Devil Monster กลรักนายปีศาจ 7

2616 คำ
Devil monster Pee x Puifai 07 การใช้ชีวิตในต่างแดนทั้งที่ยังตั้งครรภ์มันก็รำบากมากอยู่เหมือนกันนะแต่ฉันยังมีน้องชายและน้องสาวคอยดูแล ส่วนฉันก็รับงานแปลทั้งจากไทยและรับงานของที่นี่เลยมีเงินอยู่พอตัวต้องเก็บไว้ให้เจ้าแฝดด้วย ท้องฉันโตเร็วมากเลยล่ะฉันย้ายมาฝากครรภ์ที่นี่และกะจะคลอดที่นี่ด้วยเหมือนกัน ฉันมาอยู่ที่นี่สามเดือนเห็นจะได้ พ่อแม่และเพื่อนโทรมาทุกคนเดือนก่อนพอสกับลูกอมก็บินมาหา พวกมันนั่งเมาส์จนฉันหลับไปเลยล่ะ “เจ๊ หลานดิ้นยังอยากจับแล้วนะ” ป่าน น้องสาวฉันถามอย่างตื่นเต้น มักจะเป็นเช่นนี้ตลอดหลังจากที่ทั้งสองเรียนเสร็จแล้วกลับมาถึงบ้าน “ป่าน อย่ามัวแต่เล่นทำให้อาหารเร็วหิวแล้ว” เป้ น้องชายอีกคนตะโกนบอกป่าน สองคนนี้เป็นแฝดกันล่ะหน้าเหมือนกันมากเลยล่ะฉันนั่งมองน้องสองคนทะเลาะกันอย่างกับเด็กๆ ฉันนั่งลูบท้องตัวเองเบาๆแล้วยิ้มออกมาอย่างดีใจ “อีกหน่อยเราก็จะได้เจอกันแล้วนะ” “บอกเพศหลานได้ยังคะ ไม่อยากลุ้นแล้ว” เป้เดินมานั่งตรงข้ามมือก็ยื่นจานผลไม้มาให้ ฉันรับมาก่อนจะนั่งทาน “พี่รอลุ้นน่ะ หิวแล้วสิจะมีใครใจดีทำอะไรให้กินไหมน๊า” “เดี๋ยวเค้าทำให้ๆ รอแปบนะ” “อะไรวะพี่หิวแกยังเฉย พอเจ๊หิววิ่งเร็วเลยนะ” “อ้าวก็นั่นเจ๊กับหลานเค้านี่” “ให้ตายสิน้องคนนี้นี่” เป้นั่งบ่นอุบอิบ ก่อนจะมองฉันอย่างกังวล ใบหน้าหล่อๆของน้องชายฉันมองเหมือนจะถามอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ยอมถามออกมา “มีอะไรจะถามเจ๊เหรอ” “เจ๊จะกลับไทยตอนไหน” “ไม่รู้เหมือนกัน เจ๊ยังไม่อยากเจอเขา” “ถ้าเค้าถามหาพ่อล่ะ” เป้ถามต่อสีหน้าเครียดกังวล “เจ๊จะบอกว่าพ่อเขาไม่อยู่ คนเป็นพ่อยังไม่รู้เลยว่าพี่ท้องอีกอย่างป่านนี้เขาคงแต่งงานกับแฟนเขาไปแล้วล่ะ” ก่อนบินมาที่นี่ฉันเซ็นใบหย่าให้เขาแล้วเหลือแค่เขามาเซ็นที่เหลือทนายเขาจะมาจัดการให้ ฉันบินมาที่นี่คืนที่พี่ท็อปแต่งงานฉันแวะไปพอผู้ชายคนนั้นเดินหนีไปทางอื่นอย่างหงุดหงิดแฟนพี่ท็อปก็จับได้ว่าฉันท้องยังดีที่เธอรับปากว่าจะไม่บอกเขาแลกเปลี่ยนกับการที่ฉันต้องติดต่อพี่ท็อปหรือไม่ก็พี่วาววาแทน ทุกครั้งที่พ่อกับแม่โทรมาท่านจะไม่เอ่ยถึงผู้ชายคนนั้น ซึ่งมันก็นับว่าดีเพราะฉันก็ยังไม่อยากจะรับรู้ว่าเขามีความสุขกับแฟนมากแค่ไหน “แปลกนะที่เจ๊ไม่มีอาการแพ้ท้องอะไรเลย” “ใช่ เจ๊ไม่แพ้ท้องเลยราวกับว่ามีใครแพ้แทนอย่างนั้นแหละ” ป่านพูดสมทบสิ่งที่เป้พูด ซึ่งเรื่องนี้ฉันก็สงสัยนะว่าทำไมฉันไม่มีอาการแพ้ท้องทั้งที่ท้องลูกแฝดและอาการมันคงจะหนักมากทีเดียว “มันก็ดีไม่ใช่เหรอที่เจ๊ไม่แพ้อ่ะ” “มันก็ดี สงสัยเด็กจะไม่ดื้อเจ๊เลยไม่แพ้” เป้พูดขำๆก่อนจะเข้ามาพยุงฉันให้เดินไปที่โต๊ะทานข้าวที่นี่เป็นบ้านแบบทาวเฮาส์น่ะมีแม่บ้านคนหนึ่งคอยเข้ามาทำความสะอาดบ้านแถมเป้ยังจ้างเธอเพิ่มหลังจากฉันคลอดเพื่อที่จะให้เธอช่วยเลี้ยงลูกช่วยฉัน “พรุ่งนี้เราไปซื้อของกันไหม เค้าหยุด” “ไปๆ เค้าอยากได้รองเท้าใหม่” “ตลอดเลย” เราสามพี่น้องนั่งทานข้าวกันสลับกับพูดคุยกัน ที่นี่อากาศกำลังดีไม่หนาวมากเท่าไหร่แต่ฉันก็ต้องทำตัวให้อุ่นตลอดเวลาอีกอย่างถ้าเด็กๆคลอดฉันก็ต้องใส่ใจและดูแลเขาไม่ให้รู้สึกขาด “พี่ลูกอมโทรมาครับเจ๊” ฉันรับมือถือมาจากเป้ก่อนจะรับสายลูกอมที่โทรวีดีโอคอลเข้ามา พอกดรับก็เห็นใบหน้ายุ่งๆของลูกอมทันที ทำไมฉันจะไม่รู้ล่ะว่ามันงอนอะไรฉัน “หน้าบึ้งอะไรขนาดนั้น” (แกไม่มา) “แกจะให้ผู้หญิงท้องโย้นั่งเครื่องไกลๆเหรอ ใจร้ายจังเลยนะ” (ก็ฉันอยากให้แกมา) “ขอโทษนะ ไปไม่ได้จริง” (เอาเถอะๆ หลานฉันเป็นยังไงบ้าง) “แข็งแรงดี แล้วนี่อยู่ไหน” (ห้อง...//ห้องพี่เอง) เซกะโผล่หน้าเข้ามาในหน้าจอมือถือก่อนจะฉีกยิ้มให้ฉัน “หวัดดีค่ะ” (หวัดดีครับ เป็นไงบ้าง) “สบายดีค่ะ” ฉันคุยกับลูกอมเกือบครึ่งชั่วโมงก่อนจะวางสาย วันในแต่ละวันมันช่างเชื่องช้าในความรู้สึก แต่ละคืนที่ฉันคอยแต่จะฝันถึงเขา แต่ฉันเลือกที่จะเดินทางนี้แล้วและฉันจะไม่หันหลังกลับไปยืนจุดเดิมเด็ดขาด ฉันจะทำให้เขาได้รู้ว่าฉันลืมเขาได้แล้วจริงๆ “เดี๋ยวเราก็จะได้เจอกันแล้วนะ แม่รักพวกหนูนะ” ฉันยกมือลูบหน้าท้องตัวเองเบาๆด้วยความรัก อีกหน่อยเราก็จะได้อยู่ด้วยกันแล้วนะรอแม่หน่อยนะแม่คิดถึงหนูนะ วันเวลาที่ผ่านไปมันทำให้ฉันเข้มแข็งขึ้นก็จริงแต่ในใจฉันเอาแต่คิดถึงเขา เขาอาจจะไม่รู้เรื่องของฉันหรือรู้แต่ไม่สนใจฉันว่าจะจะเป็นอย่างหลังมกกว่านะ เพราะเขาไม่เคยสนใจอะไรฉันตั้งแต่แรก ฉันย้ายเข้ามาพักที่โรงพยาบาลตอนอายุครรภ์ได้แปดเดือนพอถึงกำหนดคลอดพ่อกับแม่ก็บินมาหาถึงที่นี่ หลังจากนั้นสองสัปดาห์พอสกับลูกอมก็บินตามมาแต่เพื่อนฉันมากันแค่สองคนไม่ได้พาองค์รักษ์มาด้วย “หลานฉันล่ะๆ” พอสส่งเสียงตั้งแต่เดินเข้ามาในบ้าน พ่อกับแม่ที่ยังไม่กลับก็นั่งหัวเราะอย่างมีความสุข เราเข้าไปดูลูกที่หลับอยู่บนเตียงนอน แฝดชายหญิงหน้าตาน่ารักน่าชังมากเลยล่ะ “ชื่ออะไรบ้างวะฝ้าย” “ผู้หญิงชื่อ***อลิน*** ผู้ชายชื่อ***อลัน***” “ฉันรับขวัญหลาน” ลูกอมยื่นซองสีน้ำเงินมาให้ฉันตรงหน้าตามด้วยพอสรายนั้นยื่นกล่องสีเงินมาให้ฉันรับมาก่อนจะเดินไปวางที่โต๊ะข้างๆเตียง “อลินกับอลัน มาเซลฟี่กับน้ามา” ลูกอมพูดแล้วก็ถ่ายรูปกับเด็กๆอยู่นาน พอสก็ถ่ายด้วย จากนั้นเราก็ออกมานั่งทานอาหารกันข้างนอกไม่สิทุกคนออกไปทานอาหารยกเว้นฉันเพราะเริ่มรู้สึกเหนื่อยเลยขอนอนพัก เด็กๆตื่นแล้วล่ะพ่อกับแม่ก็อุ้มออกไปข้างนอกเพื่อให้ฉันได้นอนพัก เสียงพูดคุยหัวเราะดังมาจากด้านนอกทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นที่หัวใจก่อนจะหลับไปด้วยความสุขที่อิ่มเอมในใจ... “ฝ้าย มีคนถามหาแก” ลูกอมเดินมานั่งข้างๆเตียง “หือ?” ฉันยันตัวนั่งพิงเตียง เมื่อพอสกับลูกอมเดินเมานั่งขนาบข้างบนเตียง “พี่พีถามหาแก” คราวนี้พอสพูดบ้าง แต่สิ่งที่พวกมันพูดมันเป็นเรื่องที่ฉันไม่อยากจะเชื่อ เขาจะมาถามหาฉันทำไมกันมันก็ออกจะดีที่ฉันหายมาแบบนี้ “ไม่หรอกแก เขาจะถามหาฉันทำไม” “ตอนแกมาแรกๆฉันกับเขาทะเลาะกันด้วยนะ เขามาถามฉันว่าแกอยู่ไหนพอไม่บอกก็เสียงดังใส่กันลั่นร้านเซกะเลยล่ะ” ลูกอมเล่าก่อนจะเอียงคอมาซบไหล่ฉัน “พี่เซกะบอกว่าพี่พีแพ้ท้องแทนแกด้วย อันนี้ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่าแค่เขาเปิดประตูร้านเข้ามาฉันก็เก็บของออกจากร้านเลยล่ะ มันน่าโมโหอ่ะ” ลูกอมเริ่มบ่นอะไรของมันสักอย่างพอสยื่นมือถือมันมาให้ฉันดู ฉันมือมาก่อนจะเลื่อนดูสิ่งที่มันให้ดู มันเป็นโพสของพี่พีในโซเชียลต่างๆเขาโพสตัดพ้อเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่งที่หายไปจากชีวิตเขาแล้วยังมีรูปฉันอยู่ด้วย นี่เขากำลังเล่นตลกอะไร “ช่างเขาสิ มันเป็นสิ่งที่เขาต้องการตั้งแต่แรกนี่ฉันก็เหนื่อยที่จะตามเขาแล้วล่ะให้ฉันได้อยู่เงียบๆแบบนี้น่ะดีแล้ว” “เขาเลิกกับแฟนแล้วนะ” “มันเรื่องของเขาพอส ฉันอยู่แบบนี้ก็มีความสุขดีอยู่แล้วฉันไม่อยากรับรู้อะไรเกี่ยวกับเขาแล้ว” “โอเค เราเข้าใจแล้วออกไปหาเด็กๆกันเถอะ เห็นแบบนี้แล้วอยากมีสักโหล” ลูกอมพูดพลางทำหน้าเพ้อฝัน “ฉันล่ะสงสารแฟนแกจริงๆไม่รู้โดนแกจับปล้ำหรือเปล่า” “เขาเหอะปล้ำฉัน เฮ้ย เอ่อ พอเถอะไปข้างกันกันๆ” ลูกอมหน้าแดงๆเนออกไปข้างนอกฉันลงจากเตียงโดยมีพอสคอยประคอง เกือบสัปดาห์กว่าที่พอสกับลูกอมจะบินกลับไปรายหนึ่งมีงานต้องทำส่วนอีกรายแฟนโทรตามมีขู่ด้วยนะถ้าไม่กลับจะบินมาหาเอง อะไรจะติดกันขนาดนั้น อาทิตย์ถัดมาพ่อกับแม่ก็บินกลับไทยตอนนี้เลยเหลือแค่ฉันกับลูกสองคนและน้องฉันสองคน บ้านดูเงียบเหงาถนัดตาเลยล่ะเมื่อทุกคนกลับไปแบบนี้ “ลันอย่าแกล้งน้องลูก” ฉันแอบดุลูกเสียงนุ่มเมื่อคนเป็นพี่เอื้อมมือไปดึงผมน้องไม่นานคนน้องก็ร้องไห้ทำให้เป้กับป่านวิ่งลงมาดูอย่างตกใจ ป่านน่าจะกำลังทำผมเพราะโรลม้วนผมยังติดอยู่เต็มหัว ส่วนเป้กอดผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่างวิ่งลงมาดู เอาเข้าไปบ้านฉันจะมีใครสติเต็มบ้างหรือเปล่าเพี้ยนได้อีก “รีบไปทำธุระตัวเองเลย หลานแค่ร้องไห้เองนะ” “มันตกใจนี่ เหมือนมีลูกเองเลย” “จริง สะดุ้งตื่นกลางดึกมโนว่าต้องให้นมลูก” “ฮ่าๆๆ หนักขนาดนั้นแล้วเหรอ” “แน่ดิเจ๊ ไปเที่ยวกับสาวต้องรีบกลับกลัวลูกเหงา เฮ้ยไม่ใช่กลัวหลานเหงา” เป้เดินกลับขึ้นไปข้างบนก่อนที่ป่านจะเดินตามขึ้นไป ฉันหัวเราะเบาๆกับความน่ารักของน้องทั้งสองคน “หนูหิวไหมคะลูก” ฉันถามลูกท้องสองอย่างหยอกล้อ ตอนนี้ฉันไม่ค่อยรับงานแล้วล่ะอาศัยเงินเก็ฐตัวเองและเกาะน้องกิน ฮ่าๆๆๆ จะบ้าเหรอ ฉันรับงานแล้วก็ทำตอนที่ลูกหลับนั่นแหละแต่งานที่รับราคาก็สูงอยู่เหมือนกันเงยพอจะมีเงินเลี้ยงลูกอยู่บ้า “แอ้ แอ้” “ว่าไงคะ หิวอีกแล้วเหรอ” “เจ๊ เลี้ยงหลานเองไปอาบน้ำเถอะป่านมันจะลงมาทำอาหารให้” “ฝากด้วยนะ” “เดี๋ยวแม่มานะ” ฉันก้มลงจูบลูกชายลูกสาวก่อนจะรีบกลับขึ้นไปอาบน้ำในห้องนอน หลังคลอดน้ำหนักฉันลงเร็วมากจนบางทียังแปลกใจว่าฉันป่วยหรือเปล่าแต่หมอก็ยืนยันแล้วว่าร่างกายไม่มีอะไรผิดปกติ ฉันเก็บผมจนหมดเพราะกลัวลูกน้อยท้องสองจะกระชากเอาโดนวันก่อนที่ยังไม่หายเจ็บเลยจะว่าซนก็ซนอยู่นะ ทั้งอลินและอลันเลย (แกจะไม่มาจริงๆเหรอ) เสียงสั่นๆของลูกอมดังมาเมื่อฉันยืนยันว่ายังไงก็จะไม่กลับไทยเด็ดขาด เพราะอีกสองเดือนข้างหน้าลูกอมจะหมั้นและแต่งงานกับเซกะ จะว่าไปคู่นี้ก็เร็วนะ แต่ฉันมั่นใจว่าเซกะจะไม่ทำให้เพื่อนฉันเสียใจจะห่วงก็แต่ยัยลูกอมจะไปทำให้เซกะเสียใจเองนี่แหละ (ได้ไม่มาก็ได้ ฮึก! ฉันจะไม่แต่งงาน!!//เฮ้ย ได้ไง ตัวเองไม่แต่งแล้วพี่จะแต่งกับใคร) เสียงเซกะกับลูกอมเริ่มทะเลาะกันดังมาจะบอกได้ยังไงล่ะว่าแพลนกลับไทยฉันอีกสองเดือนเหมือนกัน น้องฉันทั้งสองคนจะย้ายกลับไปอยู่ที่ไทยเพราะเรียนจบแล้วและเราก็ตกลงกันว่าจะซื้อบ้านใหม่แถบชานเมืองเพราะถ้าไม่ย้ายบ้านฉันก็จะไม่กลับ อย่าลืมนะว่าฉันฉันติดอยู่กับบ้านใคร ฉันไม่อยากเจอเขาไม่อยากรู้รู้อะไรแล้ว แม้มันจะผ่านมาเกือบสามปีแล้วแต่ฉันก็ไม่มั่นใจตัวเองว่าถ้าเจอเขาแล้วจะเป็นยังไง ส่วนเรื่องแผนเซอร์ไพรส์ลูกอมอันนี้อีพอสมันเป็นคนคิด ฉันไม่ได้คิดอะไรเลยนะ “แม่คะ ลันแกล้ง” “เปล่าสักหน่อย” อลินเดินหน้าบึ้งมายังฉันก่อนจะกระโดดขึ้นมานั่งบนตัก ส่วนอลันรายนั้นปีขึ้นโซฟามานั่งข้างๆแล้วกอดแขนฉันไว้ สองคนนี้ไม่ค่อยซนหรอกแต่อาจจะมีบ้างที่งอแงเวลาอยากกินขนมหรือไอศกรีม ส่วนของเล่นถ้าคนอื่นซื้อให้จะไม่แตะเลยแม้จะเป็นของเล่นที่เคยร้องไห้อยากจะได้ มีเพียงฉันน้องสองคนพ่อแม่แล้วก็เพื่อนฉันอีกสองคนที่เด็กสองคนนี้ยอมรับของและขนมด้วย อาจจะเพราะสนิทกันเลยยอมรับของด้วย กระทั่งเพื่อนของเป้หรือป่านเด็กสองคนนี้ก็ไม่ยอมรับของด้วย “หิวกันหรือยังคะ แม่ทำอาหารไว้ให้แล้วนะ” “ฮือๆ” อลันส่ายหน้าไปมากับแขนฉันเบาๆพรางส่งเสียงในคอ อลินไม่ตอบแต่นิ่งเงียบไปแล้ว สงสัยจะหลับต่อจริงๆเลยเด็กสองคนนี้ แต่ก็เหมือนจะคิดผิดเมื่ออลินผละออกจากไหล่ฉันแล้วถามเสียงอยากรู้แต่กลับเป็นฉันที่สะอึกนิ่งกับคำถามนั้น “พ่อล่ะคะ” “เอ่อ...” “พ่อละคะแม่” “เขาไม่ได้อยู่กับเราหรอกค่ะ หนูกับแม่นะคะแม่รักพวกหนูนะ” ฉันกดจูบที่หน้าลูกทั้งสองหนักๆ ไม่รู้ว่าน้ำตาไหลลงมาตอนไหน แต่มันเป็นคำถามที่ฉันทำใจมาตลอดว่าสักวันลูกคงถามออกมาแต่ก็ไม่คิดว่าจะเร็วแบบนี้ “พ่อใจร้ายจังเลยนะคะแม่ พ่อไม่อยากอยู่กับเราใช่ไหมคะ” อลินถามอย่างน้อยใจ ก่อนจะซบหน้าเล็กๆลงกับซอกคอฉันแล้วหลับไป “เรามีแม่ก็พอแล้วครับ” อลันลุกขึ้นมาจูบฉันที่ริมฝีปากเบาๆก่อนจะล้มตัวนอนหนุนตัก ฉันนั่งร้องไห้เงียบๆอยู่นานไม่รู้ว่าเป้กับป่านกลับมาตอนไหนพอสองคนนั้นเห็นสภาพฉันนั่งร้องไห้ตาแดงก่ำแล้วมีลูกนอนหนักตักอยู่มันคงดูน่าสมเพชมากเลยสินะ เป้อุ้มอลินไปแนบอกส่วนป่านก็ประคองอลันให้นอนบนโซฟาดีๆ “เจ๊ยังมีพวกเรานะ พวกเราจะอยู่ข้างๆเจ๊ไม่ไปไหน...”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม