ความลำบากใจของชินอ๋อง

1168 คำ
ค่ายบูรพา... หนึ่งเดือนหลังจากได้รับรายงานครั้งสุดท้ายจากองครักษ์เงา วังอ๋องก็ยังสุขสงบดียกเว้นอาการป่วยของชายารองหลินหลานแล้วก็ไม่มีเรื่องเลวร้ายอย่างอื่นเกิดขึ้นอย่างที่หมอโจวเป็นกังวล “นางป่วยเป็นอะไร คงจะไม่ใช่เป็นโรคติดต่อหรอกนะ” “กระหม่อมก็ไม่อาจจะรู้ได้พ่ะย่ะค่ะหลังจากที่พระชายาหลินหลานป่วยหวางเฟยก็มีรับสั่งไม่ให้นางและสาวใช้ออกจากตำหนักเลยจะมีก็แต่หมอหลวงเข้ามาตรวจอาการเป็นครั้งคราวพ่ะย่ะค่ะ” “ถ้าเช่นนั้นหลี่ซวนก็ต้องรู้สิว่านางป่วยเป็นอะไร” “ไม่ใช่ท่านหมอหลี่พ่ะย่ะค่ะแต่เป็นท่านหมอหลิวเยี่ย” “หลิวเยี่ย? ทำไมถึงเป็นสกุลหลิว ข้าเคยบอกพ่อบ้านใหญ่แล้วไม่ใช่หรือว่าไม่ให้เรียกใช้หมอหลวงจากสกุลหลิวมารับใช้ในวัง” เรื่องของหมอหลวงที่เพิ่งถูกส่งเข้ามาประจำการที่วังอ๋องทำให้จ้าวโม่หยางคิดขุ่นเคืองอยู่ในใจ ถึงจะรักกุ้ยฮวาแค่ไหนเขาก็ไม่เคยให้อภิสิทธิ์แก่สกุลหลิวที่เป็นฝั่งท่านตาของชายารักเข้ามาทำหน้าที่เกินหน้าเกินตาใครให้เป็นที่ครหา ทุกคนย่อมรู้ดีแต่ก็ยังไม่วายให้หลิวเยี่ยเข้ามาทั้ง ๆ ที่วังอ๋องเองก็มีหมอหลวงคอยดูแลอยู่แล้วแม้กระทั่งหมอหลวงใหญ่ก็ยังต้องรีบมาหากมีรับสั่งเร่งด่วนจากวังของชินอ๋อง “เร่งตรวจสอบให้ข้าถึงสาเหตุที่เปลี่ยนหมอหลวง” “พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง” เมื่อรับคำสั่งแล้วเงาอันดับหนึ่งก็จากไปอีกครั้ง “เจ้าคิดว่าอย่างไรโจวเฉิน ทำไมวังของข้าจะต้องเปลี่ยนหมอหลวง” “ก็มีสองสาเหตุที่น่าจะเป็นไปได้ หนึ่งพระชายาหลินกุ้ย ฮวาทรงไม่ไว้ใจหมอหลี่หรือหมอหลวงที่พระสวามีอย่างชินอ๋องจัดหาให้ สองความเจ็บป่วยของคนในวังที่ไม่อยากให้ใครรับรู้” เหตุผลแรกโจวเฉินพูดขึ้นมาคล้ายจะประชดสหายรักอย่างไม่ต้องสงสัยทำให้คิ้วหนาของชินอ๋องถึงกับย่นเข้าหากันเลยทีเดียว เหตุผลที่สองคิ้วหนาที่ว่าย่นแล้วก็ยิ่งขมวดเป็นปมเข้าไปใหญ่ โม่หยางตัดข้อแรกทิ้งไปเพราะเขาไม่คิดว่าชายารักจะมาเคลือบแคลงหรือไม่ไว้ใจหมอหลวงที่ตนจัดหาให้อย่างแน่นอน เช่นนั้นก็ต้องเป็นสาเหตุที่สองนั่นคืออาการป่วยของหลินหลานที่นางไม่ต้องการให้ใครได้รับรู้แต่เป็นเพราะอะไรล่ะ ความสงสัยนี้แม้แต่ชินอ๋องผู้เยือกเย็นยังเก็บสีหน้าและอาการร้อนรนเอาไว้ไม่อยู่ “เย็นพระทัยเถิดชินอ๋อง แสดงสีหน้าท่าทางแบบนี้พระองค์กำลังเป็นห่วงใครกัน ห่วงอาการป่วยของชายารองหรือทรงกลัวว่าหวางเฟยจะมีลับลมคมใน” “พล่ามพอรึยัง ถ้าสิ่งที่เจ้าเป็นกังวลไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่หากมันมีมูลความจริงเพียงน้อยนิดข้าก็ไม่ปล่อยผ่านหรอกนะ อย่าห่วงว่าอ๋องผู้นี้จะเป็นตัวโง่งมให้ใคร ๆ มาหัวเราะเยาะเอาได้” “โธ่ ท่านแม่ทัพปากข้ามันไม่มีหูรูดคิดอยากจะพล่ามสิ่งใดก็พล่ามไปเรื่อยนั่นแหละ” “เจ้าคิดว่านางจะมีเรื่องปิดบังข้าจริง ๆ หรือ เราแต่งงานกันมาสามปีแล้วนะ” จ้าวโม่หยางยังเพียรถามสหายรักอยู่อย่างนั้นทั้งที่ในใจก็มีคำตอบอยู่แล้ว “ข้าก็ไม่ได้อยากจะสงสัยหวางเฟยของเจ้าเสียหน่อย สาบานสิว่าเจ้าเองก็ไม่ได้รู้สึกแปลก ๆ กับการแต่งงานครั้งนี้” “ข้า...” จ้าวโม่หยางพูดไม่ออกมันลำบากใจเหลือเกิน แม้แต่ในความคิดเขาก็ไม่อยากจะกล่าวหาชายารักของตนเลย มาหวนคิดอีกทีเขาไม่น่าตามใจนางตั้งแต่แรกและปัญหาเช่นนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ตำหนักเล็ก... “พระชายาเป็นอย่างไรบ้าง..ดีขึ้นหรือไม่เพคะ ให้หม่อมฉันตามหมอหลวงเถิดนะเพคะ” เสี่ยวจูทั้งถามอาการนายของตนและคอยลูบหลังให้อย่างเป็นห่วงเมื่อผู้เป็นนายเอาแต่อาเจียนไม่ยอมหยุด ทั้งยังไม่ยอมกินอะไรด้วยซ้ำ “ไม่ต้องหรอกหมอหลวงก็จะมาทุก ๆ เจ็ดวันอยู่แล้ว เจ้าไปทำชาขิงให้ข้าเถอะ” หลินหลานเงยหน้าพูดกับเสี่ยวจูด้วยอาการโรยแรง ในตอนนี้นางอยากจะส่งข่าวไปหาบิดากับมารดายิ่งนักแต่ก็ไม่สามารถทำได้เลย “เพคะ” เสี่ยวจูรีบทำตามนายของตนสั่งย่างเร่งรีบ ขิงที่ได้มาจากครอบครัวคนสวนมากมายก็ได้นำมาทำชาให้เจ้านายจิบแล้วในวันนี้ [ชาขิงที่ได้มาจากรากหรือหัวของขิงช่วยได้มากในอาการวิงเวียนศีรษะและอาเจียนและใช้สำหรับสตรีที่มีอาการแพ้ท้องได้ดีทีเดียว แต่จะไม่จิบเยอะนัก] “พระชายารอบเดือนยังไม่มา สงสัยบ้างหรือไม่เพคะว่ากำลังตั้งครรภ์” เสี่ยวจูผู้รอบรู้ถึงจะยังเป็นแค่เด็กสาวแต่นางก็อยู่ในจวนใหญ่ที่พบเห็นคนท้องและมีอาการแบบนี้อยู่บ่อยครั้งจึงไม่แปลกที่นางจะอดสงสัยไม่ได้ “ข้าก็คิดว่าเป็นอย่างที่เจ้าพูดมาแต่เหตุใดหมอหลวงถึงไม่บอกกล่าวอะไรเลย ทั้งหวางเฟยยังกำชับไม่ให้เราออกจากตำหนักอีก ข้าไม่ได้ป่วยเป็นโรคติดต่อเสียหน่อย” หลินหลานกล่าวกับสาวใช้เพราะสงสัยว่าตัวเองต้องตั้งครรภ์แล้วแน่ ๆ เมื่อสังเกตจากอาการที่กำลังเป็นอยู่ การถูกสั่งห้ามไม่ให้ออกจากตำหนักมันทำให้นางรู้สึกเป็นกังวลและลึก ๆ ก็มีความกลัวปนอยู่ด้วย เสียงเล่าลือถึงความน่ากลัวของวังหลังและความอิจฉาริษยาของเหล่าสะใภ้หลวงเริ่มมีผลต่อนางแล้วตอนนี้ถึงแม้หวางเฟยจะแสดงออกว่ารักและเป็นพี่สาวที่แสนดีของนางมากแค่ไหนก็ตามแต่นั่นแหละมันคือสิ่งที่นางกลัว ตำหนักซ้าย... “พี่เยี่ยท่านมั่นใจนะว่านางท้องแน่แล้ว” “พ่ะย่ะค่ะหวางเฟย” “ดี ดีที่สุด อย่าให้ใครได้รู้เรื่องนี้ หากจำเป็นต้องตอบก็บอกไปว่านางเป็นโรคติดต่อร้ายแรงจะได้ไม่มีใครเข้าใกล้ตำหนักนั้นอีกไปตรวจครั้งต่อไปนำของบำรุงไปให้นางด้วยบุตรของท่านอ๋องจะต้องแข็งแรงและสมบูรณ์ที่สุด อ้อ อย่าลืมจัดของบำรุงครรภ์ให้ข้าด้วยล่ะ” “เอ่อ..อ้อ พ่ะย่ะค่ะ” หลินกุ้ยฮวาบอกกล่าวโดยไม่ได้นัดหมายทำให้หลิวเยี่ยอึกอักเล็กน้อยก่อนจะเผยรอยยิ้มเย็นออกมาอย่างเข้าใจในสิ่งที่ญาติผู้สูงศักดิ์ตั้งใจที่จะสื่อออกมา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม