จากนั้นชลธิชาก็ชวนเพื่อนๆของเธอออกไปดื่มเหล้าอย่างต้องการระบายความอัดแน่นในใจที่เธอนั้นไม่สามารถระบายให้ใครฟังได้ พอถึงคลับหรูซึ่งมีห้องคาราโอเกะแบบส่วนตัวให้ ชลธิชาก็ดื่มแบบหนักๆแล้วก็ไปยืนร้องเพลงและเต้นแบบเมามันส์กับหนุ่มๆที่เรียกมาเอนเตอร์เทรน จนชวพรและอังคณาที่มากับเพื่อนสาวนั้นถึงกับเอามือปิดหูกันเลยทีเดียวกับเสียงร้องเพลงของเพื่อนสาวในตอนนี้
“นี่ยัยธิชามันต้องมีเรื่องเครียดอะไรแน่นอนเลยแก ไม่งั้นมันไม่แหกปากร้องเพลงไม่เข้าทำนองขนาดนี้หรอก…แกเข้าไปถามยัยธิชาสิว่ามันมีปัญหาอะไร เผื่อเราสองคนจะช่วยมันได้” อังคณาพูดไปอย่างสังเกตท่าทางของเพื่อนสาวที่เหมือนปลดปล่อยตัวเองอย่างไรอย่างนั้น
“แกทำเหมือนไม่รู้จักนิสัยของยัยธิชางั้นแหละ เรื่องไหนที่มันอยากจะบอกมันก็บอกเราเองแหละ แต่ถ้าเรื่องไหนที่มันไม่อยากจะบอก ต่อให้แกไปเอามีดจี้คอมันก็ไม่พูดหรอก ปล่อยมันระบายไปเถอะแก…แต่วันนี้ฉันอยู่ได้ไม่นานนะ พี่โกสินทร์เขากลับมาคืนนี้พอดี…ฉันต้องไปรับเขาที่สนามบิน…แกก็ดูแลยัยธิชามันดีๆล่ะ” ชวพรพูดบอกไปแล้วเอามือกอดหน้าอกมองเพื่อนสาวไปแบบเป็นห่วง เพราะคืนนี้เธอไม่ได้อยู่ด้วยนานเพราะต้องไปรับแฟนหนุ่มที่กลับมาจากต่างประเทศ
“เออ ฉันดูแลมันอยู่แล้วแหละแก ฉันไม่ได้ดื่มจนเมาแบบยัยธิชาสักหน่อย…” อังคณาพูดบอกไปเพราะปกติชวพรจะแบกพวกเธอกลับ แต่ดูท่าวันนี้จะเป็นหน้าที่ของเธอซะแล้วที่จะต้องแบกตัวเองและเพื่อนกลับน่ะ
“สวรรค์มีตา ฟ้าก็มีหัวอก เปิดประตูนรกรับคนเลวทั้งสอง อยากจะเชือดใจมาใส่โถยาดอง เธอมันกิ้งก่าทอง เธอมันนางสองใจ…”ชลธิชาก็ร้องตามเนื้อเพลงกิ้งก่าทองของธันวาราศีธนูไปอย่างสะใจเหมือนเธอได้ด่าคน เธอก็ร้องออกมาอย่างเสียงดังเลย จนชวพรและอังคณานั้นทำหน้าเหวอไปเลย
“วันนี้ยัยธิชามันมาอารมณ์ไหนของมันเนี่ย เอาแต่ร้องเพลงแนวแฟนมีชู้อยู่นั่นแหละ นี่ยัยธิชามันจะแอบมีแฟนหรือเปล่าอ่ะแก…” ชวพรพูดออกไปแบบสงสัย เพราะเธอนั่งฟังมันร้องเพลงแนวลูกทุ่งด่าทอพวกแฟนมีชู้มาตั้งแต่แรกเลยนะ
“มันจะเอาเวลาที่ไหนไปมีอ่ะ วันๆมันก็เที่ยวบาร์โฮสต์อยู่กับพวกเราเนี่ย ใครมาจีบมันก็ไม่สนใจใครเลยสักคน มันคงเมาแหละมั้งแก” อังคณาพูดตอบไปแบบเดาๆ เพราะยากที่คนอย่างชลธิชาน่ะจะมีแฟน เพราะมันเลือกเยอะซะขนาดนี้ มันจะไปมีได้ยังไงล่ะ
“งั้นแกกับฉันก็คงต้องทนฟังมันร้องเพลงต่อไปแล้วล่ะ… น้อง เบาเสียงไมค์ของเพื่อนพี่ลงหน่อยสิ” ชวพรพูดไปก็เรียกหนุ่มบาร์โฮสที่นั่งชงเหล้าให้เธอนั้นไปลดเสียงไมค์ของเพื่อนสาวลง เพราะทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว
จากนั้นสองสาวก็ปล่อยให้ชลธิชาได้ระบายอารมณ์อย่างเต็มที่จนผ่านชั่วโมงกว่าๆชวพรก็ออกไปรับแฟนของเธอที่สนามบิน ทำให้เหลือชลธิชาและอังคณากับพวกหนุ่มๆบาร์โฮสที่จ้างมานั่งเอนเตอร์เทรนสามคน อังคณาก็นั่งออเซาะเด็กหนุ่มของเธอไปแบบเมาๆ ส่วนชลธิชาก็ร้องเพลงไปกับหนุ่มๆทั้งสองไปจนกระทั่งมีคนเปิดประตูเข้ามาแล้วกดปิดเพลงคาราโอเกะจนชลธิชานั้นหันไปมองอย่างไม่พอใจ
“ขออนุญาตครับ ผมได้รับแจ้งว่าที่นี่มีเด็กอายุต่ำกว่า18ปีทำงานอยู่ ทางตำรวจจึงออกหมายค้นสถานบันเทิงแห่งนี้ครับ กรุณาให้ความร่วมมือด้วยครับ…ขอบัตรประจำตัวประชาชนของทุกคนหน่อยครับ…” เนวินเปิดประตูเข้ามาในห้องคาราโอเกะวีไอพีนี่แล้วพูดออกไป พร้อมกับมองไปที่ลูกค้าสาวคนหนึ่งยืนร้องเพลงอยู่ ส่วนอีกคนก็นั่งซบกับหนุ่มบาร์โฮสหน้าตาดีอย่างเมาๆ
“คะ?... อ่อคุณตำรวจเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะ น้องๆที่ฉันเลือกมาทางร้านบอกว่าอายุเกินยี่สิบกันหมดแล้วนะคะ…” ชลธิชาที่ได้ยินแบบนั้นก็เอ่ยพูดตอบไปแบบมั่นใจทันที เพราะหนุ่มๆที่เธอเลือกมาน่ะอายุไม่ต่ำกว่า18ปีแน่นอน
“งั้นผมขอตรวจบัตรประชาชนของน้องเขาแล้วก็คุณกับเพื่อนด้วยนะครับ ผมต้องตรวจตามหน้าที่ครับ” เนวินเอ่ยพูดบอกไปก็มองหน้าของผู้หญิงที่พูดกับเขาอย่างคุ้นๆหน้า แต่ในนี้แสงไฟมันสลัวๆหลากสีจนเขานั้นไม่แน่ใจว่าเขาเคยเจอเธอที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า
“อ่อ ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ…เดี๋ยวฉันเอาบัตรให้ดูค่ะ…น้องๆ เอาบัตรของน้องๆให้คุณตำตรวจเขาดูสิ…ยังเนย เอาบัตรของแกไปให้คุณตำรวจเขาดูด้วย…” ชลธิชาพูดบอกไปแบบสร่างเมาเลย ดีนะที่เธอไม่ได้ดื่มมากเลยพอมีสติที่จะจัดการเรื่องนี้อยู่ เธอก็เอ่ยบอกพวกหนุ่มๆไปแล้วเธอก็เดินไปเอากระบัตรในกระเป๋าของเธอมา แล้วพวกหนุ่มๆก็เอาบัตรไปให้เจ้าหน้าที่ตำตรวจตรวจทันที
“อื้อ…ตำรวจจริงหรือเปล่าเนี่ยคุณ…ทำไมไม่เห็นจะใส่ชุดตำรวจมาเลย…พรึบ…” อังคณาที่เมาแล้วก็ลุกขึ้นไปหาตำรวจคนนี้พร้อมกับบัตรประชาชนของเธอ ก่อนจะมองหน้าตำรวจคนนี้แบบจดจ้อง แล้วออร่าความหล่อของตำรวจหนุ่มตรงหน้าก็สว่างจ้าเลย เธอจึงเอามือไปจับที่หน้าอกของเขาแล้วเอ่ยพูดออกไป
เนวินก็มองหญิงสาวที่เดินมาหาเขาก็ยอมรับเลยว่าเธอนั้นสวยมาก สวยจนเขาไม่คิดว่าเธอจะมาเที่ยวในสถานที่อโคจรแบบนี้ ดูท่าจะเป็นสายปาร์ตี้แน่ๆ เนวินคิดไปก่อนจะทำหน้าตกใจออกมาเมื่อเธอเข้ามาแตะที่หน้าอกของเขาอย่างรวดเร็ว
“อื้อหือ…ตำรวจสมัยนี้หล่อจังเลยนะคะ หุ่นล่ำแน่นมือเชียว…ตัวก็ห้อมหอม…มีแฟนหรือยังคะ…” อังคณาพูดออกไปด้วยท่าทางเมามาย แล้วเธอก็เอาหน้าเข้าไปดมกลิ่นกายหอมๆของเขาแล้วก็เอาหัวซบหน้าอกของตำรวจหนุ่มแล้วเอามือลูบไล้ที่หน้าอกของเขาแบบชอบใจ
“หึๆ…” เสียงหัวเราะของกีรติผู้หมวดหนุ่มที่ติดตามเจ้านายมาตรวจงานนั้นถึงกับอดขำไม่ได้ เมื่อผู้กองของเขานั้นโดนสาวแตะอั๋งเข้าให้ จนเนวินนั้นหันมาทำหน้าดุใส่ลูกน้องทันทีที่มาขำเขา
“ถ้าคุณไม่อยากจะโดนข้อหาลวนลามเจ้าหน้าที่พนักงานขณะปฎิบัติหน้าที่ก็ช่วยเอามือออกไปจากตัวผมด้วยครับ” เนวินพูดบอกไปก็เลือกที่จะเมินหน้าไปมองหญิงสาวตรงหน้า เพราะเขาไม่ชอบผู้หญิงที่ถึงเนื้อถึงตัวเขาแบบนี้เลย
“ยัยเนย….มันใช่เวลาที่แกจะมาจีบตำรวจไหมเนี่ย….ออกมานี่เลยแก เดี๋ยวก็โดนจับข้อหาลวนลามเขาหรอก มานี่…” ชลธิชาเข้าไปดึงแขนเพื่อนสาวให้กลับมาหาเธอ เพราะเธอคิดว่าพวกเขาน่าจะเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ แต่เธอรู้สึกคุ้นๆหน้าผู้ชายคนนี้ยังไงไม่รู้เหมือนเคยเจอที่ไหนสักที่
“อื้อแก…ก็เขาหล่ออ่ะ ฉันอยากได้เขามาเป็นแฟน…ฉันอยากโดนคุณตำตรวจสุดหล่อคนนี้จับขึงกับเตียงอ่ะแก….คงจะแซ่บน่าดูเลย” อังคณาเข้าไปซบเพื่อนสาวแล้วพูดบอกไปด้วยสีหน้ายิ้มเคลิบเคลิ้มแบบเมาๆ จนชลธิชานั้นอายกับคำพูดของเพื่อนสาวตอนนี้เลยจริงๆ
ส่วนเนวินพอเจอคำพูดของหญิงสาวไปแบบนั้นก็ถึงกับเขินหน้าแดงจนไปเป็นเป็นเลยทีเดียว เกิดมาเขาก็พึ่งจะเคยเจอผู้หญิงน่าไม่อายแบบนี้ พูดออกมาได้ยังไงกัน คิดไปแล้วเนวินก็ทำหน้าตึงๆออกมาทันที ส่วนลูกน้องของเขานั้นก็แอบหัวเราะเขาอยุ่ข้างหลังจนเขาต้องหันไปดุทางสายตาเลยทีเดียว
“ขอโทษด้วยนะคะ พอดีเพื่อนของฉันเขาเมาน่ะ ก็เลยพูดอะไรไปไม่ทันคิด…คุณตำรวจอย่าถือสาเพื่อนของฉันเลยนะคะ นี่บัตรของฉันกับเพื่อนค่ะ…” ชลธิชาพูดบอกไปแล้วก็ยิ้มแห้งๆไป เพราะเธอก็อายเหมือนกัน
“ครับ…” เนวินพูดตอบไปแบบสั้นๆแล้วเขาก็ดูบัตรประชาชนของหญิงสาวที่เขาที่มาแตะอั๋งเขาทันที นางสาวอังคณา อรุณพงศ์ พอได้ยินนามสกุลของหญิงสาวคนนี้แล้วเนวินก็เงยหน้ามองเธอทันที เพราะมันเป็นนามสกุลที่อยู่ในแวดวงไฮโซนี่แหละ ถ้าเขาจำไม่ผิดก็น่าจะเกี่ยวกับธุรกิจส่งออกอาหารอะไรพวกนี้ เนวินคิดไปก็มองอย่างละเอียดก็เห็นว่าเธออายุเกินหน้าตาไปหลายปีเลย เพราะเธออายุยี่สิบแปดแล้วแต่หน้าตาของเธอยังดูสาวอยู่เลย
จากนั้นเนวินก็ดูของหญิงสาวอีกคนต่อทันที แล้วเขาก็ไปสะดุดกับนามสุกลของหญิงสาวทันที เพราะเมียของเพื่อนเขาก็ใช้นามสกุลพิธรรมไทเช่นกัน เขาจึงมองหญิงสาวคนนี้แบบจดจ้องเลยทีเดียว ก่อนจะเอ่ยถามออกไป
“คุณเป็นอะไรกับคุณแพรไหม พิธรรมไทครับ…” เนวินเอ่ยถามออกไปอย่างต้องการคลายความสงสัยของตัวเอง
“อ่อ ฉันเป็นน้องสาวของพี่ไหมค่ะ คุณรู้จักพี่สาวของฉันด้วยหรือคะ” ชลธิชาเอ่ยถามออกไปอย่างอยากรู้ว่าเขารู้จักพี่สาวของเธอด้วยเหรอก เขาถึงเอ่ยถามเธอแบบนี้ นี่เขาคงไม่ใช่กิ๊กอีกคนของพี่สาวของเธอหรอกนะ
“ครับ ผมเนวินครับ เป็นเพื่อนกับสามีของคุณไหม…” เนวินพูดตอบไปแล้วก็ยิ้มออกมา เพราะเธอไม่ใช่คนอื่นคนไกลเลย ถึงว่าทำไมเขาถึงได้คุ้นๆหน้าของเธอนัก คีรินเคยเล่าให้ฟังว่าน้องเมียของมันนั้นชอบเที่ยวบาร์โฮส ตอนนี้เขาเชื่อแล้วล่ะว่าเธอชอบเที่ยวแบบนี้จริงๆ
“เพื่อนสามีของพี่ไหมเหรอคะ” ชลธิชาเอ่ยถามออกไป เพราะเธอไม่รู้ว่าเขาจะเป็นเพื่อนกับพี่คีรินหรือว่าพี่ภามกันแน่ ก็พี่สาวเธอมีผัวสองคนนิ เธอจะไปรู้ได้ยังไงว่าเขาน่ะเป็นเพื่อนกับใคร เดี๋ยวเธอปล่อยโป๊ะขึ้นมาอีกก็แย่น่ะสิ
“ก็คีรินไงครับ จะให้มีใครอีกอย่างนั้นเหรอ… อย่าบอกนะว่าคุณไม่รู้จักพี่เขยของตัวเองเหรอครับ” เนวินพูดออกไปแล้วมองหน้าชลธิชาอย่างแปลกใจว่าเธอไม่รู้จักพี่เขยของเธองั้นเหรอ
“อ่อ รู้จักสิคะ ฉันแค่ลองถามคุณดูน่ะค่ะว่าคุณจะรู้จักพี่สาวของฉันจริงๆไหม…งั้นพวกฉันสนุกกันต่อได้แล้วใช่ไหมคะ” ชลธิชาพูดตอบไปแล้วก็ยิ้มแห้งๆออกไปให้เขาทันที
“เด็กสามคนนี้มีปัญหาอะไรไหมหมวดก้อง” เนวินหันไปถามลูกน้องของเขาทันที เพราะถาไม่มีเขาจะได้ไปตรวจห้องอื่นต่อ
“ไม่มีครับผู้กอง…” กีรติพูดบอกไปแล้วก็ยิ้มให้ เพราะเด็กทั้งสามที่มาเอนเตอร์เทรนให้สองสาวนั้นอายุเกินยี่สิบปีไปหมดแล้ว
“โอเค งั้นผมไม่รบกวนเวลาสนุกของพวกคุณแล้วล่ะครับ…ผมคงต้องขอตัวก่อน…ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือด้วยนะคะครับ..” เนวินพูดบอกไปแล้วเขาก็ยิ้มให้ทุกคนไป แล้วเขาก็ทำท่าเดินออกไป
“เดี๋ยวสิคะคุณตำตรวจ จะรีบไปไหนคะ อยู่ดื่มด้วยกันก่อนสิคะ ฉันให้แสนนึงเลยถ้าวันนี้คุณนั่งดื่มกับฉัน…” อังคณาเห็นเขายิ้มออกมาแบบหล่อก็รีบเดินเข้าไปจับกอดแขนของเขาเอาไว้ แล้วเธอก็เงยหน้าพูดกับเขาไปแบบอ้อนๆ
“ผมเป็นตำรวจ ไม่ใช่ผู้ชายบาร์โฮส กรุณปล่อยแขนผมด้วย ไม่งั้นผมจะจับคุณจริงๆข้อหาลวนลามผม…” เนวินพูดบอกไปแล้วทำหน้าดุๆใส่เธอไปแบบจริงจัง เพราะไม่งั้นเดี๋ยวเธอจะไม่กลัวเขา
“แค่กอดแขนก็ถือว่าลวนลามแล้วเหรอคะ คุณตำรวจนี่ใจร้ายจังเลย…ถ้าฉันจะลวนลามคุณจริงๆมันต้องแบบนี้ค่ะ…พรึบ…จุ๊บ….” อังคณาพูดบอกไปก็เลื่อนมือไปโอบรอบคอของเขาแล้วเธอก็เขย่งเท้าแล้วยื่นหน้าขึ้นไปจูบปากของตำรวจหนุ่มคนนี้อย่างอดใจไม่ไหว เพราะเธอมองหน้าดุกับริมฝีปากอมชมพูของเขาแล้ว มันก็ทำให้เธอนั้นอยากจะลองจูบกับเขา
“อื้อ..” เนวินก็ทำตาโตอย่างตกใจที่เขานั้นถูหญิงสาวรั้งท้ายทอยลงไปจูบเธอแบบนั้นเขาจะถอนคอออกแต่เธอก็กอดคอของเขาเอาไว้ จนเขาต้องเอามือไปจับที่ไหล่ของเธอแล้วดันออก
“คุณพระ” ชลธิชายืนมองเพื่อนสาวนั้นจูบกับตำตรวจหนุ่มด้วยสีหน้าอึ้งๆจนเธอนั้นเอามือขึ้นมาปิดปากตัวเองเลย เพราะปกติเพื่อนเธอไม่ได้หื่นแบบนี้ นี่มันเมายังไงไปจับตำตรวจมาจูบน่ะ
“อุบะ!...” กีรติก็อุทานออกมาอย่างตกใจกับการกระทำของหญิงที่รุกผู้กองของเขาอย่างรวดเร็ว ทำให้เขานั้นรีบเอามือถือขึ้นมาถ่ายไว้อย่างรวดเร็วเลย เพราะเพื่อนๆในสถานีตำตรวจต้องได้เห็นช็อตเด็ดนี่
“คุณทำบ้าอะไรเนี่ย ผมจะจับคุณจริงๆแล้วนะ” เนวินดันตัวเธอออกแล้วเขาก็ต่อว่าเธอออกไปแบบอายๆที่เธอนั้นดึงเขาเข้าไปจูบท่ามกลางสายตาของลูกน้องของเขา
“หึๆ ก็ทำให้คุณดูไงคะว่าถ้าจะลวนลามน่ะมันต้องเป็นแบบนี้ ปากของคุณมันนุ่มจังเลยค่ะ…ขอจูบอีกทีนะคะ…” อังคณาพูดไปก็อ้ามือเข้าไปหาเขาอีกครั้งแล้วเธอก็ทำปากจู๋เข้าใส่เขา
“ยัยเนย….พอแล้ว…ถ้าแกจูบอีกฉันว่าแกจะโดนจับจริงๆแล้วนะ…หยุดแรดได้แล้ว…อ่อ ขอโทษนะคะคุณเนวิน พอดีเพื่อนของฉันเมาน่ะค่ะ…เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนี้หรอกค่ะ” ชลธิชารีบดึงเพื่อนสาวเอาไว้ทันที เพราะตอนนี้มันเริ่มจะเลอะเทอะเกินไปแล้ว
“ใครบอกฉันไม่ตั้งใจแก ฉันอยากได้เขาอ่ะ เขาเหมาะแก่การเป็นผัวของฉัน อื้อ…ปล่อยฉันนะธิชา ฉันจะไปหาคุณตำตรวจ…”อังคณาพูดบอกไปแล้วก็เอามือชี้ไปทางเขาแบบจะไปหาให้ได้ แต่ชลธิชาก็โอบกอดเพื่อนสาวเอาไว้
“ผมจะไม่เอาเรื่องวันนี้ แต่ต่อไปอย่าให้เพื่อนคุณเมาเละเทะแบบนี้อีก หมวดก้อง ไป…” เนวินได้ยินเธอพูดแบบนั้นก็อายมากที่เธอจ้องจะเอาเขาไปเป็นผัวของเธอน่ะ นี่เธอถามเขาสักคำหรือยังว่าเขาอยากจะเป็นผัวของเธอไหม ผู้หญิงอะไรเมาเละเละจริงๆ สวยซะเปล่าทำตัวไม่น่ารักเอาซะเลย เนวินบ่นในใจไปแล้วก็พูดบอกไปแล้วเขาก็ชวนลูกน้องของเขาออกไปทันที
“จะรีบไปไหนคะคุณตำรวจ กลับมาก่อนสิคะ มาจูบกันก่อน อือ…” อังคณาร้องเรียกไปแล้วก็มองตำรวจหนุ่มเดินออกไปจาห้องคาราโอเกะไปแบบเสียดาย
“พอแล้วแก แค่นี้แกยังอายไม่พออีกเหรอยัยเนย เมาแล้วก็กลับกันเถอะป่ะ…ฉันอุตส่าห์จะให้แกมาลากฉันกลับ แต่กลับกลายเป็นฉันมาลากแกกลับซะนี่ เฮ้อ….” ชลธิชาพูดบอกไปก็โอบกอดเพื่อนไว้แล้วบ่นออกไปทันที เพราะตอนนี้เธอคงดื่มต่อไม่สนุกแล้วล่ะ กลับบ้านเลยจะดีกว่า
“น้อง ช่วยกันอุ้มเพื่อนพี่ไปส่งที่รถหน่อย พี่ไม่ไหวอ่ะ” ชลธิชาหันไปบอกหนุ่มบาร์โฮสให้เข้ามาช่วยเธอพาเพื่อนสาวไปที่รถทันที เพราะเธอไม่ไหวจริงๆ
จากนั้นหนุ่มๆก็เข้าไปประคองอังคณาไว้แล้วก็พาเธอนั้นออกไปจากห้องคาราโอเกะทันที ด้านเนวินที่เดินออกมาจากห้องก่อนหน้านี้แล้วเขาก็ยังไม่ทันได้เข้าไปตรวจห้องถัดไปเลย เขาก็หันไปมองหนุ่มบาร์โฮสนั้นประคองตัวผู้หญิงที่เข้ามาจูบเขาออกไป แล้วก็มองแบบจดจ้องเลยทีเดียว จนกระทั้งเพื่อนของเธอเดินตามออกมาแล้วยิ้มให้เขา เขาก็พนักหน้าตอบไปแบบนิ่งๆ จนเธอเดินตามกันออกไปทันที
“มองขนาดนี้ติดใจจูบเขาเหรอครับผู้กอง…สวยขนาดนั้นทำไมผู้กองไม่สานต่อหน่อยล่ะครับ…ให้เขาได้ผู้กองเป็นผัวสมใจไปเลยไงครับ ฮ่าๆ…” กีรติพูดแซวเจ้านายของเขาไปแบบขำๆ เพราะปกติเวลาออกตรวจเจ้านายของเขาก็โดนสาวๆจีบตลอด แต่กับคนนี้นี่รุกหนักสุดเท่าที่เขาเคยเห็นแล้วล่ะ
“หมวดอยากจะอยู่เวรทั้งคืนเลยไหม ผมจัดให้ได้นะ” เนวินพูดบอกไปแล้วมองหมวดหนุ่มแบบดุๆ คนยิ่งเขินๆอยู่ยังจะมาแซวอยู่ได้
“ไม่ครับๆ..ผมล้อเล่นน่ะครับผู้กอง…หึๆ” กีรติพูดแก้ตัวออกไปแล้วยิ้มแห้งๆทันที
“งั้นก็ไปตรวจต่อได้แล้ว…เสร็จแล้วจะได้กลับบ้าน…” เนวินสั่งลูกน้องไปแบบเสียงเข้ม จนหมวดก้องและตำตรวจคนอื่นๆนั้นพากันเข้าตรวจห้องคาราโอเกะที่เหลืออยู่ทันที
จากนั้นเนวินก็หันหน้าไปมองตามหญิงสาวอีกครั้งแล้วถอนหายใจออกมาทันที เพราะเขาไม่เคยโดนผู้หญิงคนไหนรุกหนักเท่านี้มาก่อนเลย ชาติตระกูลก็ดี แต่เมาแล้วทำตัวเละเทะแบบนี้ก็ไม่ไหวจริงๆ ขออย่าให้เขาได้เจอกับผู้หญิงคนนี้อีกเลย
เช้าวันใหม่….
“มอนิ่งแก…นี่เมื่อคืนแกพาฉันกลับมาเหรอ” อังคณาก็เดินออกมาจากห้องนอนของชลธิชาด้วยสภาพผมเพร่ายุ่งรุงรัง แล้วก็เอ่ยทักทายเพื่อนสาวไป
“อืม…ถ้าฉันไม่พาแกมาแล้วจะเป็นใครล่ะ เมื่อคืนแกเกือบจะได้เข้าไปนอนในตะรางแล้วนะรู้ไหม” ชลธิชาพูดบอกไปก็เดินไปเปิดตู้เย็นเอาน้ำส้มคั้นออกมาให้เพื่อนสาวมดื่มแก้แฮ้งค์
“หึ?....ไปนอนในตะรางเหรอ ทำไมอ่ะแก เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นอ่ะ” อังคณาเอ่ยถามออกไปก็ไปนั่งที่เคาน์เตอร์บาร์ในห้องครัวของเพื่อนสาวทันที
“ก็เมื่อคืนแกจำไม่ได้เหรอว่าแกน่ะเข้าไปจูบกับตำรวจที่เขามาตรวจคลับเมื่อคืน แถมแกยังประกาศแบบชัดเจนเลยว่าแกน่ะอยากจะได้เขาเป็นผัวน่ะ เขาไม่จับแกข้อหาลวนลามก็ดีแค่ไหนแล้ว อ่ะน้ำส้ม ดื่มซะจะได้ดีขึ้น” ชลธิชาพูดไปก็เทน้ำส้มคั้นให้เพื่อนสาวไป
“นี่ฉันเมาขนาดไปจูบกับตำรวจเลยเหรอแก….เดี๋ยวนะ ฉันขอนึกแปปนึง…” อังคณาได้ยินเพื่อนสาวบอกแบบนั้นก็ตอบไปแล้วเธอก็นึกถึงเหตุการณ์ที่เพื่อนสาวพูดทันที แล้วภาพเหตุการณ์เมื่อคืนมันก็พุดขึ้นมาในหัวของเธออย่างเลือนลาง แต่เธอก็จำหน้าตำตรวจคนนั้นไม่ได้
“ฉันนึกไม่ออกอ่ะแก แล้วตำรวจที่ฉันจูบอ่ะหล่อไหมแก…” อังคณาเอ่ยถามออกไปอย่างอยากรู้ แล้วเธอก็หยิบน้ำส้มของเพื่อนสาวมาดื่ม
“อืม…ก็หน้ากลมๆ หัวล้านนิดหน่อย มีหนวดมีเคราแล้วก็อ้วนลงพุงอ่ะ น่าจะห้าสิบเกือบห้าสิบล่ะมั้ง” ชลธิชาแกล้งพูดโกหกเพื่อนสาวไปแบบขำๆ
“แค่กๆ…แค่กๆ…แล้วแกไม่คิดจะห้ามฉันเลยเหรอยัยธิชา แกปล่อยให้ฉันไปจูบกับคนแก่เนี่ยนะ” อังคณาที่กำลังดื่มน้ำส้มนั้นถึงกับสำลักทันทีกับคำตอบที่ได้จากเพื่อนสาว แล้วเธอก็เอ่ยถามเพื่อนสาวไปแบบจดจ้องเพราะก็ควรจะห้ามกันสักนิดสิ
“ฉันห้ามแกแล้ว แต่แกไม่ฟังนิ แล้วแกก็ดูฟินมากเลยด้วย ฉันก็เลยปล่อยให้แกได้ลิ้มรสจูบของลุงตำตรวจเขาซะเลย ฮ่าๆ…” ชลธิชาพูดบอกไปแล้วก็หัวเราะออกมาอย่างขำกับสีหน้าของเพื่อนสาวในตอนนี้ ก่อนจะเฉลยให้เพื่อนสาวรู้ เพราะเพื่อนสาวทำหน้าจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว
“โอ๋ๆ…ฉันล้อแกเล่นยัยเนย นี่แกจะร้องไห้จริงเหรอเนี่ย…เมื่อคืนน่ะแกจูบกับตำรวจหนุ่มสุดหล่อเลยล่ะ…แถมเขายังเป็นเพื่อนกับพี่เขยของฉันด้วย…หากแกอยากจะได้เขามาเป็นผัวจริงๆ ฉันจะช่วยเป็นกามเทพให้แกเอง สนใจไหมล่ะ…หึๆ…” ชลธิชาพูดบอกเพื่อนสาวไปแบบไม่อยากจะแกล้งแล้ว ก่อนจะเอ่ยถามออกไปด้วยสีหน้ายิ้มกรุ้มกริ่ม
“เพี๊ยะ ยัยธิชา แกนี่นะชอบทำให้ฉันใจเสียอยู่เรื่อยเลยจริงๆ ต่อไปอย่ามาล้อเล่นแบบนี้อีกนะ…แล้วไม่ต้องมายิ้มแบบนั้นเลย ฉันไม่ได้อยากจะได้เขามาเป็นผัว ที่พูดไปแบบนั้นก็เพราะเมาย่ะ” อังคณาพูดบอกไปแล้วก็ยิ้มออกมาแบบเขินๆ
“แต่เขาว่าคนเมาชอบทำอะไรตามความรู้สึกลึกๆของตัวเองนะแก แล้วเขาหล่อมากเลยด้วย แกไม่สนใจจริงๆอ่ะ…เมื่อคืน แกบอกว่าอยากจะถูกเขาจับขึงเตียงไม่ใช่เหรอ ฮ่าๆ” ชลธิชาพูดแซวเพื่อนสาวออกไปแล้วหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้
“นี่ฉันเมาแล้วฉันพูดแบบนั้นจริงๆเหรอแก” อังคณาพูดออกไปแบบอึ้งๆ เพราะเธอไม่คิดว่าตัวเองจะพูดจาแบบนั้นออกมา
“ใช่…เต็มๆสองหูของเพื่อนคนนี้เลยจ้ะ…แกพูดจนเขาอายลูกน้องของเขาที่ตามมาด้วยเลยอ่ะ ฉันพึ่งรู้นะเนี่ยว่าแกน่ะชอบแนวตำรวจแบบนี้…หึๆ…เดี๋ยวฉันจะช่วยให้แกโดนเขาจับขึงเตียงสมใจเลย ฮ่าๆ” ชลธิชาพูดบอกไปแล้วหัวเราะออกมาอย่างชอบใจเลย
“อย่านะแก ที่ฉันพูดแบบนั้นเพราะฉันเมาต่างหาก ฉันไม่ได้คิดจะทำแบบนั้นจริงๆสักหน่อย แกหยุดพูดเรื่องนี้เลยนะยัยธิชา แล้วก็ห้ามมาแซวฉันอีก ไม่งั้นฉันจะไม่ไปดื่มกับแกอีกแล้ว…” อังคณาพูดออกไปแบบอายๆ ก่อนจะสั่งห้ามเพื่อนสาวไม่ให้แซวเธออีก
“ฮ่าๆ โอเคๆ แต่ถ้าแกเปลี่ยนใจอยากจะรู้จักกับเขาเมื่อไหร่บอกนะ ฉันจะไปถามพี่คีรินทันทีเลยว่าจะติดต่อเขายังไง” ชลธิชาหัวเราะแล้วพูดบอกไปเผื่อเพื่อนสาวจะสนใจขึ้นมา
“ไม่ต้องมาหวังดีกับฉันเลย ฉันไม่เอา ฉันไม่ได้อยากจะรู้จักกับเขา” อังคณาพูดไปแบบเด็ดขาดอย่างไม่เอาด้วย เธอทำตัวน่าอายขนาดนั้นใส่เขาแล้ว เธอจะไปกล้ารู้จักกับเขาได้ยังไง แค่นี้เธอก็อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้วเนี่ย สงสัยต่อไปเธอต้องดื่มให้เบาๆหน่อยแล้ว