บทนำ

874 คำ
“ส้มไว้ใจพี่ ให้พี่ได้ทุกอย่าง แล้วนี่คือสิ่งตอบแทนเหรอ?” “ส้มฟังพี่นะ...” “ฟัง? หลักฐานชัดขนาดนี้ เห็นเต็มสองตาว่าพี่หักหลังส้ม เหยียบย่ำความรักที่ส้มมีให้ด้วยการพาผู้หญิงคนอื่นมานอนในห้องของเรา นอกจากคำแก้ตัวโง่ ๆ แล้วจะให้ส้มฟังอะไรอีก?” “...” “พอกันที” “...” “เก็บของของพี่ออกไปให้หมด หลังจากนั้น...จะไปตายที่ไหนก็ไป” ‘น้ำส้ม’ มั่นใจมาตลอดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง ไม่เคยมีภาวะเปราะบางจากคำพูดหรือการกระทำของใครคนไหน ขนาดน้ำตาสักหยด เธอยังกักเก็บมันไว้ได้แม้ในยามสูญเสียยายไปเมื่อหลายปีก่อน เธอเกลียดการถูกสงสาร ไม่ชอบให้ถูกมองว่าเป็นคนอ่อนแอ ไม่ต้องการคำปลอบประโลมหรือการเอาใจใส่ที่เกินจำเป็นจากใคร ทว่าเมื่อนึกย้อนถึงวินาทีที่จับได้ว่าแฟนหนุ่มซึ่งคบหากันมานานหลายปีทำลายความไว้ใจที่เธอมีให้ด้วยการพาผู้หญิงมานอนในห้อง แม้อดีตแฟนจะหาข้ออ้างนับร้อยพันมาแก้ต่าง แต่ถุงยางอนามัยใช้แล้ว คราบสีขาวขุ่นบนผ้าปู และหญิงแปลกหน้าที่เปลือยไปทั้งตัว...ทั้งหมดนั้นก็ชัดเจนมากพอแล้วว่าอะไรเป็นอะไร ยืนยัน ย้ำเตือน และตอกย้ำความจริงว่าความสัมพันธ์ที่เธอประคับประคองด้วยความระมัดระวังมาโดยตลอดถูกทำลายจนไม่เหลือซาก น้ำตาที่แห้งเหือดมานานก็พลันไหลอาบแก้ม “พี่อยากมีลูกแฝดล่ะ เอาไว้วันไหนส้มว่างเราไปปรึกษาหมอกันนะ” ...วางแผนว่าจะแต่งงานกันปีหน้าแท้ ๆ ทั้งที่วาดฝันชีวิตคู่ไว้ซะดิบดี สุดท้ายแล้ว...ภาพอันสวยหรูก็ถูกทำลายด้วยน้ำมือคนมักมากไม่รู้จักพอ น้ำส้มรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา มีรักย่อมมีเลิก เธอเองก็ไม่ได้หวังว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้จะคงอยู่ตลอดไป ไม่ได้หวังให้ความรักที่อดีตแฟนมีให้จะมากมายมหาศาลในทุก ๆ วัน ก็ไม่ได้ต้องการให้มันวิเศษวิโสเหมือนนวนิยายที่เคยอ่าน แค่ไม่คิดว่าจุดจบมันจะเฮงซวยจนไม่น่าให้อภัยแบบนี้! “ไอ้ชาติหมา” ว่าแล้วเจ้าของชุดเดรสสั้นสีน้ำเงินแบบผ่าหลังก็สบถด่าอดีตแฟนด้วยความคับแค้นใจ ใช้มือปาดน้ำตาทิ้งแล้วยกแอลกอฮอล์ขึ้นดื่มหมดแก้วในคราวเดียว “ขออีกแก้วค่ะ” เพราะถูกความเสียใจหิ้วปีกมาที่ผับแห่งนี้ มีเหรอสามแก้วจะเพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้นน้ำส้มจึงสั่งแก้วที่สี่กับพนักงานซึ่งประจำอยู่ตรงเคาน์เตอร์ที่ตัวเธอนั่งอยู่ เมื่อของเหลวถูกเติมเต็มอีกครั้งมือเรียวบางก็คว้าหมับ เตรียมใช้ความขมปร่าดับความเจ็บปวดที่เกาะกินหัวใจ กะเมาแอ๋เป็นหมาอยู่ที่นี่ ทว่ายังไม่ทันได้ทำตามที่ใจต้องการ พลันมีมือปริศนาแย่งแก้วไปจากเธอโดยไม่บอกไม่กล่าว ครั้นเคลื่อนสายตามองตามทิศทางของการกระทำก็พบว่าเป็นผู้ชายคนหนึ่ง...ซึ่งไม่รู้ว่ามานั่งข้าง ๆ กันตั้งแต่เมื่อไหร่ ยังไงก็ตาม แม้ว่าฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะทำให้การมองเห็นเป็นปัญหา ทัศนียภาพพร่ามัวเกินกว่าจะพิจารณาอะไรสักอย่างได้โดยละเอียด แต่น่าแปลก...ที่น้ำส้มกลับเห็นความงดงามของชายชุดดำที่ปรากฏตัวอย่างเป็นปริศนาคนนี้ได้ชัดเจนทุกกระเบียดนิ้ว แม้แต่กลิ่นหอมสะอาดคละเคล้ากลิ่นบุหรี่จากตัวเขาที่แทบจะกลบกลิ่นเหล้านั่นก็ชวนให้หลงใหลอย่างน่าตกใจ “พอได้แล้ว ขืนดื่มอีกแก้วคงเมาหัวทิ่ม หัดประเมินตัวเองบ้าง” ขณะที่น้ำส้มซึ่งกำลังกรึ่มได้ที่กำลังจับจ้องผู้มาใหม่อย่างลืมตัว ถ้อยคำตำหนิจากเส้นเสียงทุ้มต่ำพลันดังขึ้น กระชากเธอออกจากภวังค์แห่งการเชยชม “ไม่ได้รู้จักกันแต่มาพูดแบบนี้ ไม่คิดว่ามันแปลกเหรอคะ หื้ม?” น้ำส้มยกมุมปากขึ้นจนปรากฏเป็นรอยยิ้มพราวเสน่ห์ ยิ้มทั้งที่ยังมีคราบน้ำตาจาง ๆ บนผิวแก้มแบบนั้นแหละ... ตัวเธอไม่ซีเรียสกับพฤติกรรมแปลกประหลาดของชายแปลกหน้านัก อาจด้วยเป็นสายปาร์ตี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร จึงพบเจอการเข้าหาของเพศตรงข้ามด้วยจุดประสงค์หวังเคลมมาแล้วทุกรูปแบบ แน่นอนว่าตลอดมา เธอให้การปฏิเสธอย่างเด็ดขาดเพราะมีแฟนเป็นตัวเป็นตัวเป็นตน ทว่าวันนี้...ในเมื่อไม่มีข้อจำกัดนั้นแล้ว ซ้ำผู้ชายคนนี้ยังหล่อมาก คุยด้วยสักหน่อยคงไม่เสียหาย “...” ชายเจ้าของกลิ่นหอมอันน่าหลงใหลอยากจะพูดอะไรสักอย่าง อยากบอกว่าตัวเองนั้นรู้จักเธอเป็นอย่างดี ทว่า... “นายโคตรหล่อเลยอะ มาคนเดียวใช่ไหม?” น้ำส้มดันเป็นฝ่ายสวนกลับด้วยคำถาม ซ้ำสายตาฉ่ำเยิ้มเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ยังจับจ้องเขาคล้ายนึกพิเรนทร์อะไรขึ้นมาได้ “ถามก็ตอบสิ” “ใช่ ฉันมาคนเดียว” “งั้น...มาเปิดห้องกันไหม?” ไหน ๆ ก็โสดแล้ว ขอหิ้วผู้ชายหล่อ ๆ ไป ‘แซ่บ’ ด้วยสักคืนก็แล้วกัน!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม