หลินหลินรีบกลับมาถึงคอนโดส่วนตัวอย่างเร็วเพราะอยากรู้ว่าเจ้าที่สุดหล่อของเธอยังอยู่หรือเปล่า
เธอค่อยๆ ย่องเข้ามาในห้องของตัวเองแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน
"หยางหยาง..." นั่นเป็นชื่อที่หลินหลินตั้งให้เจ้าที่เพื่อเพิ่มความเป็นกันเอง
"ยังอยู่หรือเปล่า" ใครจะว่าบ้าก็ช่างเถอะ ไม่เจอกับตัวเองไม่รู้หรอก
"หยางหยาง..." หลินหลินยังคงเรียกชื่อเจ้าที่ของเธอขณะมองหาไปทั่วห้อง
เงียบ...
ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ
ทะลุมิติกลับไปแล้วรึ?
เธอถามในใจขณะยังคงมองหาอย่างคาดหวังว่าเขาอาจจะยังอยู่
"หยาง...อุ๊บ"
จู่ๆหลินหลินก็รู้สึกเหมือนชนเข้ากับอะไรซักอย่าง
"อ้าว...ยังอยู่เรอะ" เธออุทานออกมาเมื่อรู้แล้วว่าชนเข้ากับชายหนุ่มแปลกประหลาดที่แอบมายืนอยู่ทางด้านหลังของเธอโดยที่เธอไม่รู้ตัว ก่อนบ่นออกไป "อย่าทำให้ตกใจได้มั้ย เฮ่อ!"
"แม่นาง..." ชายหนุ่มที่หลินหลินถือวิสาสะเรียกว่า หยางหยาง เอ่ยขึ้นอย่างสุภาพ
ทำให้หลินหลินต้องเปลี่ยนกิริยาเป็นสุภาพด้วยเช่นกัน
"ท่านยังอยู่อีกหรือ ยังหาทางกลับไปไม่ได้หรือ"
เธอถามหยางหยางของเธออย่างนึกห่วงใย
เธอห่วงเขาจริงๆนะ เขาเป็นเจ้าที่บ้านของเธอ
"ยัง..." ชายหนุ่มตอบแค่นั้น เขายังคงมีบุคลิกของผู้ชายเคร่งขรึมอย่างมีมาดของผู้มีอำนาจบารมี ถึงแม้ว่าสายตาคมเข้มของเขาจะยังคงบ่งบอกได้ว่าตึงเครียดอยู่อย่างมากมาย แต่ก็ไม่ได้ลดทอนความเป็นผู้สูงศักดิ์ที่เปล่งประกายออกมาจากเรือนร่างสูงสง่าของเขาได้เลย
ออร่าทิ่มตาเธอจริงๆ หลินหลินคิด
"ท่านอย่าคิดมาก ค่อยๆคิด ค่อยๆหาวิธี นะ" หลินหลินเอ่ยปลอบใจเจ้าที่ของเธอที่ชื่อหยางหยาง
"หิวมั้ย กินอะไรได้รึเปล่า วันนี้ทั้งวันอยู่แต่ในห้อง คงอึดอัดแย่" เธอต้องดูแลเจ้าที่ของเธอเป็นอย่างดี เธอรู้สึกภูมิใจจริงๆ นอกจากเกิดมาสวยแล้วยังมีเจ้าที่สุดหล่อทะลุมิติมาหา
หยางหยางของหลินหลินไม่ตอบรับหรือปฏิเสธสิ่งใด
เขาเพียงจ้องมองหญิงสาวอยู่นิ่งๆแบบไม่วางตาจากบนลงล่างและล่างขึ้นบน
เขามองไปทั่วร่างของหลินหลินด้วยสายตาคล้ายกับสงสัยเกี่ยวกับการแต่งกายของเธอ
วันนี้เธอแต่งตัวด้วยเสื้อยืดกางเกงยีนต์คลุมทับด้วยเสื้อหนังแขนยาวสีดำ
มันเป็นสไตล์เพื่อความคล่องตัว
"ไม่ต้องมองแบบนั้นเลย ท่านแต่งตัวประหลาดกว่าเยอะ" หลินหลินรู้ความหมายของสายตานั้นจึงตอบกลับไปอย่างไม่สะทกสะท้าน "คนที่นี่เขาก็แต่งตัวแบบนี้กันทั้งนั้น"
ชายหนุ่มมิได้กล่าวสิ่งใดอีกเช่นเคย
เขาเพียงมองทุกสิ่งทุกอย่างรวมถึงหญิงสาวตรงหน้าอย่างสำรวจอยู่ตลอดเวลา
เขาคงยังงงกับชีวิตของเธอหรือไม่ก็ของเขาเอง
หลินหลินมองชายหนุ่มตรงหน้าพลางคิดในใจอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน
เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน
หลินหลินที่ทำข้าวต้มเสร็จก็นำมันมาเสริฟลงบนโต๊ะให้แก่หยางหยางที่นั่งอยู่ตรงโซฟาด้านนอก
เธอทำข้าวต้มเพราะว่ามันง่ายที่สุดแล้วไม่มีเหตุผลอื่น
ไม่ว่าหลินหลินจะมองเจ้าที่ของเธออย่างไร ดูๆไปเขาก็ออกจะเหมือนคนทั่วไป เหมือนคนปกติมากๆ
ถ้าไม่ได้โผล่มาแบบผิดธรรมชาติอย่างนั้น...
เฮ้อ!
เอาเถอะหลินหลิน
อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
ชีวิตของเธอช่างตื่นเต้นเร้าใจซะจริง
หลินหลินคิดไปกินไปขณะเหม่อมองชายหนุ่มแปลกประหลาดไปพลางๆ
"เป็นอย่างไร ท่านกินได้ คือหมายถึงว่า ต้องกินเหมือนกับฉัน เอ้ย! ข้า ใช้หรือไม่"
หญิงสาวยังคงพูดจาด้วยภาษาจีนโบราณผิดๆถูกๆ
แต่เหมือนหยางหยางของเธอก็มีความพยายามอย่างดีที่จะทำความเข้าใจ ถึงแม้เขาจะไม่แสดงออกอะไรมากมาย แต่เธอก็คิดว่างั้น
"อืม...." เขาตอบแค่นั้นด้วยมาดนิ่งๆน่ายำเกรงอยู่ตลอดเวลา ท่าทางของเขากำลังระวังตัว
เธอคงดูอันตรายมากๆสำหรับเขา
บ้าไปแล้ว!
เธอต้องเป็นฝ่ายกลัวเขาสิ
แต่ก็ดี!
เขาเป็นฝ่ายกลัวเธอนั่นแหล่ะดี
หลินหลินคุยกับตัวเองอยู่ในใจ
หวังว่าเขาคงไม่รู้ถึงความคิดของเธอหรอกนะ
"ท่าน..."
หลินหลินเอ่ยเรียกพลางมองชายหนุ่มที่กำลังมีความพยายามอย่างมากที่จะกินข้าวต้มฝีมือของเธอ
"อยากไปท่องยุทธภพหรือไม่"
เธอหมายถึงจะพาเขาเที่ยวชมเมืองของที่นี่
"เผื่อว่า เอ่อ..." หญิงสาวพูดอย่างระมัดระวัง
"ท่านอยากจะปรับตัว อย่างน้อย จะได้รู้สึกดีขึ้น"
เธอช่างเป็นเจ้าบ้านที่ดีเหลือเกิน
"อย่าเลย... แม่นาง"
หยางหยางตอบอย่างระมัดระวังและแคลงใจอยู่ตลอดเวลาด้วยมาดคล้ายรูปปั้นหายากแบบเสมอต้นเสมอปลาย
"เอ่อ...แล้วท่านต้องนอนหลับหรือไม่ ต้องหลับเหมือนกันหรือเปล่า?"
หลินหลินยังคงพยายามยอมรับเพื่อที่จะพาเขาปรับตัว
ท่าทางของเขาเหมือนจะหลงยุคมาจริงๆ เธอรู้สึกเป็นห่วงอย่างไม่รู้สาเหตุ
เธอต้องอยู่คนเดียวมาโดยตลอดในโลกของเธอ
แต่เขา...
ต้องมาอยู่คนเดียวในโลกที่ไม่รู้จัก
จู่ๆเธอก็คิดอย่างนั้น ไม่รู้ทำไม
เฮ่อ!
หลินหลินเอ้ย!
เธอก็เป็นคนดีเหมือนกันนะเนี่ย
เวลาผ่านไปอีกครู่ใหญ่จนหลินหลินคิดว่าอาหารมื้อนี้ช่างใช้เวลากินได้ยาวนานมากมายเหลือเกิน
นี่แค่ข้าวต้มนะ ถ้าเป็นอาหารจัดเต็มคงต้องใช้เวลากินกันทั้งคืนเลยมั้ง
"ท่าน...อร่อยหรือไม่ ข้าหมายถึง รสชาติดีหรือไม่" หลินหลินยังคงชวนหยางหยางคุย ถ้าไม่คุยก็คงอึดอัดน่าดู
เพราะท่าทางของเขาช่างมีมาดที่นิ่งได้อย่างไร้ที่ติจริงๆ
ปกติเธอมักอยู่คนเดียว ไม่ค่อยมีใครให้คุยด้วยและเธอเองก็ไม่ค่อยอยากจะคุยกับใคร เพราะหลายๆคนเข้ามาคุยกับเธอก็เพื่อหวังผลประโยชน์
มีอยู่ครั้งหนึ่งเคยมีผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้รับบทเป็นตัวประกอบของละครที่เธอรับเล่น เข้ามาคุยมาตีสนิทกับเธอโดยมีอีกคนแอบถ่ายรูปอยู่
สองวันถัดมาตัวประกอบคนนั้นก็มีไมค์มาจ่อปากเลยค่ะ เพราะเธออัพรูปโปรไฟล์ว่าเป็นเพื่อนสนิทกับหลินหลิน
ซึ่งตัวของหลินหลินนั้นเป็นที่ทราบกันว่าทั้งหยิ่งทั้งอีโก้สูง คนที่เป็นเพื่อนกับเธอย่อมไม่ธรรมดา ประมาณนั้น
และทุกวันนี้เธอคนนั้นก็ขยับฐานะจากตัวประกอบเป็นเพื่อนนางเอกจ้า ได้ว่าจ้างออกอีเว้นท์คู่กับเธอด้วยนะ
เลิศมาก! สุดยอด...
เฮ่อ!
คุยคนเดียวจนเหนื่อยอีกแล้วหลินหลิน...
และแล้วค่ำคืนแห่งความทรมานก็มาถึง
หลินหลินและหยางหยางต่างก็ต้องนั่งถ่างตามองกันและกันอย่างระแวดระวังเหมือนเช่นเดิม
เธอไม่กล้านอนหรอก
ถึงนอนก็นอนไม่หลับ
เขาเองก็คงเหมือนกัน
ดีนะที่พรุ่งนี้ไม่มีงานอะไร ไม่อย่างนั้นคงตาบวมหมดสวยไปทำงานแน่ๆ ไหนจะต้องไปเรียนอีก
จริงด้วยพรุ่งนี้มีเรียนตอนบ่าย
ไม่ได้! ไม่ได้! ต้องนอน ต้องนอน
"ท่าน...เอ่อ..." หลินหลินคิดได้ดังนั้นจึงเริ่มต้นบทสนทนาอีกครั้ง
"ท่านง่วงนอนหรือไม่" เธอคิดประโยคที่เหมาะสมได้เท่านี้แหล่ะ จะฟังเข้าใจมั้ยนั่น
"เจ้าอยากนอนหรือ" หยางหยางถามออกมาในขณะที่ยังคงนั่งนิ่งๆเป็นรูปปั้นที่หาได้ยากยิ่งเหมือนเดิม
เขาเพียงนั่งกอดอกนิ่งๆด้วยมาดทรงพลังน่าหวาดหวั่นอยู่ตรงโซฟาห่างออกไปจากหลินหลิน
หญิงสาวรีบพยักหน้าหงึกๆ
นอกจากอยากนอนแล้ว อยากอาบน้ำด้วย หวังว่าเขาคงไม่ไปโผล่ในอ่างอาบน้ำอีกหรอกนะ
จริงสิ
แล้วเขาต้องอาบน้ำหรือเปล่า
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้แล้ว หลินหลินก็ถึงกับหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา
ฉากอาบน้ำเมื่อวานระหว่างเธอกับเขา
เธอยังคงจดจำได้ดี เขาเห็นของเธอหมดเลยนะนั่น
ไม่เคยมีใครมีสิทธิ์ที่ได้เห็นซุปตาร์แก้ผ้าหมดเปลือกอย่างนั้นหรอกนะ
ไม่เอา ไม่เอา
ไม่หลับแล้ว
ไม่อาบน้ำด้วย
ให้ตายเถอะ!
เธอคงต้องใช้เวลาอีกนานสำหรับการยอมรับและปรับตัวกับหยางหยางของเธอ
จริงๆ