เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมงเด็กอวดดีเมากลับคาตักกันแล้วส่วนคุณตาก็หลับคาโซฟาเลย เขายิ้มกว้างคนเดียวขณะที่มือเกลี่ยแก้มนุ่มเล่นเงียบๆด้วยความเอ็นดูมากที่สุด
ชอบจังเลยเวลาที่เธอไว้ใจเขามากกว่าใคร
"เมาแล้วนอนตักพี่คนเดียวนะน้องหงส์"
เขาค่อยๆขยับตัวคุณหนูออกอย่างเบามือที่สุดแล้วลุกขึ้นเก็บข้าวของที่วางบนโต๊ะไปเก็บไว้ในครัวให้เรียบร้อย จากนั้นก็เดินหาผ้าห่มผืนใหญ่เพื่อห่มให้กับชายวัยชราที่เมาหลับตรงนั้นส่งเสียงกรนเบาๆมาเป็นระยะ ที่นี่แม้จะไม่มีเครื่องปรับอากาศแต่กลับเย็นสบายคงเพราะรายล้อมไปด้วยต้นไม้ ที่ด้านหลังบ้านก็มีคูคลองเล็กๆตัดผ่านพร้อมกับเรือที่จอดเทียบท่าอยู่ แล้วยังมีศาลาเล็กๆพร้อมด้วยเปลใหญ่ที่สามารถหลับนอนช่วงกลางวันได้อย่างสบาย
เขาเดินหาผ้าห่มอยู่เกือบสิบนาทีก็ไม่เจอเลยถือวิสาสะเปิดประตูห้องพักส่วนตัวเข้าไปหยิบผ้าผืนหนามา เนื่องจากภายในห้องมีเพียงแสงสลัวเลยไม่ได้สังเกตอะไรแต่พอหมุนตัวกลับหมายจะออกจากห้องก็ต้องชะงักกับรูปถ่ายขนาดใหญ่ใส่กรอบไม้อย่างดีแขวนผนังอยู่
"น่ารักตั้งแต่เด็กเลยเหรอว่ะ?"
"น้องหงส์…" ริมฝีปากหยักยิ้มออกมาอย่างลืมตัวก่อนจะก้าวขาเข้าไปใกล้ขึ้น นัยน์ตาคมมองภาพเด็กน้อยผมตรงยาวฉีกยิ้มกว้างนั่งอยู่ที่โซฟาตัวสวยข้างผู้หญิงที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกันและคนที่ยืนทางด้านข้างด้วยท่ามีสำรวมนั่นคือคุณตา เมื่อตอนเด็กคนจะซนไม่ใช่น้อยแล้วโครงหน้ารวมถึงรูปร่างคล้ายผู้เป็นแม่แต่นิสัยนั้นมีหลายส่วนคล้ายคุณท่าน
เขารีบเดินออกมาพร้อมกับห่มผ้าให้คุณตาที่ยังหลับสนิทมากก่อนจะหยิบกระเป๋าใบเล็กขึ้นมาสะพายและช้อนอุ้มเด็กอวดดีที่เมาจนแก้มแดงหลับพริ้มเดินออกไปขึ้นรถ
อยากจะหอมแก้มนุ่มนี้บ้างจัง!
รถคันหรูแล่นผ่านความเปลี่ยวของสองข้างทางไม่เร็วมากเพียงไม่นานก็ออกสู่ถนนใหญ่ใช้เวลาขับรถต่ออีกประมาณหนึ่งชั่วโมงด้วยความเร็วสูงและการจราจรในเวลานี้ไม่ติดขัดเหมือนกลางวัน ก่อนจะจอดนิ่งเมื่อถึงคอนโดหรูแล้วนั่งมองเธอผ่านกระจกอยู่แบบนั้นด้วยความคิดที่ตีวนชนกันแทบจะควบคุมไม่อยู่
คุณหนูของเขาสูงส่งมากเกินจะเอื้อมมือขว้า
แต่ใจมันรักไปแล้วให้ทำยังไงเล่า!!
แบล็คทำหน้าที่บอดี้การ์ดได้อย่างดีเยี่ยมเหมือนทุกครั้งแม้ว่าเสียงภายในใจกับเสียงในสมองยังคงทะเลาะกันไม่หยุดเหตุเพราะเด็กอวดดีคนเดียว วางเธอลงบนเตียงก่อนจะหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้รู้สึกดีขึ้นแต่ในจังหวะนั้นดวงตากลมโตกลับขยับเปิดออกมองกันด้วยความงุงงงปนงัวเงีย
บ้าจริง...แค่ตื่นนอนทำไมต้องน่ารักด้วยว่ะ
"พี่แบล็ค...หิวน้ำจัง"
"เดี๋ยวพี่ไปเอามาให้"
"ทำกับข้าวเป็นอยู่ใช่ไหม อยากกินอะไรอุ่นๆหรือแค่ต้มมาม่าก็ได้"
"แค่ข้าวต้มกินได้ไหม?"
"อื้อ กินได้"
"งั้นอาบน้ำไหวไหมหรือแค่ล้างหน้าให้สดชื่นก็ได้"
"หงส์อาบน้ำเลยดีกว่า พี่ก็...อาบด้วยนะ"
"...อาบด้วย?"
"หรือจะซักแห้งก็ตามใจเถอะ หงส์ไปอาบน้ำก่อนนะ"
มือเล็กประสานกันแล้วยกขึ้นบิดตัวคลายเมื่อยล้าเล็กน้อยโดยที่ไม่รู้ว่ามีคนแอบมองอยู่เงียบด้วยความหิวกระหายจนแทบคลั่งตายอยู่รอมร่อ ใบหน้าไร้เดียงสาแบบนี้ไม่ใช่ทุกคนจะได้เห็นง่ายๆน้ำเสียงติดแหบเอื่อยเฉือยกว่าเวลาปรกติมากก่อนจะอ้าปากหาวด้วยความง่วงงุงก็น่ารักเกินต้าน มือเล็กวางลงที่ต้นขาใหญ่เพื่อยันตัวเองให้ลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินเซเล็กน้อยไปยังห้องน้ำที่เปิดไฟสว่างเอาไว้
"จะยี่สิบสามยังไงก็เหมือนเด็กสิบสามเหมือนเดิม"
"...น่ารัก!"
หงส์ใช้เวลาอาบน้ำไปหลายนาทีเพื่อให้สดชื่นขึ้นแล้วเดินออกไปนอกห้องนอนเพื่อกินข้าวต้มที่ส่งกลิ่นหอมมายั่วยวน พี่แบล็คใส่แค่กางเกงขายาวสีเทาเข้มไม่ได้ใส่เสื้อกำลังยืนคุยโทรศัพท์ด้วยท่าทีจริงจังนั่นเลยทำให้เห็นรอยสักที่สีข้างด้านซ้ายชัดเจนขึ้น
เมื่อปีที่แล้วยังไม่มีเลยนี่นา!
เธอยืนมองคนตัวใหญ่พร้อมกับพิจารณาสรีระที่แน่นหนามากเกินไป ถ้าในเวลาปรกติเขาจะแต่งตัวสุภาพเรียบร้อยนั่นเลยทำให้ไม่เห็นกล้ามเนื้อชัดเจนแทบจะไร้ไขมันแบบนี้ แผ่นหลังใหญ่มีรอยแผลบ้างแต่ได้มาตอนไหนก็ไม่มั่นใจส่วนที่ต้นแขนมีรอยแผลเป็นนูนขึ้นแต่ถูกสักทับเอาไว้แล้ว รอยแผลนี้ได้มาเพราะดึงเธอให้หลบวิถีกระสุนแล้วยังจับเธออุ้มพาดบ่าไปโยนใส่รถจากนั้นก็หายไปเกือบสิบนาทีพน้อมกับเสียงปืนดังสนั่นแล้วเดินกลับมาด้วยท่าทีเหนื่อยมากแต่ก็ยังเป็นห่วงเธออยู่ดี
เธอพยายามเก่งขึ้นเพราะไม่อยากเป็นตัวภาระ
ไม่อยากให้ใครต้องมาตายแทน!
"มานานรึยังครับ?"
"พึ่งมา"
"แต่พี่ว่าน่าจะมายืนตรงนี้เกือบสิบนาทีได้เลยมั้ง แอบฟังพี่คุยโทรศัพท์เหรอ?"
"มีตาหลังเหรอถึงรู้?"
"กลิ่นสบู่ที่คุณหนูใช่ไง พี่จำกลิ่นคุณหนูได้"
"พูดอย่างกับว่าเคยดมบ่อยๆงั้นเเหละ!"
ก็อยากจะดอมดมใจแทบขาดแล้วเหมือนกัน!
เสียงใจตะโกนโต้ตอบกลับมาจนแทบเก็บอาการให้นิ่งเอาไว้ไม่อยู่ น้ำลายก้อนโตกลืนลงคอดังเอือกไปอีกครั้งเมื่อเผลอแทะโลมเด็กอวดดีตรงอย่างอย่างลืมตัว เนิมอกขาวผ่องไร้ร่องรอยใครมาตีตราเป็นเจ้าของนั่นช่างน่าบีบขย้ำจริงๆ ขนาดที่มองด้วยตาเปล่าก็รู้แล้วว่าคงล้นมือแน่นอน เรียวขาเล็กขาวผ่องนั่นถ้าได้จับพาดบ่าสักครั้งก็คงดีมากน้อยแต่อาจจะแย่หน่อยที่เขาจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป
คุณหนูเดินเข้ามาใกล้ไร้ซึ่งความเกรงกลัวเพราะความไว้ใจแล้วมือเล็กๆนี่ก็แตะที่รอยสักแผ่วเบา แค่ปลายนิ้วอุ่นลากวนไปมาก็รู้สึกว่าความอดทนกำลังจะขาดสะบั้นลงไปอย่างง่ายดาย
สัมผัสแผ่วเบาทำใจร้อนเป็นไฟแล้ว!!!
รับผิดชอบความรู้สึกพี่บ้างสิ!
"อย่าทำแบบนี้!" มือใหญ่จับข้อมือเล็กเอาไว้เพราะฟางเส้นสุดท้ายนั้นแสนเปราะบางเหลือเกิน เด็กอวดดีเงยหน้ามองด้วยแววตาตกใจเสียจนริมฝีปากอวบอิ่มอ้าเหว่อเห็นฟันสีขาวและลิ้นสีชมพูชัดเจน แม่งบัดซบที่สุด!! เขาอยากจะบดเบียดจูบเสียให้ปากบวมเจ้อแล้วกวาดลิ้นไปทั่วทั้งปากลิ้มรสชาติหิวกระหายมานานถึงสิบปี
"โอ๊ย! หงส์เจ็บนะ!"
"อย่าแตะต้องตัวใครมั่วๆเด็ดขาด!"
"โกรธที่หงส์แตะรอยสักเหรอ? มันมีความหมายอะไรแอบแฝงรึเปล่าถึงหวงขนาดนี้ เอ๊ะ! หรือว่าจะเกี่ยวกับแฟนพี่?"
"แฟนงั้นเหรอ?"
"อื้ม คนที่พี่รักไง...ไม่มีเหรอ?"
"...มีสิ คนที่พี่รักมากจนยอมทุกอย่าง"
"บอกได้ไหมว่าเป็นใคร?"
"อยากรู้จริงๆเหรอ?"
"ก็พี่แบล็คโสดมาตั้งนานไม่ใช่รึไง ถ้าพี่มีแฟนหงส์ก็อยากจะรู้จักเอาไว้บ้างเผื่อว่าวันหนึ่งพี่บาดเจ็บอีกจะได้มีคนมาดูแลไง แล้วรอยสักนี่หมายความว่ายังไงเหรอ?"
"อย่าแตะเนื้อต้องตัวใครอีกนะ ทุกคนมีอารมณ์ มีความรู้สึก มีพื้นที่ส่วนตัวทั้งนั้น พี่ยอมให้คุณหนูทุกอย่างแต่ใช่ว่าคนอื่นจะยอม เข้าใจไหม?"
"ทำไมเรื่องแค่นี้ต้องดุด้วย!"
"ก็เพราะว่า…"
"หงส์ไม่อยากรู้แล้วว่าพี่รักใครชอบใคร แล้วพี่จะสักมีความหมายอะไรก็เรื่องของพี่เลย ไปกินข้าวต้มกันเถอะจะได้นอนพรุ่งนี้มางานทำแต่เช้า"