บทที่ 5 ว่าที่น้องเขย
แน่นอน คนถูกทำและคนกระทำต่างก็ใจเต้นโครมครามจนแทบจะหลุดออกมา ใบหน้าของทั้งคู่แดงจัดจนแทบจะไหม้อยู่แล้ว หนุ่มรูปหล่อคิดไม่ถึงว่าจะถูกน้องเพื่อนรุกกลับแบบรุนแรง เขานั้นไม่ได้เตรียมใจมาเพื่อเจอกับเรื่องแบบนี้ เมื่อถูกเด็กแสบรุกคืบ หนุ่มวิศวกรวัย 34 ก็เกิดความพลุ่งพล่านไปทั่วร่างกาย
โอบล้อมเองเกิดใจสั่นไม่ต่างจากเพื่อนพี่ เขาเองไม่คิด ว่าจะทำได้ถึงขนาดนี้ จากเคยคิดยั่วยวนกลับกลายเป็นว่า มันได้ลึกล้ำขึ้นเรื่อย ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เด็กหนุ่มอย่างโอบล้อม กลับชอบและมีความสุข เมื่อได้รุกพี่ชายข้างบ้านให้เกิดความหวั่นไหว
“ล้อม…” ระพินทร์ทนไม่ไหว เมื่ออีกคนยั่วเก่งแบบนี้ ชายหนุ่มจึงก้มใบหน้าลงมา ตั้งใจจะจูบกลีบปากอิ่มน้ำนั่นให้สมกับความหิวโหยที่กักเก็บมานาน แต่เพื่อนคู่แฝดดันมาถึงพอดี
“สองคนนั่นคุยกันไปถึงไหนแล้วนะ พี่อ้อมรีบ ๆ ยกมาเร็ว ๆ”
“เออ ๆ เร็วแล้วนี่” เสียงพูดของโอบรักและโอบอ้อมดังเข้ามาในโสตประสาตของทั้งคู่ โอบล้อมได้สติแต่ยังคงหน้าแดงและสบตากับระพินทร์อยู่ แต่หนุ่มวิศวกรรีบเงยหน้าขึ้นมา พร้อมกับดันอกของน้องเพื่อนออก พลางเอ่ยเบา ๆ กับคนเกยต้นขาเขา
“ล้อม อ้อมกับรักมาถึงแล้ว ลุกเร็ว” พูดแผ่วเบาชิดใบหูหอม ๆ แล้วอดใจไม่ไหวขบกัดติ่งหูเข้าให้หนึ่งที จนโอบล้อมสะดุ้งโหยง แล้วรีบลุกขึ้นเมื่อคนเป็นพี่จะมาถึงแล้ว
เด็กหนุ่มมีใบหน้าแดงจัด เพราะเมื่อกี้เขานั้นอ่อยเพื่อนพี่แบบจัดหนัก คิดแล้วก็เขิน แต่โอบล้อมต้องหน้าหงิก เพราะระพินทร์กำลังจะจูบเขาแท้ ๆ แต่พี่แฝดกลับมาทำให้สวรรค์ล่มซะนี่
คิดแล้วใบหน้าจิ้มลิ้มพลันงอง้ำขึ้นมา ในใจของเด็กหนุ่มหน้าใสนึกเคืองที่พี่มาขัดจังหวะ ใบหน้าของหนุ่มน้อยจึงคว่ำออกมาโดยไม่รู้ตัว
‘พี่อ้อม พี่รัก พี่นะพี่ จะเข้ามาทำไมนะ กำลังได้ที่เลย ฮึ่ย’
ระพินทร์เห็นใบหน้าเคืองขุ่นของน้องเพื่อน ก็นึกว่าเด็กหนุ่มคงจะโกรธ ที่เขาเผลอตัวจะจูบจึงร้อนใจอยากจะขอโทษ
“ล้อม คือว่า…” ระพินทร์กำลังจะพูดแต่คนเป็นเพื่อนเข้ามาในห้องแล้ว คู่แฝดต่างชะงักกึก เมื่อเห็นน้องและเพื่อนสบตากันและหน้าแดง แต่ว่า คนเป็นน้องกลับมีดวงตาวาววับ เหมือนโกรธใครมาเป็นชาติ โอบรักจึงถามขึ้น
“ล้อมเป็นไร ทำไมหน้าตึง” โอบรักถาม แล้วมองน้องชาย แต่เด็กแสบเงียบไม่พูดอะไรทั้งนั้น เบนสายตามาหาเพื่อน จากนั้นเธอจึงถามซ้ำอีกรอบ
“ทำไมหน้าแดงจัง…ทำไรกันเหรอ” พี่สาวถามขึ้น แต่ทั้งคู่ก็ยังเงียบอีก โอบรักและโอบล้อมนำจานข้าวผัดไปวางไว้บนโต๊ะ
แล้วก็หันมาหาทั้งเพื่อนและน้องอีกรอบ ก็เห็นว่าทั้งคู่สบตากันอยู่ แถมใบหน้าหล่อเข้มของระพินทร์ยังแดงจัดพอ ๆ กับน้องของตน หญิงสาวจึงตะหงิดในใจ เธอจึงพูดทะลุกลางปล้องขึ้นมา
“หน้าแดงกันแบบนี้ ทำไรกันเหรอ หรือว่าจูบกันอยู่”
“พี่รัก” น้องชายเสียงเข้ม
“ไร แสดงว่าจูบกันจริง ๆ สินะ นี่พวกนายคิดจะผิดผีกันรึไง” สาวสวยพูดยิ้ม ๆ ใบหน้าระรื่น
ดวงตาเปล่งประกายระยิบระยิบอย่างชอบใจ ยิ่งเห็นว่าเพื่อนรักนั้นดูขัดเขินแปลก ๆ ตรงข้ามกับคนเป็นน้องที่มีแววตาระริก ๆ แต่ใบหน้าแดงก่ำ โอบรักก็ยิ่งขำมากขึ้นกว่าเดิม
“พี่รัก พี่จะถามแบบนี้ได้ไง ล้อมเขิน พี่ไม่รู้เหรอ” เด็กแสบพูดแต่ไม่มีการปฏิเสธแม้แต่น้อย แม้ว่าจะหน้าแดง แต่เด็กหนุ่มก็ควบคุมใบหน้าและอาการให้นิ่งได้
“เฮอะ อาย อายไร อายที่จูบกับไอ้พินทร์มันเหรอ” โอบรักถามขึ้น แล้วท้าวสะเอวถาม ใบหน้ายังคงระรื่นอยู่
“จูบแล้วไง พี่ไม่เคยจูบเหรอ” น้องชายย้อนถามพี่สาว
“ก็เคยจูบไง พี่ถึงถามเรา นึกว่าพี่จะไม่รู้ทันเหรอ” พี่สาวเองก็ใช่ย่อย ระพินทร์ถึงกับส่ายหัว เอากับมันดิ
“พี่รัก พี่นี่นะเป็นผู้หญิงหน่อยเหอะ ทำแบบที่ผู้หญิงเขาทำกันบ้างได้ปะ” น้องชายว่า
“ไม่อะ เป็นแบบนี้แหละ มันคือตัวพี่ไง” พี่สาวพูดแล้วก็จ้องหน้าน้องชายอย่างจะจับผิด
“ไม่ต้องมามองหน้าล้อมเลย” โอบล้อมว่า แล้วก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้ ตักข้าวผัดกะปิเข้าปากอย่างรวดเร็ว
“นายล่ะ พินทร์” หันมาไล่บี้เอากับเพื่อนรัก
“ตามที่ล้อมบอก” ระพินทร์ไม่ปฏิเสธ จากนั้นจึงเดินไปนั่งทานข้าวคนละฝั่งกับโอบล้อม ชายหนุ่มตักข้าวเข้าปาก แต่สายตายังคงจับจ้องดูน้องเพื่อนไม่วางตา เมื่อมองตากันความขัดเขินได้เกิดลามไปทั่วใบหน้าและหู
ความคิดของคู่แฝดคงสื่อถึงกันแน่นอน เพราะเพียงมองตาแค่ครั้งเดียว ก็ดันคิดแบบเดียวกันได้
‘งานนี้ เราคงได้น้องเขยจริง ๆ’
“กินข้าวเหอะอย่ามัวแต่จ้องตากัน หากเป็นปลากัดคงท้องออกลูกหลายคนแล้ว” โอบอ้อมพูดขึ้น น้องชายหน้าแดงจัด แต่ก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ตักข้าวกินเอา ๆ
ระพินทร์นึกขำเด็กแสบอยู่ในใจ เมื่อกี้เขาเกือบไปไม่เป็นเมื่อเจอเด็กแสบเลียกลางฝ่ามือ แต่เขากลับชอบ ที่เจ้าเด็กหน้าใสทำแบบนี้ ดูแล้วเจ้าแสบคงชอบเขาด้วยแหละ ไม่งั้นไม่รุกเขาหนัก ถึงจะเป็นผู้ชายก็ตาม
‘ล้อมทำแบบนี้ แสดงว่า พี่ ‘จูบ’ กับล้อมทางอ้อมแล้วสิ’ คนคิดเขมือบน้องของเพื่อนคิดอย่างชุ่มฉ่ำในหัวใจ คิดแล้วก็ตักข้าวเข้าปาก ความจริงชายหนุ่มไม่รู้รสชาติหรอก ว่าอร่อยไหม แต่แค่เห็นใบหน้าจิ้มลิ้มของคนเลียฝ่ามือเขา ระพินทร์หัวใจพองโต จากนั้นก็ทานข้าวอย่างมีความสุขแถมทานได้มากกว่าทุกวันอีกด้วย
“ไอ้พินทร์ มึงจะเติมข้าวอีกปะ” โอบอ้อมถามขึ้น เมื่อเพื่อนกินข้าวจนหมดจานแล้ว
“อื้อ” เอาเป็นว่าข้าวผัดกะปิฝีมือโอบรักมีคนสองคนที่ทานอย่างชื่นมื่น และเติมหลายรอบจนหนังท้องตึงกันเลยทีเดียว
กว่าจะได้กลับบ้าน ระพินทร์ก็อิ่มจนแทบอ้วก
‘อาการของคนมีความรัก มันก็เป็นแบบนี้แหละ’ ชายหนุ่มคิดในใจด้วยความชื่นบาน
ก่อนกลับฐาน
ที่บ้านของโอบอ้อม
“ไปดีมาดีนะไอ้พี่อ้อม” โอบรักอวยพระทะแม่ง ๆ แต่ว่านั่นมันเป็นเรื่องปกติ เพราะหากวันไหนที่น้องสาวอวยพรแบบเลิศหรู วันนั้นพวกเขาอาจจะมีเรื่องให้เจ็บตัว
แต่หากว่าโอบรักอวยพรเหมือนจะแช่ง พวกเขากลับพบกับความปลอดภัย มันเป็นเรื่องแปลกและมหัศจรรย์มาก ซึ่งทุกครั้งเจ้าเด็กแสบก็ยังพูดแซวอยู่เลย ว่าพี่สาวเป็นเจ้าแม่ไปแล้ว
พูดถึงน้องชาย โอบล้อมนั้นเผ่นไปบ้านของระพินทร์เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งรอบนี้โอบอ้อมคิดว่าคงไปอ่อยเจ้าเพื่อนหน้านิ่งตามปกติ เพราะเห็นทำแบบนี้มานาน จนเขาขี้เกียจจะจำ
ที่บ้านของระพินทร์
โอบล้อมเปิดประตูเล็กเข้ามาแล้วก็จัดการปีนต้นมะม่วงข้างบ้าน เพื่อปีนป่ายไต่เข้ามาห้องนอนของเพื่อนพี่ชาย
เรื่องการปีนต้นไม้สำหรับโอบล้อมมันเด็ก ๆ เพราะเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก ไหนจะการสะเดาะประตูหน้าต่าง โอบล้อมก็ทำมาหมดแล้ว เอ่อ ทำในที่นี้คือว่า ทำเพียงแค่บ้านของระพินทร์เท่านั้นนะ เพราะเด็กแสบอย่างเขาไม่ได้ฝักใฝ่ทางชั่ว จะได้ปีนบ้านของคนอื่น
โอบล้อมนั้นชอบปีนหน้าต่างมานอนเล่นบ้านของเพื่อนพี่มาก บางครั้งจนเผลอหลับไปเลยก็มี
ทุกครั้งที่ระพินทร์กลับฐาน เด็กหนุ่มอย่างโอบล้อมจะต้องสะเดาะกลอนหน้าต่างเข้ามาเป็นประจำ
และครั้งนี้ก็เช่นกัน หนุ่มหน้าใสนั้น มานอนแอ้งแม้งบนเตียงนอนเป็นที่เรียบร้อย ผู้เป็นเจ้าของบ้านยังคงอาบน้ำอยู่ ถ้าหากว่า เด็กหนุ่มจะเข้าไปในห้องน้ำด้วยมันก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ว่าอารมณ์อยากนอนบนเตียง ได้สูดดมกลิ่นหอม ๆ ทำให้เด็กหนุ่มต้องนอนกลิ้งไปกลิ้งมาแทน
เมื่อระพินทร์ออกมาจากห้องน้ำ ชายหนุ่มก็ถึงกับสะดุ้ง เมื่อเห็นว่าใครมานอนกลิ้งอยู่บนเตียงนอน ความจริงนั้น มันไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เด็กหนุ่มอย่างโอบล้อมจะมาโผล่ที่นี่
แต่ทุกครั้งเขาไม่เคยพูดจีบน้องของเพื่อนนี่นา แต่ว่าครั้งนี้ มันไม่ใช่ไง เขารุกคืบเจ้าเด็กแสบตรงหน้านี่ไปแล้ว และก็เกือบจะจูบแล้วด้วย ในเมื่อเป็นแบบนี้จะให้เขาทำใจนิ่ง ๆ ได้ยังไงกัน
“ล้อม ล้อมมาได้ยังไง” รู้สึกว่าจะถามแบบโง่ ๆ ออกไป แต่ก็แก้ไม่ทันแล้ว ชายหนุ่มจำต้องปล่อยเลยตามเลย
“มาหาพี่พินทร์ไง” โอบล้อมลุกจากเตียงนอน หลังจากกลิ้งเกลือกสูดเอาความหอมของบุรุษเพศเข้าจนเต็มปอดแล้ว เด็กหนุ่มคนน่ารัก ก็เดินมาหาเพื่อนพี่อย่างหมายมาด ยิ่งเห็นกายแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามแบบนี้และหยดน้ำเกาะพราว หัวใจของหนุ่มน้อยยิ่งสั่นรัว ๆ