(“นี่คุณลายไทยคะ ปาร์ตี้นี้มีแต่ของกินค่ะ ไหนคุณบอกว่าอยากได้แม่ศรีเรือน โบกี้อุตส่าห์ไปเรียนทำอาหารมานะคะ”)
“แล้วโบก็เรียกเพื่อน ๆ มาเป็นหมูทดลองใช่ไหม และก็พี่ด้วย” ลายไทยหัวเราะชอบใจ
(“ก็เพราะพี่ปูนไม่ยอมกินนี่คะ”)
“ที่รักจ๋า รสชาติมันห่วยจริง ๆ พี่พูดเลย”
(“นายปาปูน....”) โบกี้แว้ดมาตามสาย
“ที่รัก ๆ ไม่เอา ๆ แหม...พี่เอาความจริงมาพูดนิดเดียวเอง ทำงอน”
(“ย่ะ... ความจริงแบบนี้เขาห้ามพูด ไม่รู้เหรอ”) น้ำเสียงไม่พอใจอย่างรุนแรง
ปิ๊ด... เธอกดสายทิ้งไปทันที
(“งอน... ชิ...”) เธอทำหน้าบึ้งใส่มือถือ
“ยังไงผมก็รักคุณ” ปาปูนพูดอยู่คนเดียว และยิ้มให้กับมือถือ ป่านนี้ก็นั่งหน้าเป็นตูดไก่แล้ว เขารีบส่งข้อความเข้ามือถือเข้าไปง้อทันที
(ที่รัก พี่เลิกงานจะรีบตรงไปหาทันทีนะ จุ๊บ ๆ )
หญิงสาวยิ้มให้กับมือถืออยู่คนเดียว
ปริ้น... เสียงแตรที่ดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วลานจอดรถ ทำให้พายตกใจแทบสิ้นสติ เธอกำลังยกมือถือเล็ง ๆ ถ่ายรูปรถคันหรูของพี่ปาปูน หลังจากที่เซลฟีรูปของตัวเองกับรถหรู ๆ ของเขามาหลายรูปแล้ว
“ไอ้บ้า...ตกใจหมด” เธอแว้ดเสียงออกไปทันทีด้วยความสะดุ้งสุดตัว เป็นจังหวะที่ไปร์ทกำลังลดกระจกลงชะโงกหน้าออกมาหา
“มาด้อม ๆ มอง ๆ อะไรอยู่ที่รถของคนอื่นเขา เธอเป็นขโมยหรือไง” เขาตะโกนถามไป และจอดรถสนิทชิดกับปลายเท้าของหญิงสาว
“ฉันไม่ใช่ขโมย” เธอโต้ตอบออกไปในทันที สีหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ
‘แล้วแกเป็นใครมาหาว่าฉันเป็นขโมย’ เธอนึกต่อว่าเขาในใจ จ้องมองเขาแบบจะกินเลือดกินเนื้อ
ลายไม้เปิดประตูแกล้งกระแทกชนตัวเธอเบา ๆ หญิงสาวค่อย ๆ เดินถอยหลังออกห่างจากเขา
ลายไม้เดินลงมาจากรถ สายตาของเขาจับจ้องมองใบหน้าหมดจดของหญิงสาว สายตาคู่นั้นสำรวจและมองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
‘หน้าตาสดใสน่ารักสมวัย ดูแล้วน่าจะอยู่มัธยมเสียมากกว่า แต่เสื้อยูนิฟอร์มที่เธอใส่ เด็กร้านสะดวกซื้อข้างล่างในตึกนี่’
“พนักงานร้านโคค๊อปมาร์ทเหรอ” ลายไม้ถามออกไป สายตาก็ยังจ้องจับผิด
หญิงสาวไม่ตอบ แค่เห็นขี้หน้าก็รู้สึกไม่ชอบหน้าเขาเสียแล้ว ยิ่งสายตาที่มองแบบดูถูกดูแคลนคนแบบนี้ เธอหมุนตัวกำลังก้าวขาออกเดินกลับ ใบหน้าบึ้งตึง ปากงอนเชิดชิดติดปลายจมูก
“เอ๊ะ...อีเด็กไม่มีมารยาท ผู้ใหญ่ถามทำไมไม่ตอบ” เขาคว้าข้อศอกของเธอเอาไว้ทันที
ปวีนุชมองผ่านแว่นตาไปตามมือของเขาขึ้นไปจนถึงใบหน้าของเจ้าตัวที่ทำถลึงตาเข้าใส่ ใบหน้าของเขาแสดงออกมาอยากหาเรื่องเอากับเธอ
“ถ้าผู้ใหญ่มารยาทดี ๆ เด็กก็อาจจะอยากคุยดี ๆ ด้วย แต่ผู้ใหญ่นิสัยแย่ ๆ แบบนี้ ใครจะอยากคุยด้วย พูดจาดูถูกคน” พูดจบ พายก็กระทืบเท้าของเธอลงที่กลางหลังเท้าของเขาทันที
“โอ๊ย... อีเด็กบ้า...เด็กเปรต ก็ทำตัวน่าสงสัยเอง แล้วยังมาทำแบบนี้ฉัน”
เขาร้องเสียงหลง ยกเท้าขึ้นมากุม กระโดดเหยง ๆ อยู่กลับที่ เขาตะโกนถามตามหลัง หน้าตาแดง หัวร้อนขึ้นมาจริง ๆ เท้าก็เจ็บ
พายได้โอกาสวิ่งหางจุกตูด เร็วปรู๊ดตรงไปที่ลิฟต์ ใช้นิ้วมือกดไปที่ปุ่มแรง ๆ ใบหน้ายังหันกลับมามองผลงานที่ตัวเองทำเอาไว้ พอเห็นสภาพของเขาที่เจ็บปวดและทุรนทุราย ก็หัวเราะเยาะเย้ย ส่งยิ้มปากกว้างมาให้
“สมน้ำหน้า” ปากยังขยับว่าเขา
ร่างใหญ่ยังร้องครวญคราง กระโดดอยู่กับที่ไม่หยุด อีกมือยังชี้มาที่เธอด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“เด็กเปรต กลับมาเดี๋ยวนี้นะ”
“แบร่... เรื่องอะไรจะกลับ กลับไปก็โง่สิ เชอะ...” พายทำแลบลิ้นปลิ้นตา เห็นเขาถอดรองเท้าออก แล้วเลิกเต้นเหยง ๆ เดินเร็วตรงปรี่มาทางเธอ
“เฮ้ย...” พายทำเสียงหลง ตาจ้องมองตัวเลขที่ลิฟต์
ติ้ง.... เสียงลิฟต์ดังมาถึงพอดี เมื่อประตูเปิด เธอรีบก้าวขาเข้าไป กดปิดประตูลิฟต์ยกใหญ่ ใจพะวงไปถึงคนตัวโตที่กำลังตั้งหน้าเดินหน้าเข้ามาจะเอาเรื่องเธอเสียให้ได้ พอบานประตูปิดลง เธอก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ยกมือขึ้นกุมที่หน้าอกตรงหัวใจที่เต้นแรง ๆ แล้วหัวเราะดังขึ้นมาสุดเสียง
“คนอะไรบ้า ดูถูกคนชิบเป้ง สมน้ำหน้า เชอะ...”
เธอทำหน้าโมโหเมื่อนึกถึงผู้ชายคนเมื่อกี้ และสะใจที่ได้กระทืบหลังเท้าของเขา ปกติเธอก็ไม่เคยเกกมะเหรกเกเร แต่ท่าทีของเขามันชวนให้ทำแบบนั้นจริง ๆ
‘แกไปทำร้ายเขา เดี๋ยวเขาต้องตามมาเอาเรื่องแกแน่ ๆ’
‘ก็เขามาดูถูกเราก่อนนะ’
‘ก็มันสมควรไหมล่ะ ทำตัวเป็นสตอล์กเกอร์ แต่ทีท่าเหมือนเป็นขโมย’
‘ฉันไม่ใช่ขโมยย่ะ’
ในร้านโคค๊อปมาร์ท
“ไปไหนมายะยายพาย นานจัง ดีนะไม่มีลูกค้า และหัวหน้าไม่อยู่”
“แต้น แจ้น...” เธอยกมือถือของตัวเองโชว์และเปิดรูปถ่ายที่เซลฟีกับรถหรูของพี่ชายสุดหล่อคนนั้นให้มธุรดาดู
“ฮู้... ยายพาย... แกเจ๋งว่ะ ไปถ่ายมาจนได้”
“มันแน่อยู่แล้ว ฉันสุดยอดที่สุด”
ดาด้ารีบเอามือถือไปจากมือของพาย ขอเลื่อนดูรูปอื่น ๆ ด้วย
“ข่าวดีมีอีกเรื่องนะจะบอกให้”
“หื้อ...เรื่องอะไร” ดาด้าหันมาสนใจ
ปิ๊งป่อง.....เสียงกริ่งบอกว่ามีลูกค้าเดินเข้าร้าน
“ร้านโคค๊อปมาร์ท สวัสดีค่ะ” ดาด้าส่งเสียงต้อนรับ
พายพอหันหน้าไปเห็นใบหน้าของผู้ชายที่เดินเขย่ง ๆ ปลายเท้าเข้ามาในร้านด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว เธอก็รีบทรุดตัวนั่งลงและแกล้งควานมือหาของที่พื้น
“พาย แกทำอะไรแก ของแกร่วงเหรอ” ดาด้าถามด้วยความสงสัย
“ตุ้มหูเล็ก ๆ ที่แม่ฉันให้ไว้ก่อนตายอะดิมันหาย” ปวีนุชโกหก
“จริงเหรอ” ดาด้าแสดงความเป็นห่วง
“เอ่อจริงสิ...แต่ไม่เป็นไรด้า แกดูแลลูกค้าเถอะ ฉันหาของฉันเอง” เธอรีบโบกมือไล่เพื่อน แล้วแกล้งหาของที่พื้นต่อไป
ดาด้ารีบกลับไปประจำที่แคชเชียร์
ลายไม้ถามเสียงดังขึ้นที่เคาน์เตอร์
“น้องยาหม่อง ยาทาแก้ปวดอะไรแบบนี้ มีบ้างไหม”
“มีค่ะ อยู่แถว ๆ นั้นแหละค่ะ” ดาด้าชี้มือตรงไปยังชั้นที่ขายพวกยาและเครื่องสำอาง
เขารีบเดินไปตามมือ เห็นเขาหาอยู่นานไม่ได้ มธุรดารีบวิ่งออกไปจากเคาน์-เตอร์ ตรงไปช่วยไปร์ทหาให้
“คุณค่ะ เดี๋ยวฉันช่วยหาดูให้นะคะ”
“อุ้ย...เท้าไปโดนอะไรมาค่ะ ท่าทางบวมมาก ๆ แบบนี้ฉันว่าคุณไปหาหมอดีกว่านะคะ ดูท่าจะเจ็บมาก ๆ ท่าทางน่าเป็นห่วง” จังหวะที่ก้มลงไป ดาด้าเห็นหลังเท้าของเขาบวมแดงชัดเจน จึงเงยหน้ามองเขาด้วยความเป็นห่วงจริง ๆ
สายตาของลายไม้ส่ายส่องหาคนทำเรื่องที่ใส่เสื้อของร้านนี้ เธอต้องอยู่ในนี้แน่ ๆ
“นี่ค่ะ”เธอหยิบส่งให้ เขารับมันมาถือเอาไว้ แต่สายตาของเขากลับมองไปทั่ว ๆ ร้านเหมือนเดิม