เช้าวันต่อมา
ด้านรันลนา ร่างบางที่เผลอหลับไปตั้งแต่มาถึงโรงแรม ร่างบางรู้สึกตัว สะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกทีในเวลา ตี 5 กว่าๆ เมื่อมีเสียงเรียกเข้าจากหลานชาย
[หาว...อ่า ว่าไงตั้ม] เสียงเล็กเอ่ยกับปลายสายด้วยท่าทีง่วงสุดๆ เนื่องจากถูกรบกวนเวลานอนของเธอ
[พี่รัน พี่อยู่ไหนแล้วครับ นี้ผมถึงสนามบินแล้วนะ]
[สนามบิน] ให้ตายเถอะ นี้มันกี่โมงกี่ยามเด็กนี้ถึงมารับฉัน
[ตั้มกับเนมมารอรับพี่แล้ว พี่อยู่ไหน]
[มารับฉัน นี้มันกี่โมงแล้ว]
[ตี 5 ] เสียงปลายสาย
[ทำไมมากันเช้านักละเนี้ย]
[พ่อจะเอารถไปทำงาน พวกผมเลยต้องรีบมารับพี่รัน]
[เค งั้นอีก 10 นาที เจอกัน เดี๋ยวพี่ส่งโลเคชั่นที่พักให้] เอ่ยจบรันลนาก็เด้งตัวลุกออกจากที่นอนด้วยสีหน้างัวเงียสุดๆ และเก็บข้าวของเพื่อเช็คเอ้าท์ออกจากที่พัก
30 นาทีต่อมา
รันลนา เชอเนม และตั้ม ทั้งสามมุ่งหน้าไปยังตัวอำเภอซึ่งเป็นบ้านเกิดของรันลนา
“โอ้ย ตั้มนี้นายจะรีบเหยียบไปไหน เนี้ย” ตั้มลูกชายของน้าสา มีศักดิ์เป็นน้องชายฉันขับรถกระบะสีแดงคู่ใจที่อายุมากกว่าอายุของพวกฉัน กำลังมุ่งหน้าสู่บ้านคุณยาย
“ก็ตั้มมีเรียน 10 โมง ส่งพี่รันเสร็จก็ต้องรีบกลับมาเรียน” หนุ่มน้อยวัย 17 หันไปเอ่ยกับพี่สาว ขณะที่ใช้สายตาขับรถบนท้องถนนทางเชื่อมเข้าหมู่บ้านที่ห่างจากตัวอำเภอหลายสิบกิโล พื้นที่ชนบทห่างจากตัวเมือง
“ช่วงนี้เด็กๆ เขาปิดเทอม ไม่ใช่เหรอ แหมพอมารับฉัน ขยันเรียนขึ้นมาเชียว”
“ตั้มไปสอบแก้ นะจ๊ะพี่รัน” เสียงของเนมพี่สาวตั้มที่อายุห่างกันเพียง 5 ปี เอ่ยกับพี่สาวอย่างรันลนา
“งั้นวันนี้นายก็อดไปทานข้าวกับพวกพี่น่ะสิ วันนี้เงินเดือน และค่าตอบแทนพี่ออกละ เด็กๆ อยากไปร้านไหน ตอนเย็นเลือกไว้รอเลย วันนี้เจ้เลี้ยงเอง” รันลนาเอ่ยกับน้องๆ ของเธอ
“หูย...จริงดิพี่รัน” เชอเนมถึงกับตาโต เมื่อพี่สาวนั้นอาสาเป็นเจ้ามือ
“หวานปากไอ้ตั้มก็งานนี้แหละ จะรีบกลับบ้านให้ไวเลย” แต่ขณะที่ตั้มเร่งเครื่องขับรถกระบะสี่ประตูมาถึงป่าอ้อยก่อนถึงปากทางเข้าหมู่บ้านประมาณ 5 กิโลนั้น กับมีชายร่างสูงที่ตะเกียกตะกายขึ้นมาจากริมถนน
!! เอี๊ยด !! ตั้มที่เห็นเช่นนั้นถึงกับเบรกรถกะทันหัน ทำเอาทั้งสองสาวที่นั่งมาด้วยนั้นถึงกับหัวทิ่ม
“ตั้ม ขับรถอะไรของนายเนี้ย” รันลนาถึงกับต่อว่าน้องชายดังลั่น
“พี่...พี่รันดูนั้น” ตั้มเหลือบไปเห็นชายร่างสูงใหญ่ที่นอนอยู่ข้างถนน เมื่อกี้ถ้าเขาเบรกไม่ทันคงชนร่างกระเด็นแล้ว
“มีคนเจ็บพี่รัน เราต้องช่วยเขาไหม” ตั้มเอ่ยยังไม่ทันจบ แต่ด้วยสัญชาตญาณของอาชีพนั้น รันลนาถึงกับรีบลงจากรถ สภาพที่เห็นร่างสูงใหญ่นอนคว่ำหน้าลงในโพรงป่าหญ้าข้างถนน รันลนา ตั้ม เชอเนมถึงกับตกใจ ทำอะไรไม่ถูก ทั้งสามถึงกับตัวชาวับ
“เขายังไม่ตายนะพี่รัน เมื่อกี้ตั้มยังเห็นเขาลุกเดินอยู่เลย” ตั้มเอ่ย กับภาพที่ตนเห็นก่อนหน้า ทว่าในจังหวะนั้นมือเรียวสะกิดเข้าคนเจ็บ ตั้มกับพลิกตัวคนที่นอนคว่ำนั้นขึ้นมา
ใบหน้าอันหล่อเหลาตามตัวของเขา เต็มไปด้วยร่องรอยบาดแผล ร่างบางที่เห็นเช่นนั่นตากลมโตถึงกับเบิกกว้างออกมาด้วยท่าทีตกใจ ใช่...คนที่เขาชนเธอที่สนามบิน
!! อึก !! รันลนาถึงกับยกมือขึ้นมาปิดที่ปาก พร้อมกับยื่นมืออีกข้างไปแตะที่จมูก
“ยังไม่ตาย...” เสียงเล็กเอ่ย ออกมา
“พี่รันเอาไงดีจ๊ะ”
“ตั้มเขายังไม่ตาย นายผายปอดเขาหน่อย ชีพจรเขาอ่อนมาก” รันลนาหันไปเอ่ยกับน้องชายด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“คุณ คุณคะ” มือเรียวตบเข้าที่แก้มคนหลับ แต่ไร้เสียงตอบรับ ตั้มผายปอดแต่แล้วกับไม่เป็นผล
“ทำไรของนายนี้ตั้ม” เชอเนมที่เห็นท่าทีของน้องชายที่ผายปอดให้ชายแปลกหนาถึงกับว่าน้อง ที่ไม่มีท่าทีว่าคนเจ็บจะฟื้นขึ้นมา
“พี่รัน ผมทำไม่ได้”
“เมื่อตั้มเอ่ยมาเช่นนั้น” ศัลยแพทย์หญิงถึงกับผายปอดและเป่าลมหายใจให้กับคนหลับทันที ปากเล็กสัมผัสริมฝีปากหนา เป่าลมเข้าสองสามครั้ง ทว่าในจังหวะนั้น เลโอนิกซ์ที่ตกอยู่ในอาการสะลึมสะลือ เมื่อเขาตื่นขึ้นมากับพบใบหน้าสวยของหญิงสาวคนหนึ่งที่เป่าปากประกบปากของตน นัยน์ตาทั้งสองคู่ประสานเข้าหากัน
“พี่รัน เขาฟื้นแล้ว” เสียงของเชอเนมดังขึ้นมาทำให้ รันลนาผละออกจากคนเจ็บ
“คุณ คุณคะ...”
“ช่วยผมด้วย ผมถูกตามล่า”
“ถูกตามล่า” รันลนา ตั้ม เชอเนม ทั้งสามถึงกับประสานเสียงกัน
“คุณทำใจดีๆ ไว้นะครับ ผมจะพาคุณไปส่ง โรงพยาบาล” ตั้มเอ่ยกับคนเจ็บ
“ไม่ได้ พวกมันตามล่าผม”
“ได้โปรดช่วยผมด้วย” เลโอนิกซ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นไหว ไม่สู้ดีใบหน้าอันหล่อเหลาซีดเผือกอย่างเห็นได้ชัด
“เขาน่าจะไม่ใช่คนแถวนี้ เอาไงดีพี่รันช่วยเขาเถอะนะคะ เขาดูหล่อดี” เชอเนมที่เอ่ยมาเช่นนั้น รันลนาถึงกับมีสีหน้าคิดหนัก เธอควรปล่อยให้เขาตายหรือช่วยเขาดี คนเจ็บจะไม่ช่วยก็กระไรอยู่
“ตามล่างั้นเหรอ”
“พี่รันเราจะช่วยเขายังไง เอาไปโรงพยาบาลไม่ได้ ดูเหมือนว่าจะมีคนตามล่าเขา” ตั้มไม่พูดเปล่า แต่กับเหลือบไปเห็นปลายกระบอกปืนที่อยู่ข้างเอวคนเจ็บ
“ตั้มนายลืมไปแล้วเหรอว่า ตอนนี้เราอยู่กับใคร” เลโอนิกซ์รับรู้เพียงแต่นั้น ทว่าหูตาหนักอึ้งทุกอย่างดับสูนไปอีกครั้ง
“พี่รันเขาหลับไปแล้ว”
“แค่สลบนะ”
“ช่วยเขาเถอะนะ ฉันสงสารเขา” เชอเนมหันมาเอ่ยกับรันลดา ที่ฉันยอมช่วยเพราะเงิน 5000 หรอกนะ เมื่อเป็นเช่นนั้นสามพี่น้องถึงกับพยุงคนเจ็บขึ้นบนท้ายรถกระบะทันที โดยมีรันลนาที่ช่วยห้ามเลือดและใช้เครื่องมือของเธอที่มีติดกระเป๋ามาช่วยคนเจ็บ