“อย่าบอกพี่ธนานะคะ” แค่เขาขู่ เธอก็ใจสั่น เธอไม่อยากให้พี่ธนาเสียใจ ไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอกับเพื่อนของเขาสวมเขาให้ เธอเองไม่คิดจะดึงรั้งพี่ธนาไว้ เพียงแต่เธออยากขอเวลาทำใจก่อน ทำใจก่อนจะเดินออกมาจากชีวิตคนดี ๆ อย่างเขา
พุฒก้มลงหมายจะหอมแก้มนวล แต่แต้มรักสะบัดหน้าหนี เขาจึงก้มลงอีกนิดแล้วจูบลำคอเธอเบา ๆ
“อ๊ะ !” แค่ปากอุ่นร้อนประทับบนผิวเนื้อ ขนกายสาวก็ลุกชัน แต้มรักกัดฟันแน่น เธอรอกระทั่งเขาเงยหน้าขึ้นมาจากซอกคอ เธอจึงสบตาเขา
“แต้มไม่ให้พี่ธนาแตะต้องแน่นอนค่ะ ไม่ใช่เพราะบอสสั่ง แต่เพราะว่าพี่ธนาเป็นคนดี เขาดีเกินกว่าที่แต้มจะให้เขามาแปดเปื้อนคนสกปรกอย่างแต้ม”
พุฒยิ้มมุมปาก เขากอดรัดหญิงสาวแน่นขึ้น
“ถ้าอย่างนั้น ก็เลิกกับมันสิ แล้วมาเป็นแฟนผม”
“แต้มจะบอกเลิกพี่ธนาแน่นอน แต่แต้มจะไม่มีวันทำให้พี่ธนาเสียใจ ด้วยการเลิกกับคนดีแล้วมาคบกับเพื่อนเลวที่หักหลังเขาหรอกค่ะ”
“หักหลังอะไรกัน...ผมก็แค่ช่วยเพื่อนสร้างความสุขให้แฟนเท่านั้นเอง คืนนั้นแต้มก็มีความสุขสุดยอดไปตั้งหลายครั้งไม่ใช่เหรอ”
“คนเลว…”
“เคยบอกแล้วว่า ผมไม่ใช่คนดี”
“อื๊อ !” แต้มรักตกใจเบิกตากว้าง เมื่ออยู่ดี ๆ เขาก็ปิดปากเธอไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง เขารัดเอวคอดไว้แน่นด้วยวงแขนอีกข้าง แล้วดันเธอถอยหลังไปจนสะโพกอวบชนขอบโต๊ะ เขากดเธอนอนหงายลงบนโต๊ะตัวใหญ่ สองขาเรียวห้อยอยู่ข้างขอบโต๊ะ และต้องแยกออกกว้าง เพราะเขาแทรกตัวยืนอยู่กลางหว่างขา
“ธนามันแตะต้องคุณตรงไหนบ้าง ผมจะลบรอยมันเอง” พุฒชะโงกตัวอยู่เหนือร่างสาว เขาเอามือออกจากปากเธอ แล้วรวบจับข้อมือบางสองข้างดึงขึ้นไปกดไว้เหนือศีรษะเธอ
“คุณพุฒปล่อยแต้มนะ”
“มันหอมแก้มคุณเหรอ” เขาถามแล้วพรมจูบทั่วแก้มนวล แม้แต้มรักจะเบี่ยงหน้าหนีก็หนีไม่พ้น เขาทั้งจูบทั้งหอมทั่วใบหน้าของเธอจนพอใจ แล้วจึงเงยหน้าขึ้นมามองสบตาเธอ “มันทำอะไรคุณอีก”
แต้มรักมองหน้าเขาผ่านม่านน้ำตา เจ็บใจที่ไม่อาจสู้แรงเขาได้ เจ็บใจที่ต้องเป็นเบี้ยล่างให้เขาเอาแต่ใจกับร่างกายเธอแบบนี้
“พี่ธนาไม่ได้ทำอะไรแต้ม” แต้มรักบอกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ดีแล้ว...เพราะถ้าผมรู้ว่าแต้มยอมให้มันแตะต้อง ผมจะบอกมันว่า คืนนั้นคุณร่านแค่ไหน”
“แต้มเกลียดคุณพุฒ” แต้มรักสะอื้นออกมาอย่างสุดจะกลั้น เขาเป็นอะไรกับเธอนักหนา จะขู่กันไปถึงไหน จะพูดถึงเรื่องน่าอับอายในคืนนั้นอีกทำไม
พุฒยิ้มร้ายกาจ เขาก้มกระซิบบอกหญิงสาวว่า
“คืนนี้ผมจะทำให้คุณบอกรักผมให้ได้...แต้มรัก”
“แต้มยังไม่เสร็จอีกเหรอ” พรีมถามด้วยความเป็นห่วง เพราะเห็นว่าแต้มรักยังทำงานอยู่ทั้งที่เลยเวลาเลิกงานมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว
“ยังเลย” แต้มรักตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้นมาจากจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้า
“กลับก่อนไหม พรุ่งนี้ค่อยมาทำ”
“อีกนิดเดียวก็เสร็จแล้ว ฉันอยากทำให้เสร็จวันนี้เลย พรุ่งนี้จะได้ไม่ยุ่งมาก”
“งั้นฉันอยู่เป็นเพื่อน” พรีมว่าแล้วลากเก้าอี้อ้อมฉากกั้นมานั่งข้าง ๆ เพื่อน
แต้มรักวางมือจากงานตรงหน้า เธอหันมามองหน้าเพื่อน “ไม่ต้อง ๆ แกกลับไปก่อนเลย บ้านเราอยู่คนละทาง ถึงรอก็ไม่ได้กลับด้วยกันสักหน่อย”
“แต่…”
“ยิ่งแกอยู่ด้วย งานฉันก็ยิ่งช้า เพราะแกจะชวนเม้าท์”
พรีมหัวเราะ แล้วตีต้นแขนเพื่อนสาวไปหนึ่งที
“เออ ๆ งั้นฉันกลับก่อนนะ แกก็รีบ ๆ กลับก็แล้วกัน” พรีมลุกขึ้น ลากเก้าอี้กลับไปไว้ที่เดิม แล้วชะโงกหน้ามาโบกมือให้แต้มรัก
“กลับก่อนนะแก พรุ่งนี้เจอกัน”
“อือ...พรุ่งนี้เจอกัน”แต้มรักพยักหน้าและยิ้มให้เพื่อน เธอทำงานต่ออยู่ครู่หนึ่ง เมื่อพรีมเดินออกจากออฟฟิศไปแล้ว หญิงสาวจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่
งานที่เธอทำอยู่ไม่ได้เร่งด่วนอะไร แต่เพราะใครคนนั้นสั่งให้เธอรอกลับพร้อมเขา แต้มรักจึงรอ และหาทางออกที่ไม่ต้องลงลิฟต์ไปพร้อมเพื่อนด้วยการเอางานมาอ้าง
เมื่อปิดคอมพิวเตอร์ จัดเก็บของบนโต๊ะเรียบร้อย แต้มรักก็ส่งข้อความไปบอกธนาว่า เธอกำลังจะกลับคอนโดแล้ว เธอรู้สึกเพลียจะรีบกลับไปพักผ่อน ธนาไม่ได้อ่านข้อความทันที เพราะกำลังประชุมอยู่ เธอเองก็จงใจจะส่งไปบอกเขาเวลานี้ เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องซักถามอะไรกลับมา เพราะความจริงแล้ว เธอต้องไปรอขึ้นรถกับชายชู้ในจุดที่เขานัดแนะไว้
แต้มรักมองซ้ายขวาอย่างระแวง เธอดูจนแน่ใจว่าไม่มีใครมองเธออยู่ แล้วจึงวิ่งออกจากข้างพุ่มไม้ไปเปิดประตูรถเก๋งคันหรูที่จอดรออยู่ริมทางเท้า หญิงสาวรีบพาตัวเองขึ้นไปนั่งบนเบาะข้างคนขับ พอดึงประตูรถปิดแล้ว เธอก็ยังไม่วายมองซ้ายมองขวาหันหน้าหันหลังด้วยความหวาดระแวง
เมื่อคนที่เขามาจอดรถรอรับขึ้นมานั่งเคียงข้าง พุฒก็ขับรถเคลื่อนไปบนถนนด้วยท่าทางสบาย ๆ เขาเหลือบมองคนลุกลี้ลุกลนแวบหนึ่ง
“กลัวถูกจับได้ขนาดนั้นเชียว”
แต้มรักหันขวับไปมองเขาด้วยความไม่พอใจ พอดีกับจังหวะที่รถจอดเพราะติดสัญญาณไฟแดง คนที่เพิ่งว่าเธอเมื่อครู่จึงหันมามองสบตาเธอตรง ๆ
“กลัวคนเขารู้ว่าขึ้นรถมากับชู้เหรอครับ”