หยางหยางกับอี้หลันกินมื้อเย็นเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้อี้หลันกำลังเช็ดถ้วยจานที่นางเพิ่งล้างเสร็จและคว่ำในที่คว่ำ
“ท่านพี่เจ้าคะ ข้าอยากปลูกผักเจ้าค่ะ” อี้หลันละมือจากการคว่ำจาน หันมาบอกความต้องการของนางกับหยางหยางที่กำลังนั่งดูเจ้าซาลาเปาที่หลับอุตุอยู่
“ได้สิ วันพรุ่งเข้าไปในเมืองเดี๋ยวพี่พาไปซื้อเมล็ดผัก” หยางหยางหันมาตอบนาง
อี้หลันที่คว่ำจานเสร็จแล้วเดินมานั่งลงฝั่งตรงข้ามกับหยางหยาง “ข้าอยากเก็บผักที่ปลูกออกให้หมดเจ้าค่ะ หลังจากนั้นก็เตรียมดินและปลูกผักใหม่ทั้งหมดเจ้าค่ะ” ผักที่ปลูกรอบๆ บ้าน ก็จะมีผักกาดขาว หัวไชเท้า คะน้าเป็นส่วนใหญ่
“เหตุใดต้องเก็บผักออกทั้งหมดหรือ”
“ผักที่อยู่รอบบ้านเราตอนนี้ บางต้นก็แคระแกร็น บางต้นก็ตายแล้ว ข้าจึงอยากเก็บเจ้าค่ะ” อี้หลันอธิบาย “ข้าจะเอามาประกอบอาหารและดองเก็บไว้กินด้วยเจ้าค่ะ”
หยางหยางคิดตามคำพูดของภรรยาก็พบว่าเป็นจริงตามที่นางบอก “ได้ เดี๋ยวพี่จะจัดการให้เจ้าเอง”
“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านพี่” อี้หลันส่งยิ้มให้กับคนตรงหน้า ตั้งแต่ที่นางได้ทะลุมาอยู่ที่นี่ บุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของนาง เขาช่างตามใจนางทุกอย่างจริงๆ “เข้าห้องกันเถิดเจ้าค่ะ”
อี้หลันจะช้อนอุ้มตัวลูกชายขึ้นแต่ก็ถูกสามีอุ้มตัดหน้าเสียก่อน นางก็ไม่ได้ขัดอันใด หยิบที่นอนของเจ้าซาลาเปาเดินตามหลังเขาต้อยๆ
เมื่อหยางหยางวางหยางอี้ลงบนที่นอนแล้ว อี้หลันก็หยิบผ้าห่มขึ้นมาห่มให้เขาทันที จากนั้นก็เดินไปเปิดตู้หยิบกระดาษและกล่องไม้ที่ใส่เงินออกมา
หยางหยางมองตามร่างบางก็เกิดความสงสัย “เจ้าจะทำอันใดหรือ”
“ข้าจะทำบัญชีรายรับ รายจ่ายเจ้าค่ะ” อี้หลันตอบคำถามของหยางหยาง ส่วนมือก็เปิดกล่องไม้ด้วย
กล่องไม้นี้นางเปิดดูหลายครั้งแล้วมีทั้งเหรียญอีแปะ เหรียญตำลึง จะว่าไปบ้านของนางก็ไม่ได้ยากจนเสียทีเดียว อี้หลันไม่รอช้านำเหรียญออกมานับทันที ทั้งยังไปหยิบกล่องไม้อีกกล่องมาด้วย เพื่อที่จะแยกเหรียญอีแปะกับเหรียญตำลึงไว้คนละกล่อง
“ดูสิเจ้าคะเหรียญเยอะแยะเลย” ระหว่างนับก็เงยหน้ามาคุยกับหยางหยาง ที่กำลังช่วยนางนับเหรียญอีแปะอยู่
หยางหยางมองดูนางด้วยความขบขัน “ถ้าวันใดที่ได้สัตว์ใหญ่ เช่นวันนี้ที่ได้หมูป่าก็จะขายได้ราคาดี แต่ใช่ว่าจะได้ทุกวัน ถ้าเจ้าชอบมีเงินทองเยอะๆ ไว้พี่จะเข้าป่าให้ลึกสักหน่อยจะได้มีเงินให้เจ้า”
อี้หลันละมือจากการนับเหรียญ เหรียญตำลึงนั้นมีไม่เยอะหรอก แต่เหรียญอีแปะน่าจะหลายร้อยเหรียญทีเดียว “ท่านพี่เจ้าคะถึงข้าจะชอบเงินทอง แต่ข้าก็ไม่ได้ต้องการให้ท่านพี่เข้าป่าไปเสี่ยงชีวิตทุกวันหรอกนะเจ้าคะ”
“เจ้าไม่ต้องกลัว พี่จะไม่ทำให้เจ้าต้องเป็นห่วง” เขารู้สึกดีทุกครั้งที่ภรรยาเป็นห่วง แต่เขาเป็นหัวหน้าครอบครัวเขาจะไม่มีทางทำให้ภรรยาและลูกต้องลำบากอย่างแน่นอน
“ถ้าท่านยังเข้าป่าล่าสัตว์ทุกวัน ข้าย่อมเป็นห่วงเจ้าค่ะ ท่านพี่ไม่ต้องกลัวนะเจ้าคะวันพรุ่งที่เข้าเมือง ข้าจะมองหาหนทางทำเงินเจ้าค่ะ” นางจะเข้าไปสำรวจสักหน่อย เพื่อหาลู่ทางการทำเงิน
“เจ้าจะลำบาก”
“ข้ารับปากเจ้าค่ะ ว่าจะไม่ทำให้ตัวเองลำบากเจ้าค่ะ”
กว่าจะนับเสร็จก็เกือบ 1 เค่อ อี้หลันจึงหยิบกระดาษที่แต่เดิมเป็นแผ่นใหญ่ตัดจนเท่าขนาดของสมุด ส่วนหมึกเป็นสิ่งที่แพงสำหรับชาวบ้านนางจึงใช้ถ่านมาขีดเขียนไปก่อน มีเงินเกือบ 25 ตำลึงเลยทีเดียว
เสร็จจากการลงบัญชี ก็หยิบกระดาษมาอีกแผ่นมาวาดรูปของสิ่งที่อยากได้ลงไป
“เจ้าวาดสิ่งใด” หยางหยางที่นั่งมองอยู่ถามขึ้น เขาไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อนเลย
“เจ้าสิ่งนี้เรียกว่า ‘รถเข็นเด็ก” เจ้าค่ะ ต่อไปเวลาที่เราจะไปที่ใด ก็ให้เสี่ยวอี้นั่งลงในรถเข็น แค่นี้เราก็ไม่ต้องอุ้มเสี่ยวอี้ตลอดเวลาแล้วเจ้าค่ะ”
“ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”
“เพราะข้าเพิ่งคิดขึ้นมาอย่างไรเล่าเจ้าคะ” ตอบแล้วก็หัวเราะคิกคิก จนหยางหยางอดยิ้มตามไม่ได้ “ท่านรู้จักร้านทำไม้หรือไม่เจ้าคะ ข้าต้องการจะเอาแบบรถเข็นไปให้ช่างทำไม้ดูก่อน จะได้รู้ว่าทำได้หรือไม่” ด้วยอะไรหลายๆ อย่างที่มีข้อจำกัดของชาตินี้ ไม่รู้ว่าพวกเขาจะทำได้หรือไม่
“รู้จัก วันพรุ่งพี่จะพาเจ้าไป” ไม่ว่านางจะทำอะไร หรือต้องการสิ่งใด เขาก็พร้อมที่จะสนับสนุนนางเสมอ
“ของคุณเจ้าค่ะ” การมีสามีที่ดีเช่นบุรุษตรงหน้า มันช่างดีจริงๆ
“นี่ก็ดึกมากแล้ว พี่ว่าพวกเรารีบเข้านอนกันเถิด”
“เจ้าค่ะ” นางก็ง่วงแล้วเช่นกัน จึงนำกล่องไม้ที่ใส่เหรียญกับรูปวาดไปเก็บเข้าตู้ก่อนจะมาล้มตัวลงนอนอีกฝั่งของบุตรชาย และเข้าสู่ห้วงนิทราในที่สุด
ยามอิ๋น (03:00-04:59 น.)
หยางหยางที่รู้สึกตัวก่อนภรรยาและบุตรชาย ลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตาเพื่อที่จะไปดูปลาที่ลำธาร
เขาลงไปดูที่หลุมแรกก็ต้องตกใจกับจำนวนปลาที่อยู่ในหลุมดัก จากนั้นก็เดินไปดูที่หลุมที่ 2 หลุมที่ 3 จนครบทั้ง 5 หลุมปรากฏว่ามีปลาเต็มทุกหลุม ภรรยาของเขาช่างเก่งกาจเสียจริง
หยางหยางไม่รอช้ารีบจับปลาใส่ถังที่เตรียมมาด้วย เพียงแค่ 3 หลุม ถังที่เขาเตรียมมาก็เต็มไปด้วยปลาแล้ว จึงจำเป็นต้องเดินกลับไปที่บ้านเพื่อเอาถังมาใส่ปลาอีกใบ
ปลาเยอะขนาดนี้แล้วจะกินหมดหรือ ถ้าเอาไปขายที่เหลาอาหารต้องได้ราคาดีแน่ๆ แต่คงต้องถามอี้หลันก่อนว่านางจะขายหรือไม่
หยางหยางจัดการเอาปลาใส่ในถังครบทั้ง 2 ใบแล้ว จากนั้นเขาก็ขุดหลุมเพิ่มอีก 5 หลุม เนื่องจากไม่มีชาวบ้านนิยมกินปลามากนักเพราะพวกมันว่ายน้ำกันเร็วมาก จึงทำให้ในลำธารแห่งนี้มีปลามากมาย
“กลับมาแล้วหรือเจ้าคะ” อี้หลันที่กำลังจะก่อไฟหุงข้าวเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นหยางหยางเดินเข้ามาให้ครัว ในมือสองข้างมีถังใส่ปลา“ได้ปลาเยอะขนาดนี้เชียวหรือเจ้าคะ”
“ใช่ ได้เยอะมาก พี่เองยังตกใจ”
“ขอข้าดูหน่อยเจ้าค่ะ” ไม่รอให้หยางหยางตอบรับ อี้หลันก็เดินไปดูที่ถังไม้ใส่ปลา ในถังนั้นเต็มไปด้วยหลัวเฟยยวี๋ (ปลานิล) หลูยวี๋ (ปลากะพง) ไม่น่าเชื่อว่าในบำธารจะมีทั้งปลานิล ปลากะพงมากมายขนาดนี้
อี้หลันไปหยิบถังอีกใบมาใส่ปลาที่นางเลือกไว้กินประมาณ 5-6 ตัว “เราแบ่งไว้กินแค่นี้ก็พอเจ้าค่ะ ส่วนที่เหลือถ้าเราเอาไปขายที่เหลาอาหารจะขายได้หรือไม่เจ้าคะ”
หยางหยางที่อาสาก่อไฟให้หญิงสาวก็หันมาตอบ “ได้สิ พี่ว่าพวกมันต้องได้ราคาดีแน่ๆ เพราะมันยังมีชีวิตอยู่”
“ดีเจ้าค่ะ เดี๋ยวมื้อนี้ข้าจะทำปลาทอดให้ท่านทานนะเจ้าคะ ฝากท่านก่อไฟให้ข้าด้วยเจ้าค่ะ”
“เดี๋ยวพี่ก่อไฟให้”
อี้หลันแยกตัวไปทำปลา ส่วนหยางหยางที่ก่อไฟเสร็จแล้วก็หุงข้าวเสียเลย หุงเสร็จก็ไปเก็บผักบุ้งตรงลำธารเอามาให้อี้หลันผัดให้กิน
“ท่านพี่ไปที่ใดมาเจ้าคะ” นางไปทำปลากลับมาก็เห็นชายหนุ่มหุงข้าวไว้แล้ว แต่ตัวไม่รู้อยู่ที่ใด
“พี่ไปเก็บผักบุ้งที่ลำธาร เจ้าผัดให้พี่กินอีกได้หรือไม่”
“ได้เจ้าค่ะ ข้าฝากท่านเข้าไปดูเสี่ยวอี้ได้หรือไม่เจ้าคะ ข้ากลัวว่าถ้าเสี่ยวอี้ตื่นแล้วไม่เจอใครเขาจะกลัวเจ้าค่ะ”
“ได้”
เมื่อได้คำตอบอี้หลันก็หันกลับมาทอดปลาในกระทะต่อ มีปลาทอดกับผัดผักบุ้งเท่านี้ก็คงพอแล้ว
ส่วนหยางหยางก็เดินไปทางห้องนอน เข้าไปในห้องก็เห็นเจ้าก้อนแป้งที่ยังนอนหลับอยู่ ดูปากเล็กๆ ที่เผยอออกน้อยๆ นั่นสิไหนจะมือน้อยๆ ที่ชูขึ้นอยู่เหนือหัวอีก ลูกชายเขาช่างน่ารักน่าชังเสียจริง
จนอี้หลันทำมื้อเช้าเสร็จหยางอี้ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น ลูกชายเขาทำไมขี้เซาแบบนี้
“ท่านพี่จะอาบน้ำก่อน หรือกินข้าวก่อนเจ้าคะ” อี้หลันเดินเข้ามาในห้องนอนหลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว
“พี่อาบน้ำก่อนดีกว่า”
“เจ้าค่ะ”
เมื่อหยางหยางแยกตัวไป หยางอี้ก็ตื่นขึ้น ตื่นปุ๊ปร้องปั๊ป อี้หลันจึงจับเข้าเต้า อีกมือก็คล้ำๆ อยู่ที่เต้าหนึ่ง
กินจนอื่นแล้วก็ผละออกจากเต้า ส่งยิ้มหวานๆ ให้กับคนเป็นแม่
“ลูกชายแม่กินเก่งจริงๆ หืม” อี้หลันก้มลงไปฟัดแก้มน้อยๆ ซ้ายที ขวาทีของเจ้าซาลาเปาน้อย จนเรียกเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากจากคนตัวเล็ก
“เล่นอะไรกันอยู่สองแม่ลูก” หยางหยางที่อาบน้ำเสร็จแล้วเดินเข้ามาในห้อง ก็ได้ยินเสียงลูกชายหัวเราะจนดังออกไปนอกห้อง
“แอ้” แหนะ มีทักทายพ่อด้วย
“ท่านพี่เจ้าคะ ท่านเอาน้ำร้อนที่ข้าต้มไว้ไปใส่ในอ่างอาบน้ำของเสี่ยวอี้ให้ข้าหน่อยเจ้าค่ะ ผสมกับน้ำเย็นให้ด้วยนะเจ้าคะ”
“ได้ เดี๋ยวพี่จัดการให้” หยางหยางออกไปแล้ว อี้หลันก็จัดการกับเจ้าก้อนแป้งให้พร้อมสำหรับการอาบน้ำ
“วันนี้ท่านพ่อกับแม่จะพาเสี่ยวอี้น้อยไปเที่ยวด้วยนะ”
เด็กน้อยยิ้มร่าดีดขาไปมา เขาฟังไม่เข้าใจหรอก เพียงแค่คิดว่าท่านแม่เล่นกับตน
“แอ้ แอ้”
“พี่ผสมน้ำเสร็จแล้ว” หยางหยางเดินเข้ามาบอก
“ขอบคุณเจ้าค่ะ”
อี้หลันพาหยางอี้ไปอาบน้ำ เสร็จแล้วก็มาแต่งตัวด้วยชุดสีฟ้าน่ารักๆ คู่กับคนเป็นพ่อที่ใส่ชุดสีน้ำเงิน แต่งตัวให้เจ้าซาลาเปาแล้วก็ฝากให้หยางหยางดูแล เพราะนางก็จะไปอาบน้ำแล้วเช่นกัน
ใช้เวลาไม่นานตอนนี้ทั้งสามคนพ่อแม่ลูก ก็มาอยู่บนแคร่ในครัวเพื่อกินมื้อเช้าก่อนจะเข้าไปในเมือง
“กับข้าวมีแค่ 2 อย่าง ท่านพี่กินได้หรือไม่เจ้าคะ”
“กินได้สิ” นี่ถือว่าดีมากแล้ว เมื่อก่อนมีแค่น้ำแกงเขาก็ยังต้องกิน “ปลาทอดเจ้าอร่อย” เขาเอ่ยชมเมื่อได้ลองกินไปคำแรก
คนที่อยู่ๆ ก็ได้รับคำชมถึงกับไปไม่เป็น “ขอบคุณเจ้าค่ะ ข้าเก็บปลาไว้แล้ว มื้อเย็นจะทำต้มปลาให้ท่านกินเจ้าค่ะ”
“ขอบใจเจ้า” ทั้งคู่คีบอาหารให้กันจนอิ่ม ถึงเวลาเข้าไปในเมืองแล้ว!