“ว้าวๆๆ อ่างน่าอาบมาก ขอนอนแช่ให้ชุ่มปอดทีเถอะ ไลล่านี่น่ารักจริงๆ อุตส่าห์เตรียมน้ำไว้ให้อีกต่างหาก” เพราะสาวใช้เข้ามาผสมน้ำอุ่นตั้งเอาไว้ให้แล้ว จึงทำให้เธอได้แช่เร็วขึ้นสมใจอยาก แล้วอ่างสุดหรูที่มีระบบน้ำได้มาตรฐานก็ทำให้เธอหลงใหลจนไม่อยากจะขึ้น จากน้ำใสๆ เธอก็เปลี่ยนให้มันกลายเป็นทะเลฟอง ด้วยการเทสบู่ลงไป
หลังจากผ่านไปหลายสิบนาทีจึงสมควรที่เธอจะขึ้นมาได้แล้ว ไม่อย่างนั้นเนื้อตัวเธอคงได้เปื่อยคาอ่างน้ำเป็นแน่ แต่แล้วพระเจ้าก็ไม่เข้าข้างเธอเอาซะเลย เพราะทันทีที่เธอก้าวเท้าออกมาจากอ่างสุดหรูนั่น เท้าเจ้ากรรมที่เหยียบย่างลงไปบนพื้นที่ชุ่มไปด้วยน้ำสบู่จากฝีมือของเธอเองก็ทำให้เธอลื่นล้มก้นจ้ำเบ้าลงไปนั่งกองอยู่กับพื้น
“เฮ้ย! โอ๊ย!” เธอร้องเสียงหลงทันทีด้วยความรู้สึกเจ็บจี๊ด และพยายามลุกขึ้นมาให้จงได้ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะทำมันได้สำเร็จ ก็มีพระเอกขี่ม้าขาวเข้ามาช่วยซะก่อน เอ๊ะ! เดี๋ยวนะ พระเอกขี่ม้าขาวงั้นเหรอ มาตอนที่เธอแก้ผ้าอยู่เนี่ยนะ
“กรี๊ด! คุณเข้ามาได้ไง” เธอกรีดร้องเสียงหลง จำได้ว่าตัวเองล็อคประตูห้องเอาไว้แน่นหนาแล้ว แต่ทำไมเขาถึงยังเข้ามาได้
“ซุ่มซ่ามจนได้เรื่อง จะมีสักครั้งไหมที่เธอจะปกติเหมือนคนอื่นเขาน่ะ” เขาเอ็ดพร้อมกับอุ้มเธอออกมาจากห้องน้ำ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ประหนึ่งว่าการเห็นเธอแก้ผ้ามันเป็นเรื่องปกติที่ไม่มีผลอะไรต่อหัวใจเขาเลย อ๊าก! คิดแล้วก็อยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ตายไปซะเดี๋ยวนี้เลย ‘แต่เธอยังไม่รู้รสชาติของการมีสามีเลยนะยาหยี เธอจะด่วนตายตอนนี้ไม่ได้’
“ถ้าจะกรุณา ช่วยหยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่ๆ ให้ฉันสักผืนเถอะ มันหนาวนะแล้วก็อายมากด้วย ฉันเป็นผู้หญิงนะ” เธอบอกอย่างจนใจ ครั้นจะโวยวายก็คงไม่ช่วยอะไร
“จะอายอะไร มากกว่านี้ฉันก็ทำมาแล้ว” เขาบอกหน้าตาเฉย
“อ๊าย! นี่ตกลงคุณทำอะไรฉันจริงๆ ไม่ใช่แค่มองเฉยๆ ใช่ไหมเนี่ย” เธอทำตาโตพร้อมกับเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อีก
“ฉันหมายถึงมองนั่นแหละ อย่างเธอจะมีอะไรให้ทำล่ะ” เขาพยายามขึ้นเสียงกลบเกลื่อน
“อย่าได้พูดแบบนี้เชียว คิดถึงเรื่องนั้นทีไร ทำให้ฉันโกรธขึ้นมาทุกที แล้วเรื่องในคืนนั้นก็อาจจะเป็นแรงผลักดันให้ฉันทำอะไรที่คุณคาดไม่ถึงนะคุณเลโอ” เธอขู่ฟ่อๆ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่กลัวแม้แต่น้อย
“งั้นฉันคงต้องเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่องั้นสิ เพราะฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าอย่างเธอจะทำอะไรได้” เขาท้าทายพร้อมกับวางเธอลง ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่มายื่นให้ ฮือ! ทำไมตอนนี้เธอถึงได้รู้สึกรันทดขนาดนี้ก็ไม่รู้ ก็พ่อคุณทำเหมือนเธอไม่ใช่ผู้หญิง นี่เธอไร้เสน่ห์ขนาดนั้นเลยรึไง
“อย่ามาท้านะ ไม่อย่างนั้นฉันจะปล้ำคุณให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย” เธอขู่พร้อมกับรีบขมวดปมผ้าขนหนูพลางทำหน้าบูดบึ้ง เพราะยังขุ่นเคืองไม่หาย
“ฮ่าๆๆ งั้นจะรออะไรล่ะ จัดการเลยสิ” เขาท้าทายด้วยการลงไปนอนรอเธออยู่บนเตียง ทำเอาคนถูกท้าถึงกับเม้มปากแน่น
“รอเอ่อ...ก็รอประสบการณ์ไง เฮอะ! ไว้ให้ฉันมีประสบการณ์ก่อนเหอะ คุณไม่รอดแน่”
"หาประสบการณ์งั้นเหรอยัยตัวแสบ ฝันไปเหอะ" เขางึมงำเสียงรอดไรฟันด้วยความขุ่นเคือง อา! ไม่สิ เขากำลังหงุดหงิดมากๆ เลยต่างหาก แต่ดูเหมือนคุณเธอจะยังไม่รู้ตัว
“ว่าแต่คุณเถอะเข้ามาได้ยังไง จำได้ว่าฉันล็อคประตูแล้วนี่ อย่าบอกนะว่าคุณไปเอากุญแจสำรองมาไขห้องฉันน่ะ” คิดได้ดังนั้นเธอจึงรีบเดินไปดูที่ประตู แต่ภาพที่เห็นมันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ใช่! ประตูยังถูกล็อคเอาไว้เหมือนเดิม
“บอกมาเดี๋ยวนี้นะคุณเลโอ คุณเข้ามาในห้องฉันได้ยังไง ในเมื่อฉันล็อคเอาไว้แล้ว แล้วคุณก็ไม่ได้มีกุญแจสำรองด้วย” เธอโถมลงไปหาคนที่นอนอยู่ด้วยความลืมตัว เพื่อหากุญแจที่ว่านั่น แต่เมื่อไม่พบจึงลุกออกมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย
“ไม่รู้สิ ก็แล้วแต่เธอจะคิดแล้วกัน ถนัดนักนี่เรื่องแปลกๆ ที่คนดีๆ เขาไม่คิดกันน่ะ” เขาบอกพร้อมกับลุกออกจากเตียง แล้วเดินตรงไปยังมุมหนึ่งของห้องพร้อมกับเปิดประตูบานหนึ่งออกไป ‘เดี๋ยวนะประตูเหรอ ห้องนี้มีประตูเชื่อมด้วย? เฮ้ย! งั้นจากนี้ไปเราก็จะไม่มีความเป็นส่วนตัวแล้วน่ะสิ นี่เราจะต้องนอนผวากังวลว่าตัวเองจะเข้าไปปล้ำเขาอะสิ เฮ้ย! ไม่ใช่สิ ต้องผวาเพราะไม่รู้ว่าเขาจะเข้ามาตอนไหน อย่างวันนี้เขาก็เข้ามาได้จังหวะน่าอายพอดีด้วย ทำไงดีเนี่ย ถ้ากำลังโพสต์ท่าเซ็กส์ซี่พี่จะไม่ว่าสักคำเลย ฮือ!’
“ไม่เนียนเลยนะ” ก่อนที่เขาจะทันได้ก้าวออกจากห้องไป ก็ยังไม่วายหันมาทิ้งท้ายให้คนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ต้องหันมาขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ครั้นเมื่อมองตามสายตาเขาก็พบกับ...
“กรี๊ด...! คนบ้า ทำไมเพิ่งมาบอกตอนนี้เล่า ถึงว่าทำไมเย็นๆ หมดกันชีวิตฉัน ป่นปี้หมดก็เพราะคุณนั่นแหละ เจอกันทีไรเป็นได้แก้ผ้าให้ดูทุกทีเลย หมดแล้วความน่าภาคภูมิใจของฉัน ถูกคุณขโมยไปจนหมด แล้วเมื่อกี้ที่บอกว่าไม่เนียน อะไรไม่เนียนหา” เธอกรีดร้องเสียงดัง หลังพบว่าผ้าขนหนูที่เคยนุ่งไว้มันร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้นแล้ว เธอรีบหยิบมันมานุ่งไว้ดังเดิม แต่ก็ไม่ลืมที่จะถามออกไปอีก
“ก็แผนแก้ผ้าเพื่อยั่วฉันน่ะสิ เธอทำได้ไม่เนียนเลยนะ พื้นฐานเด็กอนุบาลแบบนี้ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก อย่างเธอน่ะยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ” เธอได้แต่อ้าปากค้าง ตอนนี้ระหว่างโกรธ โมโห แล้วก็อาย ไม่รู้ว่าอย่างไหนมีมากกว่ากัน แล้วที่น่าเจ็บใจคือ เธอกลับทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนมองเขาเดินจากไปหน้าตาเฉย
“ฮึ่ย! เด็กอนุบาลอย่างเหรอ ฝากไว้ก่อนเหอะ จากนี้ไปเราจะได้เห็นดีกัน ฉันจะทำให้คุณถอนคำพูดให้ได้เลยคอยดู” เธอได้แต่ยืนกำหมดแน่นก่อนตั้งปณิธานอันแน่วแน่ว่าจะเผด็จศึกเขาให้ได้โดยเร็วที่สุด และเรื่องแบบนี้เธอจะต้องมีตัวช่วย ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำเพียงคนเดียวได้ เพราะ ‘ฉันทำไม่เป็น ก็คนมันไม่เคยมีประสบการณ์นี่ เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ไม่เคยยั่วใครเลยสักที เฮ้อ! ถ้ายั่วโมโหก็ว่าไปอย่าง’ และผู้ช่วยที่มากไปด้วยประสบการณ์คนนั้นก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ไอรดา พี่สาวบุญธรรมคนสวยของเธอนั่นเอง (ไอรดาจากเรื่องพ่ายรักเล่ห์มาเฟีย)
“เฮ้อ! จะไหวไหมนะ” แล้วเธอก็นั่งถอนใจกับตัวเองอีกครั้ง ด้วยกำลังคิดหนักทั้งเรื่องผู้ช่วย เพราะไม่รู้ว่าจะช่วยให้ดี หรือจะช่วยให้แย่กว่าเดิมกันแน่ ก็ผู้ชายที่เธอจะเผด็จศึกน่ะเหมือนคนอื่นเขาซะที่ไหน จนบัดนี้เธอยังเดาสีหน้าเขาไม่ออกเลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่ในหัว แล้วถ้าต้องแต่งงานใช้ชีวิตกับผู้ชายที่เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลยมันจะเกิดอะไรขึ้น ที่สำคัญเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาคิดยังไงกับเธอกันแน่ เฮ้อ!