ตอน 4

1447 คำ
“คุณผู้หญิงล่ะก็” ป้ากิ่งค้อนวงใหญ่ หญิงชราเลี้ยงดูชายหนุ่มมาตั้งแต่ยังแบเบาะ รักและห่วงเหมือนลูก เพราะก่อนหน้านั้นคุณพรพรรณกับคุณพัฒนะทำงานหนัก จนไม่มีเวลาให้ลูก ป้ากิ่งทำหน้าที่เป็นแม่คนที่สองได้เป็นอย่างดี พงษ์ระพีจึงทั้งรักและเกรงใจหญิงชราคนนี้เทียบเท่าแม่บังเกิดเกล้า  “ปล่อยเขาเลือกเองเถอะ คู่ครองไม่ใช่คู่ควง คอยดูเขาอยู่ห่างๆ ก็พอ” นางพรพรรณ์รู้ดีว่าคนรับใช้เก่าแก่ห่วงลูกๆ ทุกคนของนางด้วยความจริงใจ เพราะอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่สาวรุ่น จนกระทั่งเข้าสู่วัยแย้มฝาโลงด้วยกัน   เด็กตัวน้อยวัย 4 ขวบ นักเรียนระดับชั้นอนุบาลสอง ตื่นเช้าขึ้นมามองรอบกาย ไม่พบผู้ที่   หนูน้อยเรียกว่า แม่กาล นั่งรอตรงปลายเตียง อย่างเช่นทุกเช้า แม่กาลจะคอยหอมแก้มคราเด็กน้อยตื่น หญิงสาวผมยาวดำขลับหายไป หนูน้อยรู้สึกประหลาดใจและคิดถึงหน้าสวยสบายตาของแม่กาลยิ่งนัก เช้านี้ผมดำขลับยาวเงาสลวย กลับเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลน ผิวเต่งตึงกลายเป็นเหี่ยวย่น เด็กน้อยสะดุ้งตื่นเด้งตัวจากที่นอนลายคิตตี้สีชมพู มองรอบกาย ภาพตรงหน้ามันยังไม่แปรเปลี่ยนแต่อย่างใด  “คุณยายเพียบขา” เด็กน้อยเรียกชื่อหญิงชราทีละคำ “แม่กาลล่ะคะ ยายเพียบ แม่กาลหายไปไหนคะ” หนูน้อยถามคนรับใช้วัยคุณยาย “คุณแม่กาลไปทำธุระกับคุณป้าหนกที่ต่างประเทศค่ะน้องแก้มใส”  ป้าหนกที่หญิงชราบอกเด็กหญิงคือ กรกนก บุตรสาวคนโตของตระกูล แต่งงานและย้ายไปอยู่กับสามีชาวฮ่องกงเมื่อ 5 ปีก่อน  “แม่กาลไม่เห็นบอกแก้มใสเยย”  เด็กน้อยยังคงสงสัย น้ำตากำลังรื้น เบะปากทำท่าจะร้องไห้  “โอ๋ โอ๋ ไม่เอานะคะ” นางเดินเข้าไปประชิดตัวเด็กน้อย เมื่อเห็นว่ากำลังเตรียมการจะกรรแสง     “ยายเพียบจำได้ว่า....แม่กาลบอกน้องแก้มใสแล้วค่ะ น้องแก้มใสลืมน่ะสิคะ มัวเล่นซน จำที่แม่กาลบอกไม่ได้”   นางเพียบปดเด็กน้อยหน้าตาบ้องแบ๊ว เพราะไม่อยากให้หนูน้อยซึ่งติดอาสาวงอม เข้าใจว่าเป็นแม่ตั้งแต่อ้อนแต่ออกต้องร้องไห้ “แล้วใครจะไปส่งหนูล่ะคะ ใครจะนอนกล่อม ใครจะเล่านิทานให้ฟัง ใครๆๆๆๆ.....” เด็กน้อยยังคงพูดไปเรื่อยถึงสิ่งที่จะขาดหายไปชั่วระยะหนึ่ง ซึ่งไม่มีใครบอกได้ว่าจะนานแค่ไหน “อืม....ใครน้า” นางเพียบพยายามเอียงหน้าทำท่าครุ่นคิด “อ้อ....ยายนึกออกแล้วค่ะ คุณย่ากับคุณปู่ไงคะ”  “ว้า....นิทานคุณย่าไม่เห็นสนุกเยย เรื่องอะไรไม่รู้” ทุกครั้งที่คุณย่าอย่างคุณคนึงนิตย์เล่านิทานให้ฟัง  ล้วนแต่เป็นนิทานพื้นบ้านแบบที่เด็กเข้าใจยาก ไกรทอง สังฃ์ทอง นางวันทอง “สู้นิทานแม่กาลก็ไม่ได้ ทั้งสนุก  ตื่นเต้น มีเจ้าชาย เจ้าหญิง จุ๊บกันด้วย” เด็กน้อยจินตนาการตามสมุดนิทานที่วรกาลซื้อมาฝากและเล่าให้ฟังทุกคืน “พอเถอะค่ะ เดี๋ยวสาย ไปอาบน้ำแล้วเดี๋ยวเราลงไปหม่ำๆ กันนะคะคนเก่ง เดี๋ยวยายไปส่งที่โรงเรียน”  นางเพียบจูงมือเด็กน้อยที่ตอนนี้ล่อนจ้อนหายเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อชำระร่างกายเตรียมไปโรงเรียน ไม่นานนักทั้งสองสาวต่างวัยกันสุดขั้ว ก้าวออกมาจากห้องน้ำ นางเพียบจัดการแต่งเนื้อแต่งตัวชุดนักเรียนอนุบาลให้เด็กน้อย  เสื้อคอบัว กระโปรงบานสีแดง หวีผมถักเปีย ติดโบสองข้าง “สวยแล้ว ลงไปข้างล่างกัน คุณปู่กับคุณย่าคงกลับมาแล้วล่ะ”  “คุณย่าขา.....” เด็กหญิงตัวน้อยโผเข้าหาผู้เป็นย่าอย่างอารมณ์ดี หากยังแฝงอารมณ์ความรู้สึกคิดถึง  แม่กาลไม่คลาย “ยังไม่ไปโรงเรียนอีกหรือคนเก่ง” ผู้เป็นย่าอุ้มหลานและพาเดินไปยังโต๊ะอาหาร ซึ่งจัดโต๊ะเด็กให้กับเด็กน้อยได้รับประทานอาหารสะดวก   “ยายเพียบบอกว่าแม่กาลไปหาป้าหนกที่เมืองนอก จริงมั้ยคะคุณย่า” เด็กน้อยถามถึงแม่กาลทันทีที่ก้นแตะเก้าอี้ตัวนุ่ม    “แม่กาลไปทำธุระกับคุณป้าหนกที่ฮ่องกง เดี๋ยวกลับจ้ะ” นางคะนึงนิตย์บอกหลานสาวตัวน้อย เท่าที่จะสามารถบอกได้  “ธุระคืออะไรคะ หนูไม่เห็นจะเข้าใจเยย” เด็กน้อยทำท่าน่ารักตามวัย  “ธุระ คือการทำงานไงคะ ไม่นานก็กลับแล้ว อดใจรอแม่กาลนิดเดียวเอง”  คุณปู่อย่างกรณรงค์อธิบายให้เด็กน้อยได้เข้าใจ  “ทานข้าวนะคะ เดี๋ยวคุณปู่จะไปส่ง” แม่กาลไม่อยู่คุณปู่จำต้องทำหน้าที่นี้แทน ขืนปล่อยให้แม่เพียบไปเองคงงกๆ เงิ่นๆ พอดีไม่ถึงโรงเรียน คุณย่าสั่งคุณปู่ “เข้าใจแล้ว” คุณกรณรงค์รู้ดีว่าตั้งแต่มีน้องแก้มใสอยู่ในบ้าน เมื่อคราวที่วรกาลหอบเจ้าตัวน้อยอายุยังไม่ถึงเดือนเข้ามาในบ้าน และบอกว่าเด็กคนนี้คือลูกของพี่ชายที่ภรรยาพี่ชายทิ้งไว้ให้ หลังจากเลิกลากัน  หล่อนเลี้ยงลูกไม่ไหว จึงส่งให้เป็นหน้าที่อุปการะของสามี จากนั้นเด็กคนนี้ก็เรียกบุตรสาวคนเล็กว่าแม่กาลจน ชินปาก และชินกับความรู้สึกของเด็กน้อย ส่วนคุณคนึงนิตย์และคุณกรณรงค์ทำหน้าที่เป็นปู่ย่าตามศักดิ์ วรจักร  คือบุตรชายคนรอง นิสัยเจ้าชู้ รักสนุก กระทั่งทุกข์ถนัด หาลูกสะใภ้มาฝากพ่อแม่โดยไม่ตั้งใจ แถมท้องป่องอีกต่างหาก ไม่นานหลังคลอดลูก ทั้งสองจำต้องเลิกลากันด้วยสาเหตุอันมาจากความเจ้าชู้ของวรจักร ผู้รักสนุก  ส่วนผลพวงที่เกิดจากเหตุการณ์และความไม่รู้จักพอของวรจักร ค่อยๆ เติบโตกลายเป็นน้องแก้มใส หน้าตาน่ารัก  น่าเอ็นดู ถอดพิมพ์ใบหน้า ผิวพรรณวรจักรมาโดยไม่มีผิดเพี้ยน แต่รายนั้นกลับเริงร่าอยู่กับมายาของตัวเอง ไม่ยอมรับเลี้ยงลูก ยังคงมีคู่นอนไปเรื่อย ซึ่งยังไม่มีบทสรุปจะลงเอยกับผู้หญิงคนไหนสักคน                 พงษ์ระพีขับรถยุโรปสีบอร์นคู่ใจคู่กายคันหรู มาจอดยังสถานที่นัดหมายรวมพลระหว่างเพื่อนๆ เขาส่งกุญแจให้เด็กรับรถ สาวเท้ายาวๆ เข้าไปภายในผับหรูย่านแหล่งท่องเที่ยวของนักย่ำราตรี  พนักงานต้อนรับ     สาวสวยทำหน้าที่อย่างแข็งขันอยู่หน้าประตู พุ่มมือไหว้แขกหน้าตาคุ้นเคย ด้วยความนอบน้อม พร้อมการ์ดที่คอยดูแลความปลอดภัย พาเขาไปยังที่นั่งประจำ ซึ่งจัดไว้อย่างเหมาะเจาะสำหรับการชมวิว   “เชิญครับคุณพงษ์ระพี” การ์ดหนุ่มผายมือเชื้อเชิญอย่างให้เกียรติ “นายวัฒน์  นายเขตอยู่ไหน” เขาถามหาเพื่อนรักทั้งสอง เมื่อกวาดตามองโดยรอบ ไม่พบร่างสูงของคนทั้งสอง “คุณวัฒน์อยู่ห้องบอสครับ” การ์ดคนเดิมบอก พร้อมทั้งปรายตาไปยังห้องส่วนตัวเจ้านายหนุ่ม “อืม ขอบใจ นายไปได้แล้วล่ะ เดี๋ยวฉันไปเอง” พงษ์ระพีบอกการ์ดหนุ่มหน้าเดิม พร้อมยื่นธนบัตรให้หนึ่งใบ เพื่อเป็นสินน้ำใจที่ดูแลเขาเป็นอย่างดี “ครับ เชิญคุณพงษ์ระพีตามสบาย ขอให้สำราญกับความบันเทิงที่เรามอบให้นะครับ” การ์ดหนุ่มยิ้มรับไมตรี พร้อมยื่นมือไปรับสินน้ำใจนั้น ด้วยใบหน้ากระหยิ่ม ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งในชุดดูดีสบายตา เหมาะแก่การเที่ยวยามค่ำคืนท่ามกลางแสง สี เสียง ใบหน้า  คมคาย ทรงผมทันสมัยรับกับใบหน้าและดวงตาสีน้ำตาลเข้ม ปากหนาได้รูปชวนจุมพิตและลิ้มลอง หากสตรีนางใดได้รับจุมพิตจากริมฝีปากมีเสน่ห์ยั่วยวนใจนี้เข้า อย่างน้อยๆ ก็ต้องอ่อนระทวย ไร้เรี่ยวแรงยากต่อต้านเลยทีเดียว  ก๊อก  ก๊อก ก๊อก ก่อนเข้าห้องคนอื่นชายหนุ่มไม่ลืมมารยาท ที่พ่อแม่และสถาบันการศึกษาได้สั่งสอนมาเป็นอย่างดี เขาเคาะประตูก่อนเข้าห้องคนอื่น เผื่อว่าเจ้าของห้องอาจจะทำกิจวัตรบางอย่าง ที่ไม่พึงประสงค์ให้บุคคลอื่นเห็น “เข้ามา” เขตแดนเจ้าของห้องทำงานส่วนตัว สั่งให้ผู้มาเคาะขออนุญาตให้เข้ามาภายใน  “ไงวะไอ้เสือ กลับมาซ่าได้แล้วสิ” มือหนาผลักบานประตูก้าวเข้ามาตามคำเชิญ พร้อมกล่าวทักทาย  “อืมสิวะ แค่ไปทำงาน ไม่ได้ติดคุก” เขาปาดหน้าเค้กกลับทันที ด้วยความสนิทสนม      
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม