ภายในความมืดมิดมีเสียงระเบิดจากภายนอกที่ไหนสักแห่งพร้อมกับภาพที่ปรากฏขึ้นบนจอ
มีเสียงร้องตะโกนของผู้ชายคนหนึ่งกำลังตะโกนพูดอะไรบางอย่างเสียงดังอยู่อย่างเร่งรีบ
จากนั้นภาพนั้นก็แตกสลายหายไป แล้วปรากฏภาพของร่างๆหนึ่งกำลังนอนแนบนิ่งอยู่บนเตียงโดยไร้ซึ่งการขยับเคลื่อน ไหวตอบสนองใดๆ
มีมือมือหนึ่งของใครบางคนกำลังจับกุมมือข้างหนึ่งของคนที่กำลังนอนแนบนิ่งอยู่บนเตียงแบบนั้น
หลังจากนั้นภาพก็ถูกตัดจางหายไป กลายเป็นเห็นภาพผู้ชายคนหนึ่งซึ่งใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงกับผู้ชายในเหตุการณ์ภาพแรก แต่ดูหนุ่มและเด็กกว่า เขากำลังสวมชุดเหมือนคนเดินป่าพร้อมกับหันหลังส่งยิ้มให้อยู่
นิ้วชี้ของผู้ชายคนนั้นชี้ไปยังจุดๆหนึ่งใต้ต้นไม้ใหญ่ในขณะที่เขาคนนั้นกำลังจูงมือเล็กๆมือหนึ่งอยู่ ซึ่งมือนั้นดูเหมือนเป็นมือของเด็กคนหนึ่ง
ผู้ชายคนนั้นกำลังพาเดินเข้าไปดูที่หลังต้นไม้ใหญ่ต้นนั้น
ภาพที่ปรากฏอยู่ด้านหลังของต้นไม้ใหญ่นั้นก็คือ ทางราบชันที่มีหลุมลึกอยู่ปลายทางและมีทางเข้าเหมือนกับถ้ำข้างใต้นั้น
เสียงทุ่มๆอ่อนนุ่มและฟังดูอบอุ่น ค่อยๆดังออกมาจากผู้ชายคนนั้น
“ ถ้ามาที่นี่ ให้ระวังหลังต้นไม้ต้นนี้ไว้นะ มันมีทางราบชัน ลูกอาจจะกลิ้งตกลงไปได้ และหลุมมันก็ลึกมากในระดับหนึ่งเลย ยิ่งเป็นเด็กอย่างลูกนะปืนขึ้นมาไม่ได้หรอก ”
เมื่อเสียงพูดนั้นจบลง ภาพก็แตกสลายหายไปกลายเป็นฝุ่นแสงชิ้นเล็กๆไป แล้วค่อยๆปรากฏภาพสถานที่เหมือนห้องทดลองอะไรบางอย่างจางๆขึ้นมาแทนที่
ผู้ชายคนเดิมกำลังยิ้มกว้างอย่างอ่อนโยนซึ่งรอยยิ้มนั้นช่างดูอบอุ่นมากๆ
สายตาของผู้ชายคนนั้นช่างดูเต็มเปี่ยมไปด้วยประกายแห่งความสุข จากนั้นเสียงทุ่มๆนุ่มนวลและอบอุ่นก็ออกมาจากปากของเขา
“ พ่อฝากด้วยนะ.. ”
จบคำพูดนั้นอยู่ๆภาพของผู้ชายคนนั้นก็กลายเป็นแสงสลายหายไปพร้อมกับรอยยิ้มนั้น
ทันใดนั้น พื้นที่โดยรอบๆก็กลายเป็นสีดำมืดสนิท
มีเด็กคนหนึ่งกำลังวิ่งนำอยู่ด้านหน้าของเด็กอีกคนพร้อมรอยยิ้ม
เด็กทั้งคู่กำลังปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างสดใส
ในมือของเด็กคนซึ่งกำลังวิ่งนำอยู่ด้านหน้าสะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่และกำลังกอดอะไรบางสิ่งไว้อยู่
อยู่ๆทันใดนั้นภาพของเด็กคนนั้นก็แตกออกเหมือนกับกระจกแก้วพร้อมกับเสียงกรีดร้องดังลั่นตามมา
ภาพที่แตกออกอยู่ๆก็รวมตัวกันเป็นภาพร่างเล็กๆร่างหนึ่งนอนแนบนิ่งอยู่และไม่เคลื่อนไหว หลังจากนั้นภาพเหล่านั้นก็มีรอยร้าวขึ้น ทีละนิดทีละนิด แล้วมันก็แตกออกเสียงดังเพล้งอีกครั้ง กลายเป็นฝุ่นผงสลายหายไป
อยู่ๆความมืดและแสงแปลกๆรวมถึงเศษแสงละเอียดๆทุกอย่างโดยรอบก็บิดเบี้ยวไปมาจนน่ามึนหัว
หลังจากนั้นไม่นานนัก ก็ค่อยๆปรากฏ ดวงตาสีอำพันที่ไร้ประกายแสงดั่งคนไร้วิญญาณและเหมือนกำลังเหม่อลอยอยู่เกือบตลอดเวลา พร้อมกับร่างของชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งคนหนึ่งที่มีผมสีดำแซมสีแดงเหมือนเมื่อคราวก่อนในความฝัน
เขาคนนั้นกำลังเดินช้าๆอยู่ในความมืด ใบหน้าของชายหนุ่มคนนั้นสามารถเห็นได้ชัดเจน พร้อมกับมีเสียงบางอย่างดังก้องเบาๆรอบตัว
“ ต้องจำไว้..จดจำใบหน้านี้ไว้ให้ชัดเจน... จำไว้.. และเฝ้าภาวนาว่า.. สักวันหนึ่งเราคงมีโอกาสได้พบกันอีกครั้ง..
ต้องจำไว้.. จดใบหน้าทั้งสองใบของคนๆนั้นไว้ให้ดี.. ห้ามลืมใบหน้าทั้งสองใบนี้เด็ดขาด.. ห้ามลืม.. ห้ามลืม..
ต้องห้ามลืมเด็ดขาด.. เผื่อสักวันคำภาวนาอธิฐานนั้นจะเป็นจริง.. ดังนั้น..จะต้องไม่ลืมใบหน้าทั้งสองใบนี้เด็ดขาด..
ใบหน้าของคนสำคัญ..ใบหน้าของคนที่รัก..รัก..รักมาก.. รักสุดหัวใจ.. ”
เสียงเบาๆและคำพูดเหล่านั้นยังคงดังก้องซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุดในขณะที่ภาพใบหน้าที่ชัดเจนของชายคนนั้นกำลังยืนมองอะไรสักอย่างอย่างเหม่อลอย
อยู่ๆก็มีภาพใบหน้าอีกใบซ้อนทับขึ้นมาจางๆแล้วหายไปกลับเป็นภาพใบหน้าของชายคนนั้นอย่างชัดเจนอีกครั้ง
เสียงฝีเท้าของใครบางคนวิ่งมาจากไกลๆดังขึ้นเรื่อยๆในความมืดมิด
มือๆหนึ่งกำลังพยายามเอื้อมไปหาชายหนุ่มคนนั้น แต่ภาพของชายหนุ่มคนนั้นกลับยิ่งถอยห่างออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ
ชายหนุ่มคนนั้นเริ่มหันหลังไปอีกทางและค่อยๆก้าวเดินห่างออกไปด้วยตัวเอง
“ ไม่นะ! อย่าพึ่งไป! กลับมา! กลับมาก่อน! กลับมา!! ”
เสียงฝีเท้าของคนที่เรียกนั้นยิ่งวิ่งเร็วขึ้นและเร็วขึ้นอย่างไม่ยอมหยุดและไม่ยอมลดละความพยายาม
เสียงฝีเท้านั้นดังขึ้นและเร็วขึ้นอีกเรื่อยๆเหมือนกำลังพยายามวิ่งไล่ตามชายหนุ่มเบื้องหน้าที่กำลังเดินออกไปอย่างช้าๆให้ทัน
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว แต่ไม่ว่าจะวิ่งเร็วสักเท่าไหร่เพื่อไล่ตามก็ดูจะไม่ใกล้ขึ้นเลยแม้ว่าชายหนุ่มคนนั้นเพียงแค่เดินช้าๆอยู่เท่าไหร่ มีแต่กลับยิ่งดูไกลขึ้นและไกลขึ้นเรื่อยๆ
ภาพของชายคนนั้นที่กำลังเดินอยู่อย่างช้า อยู่ๆก็แตกสลายหายไปในความมืด
อยู่ๆก็เกิดแรงสั่นสะเทือนโดยรอบพร้อมกับเสียงของใครบางคนกำลังเรียกอยู่
“ ใคร?.. ใครนะ?.. เสียงใคร?.. เสียงของใครกัน?.. หืม?.. กำลังเรียกใครอยู่?.. เรียกใครกันนะ..เรียกใครกัน?.. ”