หลังจากเกิดเหตุที่บ่อนของเฮียซ้ง สองแม่ลูก หลิงเจียอี กับหลิงจินเยว่ก็ถูกคุมตัวในข้อหาลักลอบเล่นการพนัน เมื่อกู้อี้หานกับกู้เฉิงฮวนได้รับสัญญาณจากสหายก็เข้าไปตรวจร่างกายและเตรียมนำผลตรวจเข้าแจ้งความเพิ่มเติมทันที
ส่วนคนงานที่บ้านทุกคน ที่มีส่วนร่วมในการวางยานายท่านเวินและลูกสาว ก็ถูกรวบตัวเข้าห้องขังทั้งหมด สองแม่ลูกที่ถูกหลายข้อหาเล่นงาน โดยที่ไม่ทันตั้งตัว ก็อาละวาดจนลั่นโรงพัก แต่เพียงครู่เดียวก็ถูกเพื่อร่วมห้องขังรับน้องใหม่ ทั้งคู่จึงไม่อาจแผลงฤทธิ์อะไรได้อีก แค่เสียนิ้วให้คุณนายใหญ่ไปคนละ 1 นิ้วก็เสียเลือดจนหมดแรงแล้ว
"ฮึก มันเป็นแบบนี้ได้ยังไงแม่ เป็นเพราะแม่ไปนอนกับไอ้แก่นั่นแน่ ๆ นังคุณนายใหญ่ถึงได้มาเล่นงานเราแบบนี้ ฮื้อออ ฮีออ หนูไม่ยอม ฮึก หนูจะเอาชีวิตของหนูคืนมา"
"นั่นพ่อของแกนะ แกจะไปเรียกเค้าแบบนั้นได้ยังไงนังลูกคนนี้ ภาวนาขอให้เค้ารอดจะดีกว่าไหม เค้าเป็นคนเดียวที่จะช่วยพวกเราออกไปจากที่นี่ได้นะ"
"ฮึก แม่ฝันไปรึเปล่า มันโดนตัดไปขนาดนั้นมันจะรอดได้ยังไง!"
"ถ้าพวกแกสองแม่ลูกยังไม่หยุดแหกปาก พวกฉันจะจัดการพวกแกตอนนี้เลย น่ารำคาญโว้ย ร้องเป็นเปรตขอส่วนบุญอยู่ได้"
ขาโหดประจำห้องขังร้องลั่นขึ้นมาด้วยความรำคาญ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามาควบคุมเหตุการณ์
ปึ้ง ปึ้ง ปึ้ง
"เงียบ ๆ อย่าส่งเสียงรบกวนคนอื่นเค้า"
หลังจากเจ้าหน้าที่เดินออกไป นางหลิงเจียอีก็เห็นกู้เฉิงฮวนกับกู้อี้หานเดินเข้ามาในสถานีตำรวจพร้อมกับชายหนุ่มในเครื่องแบบอีกหลายคน นางยังคิดดีใจอยู่ว่าลูกติดของสามีจะมาช่วยเหลือนาง
"เฉิงฮวน หนูจะมาประกันตัวแม่กับน้องใช่ไหมลูก เร็ว ๆ เข้านะ พวกเราเหนื่อยจะแย่แล้ว"
"ค่ะ ฉันจะทำให้คุณกับลูกได้ไปพักผ่อนให้สบายโดยเร็วที่สุด"
สองแม่ลูกได้ฟังคำพูดของกู้เฉิงฮวนก็รู้สึกตงิดใจอย่างบอกไม่ถูก ทำไมฟังดูกี่ครั้งมันก็ดูแปลก ๆ กันนะ
เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เห็นนายพลเสิ่นกับสารวัตรฟ่านมาด้วยตัวเอง ทุกคนก็รีบออกมารับหน้าจัดการคดีที่เกี่ยวข้องให้อย่างรวดเร็ว
เอกสารการตรวจร่างกายของนายท่านเวินและกู้เฉิงฮวนถูกส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อ่านดู พร้อมกับรูปถ่ายระหว่างที่ผู้ต้องหากำลังผสมยาพิษ รวมไปถึงผลการตรวจอาหารที่หมอโม่ฟางเตรียมไว้ ถูกส่งเข้าเป็นเอกสารประกอบการแจ้งความสองแม่ลูก
"นี่คดีใหญ่เลยนะครับท่านนายพล รับรองว่าสองแม่ลูกดิ้นไม่หลุดแน่นอน ผมจะทำเอกสารส่งสำนวนฟ้องให้เร็วที่สุดครับ"
"นอกจากเอกสารพวกนี้ เรายังมีพยานรวมไปถึงผู้ร่วมกระทำผิดมาส่งให้ผู้กองด้วยนะครับ เดี๋ยวคนของผมจะพาขึ้นมา คนพวกนี้ร่วมมือกับสองแม่ลูก คอยเป็นมือเป็นเท้าวางยาพิษและเฝ้าดูต้นทาง กักขังหน่วงเหนี่ยวอิสรภาพของคุณลุงกับน้องสาวของผม หวังว่าจะไม่มีใครหลุดลอดจากโทษทัณฑ์ไปได้นะครับ"
"เรื่องนั้นแน่นอนอยู่แล้วครับ ท่านนายพลไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวผมขอสอบปากคำคุณนายกู้เพิ่มเติมอีกสักหน่อย เสร็จแล้วจะตามออกไปครับ"
เสิ่นตงหยาง ฟ่านหนิงหลง ชางหยวน รวมไปถึงโม่ฟาง ต่างก็พากันออกมารอด้านนอก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานสะดวกขึ้น ส่วนคนงานของหลิงเจียอีที่ถูกควบคุมตัวมา ก็ถูกพาเข้าไปขังไว้ที่ห้องข้าง ๆ ผู้เป็นเจ้านายเป็นที่เรียบร้อย
เพียงแค่ได้เห็นหน้ากัน ทั้งเจ้านายและลูกน้องต่างก็ตกใจ ก่อนจะอาละวาดสาปส่งกันไม่เหลือชิ้นดี ที่ลูกน้องทำงานพลาดจนถูกจับได้ ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่สองคนแม่ลูกจะคิดว่าเป็นความผิดของตนเอง
"พวกนายว่าสองแม่ลูกจะรอดออกมาได้ไหมว่ะ ฉันเป็นห่วงความปลอดภัยของเสี่ยวเหมิงกับเฉิงฮวน ไม่รู้เมื่อไหร่ร่างกายจะฟื้นตัวจากยาพิษพวกนี้"
หมอโม่ฟางพูดออกมาด้วยความเป็นห่วง ในระหว่างที่ได้ยินเสียงสองคนแม่ลูกกำลังคาดโทษกู้เฉิงฮวนเอาไว้
"ฉันไม่ให้รอด! แล้วสองคนนั้นก็ต้องชดใช้อย่างสาสมและเร็วที่สุดด้วย"
คำตอบของเสิ่นตงหยางทำให้ทุกคนในกลุ่มเบาใจขึ้นมาก ด้วยว่าเขาคนนี้เป็นคนที่ไม่ปล่อยผ่านเรื่องพวกนี้ง่าย ๆ แล้วยิ่งเป็นเรื่องของกู้เฉิงฮวน ผู้ที่เสิ่นตงหยางรักประดุจน้องสาว อย่าได้หวังว่าคนร้ายจะรอดพ้นไปได้
เกือบครึ่งชั่วโมงกว่ากู้อี้หานจะพาเฉิงฮวนเดินออกจากห้องมา พอหลิงเจียอีได้เห็นหน้ากู้เฉิงฮวนก็รีบเรียกเอาไว้ทันที
"หยุดนะนังเฉิงฮวน แกจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้ อย่างน้อยแกควรสำนึกบุญคุณที่ฉันดูแลแกกับพ่อของแกมานานหลายปีบ้างสิ ใครเสี้ยมใครสอนให้แกเป็นคนเนรคุณ"
กู้เฉิงฮวนเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับหลิงเจียอีตรง ๆ ในเวลานี้เธอไม่มีอะไรต้องกลัวอีกต่อไปแล้ว หลังจากออกจากโรงพักไป เธอก็ถือว่าได้เริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่ทันที
"คุณอยากให้ฉันตอบแทนคุณไหมล่ะ ถ้าต้องการ ฉันจะทำอาหารมาส่งให้คุณ แต่อาหารเหล่านั้นต้องถูกผสมด้วยยาที่คุณใส่ให้ฉันกับพ่อกินนะ"
"กะ..แกพูดเรื่องอะไร ยาอะไรฉันไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น"
"หัดมองเห็นความผิดที่ตัวเองก่อบ้างก็ดีนะ แต่ถ้าไม่ละก็ ฉันจะให้คนของฉันคอยอยู่ใกล้ ๆ แกสองแม่ลูก แกเผลอเมื่อไหร่จะมีคนผสมยาพิษใส่ในอาหารให้แกกิน ระวังให้ดีล่ะ ระวังคนข้าง ๆ ของแกให้ดี"
ประโยคหลังกู้เฉิงฮวนโน้มตัวไปพูดใกล้ ๆ สองแม่ลูกคู่นั้น เพื่อให้ทั้งคู่ต้องอยู่แบบหวาดระแวงไปทุกสิ่งอย่าง ก่อนจะเดินออกจากโรงพักไป
"เฉิงฮวน น้องต้องหัดเป็นคนเหี้ยม กันคนที่สมควรจะถูกกระทำ จำเอาไว้ว่าตีงูต้องตีให้ตาย อย่าปล่อยให้มันแว้งกัดเราได้ ถ้าปล่อยให้มันกลับมาในตอนที่เราไม่ทันได้ตั้งตัว มันจะทำให้เราเจ็บทั้งกาย เจ็บทั้งใจจนไม่อยากให้อภัยตัวเอง และที่สำคัญ น้องไม่ควรไว้ใจใครเกินไป"
กู้เฉิงฮวนหยุดฟังทุกอย่างที่เพื่อนของสามี ที่เธอรักประหนึ่งพี่ชายกำลังบอก เป็นจริงอย่างที่เสิ่นตงหยางเตือนเธอทั้งหมด เรื่องพวกนี้มันเกิดจากความไว้ใจ จนเลยเถิดมาเป็นการฆาตกรรม
"ฉันจะจำเอาไว้ค่ะ ขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนมากนะคะ ถ้าไม่ได้ทุกคนช่วยไม่รู้เมื่อไหร่ฉันถึงจะจัดการเรื่องนี้ได้สำเร็จ"
"อาฮวน เธอก็เป็นน้องสาวของพวกเรา ไม่เห็นต้องขอบคุณให้มากพิธี แต่หลังจากนี้ไปเรื่องสุขภาพของเธอกับคุณอาจะเอายังไงต่อ พี่ยังกังวลเรื่องนี้ไม่หาย ทุกคนก็เห็นว่าตอนนี้คุณอาอาการหนักมาก"
หมอโม่ฟางรีบพูดเรื่องที่ตนเองกำลังเป็นกังวล แต่สีหน้าของกู้เฉิงฮวนกลับไม่ได้วิตกกังวลเลยแม้แต่น้อย
"พวกพี่พอจะมีเวลาว่างไหมคะ ช่วยไปที่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม มีบางอย่างที่ฉันอยากให้พวกพี่เห็นด้วยตาของตัวเอง เพราะฉันไม่รู้จะอธิบายยังไง"
กู้เฉิงฮวนมั่นใจแล้วว่าต้องให้ทุกคนเห็นปาฏิหาริย์ครั้งนี้ด้วยตัวเอง เธอไม่คิดจะบอกเรื่องมิติเพราะกลัวทุกคนจะคิดว่าเธอบ้า สิ่งที่จะทำมีเพียงจะเอาน้ำพิสุทธิ์ที่เธอนำออกมาเตรียมไว้ ป้อนให้บิดาของเธอดื่ม แล้วให้ทุกคนดูความเปลี่ยนแปลงไปพร้อม ๆ กัน
"ได้สิ/พวกเราว่างทั้งวัน"
เมื่อได้คำตอบแล้ว ทุกคนจึงขึ้นรถแล้วตรงไปที่โรงพยาบาลที่หมอโม่ฟางทำงานอยู่ทันที
"น้องจะให้เจ้าพวกนั้นตามมาทำไมเหรอ"
กู้อี้หานเอ่ยถามภรรยาด้วยความสงสัย ในระหว่างที่นั่งอยู่บนรถเพียงลำพัง
"หนูได้น้ำพิสุทธิ์ที่จะรักษาคุณพ่อมาหนึ่งขวดค่ะ ยังไงทุกคนก็ต้องถาม แต่มันเป็นสิ่งที่หนูเองก็อธิบายไม่ได้ ทางที่ดีเลยให้พี่ ๆ เค้ามาดูเอง ยังไงทุกคนก็ไว้ใจได้ จริงไหมคะป๊ะป๋าขา"
"หึ! หนูไม่ต้องอ้อนพี่ก็ยอมหนูทุกอย่าง ว่าแต่หนูไปเอาน้ำพิสุทธิ์มาจากที่ไหน บอกพี่ได้ไหม"
"หนูบอกแน่นอนค่ะ แต่ต้องเป็นเวลาที่เราอยู่กันสองคน"
"อืม พี่ก็รอเวลานั้นอยู่เหมือนกัน"
อยู่ ๆ สายตาของกู้อี้หานที่จ้องมองภรรยาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสายตาของราชสีห์ที่จ้องจะขย้ำเหยื่อ โชคดีที่ถึงปลายทางเสียก่อน
ทุกคนลงจากรถแล้วเดินตรงไปที่ห้องพักของนายท่านเวินทันที เมื่อไปถึงห้องก็พบว่านายท่านเวินกับหนูน้อยเสี่ยวหนิงเหมิงหลับอยู่ เหลือเพียงป้าหวังกับเฉินเทียนที่เฝ้าอยู่ไม่ห่าง
"กลับมาแล้วเหรอคะคุณหนู"
"ค่ะป้า กินอะไรกันรึยังคะ หลับปุ๋ยเชียวเสี่ยวเหมิง"
"กินแล้วค่ะ สวัสดีค่ะท่านนายพล สวัสดีค่ะทุกคน"
"สวัสดีครับป้า ไม่เจอกันนานเลย ผมดีใจที่ป้าอยู่เคียงข้างน้องสาวของผมตลอดมานะครับ"
"ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วค่ะ ป้าไม่มีวันทำผิดต่อคำฝากฝังของคุณนายแน่นอน"
ระหว่างที่เสิ่นตงหยางพูดคุยกับป้าหวัง มือของเข้าก็อุ้มหนูหน้อยเสี่ยวเหมิงที่กำลังนอนหลับอุตุ ขึ้นมาหอมแก้มให้สมกับที่คิดถึง ตามด้วยลุง ๆ คนอื่น ๆ ต่างก็อยากเล่นกับหลาย ทว่าหลานก็ตัวเล็กตัวน้อยเหลือเกิน จนลุง ๆ ต้องระวังเป็นพิเศษ
"สามีคะ ช่วยประคองคุณพ่อหน่อยได้ไหม"
หมอโม่ฟางที่เห็นกู้อี้หานกำลังจะประคองนายท่านเสิ่น เขาจึงรีบเข้าไปช่วยประคองอีกแรงหนึ่ง
"เดี๋ยวพี่ช่วย นั่นน้ำอะไรเหรอเฉิงฮวน"
โม่ฟางเห็นเฉิงฮวนเทน้ำในขวดใส่แก้ว ก่อนจะตักป้อนนายท่านเวินทีละช้อน
"น้ำพิสุทธิ์ค่ะ กลืนลงไปนะคะพ่อ"
"น้ำพิสุทธิ์!"
คำแรกนายท่านเวินพยายามกลืนลงไปอย่างยากลำบาก ทว่าคำต่อ ๆ ไปกลับเริ่มง่ายดาย แถมท่านยังสามารถลืมตาขึ้นมามองดูทุกคนได้ เฉิงฮวนจึงใช้หลอดให้ท่านดูดน้ำในแก้วจนหมด ก่อนจะวางท่านลงอย่างเบามือ
ทุกคนต่างจ้องมองเฉิงฮวนที่ยืนแน่นิ่งเหมือนรอดูอะไรบางอย่าง ทว่าเพียงครู่เดียวเรื่องที่น่าเหลือเชื่อก็ปรากฏให้ทุกคนได้เห็นต่อหน้า ผิวหนังของนายท่านเวินจากที่เหี่ยวย่นเพราะขาดสารอาหาร และถูกพิษร้าย
ในตอนนี้ฟูเด้งอิ่มเอิบขึ้นทุกสัดส่วน ใบหน้าที่อิดโรยถูกแทนที่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดฝาด จนเป็นสีอมชมพูเหมือนคนสุขภาพดีไม่มีผิดเพี้ยน ทุกคนในห้องต่างก็อ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้เห็น สมองของโม่ฟางเกิดคำถามมากมายเกินกว่าจะบรรยายออกมาหมด
"มันเป็นไปได้ยังไงเนี่ย ไม่ได้ ฉันต้องเอาน้ำที่เหลือในแก้วไปส่งตรวจ เดี๋ยวฉันมานะทุกคน"
พูดจบโม่ฟางก็ถือแก้วน้ำที่เหลือน้ำอยู่เพียงเล็กน้อยวิ่งไปที่ห้องแล็บ เพื่อให้สหายของเขาทำการตรวจวิเคราะห์ให้ทันที ส่วนคนอื่น ๆ ยังงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้ายังไม่หาย
"อี้หาน นายต้องดูแลเฉิงฮวนให้ดีเลยนะ ห้ามให้ใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาด รวมถึงทุกคนที่อยู่ในห้องนี้ด้วย ผมขอให้เก็บเป็นความลับนะครับ"
เสิ่นตงหยางเป็นคนแรกที่รีบกำชับให้ทุกคนเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ
"ป้าสาบานค่ะ ป้าจะไม่เอาไปพูดที่ไหนเด็ดขาด"
"ผมก็รับปากครับ"
"พ่อคะ หนูดีใจที่ได้กลับมาหาพ่ออีกครั้งนะคะ"
สองพ่อลูกกอดกันด้วยความคิดถึง แม้ว่านายท่านเวินจะมีอาการงุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่บ้าง
"พ่อเสียใจที่ไว้ใจคนผิด พ่อขอโทษนะลูก"
"พ่อรู้เหรอคะ"
"พ่อได้ยินและรับรู้ทุกอย่าง แต่พ่อไม่มีแรง เจียอีผู้หญิงใจร้ายคนนั้นผสมยาให้พ่อกินมานานแล้ว พ่อมันแค่ไอ้แก่บ้าผู้หญิง สุดท้ายก็ถูกหลอก"
"พ่ออย่าพูดแบบนั้นเลยค่ะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว เรามาเริ่มต้นกันใหม่ดีกว่านะคะ"
หลังจากที่พูดคุยกันพอหอมปากหอมคอ หมอโม่ฟางก็รีบมาพาตัวนายท่านเวินเข้าไปทำการตรวจหาสารพิษอีกครั้ง หมอหลายท่านที่ได้เห็นนายท่านเวินในการตรวจครั้งก่อน ต่างก็ตกใจกับสิ่งที่เห็นในตอนนี้ เพียงชั่วข้ามคืน อาการของคนป่วยที่ได้รับสารพิษมานานหลายปีจะหายดีขนาดนี้ได้ยังไงกัน
ส่วนคนอื่น ๆ ที่ได้เห็นเรื่องมหัศจรรย์จนไม่สามารถหาคำไหนมาอธิบายได้ จึงได้แยกย้ายกันไปทำธุระของตัวเองต่อ ไว้รอตอนที่อี้หานกับเฉิงฮวนจัดบ้านเสร็จค่อยนัดพบกันอีกที