1
หลังจากที่พวกเราทั้งสิบคนพากันไปเที่ยวผ่อนคลายเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ รุ่งเช้าต่อมาพวกเราก็พากันมาเรียนตามปกติ เพื่อที่แก๊งผู้ชายพันธุ์เถื่อนทั้งห้า ราพันเซล รุ่นพี่สโนว์ไวท์ และรุ่นพี่ออโรร่าจะได้เตรียมตัวสอบไฟนอลเทอมสุดท้ายที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ฉันขอแยกจากทุกคนเพื่อไปที่ห้องเรียนของตัวเอง เมื่อมาถึงก็เดินตรงไปที่นั่งท้ายห้องซึ่งเป็นที่ประจำของฉันและเพื่อนสนิทสุดน่ารักอย่างเนียร์กับฟาเลย์ ยัยสองคนนี้เป็นเพื่อนรักของฉันมาตั้งแต่สมัยชั้นประถม เป็นเพื่อนที่ดูเหมือนจะพึ่งพาไม่ค่อยได้ แต่เวลาฉันมีเรื่องเดือดร้อน สองคนนี้ก็ไม่นิ่งเฉยเลยล่ะ
“แปลกแฮะ ปกติต้องมาก่อนฉันนี่นา”
ฉันยืนเกาหัวตัวเองอย่างงุนงงเมื่อมาถึงโต๊ะประจำแล้วแต่กลับไม่เจอทั้งเนียร์แล้วก็ฟาเลย์ ทุกทีสองคนนี้จะมาก่อนฉันเสมอนี่นา
“เนียร์กับฟาเลย์น่ะขาดเรียนไปสี่วันแล้ว”
หัวหน้าห้องรูปร่างผอมซูบสวมแว่นตาหนาเตอะและไว้ผมแสกกลางหวีจนเรียบแบนเอ่ยขึ้น หมอนี่เดินตัวสั่นงกๆ เข้ามาหาฉัน ตั้งแต่เขารู้ว่าบีเอ็มแฟนฉันคือแก๊งผู้ชายพันธุ์เถื่อน เขาก็ดูจะกลัวฉันเป็นพิเศษ -*-
“ขาดเรียนเหรอ เนียร์กับฟาเลย์เนี่ยนะ?”
“ใช่ ฉันโทรไปก็ติดต่อไม่ได้ อาจารย์ที่ปรึกษาไปหาที่บ้าน พ่อกับแม่ของสองคนนั้นบอกว่าสองคนนั้นไม่ได้กลับบ้านสี่วันแล้วเหมือนกัน พวกท่านเองก็ติดต่อไม่ได้”
“ว่าไงนะ! นี่นายกำลังจะบอกว่าเพื่อนฉันหายตัวไปงั้นเหรอ!!”
ฉันกระชากคอเสื้ออีตาหัวหน้าห้องเข้ามาใกล้อย่างลืมตัว หมอนั่นเบิกตากว้างก่อนจะดิ้นเร่าๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ยะ...อย่าทำฉันเลย ฉันไม่รู้จริงๆ ฉันรู้แค่ว่าสองคนนั้นไม่มาเรียนเท่านั้น ปล่อยฉันไปเถอะคุณชิงเกอเบล TOT”
“สองคนนั่นหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่”
“กะ...ก็หลังจากที่คุณชิงเกอเบลหยุดเรียนไปได้สามวันครับ TOT”
“ตั้งสี่วันเชียวเหรอเนี่ย ให้ตายสิ!”
ฉันปล่อยมือออกจากคอเสื้อของอีตาหัวหน้าห้องก่อนจะวิ่งออกจากห้องเรียนไป เพื่อนฉันหายไปไหน...เนียร์กับฟาเลย์ไปอยู่ที่ไหนกันแน่!!!
ตึกๆๆๆ!
“บีเอ็ม!!!”
ฉันตะโกนเรียกชื่อบีเอ็มเสียงดังลั่นเมื่อพาตัวเองวิ่งติดเกียร์หมาจนมาถึงห้องเรียนของพวกเขา และเมื่อตั้งสติมองดูภาพตรงหน้าอีกทีฉันก็แทบหงายหลัง เพราะทุกคนในห้องกำลัง...สอบกันอยู่ T^T ดันวิ่งมาแบบไม่ลืมหูลืมตา ฉันค่อยๆ ฉีกปากยิ้มแห้งๆ ส่งไปให้ทุกคนเมื่อสายตานับสี่สิบชีวิตกำลังจ้องมองมา
“สะ...สุดที่รัก มีอะไรหรือเปล่าคะ หน้าตาตื่นมาเชียว”
บีเอ็มที่ยกมือขึ้นเป็นการขออนุญาตอาจารย์คุมสอบรีบเดินเข้ามาถามฉันด้วยสีหน้าเป็นห่วง พวกผู้ชายพันธุ์เถื่อนที่เหลือก็ลุกตามมาด้วยเช่นกัน
“บีเอ็ม ช่วยฉันด้วย”
“ช่วย? ช่วยอะไรคะ? เกิดอะไรขึ้น”
บีเอ็มลูบหน้าลูบตาฉันอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นว่าสีหน้าฉันไม่ค่อยสู้ดีนัก
“เนียร์... เนียร์กับฟาเลย์หายตัวไป สองคนนั้นขาดเรียนไปสี่วันแล้ว อาจารย์ประจำชั้นไปหาที่บ้าน พ่อแม่ของยัยพวกนั้นก็บอกว่าทั้งสองคนไม่ได้กลับบ้าน พวกท่านเองก็ติดต่อไม่ได้มาสี่วันแล้วเหมือนกัน” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า และดวงตาทั้งสองข้างมีน้ำเอ่อล้นขึ้นมา
“เรื่องจริงเหรอยัยคนใช้!”
“ใช่ พวกนายต้องช่วยฉันนะ พวกนายต้องตามหาเนียร์กับฟาเลย์ พวกนายต้องพาเพื่อนฉันกลับมาให้ได้นะ นะบีเอ็ม”
ฉันโผเข้าหาบีเอ็ม เขย่าตัวเขาราวกับจะขอคำสัญญาว่าเขาจะหาเพื่อนฉันให้เจอให้ได้
“ไม่ต้องห่วงนะคะ เค้าจะตามหาเนียร์กับฟาเลย์ให้เจอ เพราะสองคนนั้นทำให้เราสองคนได้กลับมารักกัน เค้าจะหาให้เจอ เค้าสัญญา”
บีเอ็มดึงฉันเข้าไปกอดอย่างปลอบประโลม
เนียร์...ฟาเลย์...รอฉันก่อนนะ ฉันต้องหาพวกเธอเจอแน่ๆ!
หลังจากที่รอจนพวกผู้ชายพันธุ์เถื่อนสอบเสร็จ พวกเราทุกคนก็มารวมตัวกันที่ห้องสภานักเรียน ราพันเซล มู่หลาน รุ่นพี่สโนว์ไวท์ และรุ่นพี่ออโรร่าก็เช่นกัน
“สรุปง่ายๆ คือ เนียร์กับฟาเลย์หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยงั้นสินะ” ราพันเซลเอ่ยถาม
“ก็ยังไม่แน่ทีเดียวว่าจะไร้ร่องรอยหรอกนะ ฉันว่าพวกเราลองไปถามที่บ้านสองคนนั้นดีกว่าว่า วันที่หายตัวไป สองคนนั้นพากันไปที่ไหน” บีเอเสนอขึ้น
พวกเราทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
“แล้วพ่อแม่ของสองคนนั้นได้ไปแจ้งความกับตำรวจไว้หรือยัง =_=” บีวายถามขึ้น
ฉันรีบพยักหน้าทันที
“พวกท่านบอกว่าโทรแจ้งความไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังไร้วี่แววของสองคนนั้น ตอนนี้พวกท่านเองก็ได้แต่รอเหมือนกัน ฉันคิดว่าบางที...”
“ทุกคน! มาดูนี่เร็ว”
เสียงของบีไอที่นั่งอยู่ที่คอมพิวเตอร์ของตัวเองกับสโนว์ไวท์ตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงตกใจ เขากวักมือเรียกพวกเราด้วยสีหน้าที่มีแต่ความกังวล
“อะไรวะ ทำหน้าเครียดเชียว -*-“
บีโอขมวดคิ้วเดินเข้าไปหาบีไอกับสโนว์ไวท์เป็นคนแรก ก่อนจะมองไปที่จอคอมพิวเตอร์ตามที่บีไอชี้
“เฮ้ย! นี่มัน...”
“มีอะไรกันเหรอ”
ฉันรีบดึงบีเอ็มเดินตามไปอีกคน บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ปรากฏข่าวของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง พาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ทำเอาพวกเรามองหน้ากันอย่างเคร่งเครียด
ผู้ปกครองแห่มาแจ้งความบุตรสาวหายจากบ้านอย่างไร้ร่องรอย ตำรวจเร่งสืบเครียด เหตุไม่มีเบาะแสซ้ำถูกเหล่าผู้ปกครองกดดัน
“ตามรายงาน มีนักเรียนหญิงหายไปแล้วไม่ต่ำกว่าสิบห้าคน...” สโนว์ไวท์พึมพำขึ้น
“หรือว่าเนียร์กับฟาเลย์...”
“อาจจะไม่ใช่ก็ได้นะคะ เนียร์กับฟาเลย์อาจจะแค่แอบหนีไปเที่ยวก็ได้ อย่าเพิ่งคิดมากเลยนะชิงเกอเบล” มู่หลานพูดปลอบใจ
เธอบีบมือฉันไว้แน่นคล้ายกับอยากจะช่วยคลายความกังวลในใจของฉัน
“ฉันว่าเรื่องนี้เริ่มไม่ธรรมดาซะแล้วสิ ที่หายไปมีแค่นักเรียนหญิงเท่านั้น เป็นไปได้ว่าอาจเป็นพวกค้ามนุษย์ -_-“
“ค้ามนุษย์!!”
คำพูดของบีเอทำให้ฉันตกใจกลัวเข้าไปใหญ่ หรือว่าเนียร์กับฟาเลย์จะถูกพวกค้ามนุษย์จับตัวไป ถ้าอย่างนั้น... ถ้าอย่างนั้นสองคนนั้นก็คง...
“จะบ้าเหรอบีเอ! ชิงเกอเบลยิ่งใจไม่ดีอยู่นะ พูดอะไรหัดคิดซะบ้างสิ!” ราพันเซลแหวขึ้นเมื่อหันมาเห็นว่าฉันเริ่มร้องไห้ด้วยความกลัว
“ขอโทษครับ ผมแค่สันนิษฐาน -_-“
“เอาเป็นว่าตอนนี้พวกเราไปที่บ้านของยัยเนียร์กับฟาเลย์ก่อนดีกว่า เผื่อพ่อแม่ของสองคนนั้นจะมีเบาะแสอะไรให้พวกเราบ้าง” บีโอบอก พลางมองมาทางฉันที่หน้าซีดเผือดอย่างเป็นกังวล
“ไม่ต้องกังวลนะคะ เค้าจะทำทุกอย่างเพื่อพาเนียร์กับฟาเลย์กลับมาให้ได้ เค้าสัญญา”
พูดจบบีเอ็มก็ดึงฉันเข้าไปกอดไว้แนบแน่นเหมือนย้ำคำมั่นสัญญาของตัวเอง
ฉันเชื่อนายนะ...บีเอ็ม
ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงต่อมา พวกเราก็มาถึงบ้านของฟาเลย์ ฉันกดออดไปได้ไม่นาน คุณพ่อกับคุณแม่ของฟาเลย์ก็ออกมาเปิดประตูให้ วินาทีแรกที่ได้เห็นสภาพของท่านทั้งสอง ฉันแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความสงสาร โดยเฉพาะคุณแม่ ท่านผอมลงอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าก็ตอบลง ขอบตาดำคล้ำและบวมเป่งราวกับว่าท่านร้องไห้ทุกวัน
“คุณพ่อ คุณแม่...” ฉันเรียกพวกท่านด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
ทันทีที่คุณแม่เห็นฉัน ท่านก็โผเข้ากอดฉันทันที
“ชิงเกอเบล! ฟาเลย์...ฟาเลย์ ฮือออ”
คุณแม่ปลดปล่อยคำพูดออกมามากมายจนฉันแทบจับต้นชนปลายฟังในสิ่งที่ท่านพูดไม่ได้เลย แต่ที่ฉันรับรู้ได้แน่นอนก็คือความเจ็บปวด คุณแม่ต้องกำลังเจ็บปวดมากแน่ๆ ที่ฟาเลย์หายไปแบบนี้
“คุณ...ใจเย็นๆ นะ ปล่อยชิงเกอเบลก่อนเถอะ เชิญพวกหนูทุกคนเข้าไปในบ้านก่อนนะ”
คุณพ่อบอกแล้วแกะตัวคุณแม่ออกจากฉัน ก่อนจะประคองคุณแม่เข้าไปในบ้าน ฉันและคนอื่นๆ รีบเดินตามเข้าไปติดๆ
พวกเราทั้งสิบคนนั่งรอคุณพ่อที่พาคุณแม่ขึ้นไปพักผ่อนข้างบน ไม่นานคุณพ่อก็เดินลงมาด้วยสีหน้าที่ไม่มีความสุขแม้แต่นิดเดียว ถึงฉันจะยังไม่เคยเป็นแม่คน แต่เพียงแค่จินตนาการว่าถ้าสักวันหนึ่งฉันมีลูก แล้วลูกของฉันเกิดหายไปโดยที่ฉันไม่รู้ว่าเขาจะเป็นตายร้ายดียังไง ฉันก็คงแทบขาดใจเหมือนกัน
“ชิงเกอเบลมาหาพ่อกับแม่มีอะไรหรือเปล่าลูก” คุณพ่อเปิดปากถามทันทีที่มานั่งรวมกับพวกเราที่โต๊ะรับแขก
“หนูจะมาถามเรื่องฟาเลย์น่ะค่ะ หนูอยากทราบเบาะแสทั้งหมดที่คุณพ่อพอจะทราบ หนูสัญญาว่าหนูจะตามหาฟาเลย์ให้เจอให้ได้”
“ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่พ่อไม่รู้อะไรเลยจริงๆ ก่อนหน้านั้นฟาเลย์ก็ไม่ได้มีท่าทางผิดปกติอะไรเลยสักนิดเดียว วันที่เขาหายไป ฟาเลย์บอกกับพ่อว่ามีนัดกับเนียร์เหมือนทุกที”
“กับเนียร์คนเดียวเหรอคะ?”
“เขาบอกพ่ออย่างนั้นน่ะ พ่อก็ไม่แน่ใจว่าจะมีคนอื่นด้วยมั้ย”
“ถ้าอย่างนั้น วันที่ฟาเลย์กับเนียร์หายไป เป็นวันที่ต้องไปเรียนพิเศษที่โรงเรียนกวดวิชาหรือเปล่าครับ” บีเอถาม
คุณพ่อเงียบไปสักพักก่อนจะส่ายหน้า
“ไม่ใช่หรอก วันนั้นเป็นวันหยุดน่ะ พวกตำรวจเองก็ถามพ่อแบบนี้เหมือนกัน แต่พอรู้ว่าวันนั้นเป็นวันหยุด พวกตำรวจเลยคิดว่าน่าจะไม่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนกวดวิชา”
“แล้วฟาเลย์กับเนียร์เรียนพิเศษวิชาอะไรที่นั่นหรือครับ =_=” บีวายถามบ้าง
“ทำไมจู่ๆถึงถามเรื่องนี้ล่ะ” ราพันเซลหันไปถามบีวาย
หมอนี่เป็นคนที่มีหัวคิดแปลกและแหวกแนวมากกว่าคนอื่นๆ บางทีเขาอาจจะเป็นมันสมองที่ดีที่สุดในการตามหาเนียร์กับฟาเลย์ก็ได้นะ
“ก่อนจะมาที่นี่ ฉันลองเช็คข้อมูลแล้วก็ตรวจสอบหาจุดเชื่อมโยงของเด็กนักเรียนหญิงทุกคนที่หายไปดู แล้วก็…” บีวายพูดค้างไว้
“แล้วก็อะไร มีอะไรที่น่าสงสัยงั้นเหรอ” รุ่นพี่ออโรร่ารีบถาม บีวายพยักหน้าช้าๆ
“อย่างที่เราพอจะรู้กันว่าผู้หญิงทุกคนที่หายไปล้วนแล้วแต่เป็นเด็กนักเรียน แต่สิ่งที่น่าสงสัยก็คือ…นักเรียนหญิงพวกนั้นลงเรียนกวดวิชาที่โรงเรียนเดียวกันหมดเลย”
“ว่าไงนะ?”
“ฉันก็เลยอยากจะรู้ว่าฟาเลย์กับเนียร์ ลงเรียนวิชาอะไรที่นั่น เท่าที่รู้มา โรงเรียนนั้นเป็นโรงเรียนกวดวิชาสอนภาษา”
“อย่างนี้นี่เอง แล้วตกลงว่ายังไงเหรอคะคุณพ่อ สองคนนั้นลงเรียนวิชาอะไร พอจะทราบมั้ยคะ?”
“พ่อไม่รู้หรอกลูก เพราะฟาเลย์เขาจัดการของเขาเองน่ะ พ่อกับแม่ไม่ได้เข้าไปยุ่งหรอก”
“งั้นเดี๋ยวฉันจัดการเอง รอแป๊บหนึ่ง”
บีไอพูดขึ้นก่อนจะหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมากดอะไรยิกๆ อยู่ครู่หนึ่ง
“ได้ละ ภาษาที่โรงเรียนกวดวิชาที่นั่นเปิดสอนก็จะมี อังกฤษ ฝรั่งเศส เกาหลี แล้วก็ญี่ปุ่น”
“มีตั้งสี่วิชาเชียวเหรอ สงสัยพวกเราคงต้องไล่สืบทีละวิชาแล้วล่ะ” บีโอพูดขึ้นบ้าง
“นี่พวกนายคิดว่าการหายตัวไปของเนียร์กับฟาเลย์แล้วก็นักเรียนหญิงคนอื่นๆ เกี่ยวข้องกับโรงเรียนกวดวิชานั่นจริงๆ เหรอ” ราพันเซลถาม
นั่นสิ...ฉันก็สงสัยแบบที่ราพันเซลคิดนะ
“ก็ยังไม่แน่ใจเท่าไหร่ เอางี้...ฉันไปหาเพื่อนของคุณพ่อที่เป็นตำรวจดู ท่านเป็นสารวัตรอยู่ที่สถานีตำรวจใกล้ๆ กับโรงเรียนกวดวิชานั่น เมื่อกี้ฉันลองโทรเช็คแล้ว ท่านเป็นคนดูแลคดีนี้โดยเฉพาะ บางทีพวกเราอาจจะพอได้เบาะแสอะไรเพิ่มบ้างก็ได้นะ”
บีไอบอกพลางยิ้มอย่างมีความหวัง ฉันหันไปมองหน้าคุณพ่อก็ดูท่าว่าท่านจะใจชื้นขึ้นมานิดหน่อย
“ขอบใจพวกเธอมากนะ ลูกด้วยนะชิงเกอเบล พ่อขอบคุณจริงๆ ที่เป็นห่วงฟาเลย์ขนาดนี้”
“ฟาเลย์เป็นเพื่อนรักของหนู ต่อให้ต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม หนูก็จะหาฟาเลย์กับเนียร์ให้เจอให้ได้ค่ะ”
“ใช่ครับ เชื่อใจพวกผม ผมจะตามหาลูกสาวของคุณพ่อให้เจอเอง เพราะลูกสาวของคุณพ่อคือคนสำคัญของชิงเกอเบล ก็เท่ากับเป็นคนสำคัญของผมด้วย”
คำพูดของบีเอ็มทำให้หัวใจของฉันค่อยๆ พองโตขึ้น ไม่ว่าเมื่อไหร่...เขาก็ยังเห็นความรู้สึกของฉันสำคัญเสมอ ฉันเองก็จะขอรักและดูแลเขาให้ดีที่สุด เพื่อตอบแทนความดีงามของเขาที่มอบให้ฉัน
“งั้นแกรีบไปกันเถอะบีไอ ส่วนพวกฉันจะลองไปหาเบาะแสจากทางอื่นเพิ่มเติมดู ยังไงพวกผมขอตัวก่อนนะครับ -_-“
บีเอโค้งศีรษะน้อยๆ แล้วพากันเดินออกไปกับราพันเซลเป็นคู่แรก
“งั้นหนูไปก่อนนะคะ คุณพ่อดูแลตัวเองดีๆ นะคะ”
“ไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่หรอก ขอบใจอีกครั้งนะลูก”
คุณพ่อส่งยิ้มและลูบหัวฉันเบาๆ อย่างให้กำลังใจ พวกเรารีบพากันออกไปขึ้นรถตู้ที่บีวายและมู่หลานไปสตาร์ทรถรออยู่ก่อนแล้วทันที