังกรแกไม่ได้ใส่กระจับเหรอ”
นัยน์ตาคู่สวยเบิกกว้างสบดวงตาของมังกรอย่างไม่เข้าใจ กางเกงมวยผ้าลื่นที่ควรนุ่มมือ แต่กลับมีบางอย่างแข็งขืนแบบฉับพลันกระดกคามือ พอจับ ๆ คลำ ๆ ดูเหมือนว่ามันจะพองใหญ่ขึ้นมากกว่าเดิม กระจับนักมวยมันไม่ใช่ทรงกระบอกแบบนี้ไม่ใช่เหรอ
“...ทำไม...มัน...”
กระจับนักมวย...ทำไมมันโด่ขึ้นมาคามือเธอกันเล่า!
“อีรำเพย...”
ลำคอของมังกรแห้งผากจนต้องกลืนน้ำลายดับกระหาย คนหลายสิบไม่เป็นอุปสรรคในความคิดพิเรนทร์ของเขาเลย สายตาสกปรกปราดมองเรือนอกอวบ ผ่านลำคอระหงไปจนถึงดวงตาคู่สวย เพียงครู่เดียวเลือดทั้งกายของเขาก็ไหลเวียนรอบท่อนเอ็นจนรวดร้าวไปทั้งตัว
“มึงรับผิดชอบเลยนะ”
“ระ...รับผิดชอบ กรี๊ดดด” ดวงตากลมเบิกกว้างส่งเสียงกรีดร้องแล้วขยำแก่นกายแข็งขืนเต็มมือ
“อ๊ากกกกมังกรน้อยกู! มึงจะบี้ไปถึงไหน!!!”
“กรี๊ดดดเสนียดไอ้มังกรไอ้หรรมเล็ก”
“เล็กเหรอมึงจับดูดี ๆ ดิ๊ อ๊ากกกูบอกว่าอย่าบีบ มันปวดนะโว้ย”
“เฮือก!”
หญิงสาวสะดุ้งเฮือกปล่อยฝ่ามือออกจากแก่นกายที่ร้อนผ่าว ก่อนจะยกเท้าถีบร่างที่นอนอยู่บนที่นั่งหล่นกลิ้งไปกับพื้น แล้วสะบัดมือวิ่งหนีไปไม่ไยดี
“แอ๊ก!!!”
น่วม...น่วมไปหมดทั้งตัวแล้ว
มังกรกัดปากครวญครางในใจ มังกระน้อยของเขาตั้งเพราะลมรำเพยที่พึ่งซัดกันหยก ๆ เนี่ยนะ รู้ถึงไหนได้อายถึงนั่น ไม่นานแก้มที่ซ่อนไว้ในฝ่ามือก็แดงก่ำ เมื่อความรู้สึกตอนที่มือเล็กลูบคลำจุดอ่อนไหวยังชัดเจน
นี่เขาไม่ต้องอมตีนหมาจริง ๆ เหรอวะ
แล้วแข็งขนาดนี้จะลุกยังไง แม่งเอ๊ย!
ไอ้มังกรน้อยเวรนี่ไม่รักษาหน้าเขาเลย