รอไม่นาน วัชระก็นำโต๊ะทำงานและเครื่องใช้สำนักงานมาให้จัดในห้องทำงานตามคำสั่งของเจ้านายหนุ่ม โต๊ะทำงานใหญ่ของภูริชอยู่บริเวณกลางห้อง ส่วนโต๊ะทำงานของพลอยลลินณ์เยื้องมาทางด้านหน้าโดยหันข้างให้กับโต๊ะทำงานของเจ้านายหน้ายักษ์ โดยการจัดโต๊ะลักษณะนี้ทำให้ทั้งคู่มองเห็นซึ่งกันและได้ตลอดเวลา
พลอยลลินณ์นั่งลงประจำที่ของตัวเอง สองมือน้อยสอดประสานเข้าไว้ด้วยกันแล้ววางอยู่บนโต๊ะ ชำเลืองไปยังใบหน้าของภูริชที่กำลังนั่งหน้าเครียดก้มหน้าก้มตาเซ็นเอกสารบนโต๊ะ หากเขาไม่สั่งเธอก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มงานจากตรงไหน แต่เมื่อเห็นหน้าตาของชายตัวโตทำให้เธอไม่กล้าที่เอ่ยถามจึงได้แต่นั่งมองเขาทำงานอยู่เงียบ ๆ
ผ่านไปสักพัก เหมือนภูริชจะรู้ตัวว่ายังมีอีกคนนั่งอยู่ในห้องด้วย เขาหยุดมือที่ลากปลายปากกาแล้วเงยหน้าขึ้นมามองหญิงสาวเพียงนิดก่อนจะเอื้อมไปหยิบแฟ้มเอกสารตรงมาแฟ้มหนึ่งแล้วจึงได้ลุกขึ้นเดินไปยังโต๊ะผู้ช่วยคนใหม่
“คุณตรวจดูรายชื่อแขกวีไอพีนะว่าลงในระบบห้องพักของโรงแรมครบทุกคนหรือยัง” ภูริชวางแฟ้มรายชื่อยังที่ว่างกลางโต๊ะทำงานของผู้ช่วยสาว ความจริงวัชระเป็นผู้ตรวจสอบแล้ว แต่เขาอยากให้เธอเรียนรู้การบริหารของโรงแรมจึงได้มอบหมายงานนี้ให้เธอ
“เอ่อ..ต้องเข้าตรงไหนคะ?” พลอยลลินณ์เอ่ยถามขณะที่สายตาหวานของเธอจ้องอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ซึ่งมีหลากหลายไอคอนซึ่งถูกออกแบบเป็นการเฉพาะสำหรับโรงแรมหรูแห่งนี้ เธอจึงไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน มือเล็กจับอยู่ที่เมาส์เลื่อนลูกศรไปมาอยู่ที่หน้าจอ ลูกตากลมกลิ้งไปมาตามลูกศรขณะที่คิ้วเรียวเริ่มวิ่งเข้าใกล้กันเรื่อย ๆ เพราะไม่คุ้นในเหล่าบรรดาไอคอนนับสิบนี้เลยสักนิด
ภูริชหยุดมองหน้าสวยของเธอแค่เสี้ยววินาทีก่อนจะเดินอ้อมไปทางด้านหลังของคนตัวเล็ก ร่างสูงโน้มตัวลงก้มหน้าไปหาจอโดยมือใหญ่ของเขาข้างหนึ่งจับอยู่ที่ด้านบนของพนักเก้าอี้ที่คนตัวเล็กนั่งอยู่เพื่อที่เขาจะได้ไม่เสียการทรงตัว มืออีกข้างวางทับไปที่หลังมือนุ่มเพื่อช่วยขยับลูกศรไปยังจุดที่ต้องการ
“ตรงนี้ แล้วก็เข้าตรงนี้..ต่อไปก็ตรงนี้ จำได้ไหม?” ภูริชพูดบอกพร้อมทั้งขยับทั้งเมาส์ทั้งมือน้อยในอุ้งมือเลื่อนไปด้วยกัน นิ้วชี้ของเขาที่วางอยู่บนนิ้วชี้ของเธอออกแรงกดเลือกเมนูบนหน้าจอตามจังหวะพูด ในจังหวะที่เขาถามท้ายประโยค สายตาคมเหลือบมามองใบหน้าสวยแล้วเขาก็เห็นแก้มเนียนขาวค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ กลิ่นหวานละมุนที่ออกมาจากตัวของหญิงสาวทำให้เขาต้องแอบสูดเอากลิ่นนั้นเข้าปอดอย่างลืมตัว กลิ่นหอมธรรมชาตินี้กำลังปลุกสิ่งที่นอนหลับไหลในกางเกงให้ตื่นขึ้นมาโดยที่เขานั้นไม่อาจควบคุมได้
“จะ..จำได้ค่ะ” พลอยลลินณ์ตอบเสียงตะกุกตะกักพลางพยักหน้าเร็ว ไอตัวอุ่นที่ออกมาจากแผงอกกว้างของเจ้านายหนุ่มทำให้ใบหน้าของเธอร้อนวูบวาบราวกับลำตัวเขาเป็นเตาผิงก็ไม่ปาน ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันในตอนที่เธอค่อย ๆ ดึงมือออกจากการกอบกุมของมือใหญ่แผ่วเบาอย่างไม่ให้ดูเป็นการเสียมารยาท
“ก็ดีครับ ผมจะได้ไม่ต้องบอกซ้ำ” ภูริชพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง มองตามมือนุ่มที่ค่อย ๆ เคลื่อนออกจนกระทั่งพ้นรัศมีมือของเขาอย่างนึกหงุดหงิดอย่างไม่มีเหตุผล แล้วทำไมเขาต้องไม่พอใจเธอด้วยล่ะ คิดแล้วก็ถอนหายใจขึ้นมาเฮือกใหญ่ก่อนจะยืดลำตัวขึ้นเต็มความสูงแล้วผละออกไปนั่งทำงานต่อ
ทั้งคู่ต่างคนต่างนั่งทำงานกันเงียบ ๆ มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศทำงานแผ่วเบา และบางครั้งก็มีเสียงเคาะแป้นพิมพ์และเสียงกดเมาส์ในบางครั้ง จนกระทั่งล่วงเลยมาจนถึงเวลาของอาหารกลางวันก็ไม่มีทีท่าว่าคนตัวโตจะขยับตัวเพื่อต้องการไปรับประทานอาหารกลางวันเลยสักนิด
จ้อก.. จ้อก..
เสียงของกระบวนการทำงานในกระเพาะของพลอยลลินณ์ดังขึ้นเมื่อเธอไม่ได้รับประทานอาหารในตอนที่ร่างกายต้องการ เธอรู้สึกหิวมาตั้งแต่เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนแล้วแต่ในเมื่อเจ้านายตัวโตไม่หยุดพักเธอก็ไม่กล้าที่หยุดพักก่อนเขาได้ มือน้อยลูบไปมาที่หน้าท้องตัวเองเหมือนกับว่าการกระทำนั้นจะช่วยปิดเสียงน่าอายนั้นได้
“หิวข้าวก็ไปกิน” ภูริชพูดขึ้นโดยที่สายตาของเขายังจ้องอยู่ที่หน้าจอสี่เหลี่ยมตรงหน้า เสียงท้องของเธอร้องเสียงดังจนเขาที่อยู่ไกลยังได้ยินแสดงว่าพยาธิในท้องคงจะอาละวาดกันน่าดู
“แล้วคุณภูริชไม่ทานเหรอคะ?” พลอยลลินณ์เอ่ยถาม ไม่ใช่เพราะห่วงใยแต่หากเป็นเพราะถามเป็นมารยาทที่พึงมีเมื่อเขาอุตส่าห์มีน้ำใจให้เธอปลีกตัวไปรับประทานอาหารคนเดียว มือน้อยสาละวนเก็บของบนโต๊ะเข้าที่อย่างรีบเร่งทันทีที่เจ้านายเอ่ยอนุญาต
“ผมยังไม่หิว คุณไปกินเถอะ” ภูริชยอมละสายตาจากงานเบื้องหน้าเพื่อมาสบตากับหญิงสาวในตอนที่ตอบเธอ แต่เพียงไม่กี่วินาทีเขาก็หันไปมองหน้าจอตามเดิม ยิ่งใกล้วันงานเปิดตัวโรงแรมเขายิ่งต้องยิ่งเร่งตรวจตรางานให้เรียบร้อย ถ้าหากมีข้อบกพร่องจะได้ทำการแก้ไขได้ทันท่วงที
“ค่ะ งั้นพลอยไปก่อนนะคะเดี๋ยวจะรีบขึ้นมาค่ะ” พลอยลลินณ์พูดจบก็ลุกขึ้นยืน มือเล็กเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์แค่เครื่องเดียวเพราะห้องอาหารด้านล่างไม่จำเป็นต้องใช้เงินจับจ่ายอยู่แล้วเธอจึงไม่ต้องนำกระเป๋าสตางค์ไปด้วย ร่างบางลุกออกมานอกรัศมีเก้าอี้และดันเข้าไปในใต้โต๊ะเรียบร้อยแล้วเธอก็เดินออกไปจากห้องโดยไม่ได้หันกลับไปมองเจ้านายของเธออีกเลย ก็ตอนนี้เธอหิวเสียจนแทบจะสิ้นเรี่ยวแรงอยู่แล้ว
“อ้าว คุณพลอย ทำไมมากินข้าวช้าจังเลยครับ?” พนักงานชายคนหนึ่งเอ่ยทักในตอนที่พลอยลลินณ์ถือถาดอาหารมาเพื่อเลือกตำแหน่งที่นั่ง เธอจำได้ว่าเขาเคยมานั่งร่วมโต๊ะเมื่อวานนี้
“คุณภูริชเพิ่งให้ลงมาน่ะค่ะ” เธอยิ้มพลางตอบพนักงานหนุ่มคนนั้นแล้วเดินไปนั่งยังโต๊ะที่ว่างตัวถัดไป เธอคงรู้ตะขิดตะขวงใจหากนั่งร่วมรับประทานอาหารกับชายที่เธอยังไม่สนิท
“ผมนั่งกินเป็นเพื่อนนะครับ” ไม่ทันที่หญิงสาวจะเอ่ยอนุญาต พนักงานหนุ่มก็รีบคว้าถาดข้าวตัวเองย้ายจากโต๊ะที่นั่งอยู่ไปนั่งร่วมโต๊ะกับสาวสวยที่เขาหมายปองตั้งแต่ที่ได้เห็นเธอครั้งแรก
“ค่ะ” พลอยลลินณ์จำใจต้องให้เขานั่งร่วมโต๊ะเพราะไม่รู้ว่าจะหาเหตุผลมาปฏิเสธชายคนนี้ได้ จากนั้นทั้งคู่จึงได้นั่งรับประทานอาหารด้วยกันโดยที่พนักงานหนุ่มชวนคุยเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อยเปื่อย
“คุณพลอยครับ ผมขอเบอร์ได้ไหมครับ?” ในตอนที่พลอยลลินณ์รับประทานอิ่มแล้ว เธอรวบช้อนเอามาวางคู่กันแล้วพนักงานหนุ่มก็เอ่ยขอเบอร์โทรเธอดื้อ ๆ จนทำให้มือที่กำลังไปเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ชะงักกลางอากาศ
“เอ่อ..” พลอยลินณ์อ้ำอึ้ง ในหัวนึกหาคำปฏิเสธด้วยวิธีนุ่มนวลเพราะไม่อาจจะมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน เธอไม่สะดวกใจที่จะสานความสัมพันธ์กับชายใดในช่วงนี้เพราะเธอสนใจแต่เรื่องศึกษางานโรงแรม แต่เธอยังไม่ทันได้หาข้ออ้างก็มีเสียงเข้มดังจากข้างหลังเสียก่อน
“ไม่ได้”
“คุณภูริช”
****************************
เป็นอะไรกับน้องถึงมาห้ามไม่ให้น้องแจกเบอร์คะคุณพี่5555