ความเคลื่อนไหวในสกุลมู่

1187 คำ
กลีบสวาทหลางฮั่วอาจไม่งามเท่าเหมียวจื่อเผย และยังเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ กระนั้นเมื่อนางใช้มันถูไถกับพื้นที่ฉ่ำหวานของเหมียวจื่อเผย พร้อมบดเบียดเนื้อสาวด้วยกัน ความซ่านแสนรัญจวนก็เกิดขึ้น น้ำเมือกชโลมพื้นที่งาม และสตรีทั้งสองมิอาจอดกลั้นความซ่านสยิวได้ ฝ่ายสาวใช้ครางเสียงดัง นางใช้มือข้างหนึ่งบีบและนวดเฟ้นหน้าอกเหมียวจื่อเผย บีบแรงจนมู่อี้เถียนเกิดอาการหึงหวง “นังบ่าวชั้นต่ำ หากทำให้แม่นางผู้นี้ บอบช้ำเพียงเล็กน้อย ข้าจะโบยเจ้าให้เนื้อแตก” เมื่อมู่อี้เถียนตวาด การเล่นสนุกของสองหญิงกับหนึ่งชาย จึงลดความบ้าคลั่งลง ยามนั้นบ่าวหนุ่มหน้าใส เริ่มซุกไซ้ซอกคอเหมียวจื่อเผย และแท่งหยกเขาถูไถตามส่วนเว้าส่วนโค้งของนาง “ฟังข้าให้ดี ห้าม...นำท่อนเอ็นเจ้า เข้าไปในส่วนใดของหญิงใบ้ และน้ำหล่อลื่นเจ้า ก็เช็ดเสียด้วย มันไหลเยิ้มจนน่าขยะแขยงแล้ว” มู่อี้เถียนสั่งเจี๋ยชาง และเขามีอารมณ์เป็นอย่างมาก ความเป็นชายจึงผงาดง้ำ แม้ไม่มีขนาดใหญ่โต แต่มันสมตัว อีกทั้งเขาเกิดความต้องการอยากร่วมรักกับเหมียวจื่อเผย ผิดแต่ว่าเขาไม่อาจทำสิ่งนั้นได้ จากนั้นมู่อี้เถียนก็พาท่อนเนื้อร้อนมาอยู่กึ่งกลางระหว่างสองเต้าอวบอัดของเหมียวจื่อเผย เขาเสือกแทงมันขึ้นลงด้านบนล่าง ดวงตาเรียวสวยส่งประกายความเจ้าชู้ถึงนาง เมื่อพิศแล้วในยามนี้คุณชายห้า กลับไม่หลงเหลือเค้าของเด็กหนุ่ม ฝ่ายเหมียวจื่อเผยก็อยากเอาใจเขา สองมือนางบีบเต้าอวบๆ เข้าหาท่อนเนื้อสวยที่ปลายหัวหยักเป็นสีชมพูสด เขาช่างหอมหวาน เปี่ยมด้วยความไร้เดียงสา และรักสนุกเหลือเกิน “อ๊าส์! หญิงใบ้... เจ้าเรียนรู้ศาสตร์เหล่านี้จากที่ใด!” มู่อี้เถียนชอบใจ เขาเสือกท่อนเนื้อแรงขึ้น และเหมียวจื่อเผยบีบสองเต้าของตนชิดกัน หวังที่จะให้มันรัดขาที่สามของอีกฝ่ายให้เขากระสันอย่างหนักหน่วง ในขณะนั้น มู่อี้เถียนเต็มไปด้วยแรงตัณหา เขาจึงสั่งให้สาวใช้ กับบ่าวสาวร่วมรักกัน ส่วนเขานำนิ้วเรียวของตนกวาดเข้าไปในปากของเหมียวจื่อเผย ความเร่าร้อนของทั้งคู่ ผสานเสียงการสับสะโพกของเจี๋ยชางกับกลีบสวาทหลางฮั่ว จึงทำให้ในห้องดังกล่าวเต็มไปกลิ่นอายแห่งราคะ “เจ้าอยากให้ข้าเชยชมส่วนนั้นด้วยสิ่งใด” มู่อี้เถียนถาม และกลีบงามอันแฉะชื้นของเหมียวจื่อเผยที่ถูกกระตุ้นจากสาวใช้ก่อนหน้านี้ ดูเหมือนจะพร้อมแล้วเพื่อให้คุณชายห้าสำราญใจ ด้วยลิ้น นิ้วเรียวยาว หรือจะเป็นแท่งหยกที่ยังบริสุทธิ์อยู่ มู่ป๋อจางมองฮูหยินตน ฝ่ายนั้นแม้อายุเข้าวัยเลขสี่ตอนต้น แต่นางยังเป็นสตรีที่ดูแลเรือนร่างอย่างดีเสมอมา ผิดแต่เขากับนางไม่มีทายาทด้วยกัน เว้นเสียแต่ลูกชายของน้องสาวที่ทั้งคู่รับเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม นอกจากนั้น นางยังไม่พิสมัยการร่วมเตียงกับบุรุษ การที่เขากับนางเป็นคู่ชีวิตกัน ขึ้นอยู่กับผลประโยชน์เป็นหลัก “ฮูหยิน ช่วงนี้เฉิงเอ๋อร์... อาการเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อต้นเดือน ตอนที่ข้ากลับมาจากเมืองไห่ ได้ยินว่าเขากำลังหัดเดิน” หมี่อิงถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือกใหญ่ “เฉิงเอ๋อร์ พอจะมีแรงเดินบ้าง แต่จิตใจเขาย่ำแย่ ท่านพี่คงเข้าใจ แต่ไหน แต่ไร เขาคือคนเจ้าบ้านน้อย คอยดูแลกิจการทุกอย่างช่วยท่านพี่ตลอด แล้วตอนนี้แม้ป่วยไข้ แต่ก็นับว่าเป็นลูกชายที่มีสมองดีกว่าผู้ใด” “โถ ฮูหยิน เฉิงเอ๋อร์ยังต้องนั่งรถเข็นเช่นนี้ เขาจะไปตรวจงาน หรือเข้าไปเจรจาเรื่องสำคัญกับราชสำนักได้อย่างไร เจ้าก็รู้ กองคลังเปลี่ยนใต้เท้าคนใหม่ คนผู้นั้น ใช่ว่าจะมีเมตตาต่อผู้พิการ หากส่งเฉิงเอ๋อร์ไป เกรงว่าจะได้รับเสียงหัวเราะมากกว่า” “ถึงอย่างนั้น เขาก็เป็นลูกชายที่ท่านพี่ไว้วางใจที่สุด” หมี่อิงกล่าวอย่างชัดเจน สี่หน้านางบ่งบอกว่าอยากให้มู่ป๋อจางตระหนักถึง บุตรชายคนที่สามของเขา แม้เป็นบุตรบุญธรรมก็สำคัญกว่าบุรุษอื่นที่ใช้แซ่มู่ “สิ่งที่ฮูหยินย้ำเตือน ข้าเห็นว่าต้องพิจารณาให้ถ้วนถี่” มู่ป๋อจางเอ่ยจบ จึงหันไปดูรายงานพ่อบ้าน “อนุที่ข้าให้พ่อบ้านจัดหาไว้ นางยังไม่มาถึงเรือนของตนอีกหรือ” คำถามมู่ป๋อจาง ทำให้หมี่อิงวางถ้วยน้ำชาลง “เสียดายนางมาไม่ถึงที่นี่ มิแน่นางอาจหายสาบสูญแล้ว ข้าได้ให้คนไปตรวจสอบ อีกไม่นานทุกอย่างคงกระจ่าง หากท่านพี่อยากได้อนุเพิ่ม คราวนี้ขอให้ข้าเป็นคนจัดหาเถิด” มู่ป๋อจางยกยิ้มตรงมุมปาก และตอบนาง “เอาเป็นว่า หากอนุคนใหม่ยังมีชีวิตรอด และสามารถกลับมาถึงเรือนของตน ข้าคงมีรางวัลให้นาง แต่ถ้าโชคร้าย สิ้นชีพไปก่อน เรื่องนั้นคงเป็นวาสนานางที่มีบุญน้อย ไม่อาจได้มารับใช้ข้า และข้าย่อมหาคนใหม่มาทดแทนอย่างแน่นอน” “แล้วแต่ท่านพี่เถิด ถึงอย่างนั้น ข้าคิดว่าอนุเฉิน คงไม่ชอบใจสักเท่าไหร่ เพราะนางกลัวผู้อื่นจะมาแย่งชิงการปรนนิบัติ คอยเอาอกเอาใจท่านพี่” “นางเป็นสตรีที่คิดอ่านตื้นเขิน จนป่านนี้ ยังไม่รู้ว่าตนขยันก่อเรื่องมากกว่า ทำหน้าที่อนุภรรยาที่ดี” เมื่อกล่าวจบ มู่ป๋อจางก็ก้าวออกจากห้อง ทิ้งให้หมี่อิงคิดทบทวนสิ่งที่นางได้รู้มาจากหน่วยข่าวของตน ซึ่งเกี่ยวกับการหายตัวไปของอนุสาม อนุเฉินหรือ เฉินปี้ย่อมร้อนใจอย่างหนัก นางกลัวเหลือเกินว่าการที่มู่ป๋อจางหายเข้าไปในเรือนฮูหยินใหญ่ ทั้งคู่อาจมีหลายสิ่งพูดคุยกัน รวมถึงเรื่องที่นางแอบจัดการส่งเหมียวจื่อเผยไปยังรังโจร ทว่ากลับเกิดสิ่งผิดพลาด สตรีนางนั้นหายตัวไป แม้แต่ศพยังไม่เห็น กระทั่งนางออกมาจากเรือนของตนจึงได้พบกับไอ้ง่อยที่นั่งรถเข็น มู่ข่ายเฉิง คุณชายสามผู้นี้ สำคัญต่อสกุลโม่ เมื่อต้นปีนางคาดว่าเขาจะสิ้นลมหายใจ แต่เหตุใดกันหนอ มู่ข่ายเฉิง ยังคงเป็นเสี้ยนปักเท้านางอยู่ทุกวัน “คุณชายสาม ออกมารับลมหรอกหรือ ข้านึกว่าท่านนอนซมอยู่เสียอีก” มู่ข่ายเฉิงหัวเราะน้อยๆ สตรีนางนี้ ช่างไม่เกรงกลัวต่อความผิดบาป การที่นางยังอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ เป็นเพราะสกุลเดิมทำการค้าเกี่ยวกับเกลือ และกำยาน อีกทั้งนางมีความคิดอ่านไม่ธรรมดา ทั้งยังต้องการสนับสนุนลูกชายของตนขึ้นเป็นเจ้าบ้านน้อยคนใหม่ ผิดแต่มู่อี้เถียนยังอ่อนวัย และยังมุทะลุ เลยขาดสติบ่อยครั้ง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม