เธอไม่ใช่สาวอ่อนต่อโลก ขอแค่ได้ใกล้ชิดเขาแบบนี้ เธอก็ดีใจมากแล้ว ตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงที่ได้ใกล้ชิดกับเขามากที่สุด ทั้งสองมีความสัมพันธ์ทางกายกันทุกครั้งที่มีโอกาส
“ไปกันเถอะครับ ผมเห็นร้านอาหารอยู่ใกล้ๆ กับโรงแรม ร้านดูตกแต่งมีสไตล์ เราไปลองกินกัน”
“ร้านไหนก็ได้ค่ะ ขอแค่มีคุณใหญ่”
ทั้งสองใช้เวลาไม่นานก็เดินทางมาถึงร้าน
“ร้านน่ารักมากค่ะคุณใหญ่”
“คุณชอบนั่งด้านในหรือด้านนอกดีครับญา”
“ข้างนอกตรงนั้นดีกว่าค่ะ จะได้ชมวิวด้วย”
“ครับ”
ปรมัตถ์ตั้งใจจะบอกเรื่องหนึ่งแก่หญิงสาววันนี้ เพื่อให้เธอได้เตรียมตัว เพราะถ้ากลับไปเมืองไทยเขาคงไม่ค่อยได้ติดต่อกับเธอ งานเขาคงรัดตัวและไม่อยากให้เธอปิดกั้นตัวเองด้วย
“ญาครับ ผมมีเรื่องจะบอกกับคุณครับ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นมาหลังจากทานไปได้สักพัก
“เรื่องอะไรคะ ดูคุณใหญ่ทำหน้าซีเรียสมากเลยค่ะ”
“อีกสองวันผมจะกลับเมืองไทยครับ” ปรมัตถ์ตัดสินใจบอกหญิงสาวออกไปตามตรง
“อะไรนะคะ? คุณใหญ่พูดเล่นใช่ไหมคะ”
ญาริดา พอได้ฟังถึงกับหน้าถอดสี เพราะเธอไม่เคยระแคะระคายเรื่องนี้มาก่อน เขาไม่เคยบอกเธอ
“เปล่าครับ ผมพูดจริงๆ ” เอ่ยออกไปด้วยสีหน้าราบเรียบ เขาดูเหมือนไม่เสียใจหรืออาลัยอาวรณ์เธอสักนิด
“ทำไมญาไม่เคยได้ยินคุณใหญ่พูดเรื่องนี้มาก่อนคะ”
เธอถามย้ำกับชายหนุ่มอีกรอบ หวังจะได้ยินว่าเขาล้อเล่น แต่สีหน้าจริงจังของเขาก็บ่งบอกได้ดีว่าเขาพูดจริง
“ผมขอโทษครับ ผมตัดสินใจกะทันหัน” ชายหนุ่มเอ่ยคำขอโทษออกไป
นี่แหละคือสาเหตุว่าทำไมเขาไม่ชอบผูกมัดกับผู้หญิงคนไหน ขนาดยังไม่เป็นแฟนกัน เธอยังฟูมฟายขนาดนี้
“แล้วเรื่องของเราล่ะคะ เรื่องงานของคุณอีก”
“เรื่องงานผมทำเรื่องลาออกก่อนเดินทางมาฮาวายแล้วครับ ทริปนี้จะเป็นทริปสุดท้ายก่อนกลับไทยของผม ส่วนเรื่องของเรา... ญาอยู่ต่อก็มองหาผู้ชายที่ดีกว่าผมนะครับ คุณก็รู้ อย่ามาจริงจังกับผู้ชายแบบผมเลย ผมยังไม่พร้อมจะมีแฟน และหยุดที่ผู้หญิงคนไหน”
“คุณใหญ่ทำไมพูดแบบนี้คะ คุณก็รู้ว่าญารักคุณมานานแค่ไหน”
ญาริดาถามเขาออกไปด้วยน้ำเสียงตัดพ้อที่เขาช่างเป็นผู้ชายเลือดเย็นอะไรแบบนี้
“คุณไม่ได้รักผมหรอกครับญา คุณก็แค่ชอบความท้าทาย”
“ไม่จริงค่ะ ญารักคุณใหญ่” ญาริดายืนยันมองเขาน้ำตาคลอ
“อย่าทำให้ผมลำบากใจเลยนะครับ” ชายหนุ่มพูดปรามออกมา
“ญาจะกลับเมืองไทยกับคุณใหญ่ค่ะ”
ญาริดาบีบน้ำตาไหลรินออกมาอย่างเสียใจที่เขาจะจากเธอไป เธอจะไม่ยอมเสียผู้ชายที่เพอร์เฟกต์แบบเขาไปแน่
“ตามใจคุณครับ แต่ผมขอบอกไว้ก่อนนะครับ ว่าผมไม่ได้ให้ความหวังอะไรเรื่องของเรา เพราะผมคงงานยุ่งมาก”
เขาพูดออกมาอย่างจำยอมในที่สุดด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้ความรู้สึก
“ญาเข้าใจคุณใหญ่ค่ะ”
ญาริดาเอ่ยคำนี้ออกไปเพื่อเอาใจเขา เพราะยังอยากจะสานสัมพันธ์ต่อ
พอดีกับอาหารมาเสิร์ฟ ทั้งสองจึงนั่งทานอาหารกันแบบเงียบๆ ซึ่งชายหนุ่มรู้สึกผิดแค่นิดเดียว เพราะตั้งแต่เริ่มต้นความสัมพันธ์ เขาชัดเจนกับเธอมาตลอด เรื่องแต่งงานยังห่างไกลจากตัวเขามาก
เพื่อนสนิทของเขาเพิ่งแต่งงานไปเมื่อปีที่แล้ว และตอนนี้ครอบครัวของเพื่อนก็มีลูกชายวัยกำลังซน เขายินดีกับเพื่อนจากใจจริงๆ แต่เขายังไม่พร้อมที่จะหาห่วงมาผูกคอหรอกนะ
เขาเห็นพ่อของเขา ที่ขนาดท่านแก่แล้วยังควงผู้หญิงเปลี่ยนหน้าไม่ซ้ำ พึ่งจะมาหยุดไปเมื่อสิบปีที่แล้วนี่เอง
นั่นคือสาเหตุที่เขาต้องพาตัวเองมาไกลถึงอเมริกา
เพราะเขาเบื่อพฤติกรรมของพ่อมาก เคยเปิดอกคุยกัน ท่านบอกเป็นความสุขของท่าน หลังแม่ของเขาเสียชีวิต พ่อเขาก็ใช้ชีวิตแบบนี้ ดีที่ไม่แต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่แบบออกหน้าออกตา
ชายหนุ่มเหลือบตามองไปที่ญาริดาเล็กน้อย เธอกับเขาก็แค่คู่นอน เพราะเธอก็คุยกับผู้ชายหลายคนเหมือนกัน เขาไม่เคยตำหนิเธอ เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเธอ