ปึก!! เสียงแก้วน้ำกระแทกลงบนโต๊ะกระจกอย่างแรงตามอารมณ์หงุดหงิดภายในใจ เสียงเพลงดังกระหึ่มภายในผับดังขนาดไหนก็ไม่สามารถ ทำให้โรมละความสนใจจากความคิดที่ตีรวนกันอยู่ในสมองได้ในขนาดนี้
“เป็นเชี้ยไรวะ” เวย์เพื่อนในกลุ่มเอ่ยถามโรมเมื่อเห็นคิ้วเข้มขมวดกันเป็นปมตั้งแต่เดินเข้ามาภายในผับของภูผา แถมยังนั่งเงียบยกแต่แก้วเหล้าสีอำพรางขึ้นดื่มเหมือนเพื่อนที่กำลังนั่งดื่มเป็นธาตุอากาศ
“เปล่า”
“ปรึกษาพวกกูได้นะเว้ย” ภูผาเอ่ยพูดขึ้นมา ภูผาเองก็เป็นห่วงโรมไม่น้อยและแน่ใจจนสามารถฟันธงได้ว่าโรมต้องเครียดเรื่องแม่สาวน้อยชุดนักศึกษาที่เป็นเพื่อนรักของเมียเขาแน่
“ไม่มีอะไร”
“งั้นกูขอเสือกหน่อยเถอะวะ” เสือหนุ่มเจ้าชู้ประจำกลุ่มเอ่ยถามโรมขึ้นมา หลังจากที่นั่งมองพฤติกรรมของเพื่อนรักอยู่นานเช่นกัน
“อะไร?”
“กับแม่สาวน้อยคนสวยที่มึงฉุดแขนน้องเขาออกจากมหาลัยวันนั้นเป็นอะไรกันวะ?”
“.........” ไม่มีเสียงตอบรับจากโรม เขาเงยหน้าจากแก้วเหล้าขึ้นมามองหน้าเพื่อนรักทั้งสามที่นั่งนิ่งเหมือนกำลังรอคำตอบจากเขาอยู่ ซึ่งเรื่องที่เขามีความรักเพื่อนในกลุ่มไม่มีใครรู้ สักคน ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้เขาไม่อยากบอกหรือปิดบังแต่เพียงแค่ไม่มีโอกาสเท่านั้น
“เฮ้อ!!เมียกูเอง” เพราะไม่อยากปิดบังเพื่อนทั้งสามอีกต่อไป เขาจึงถอนหายใจอย่างปลงตกและตอบคำถามที่เพื่อนอยากรู้
“เชี้ย/มึงไปมีเมียตั้งแต่เมื่อไร/กูว่าแล้ว” สามหนุ่มสบถขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย หันไปมองหน้าโรมคอแทบเคล็ด
“มึงไปมีเมียตั้งแต่เมื่อไรไอ้โรม ทำไมพวกกูไม่รู้” เวย์ที่ดูเหมือนอยากรู้ต่อ เขาจึงเอ่ยถามโรมออกไปโดยมีภูผาและเสือก็นั่งฟังเงียบ ๆ อย่างตั้งใจร่วมถึงแปลกใจไม่น้อยที่คนอย่างโรม ชายหนุ่มที่ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนมาก่อนในชีวิตกลับมีเมียโดยที่พวกเขาไม่เคยทราบมาก่อน
“ตั้งแต่เรียนจบ”
“มึงมีปัญหาอะไรกับน้องเขาวะ กูถามจริงเถอะ” ในวันที่เวย์เห็นโรมกับสาวน้อยคนนั้นในรั้วมหาลัยของเขา ด้วยความค้างคาใจของเวย์ที่เห็นการกระทำของโรมที่ปฏิบัติต่อสาวน้อยที่ขึ้นชื่อว่าเมียเหมือนกำลังโกรธอะไรเธอสักอย่าง
“กูเกลียดที่เธอฆ่าลูกกู”
“ไอ้เชี้ย / ไอ้เชี้ย / ไอ้เชี้ย” เพื่อนรักทั้งสามของโรมอุทานพร้อมกัน เมื่อได้ยินประโยคที่โรมเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างเบา ๆ ตาดุที่มักจะทำให้คนอื่นกลัวในความโหดของเขาแฝงไปด้วยความเสียใจจนเพื่อนรักทั้งสามสัมผัสได้
“ผู้หญิงที่กูรัก เธอไม่อยากอุ้มท้องลูกของกู เธอกินยาขับเลือดได้อย่างหน้าตาเฉย”
“มึงเคยลองคุยกับน้องเขารึเปล่าวะ? ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงทำแบบนั้น” คำถามของภูผาได้คำตอบ เป็นความเงียบโรมส่ายหัวเบา ๆ เป็นเชิงปฏิเสธ ตั้งแต่วันที่รู้ว่าเธอกินยานรกนั้น เขาไม่เคยถามหาเหตุผลหรือฟังเธออธิบายเลยสักครั้งเพราะไม่อยากรับผลเหตุที่อาจทำให้เขาเจ็บปวดได้อีก
“ทำไมมึงไม่ลองคุยดี ๆ กับน้องเขาวะ”
“คุยแล้วได้อะไรขึ้นมาวะ”
“ไอ้โรมคนเรามีเหตุผลเป็นของตัวเอง”
“เธอก็บอกว่าเธอไม่ได้ทำ ไม่ได้ตั้งใจ ไม่รู้ว่ามียานรกอยู่ในแก้วนั้น พวกมึงจะให้กูเชื่อได้ยังไงวะ” อารมณ์ขุ่นเคืองเมื่อโรมได้กลับมาพูดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา
ความเจ็บจนจุกทำให้เขาไม่สามารถยั้งอารมณ์กรุ่นโกรธของตัวเองได้ นี่เป็นสาเหตุที่เขาไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีกและไม่อยากหาเหตุผลจากผู้หญิงเลือดเย็นอย่างจันทร์เจ้าให้มากความ
“ไอ้โรมใจดีสิวะ”
“เลิกพูดเรื่องนี่สักทีเถอะว่ะ กูไม่อยากนึกถึง” ชายหนุ่มไม่อยากนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่พรากความรักอันหวานชื่นของเขาและเธออีก เพียงแค่นึกถึงความเจ็บปวดรวดร้าวก็เข้ามาทักทายจนแทบไม่อยากรื้อฟื้นหาเหตุผลและความจริง
“แม่ง!!เกลียดเขาไม่ปล่อยน้องเขาไปวะ”
“กูต้องปล่อยให้ผู้หญิงแบบนั้นไปมีความสุข ทั้งที่กูจมอยู่กับความทุกข์งั้นเหรอ”
“กูว่ามึงควรตั้งสติก่อน”
“ผู้หญิงอย่างจันทร์เจ้าไม่ควรมีความสุข”
“ที่มึงพูดออกมา กูรู้ว่ามึงรักน้องจันทร์เจ้ามาก” คำพูดของเสือทำให้โรมถึงกับชะงัก ใช่!!เขารักผู้หญิงอย่างจันทร์เจ้าถึงแม้ว่าเธอจะทำให้เขาเจ็บปวดเพียงใดก็ตาม แต่เขาไม่สามารถหยุดรักเธอได้เลย ยิ่งรักมากอารมณ์โกรธยิ่งมากขึ้นเท่าตัว
“น้องจันทร์เจ้าทิ้งมาเมื่อไรกูจะสมน้ำหน้าให้”
“......” ตาดุจ้องมองใบหน้าของภูผาที่ดูจะพูดไม่เข้าหูของเขาอย่างแรง จันทร์เจ้าไม่มีสิทธิ์ทิ้งเขาได้เขาไม่ปล่อยชีวิตของเธอไป เธอก็เหมือนลูกไก่ในกำมือของเขาในตอนนี้
“อ้าว!!อยากมองหน้ากูแบบนั้นครับ กูพูดความจริง เมียมึงฮอตจะตายมึงไม่รู้เหรอ”
“ร่านสิไม่ว่า”
“ไอ้โรม กูว่ามึงพูดแรงเกินไป” คำพูดของโรมที่เปล่งออกมา ทำให้เวย์ที่นั่งรับฟังบทสนทนาระหว่างภูผาและโรมถึงกับเอ่ยตักเตือน เมื่อเพื่อนรักพูดถึงเมียในทางเสียหาย
“กูพูดจริง”
“แต่กูรู้ว่ามึงไม่ได้รู้สึกแบบนั้น”
“ไอ้เชี้ย!!มึงจะรู้ใจกูดีกว่าตัวกูได้ยังไงวะ” เสียงเอะอะโวยวายของโรม ตะคอกใส่เพื่อนรักของตัวเอง ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้ความยับยั้งช่างใจของโรมหายไป จากคนที่นิ่งเงียบตอนนี้เขาเริ่มแสดงออกถึงความไม่พอใจผ่านสีหน้าท่าทางของตัวเอง
“สวัสดีค่ะ พี่โรม” เสียงหวานของหญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยทักทายโรมระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังสนทนากับเพื่อนด้วยใบหน้าที่หงุดหงิด ดึงความสนใจของชายหนุ่มทั้งสี่ที่นั่งสนทนากันอย่างดุเดือด ให้หันไปมองหญิงสาวที่กำลังเดินเข้ามาในวงสนทนา หญิงสาวคนหนึ่งที่มีบุคคลเรียบร้อยทั้งการแต่งตัวและคำพูดที่แสนอ่อนหวานเดินเข้ามาทักทายโรม
“ครับ”
“พี่โรมมาเที่ยวไม่ชวนรินเลยนะคะ”
“พี่ไม่คิดว่ารินจะมาเที่ยวที่แบบนี้ด้วย” โรมตอบกลับลูกพี่ลูกน้องของตัวเองกลับไป ด้วยใบหน้านิ่งตามแบบฉบับของเขา ร่างบางยิ้มเจื่อนเมื่อเจอคำถามของโรม
“พอดีเพื่อนชวนมาฉลองวันเกิดค่ะ”
“ครับ”
“พี่โรมเมารึเปล่าคะ รินไม่ได้ดื่ม รินไปส่งพี่ได้นะคะ”
“ไม่เป็นไร ไปอยู่กับเพื่อนเถอะ”
“ค่ะ” ร่างบางเดินออกจากกลุ่มของโรมด้วยใบหน้ายิ้มหวานแต่พอร่างบางเดินหันกลับไป ใบหน้าหวานแปรเปลี่ยนเป็นหงุดหงิดเมื่อถูกชายหนุ่มไล่ให้กลับไปหาเพื่อนด้วยน้ำเสียงนิ่ง
“กูว่าลูกพี่ลูกน้องมึงคนนี้ดูแปลก ๆ นะไอ้โรม” เสียงเอ่ยเตือนของเสือพูดขึ้นเมื่อเขาสังเกตเห็นสายตาที่แฝงไปด้วยความต้องการบางอย่างในแววตาใสซื่อคู่นั้น
“มึงจ้องจะงาบเหรอไอ้เสือ”
“ไม่โว้ย กูขอบาย กูรู้สึกสังหรณ์ใจแปลก ๆ”