พ่อปลาไหลตัวพ่อ (50%)

1817 คำ
คล้อยหลังแม่กวางน้อยแสนสวยและยั่วน้ำลายจนน่าขย้ำ คนที่หายง่วงเป็นปลิดทิ้งก็รีบเลื่อนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเพื่อนรักออกแล้วหย่อนสะโพกลงไปนั่งทันที “เธอเป็นใครวะ ไอ้มาร์ส” เอ่ยซักไซ้เพื่อนรักด้วยท่าทางกระตือรือร้นจนน่าหมั่นไส้ นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มจ้องใบหน้าของอีกฝ่ายเพื่อรอเอาคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ เพราะไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนสามารถทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงได้มากเท่านี้มาก่อน อีกอย่างเขาก็รู้เฉพาะชื่อของเธอ “เธอชื่อมัลลิกา เรืองวัฒนา เป็นพนักงานใหม่ที่เพิ่งมาทำงานที่นี่” มาร์โบโลบอกเพื่อนด้วยท่าทีแสนสบาย ไม่ได้ส่อพิรุธออกมาให้คนที่กำลังหรี่ตามองจับผิดได้ ทำให้แอรอนมั่นใจได้ว่าแม่กวางน้อยของเขาไม่ใช่อีหนูที่เพื่อนรักแอบเลี้ยงไว้อย่างแน่นอน “คนนี้แหละว่ะ” อยู่ๆ แอรอนก็โพล่งขึ้นมาซะดื้อๆ ทำเอาคนฟังทำหน้าฉงน และท่าทางหมายมาดก็ทำให้มาร์โบโลชักงวยงงเข้าไปใหญ่ “อะไรของแกวะ ไอ้แอรอน อยู่ๆ ก็โพล่งออกมา ฉันงงไปหมดแล้วนะโว้ย” คนถามตีหน้ายุ่ง “ฉันจะเอาเธอทำเมียและแม่ของลูก” คำบอกกล่าวของเพื่อนรักทำเอาคนฟังถึงกับตาถลน ไม่อยากจะเชื่อว่าไอ้พ่อปลาไหลมันจะคิดถึงการมีลูกมีเมียมากไปกว่าการฟาดผู้หญิงสวยๆ ไม่ซ้ำหน้าไปวันๆ “เฮ้ย…แกจะบ้าหรือไงวะ เขาก็บอกแล้วไงว่าเขามีลูกแล้ว” มาร์โบโลรีบเอ่ยเตือนสติและห้ามปรามในที เพราะไม่อยากให้คนดีๆ อย่างมัลลิกาต้องมาพลาดท่าเสียทีให้ไอ้หนุ่มกะล่อนอย่างเพื่อนรัก ลองมันได้หมายตาแล้ว รายไหนรายนั้น ไม่มีรอดเงื้อมมือ “แต่เธอไม่ได้บอกสักหน่อยว่ามีสามี” แอรอนย้อนกลับด้วยท่าทางมั่นอกมั่นใจ เขาเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเองว่าแม่กวางน้อยของเขามีแค่ลูก แต่ไร้เงาของสามี “ถ้ามีลูกแล้ว ก็แสดงว่าต้องมีสามีสิวะ” เจ้าพ่อแห่งท้องทะเลบอลติกยกเหตุผลที่ดูมีน้ำหนักมากที่สุดขึ้นมาเอ่ยค้าน แต่ดูเหมือนว่าพ่อหนุ่มมาดทะเล้นจะไม่แยแส “แต่ฉันมั่นใจว่าตอนนี้เธอไม่มีสามี” แอรอนยังคงยืนยันคำเดิมด้วยน้ำเสียงหนักแน่น จนคนฟังต้องส่ายหัวและพ่นลมหายใจออกมาอย่างหน่ายๆ “อย่าทำเป็นเล่นไปนะโว้ย ไม่งั้นฉันเอาแกตายแน่” หลังจากที่เริ่มคิดได้ว่าเขาควรจะปกป้องมัลลิกาจากเพลย์บอยตัวเอ้อย่างแอรอน มอร์แกน มาร์โบโลก็เริ่มขึ้นเสียงสูงปรามเอาไว้ “ทำไมแกต้องปกป้องเธอขนาดนั้นด้วยวะ หรือว่าที่จริงแล้วเธอคืออีหนูที่แกแอบเลี้ยงเอาไว้ ฉันจะได้คาบข่าวไปบอกคุณน้ำ” ทำเสียงไม่พอใจแต่แววตากลับท้าทายชวนให้หมั่นไส้ “ไอ้เพื่อนเวร หาเรื่องปวดกบาลมาให้ฉันแล้วไหมล่ะ” มาร์โบโลตะเบ็งเสียงก่นด่าด้วยความโมโหจัด พลางยกที่ทับกระดาษขึ้นหมายจะขว้างใส่หน้ากวนประสาทให้แตกยับ แต่ก็ต้องยั้งใจเอาไว้ก่อน “แล้วทำไมแกต้องทำท่าหวงว่าที่เมียฉันด้วยวะ” แอรอนซักไซ้ด้วยความสงสัยไม่หาย แต่คนฟังชักหมั่นไส้กับวาจาทึกทักว่ามัลลิกาเป็นของมัน “เธอเคยช่วยชีวิตเมียและลูกฉันไว้ เมื่อครั้งที่คุณน้ำเขาโดนยิง ฉันก็เลยจะชวนเขาไปกินข้าวที่บ้านก็แค่นั้น” หลังจากกระแทกลมหายใจหน่วงหนักออกมา มาร์โบโลก็อธิบายให้เพื่อนฟังถึงสาเหตุที่เขาต้องทำเป็นเหมือนปกป้องมัลลิกา “อื้ม…จิตใจงามแบบนี้ เหมาะจะเป็นแม่ของลูกที่สุด” หลังจากลูบปลายคางบึกบึนและทำหน้าครุ่นคิด แอรอนก็พยักหน้าหงึกหงัก พร้อมวาจาหมายมาดชนิดที่คนฟังต้องอ้าปากค้าง “เจอกันแค่แป๊บเดียว เธอทำให้แกเป็นบ้าได้ขนาดนี้เลยเหรอวะ ไอ้แอรอน” มาร์โบโลครางในลำคอ พลางมองใบหน้าของเพื่อนอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่หูทั้งสองข้างของตัวเองได้ยินเมื่อสักครู่ “ก็ไม่เชิงหรอกว่ะ” เจ้าพ่อแห่งวงการบิ๊กไบค์ไหวไหล่ทรงพลัง ทว่ายังไม่พร้อมที่จะสาธยายเรื่องราวทั้งหมดให้อีกฝ่ายฟัง  “งั้นมันก็ต้องมีอะไรมากกว่านั้น” แค่มองแววตาของเพื่อนซี้ มาร์โบโลก็รู้ว่ามันไม่ใช่แค่ต้องการเรือนร่างของแม่สาวน้อยที่เพิ่งจากไปอย่างแน่นอน คำพูดที่เหมือนมานั่งในใจทำให้แอรอนต้องรีบเบิกมือห้าม “เอาไว้ฉันจะเล่าให้แกฟังทีหลังก็แล้วกัน” ปฏิเสธเพื่อนรักที่ทำท่าเหมือนอยากจะรู้เรื่องระหว่างเขากับมัลลิกาเสียเต็มประดา ซึ่งมาร์โบโลก็ทำเพียงยักไหล่กว้าง ไม่ได้เซ้าซี้อะไรมากไปกว่านั้น “เออ…แล้วเธอจะไปบ้านแกวันไหนวะ” เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อสักครู่เพื่อนรักนัดเธอไปกินข้าวด้วยที่บ้าน พ่อหนุ่มกะล่อนก็ไม่รอช้าที่จะหาโอกาสไปสานสัมพันธ์กับแม่กวางน้อย “ถามทำไมวะ?” คนฟังทำหน้างง “ตอบมาเถอะน่า” ทำท่ารำคาญที่เจ้าของห้องมองเขาราวกับกำลังจับผิด แอรอนเลี่ยงไม่ตอบคำถามโดยการคาดคั้นเอาความจริงจากปากของเพื่อนรักแทน “ฉันนัดเธอที่บ้านในเที่ยงวันเสาร์” มาร์โบโลบอกไปตามความเป็นจริง เพราะการนัดมัลลิกาไปทานข้าวที่บ้านไม่ได้เป็นความลับอะไร “งั้นฉันจะไปบ้านแกในเที่ยงวันเสาร์นะ ฝากบอกเมียแกทำกับข้าวอร่อยๆ เผื่อฉันด้วยล่ะ” เพียงเสี้ยววินาทีแอรอนก็ตัดสินใจที่จะเป็นฝ่ายรุกหญิงสาวอย่างเต็มรูปแบบ หากจะจดทะเบียนสมรสกับใครสักคน เพื่อไปยืนยันกับคุณย่าว่าเขาเป็นฝั่งเป็นฝา มัลลิกานี่แหละเหมาะจะเป็นเมียของเขามากที่สุด “แกจะไปทำไมวะ” คนรู้เท่าทันเพื่อนรีบถามไถ่ เพราะรู้ดีว่าคนอย่างแอรอนคงไม่ใช่แค่ไปกินข้าวบ้านเขาอย่างเดียวแน่นอน มันต้องมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงอยู่ด้วย “เอ้า ไอ้นี่ถามได้ ฉันก็จะไปทำความรู้จักกับว่าที่เมียของฉันให้มากขึ้นน่ะสิวะ” พ่อหนุ่มกะล่อนมากเล่ห์ยักคิ้วให้เพื่อนด้วยท่าทางขี้เล่น “แหม…ไอ้พ่อปลาไหล เรียกว่าที่เมียซะเต็มปากเต็มคำเชียวนะ” มาร์โบโลแสร้งตวัดเสียงสูงกระแนะกระแหนอีกฝ่ายด้วยความหมั่นไส้ “ก็แหงล่ะว่ะ ไอ้เพื่อนยาก” เปิดยิ้มรับคำเหน็บแนมอย่างไม่สะทกสะท้าน ก่อนจะผุดลุกขึ้นเต็มความสูง แล้วเดินผิวปากกลับไปนอนยิ้มที่โซฟาราวกับคนบ้าที่กำลังตกอยู่ในห้วงภวังค์ คืนนี้แอรอน มอร์แกน มีนัดกับวาเนสซ่า ปิเอโร่ สาวสวยเซ็กซี่ผู้เป็นน้องเล็กประจำตระกูลปิเอโร่ที่ผับหรูแห่งหนึ่งในย่านสถานบันเทิงชั้นสูง พ่อหนุ่มมาดทะเล้นก้าวขาเพรียวเข้าผับด้วยท่าทางมาดมั่น บุคลิกอันโดดเด่นและเปล่งรัศมีแห่งพลังบุรุษเพศออกมาอย่างแพรวพราวสามารถเรียกความสนใจจากสาวน้อยใหญ่ได้เป็นอย่างดี “เฮ้…กาย” สาวเปรี้ยวนางหนึ่งเสียดสีด้วยน้ำเสียงขี้เล่น ก่อนจะเดินนวยนาดมาดักหน้าพ่อหนุ่มหล่อกระชากใจ ทำให้เจ้าของร่างสูงสง่าและอัดแน่นไปด้วยความเป็นชายอย่างถึงแก่นต้องผ่อนฝีเท้าลง แล้วยักคิ้วโปรยเสน่ห์ให้แม่สาวใจกล้าทันที “ไฮ…เซ็กซี่เกิร์ล” สวนกลับอย่างไม่ให้เสียชื่อพ่อหนุ่มเพลย์บอยแห่งยุค ก่อนจะกวาดนัยน์ตากรุ้มกริ่มสำรวจร่างเซ็กซี่อย่างอ้อยอิ่งสื่อความหมาย “ว้าว…มองใกล้ๆ นึกว่านางฟ้า” น้ำเสียงขี้เล่นแสร้งอุทานเบาๆ พ่อหนุ่มเพลย์บอยตัวเอ้มีวิธีหลีสาวได้ขั้นเทพเสียเหลือเกิน ทำเอาคุณเธอแทบใจละลาย “ใครๆ เขาก็บอกว่าอย่างนั้น อยู่บนฟ้ามานานแต่หาทางไปสวรรค์ไม่เจอ” มือที่เกี่ยวแก้วน้ำสำพัน ค่อยๆ ยกปากแก้วทรงสวยขึ้นจรดริมฝีปากสีแดงยั่วใจ ก่อนจะเผยอกลีบปากอิ่มเต็มขึ้นจิบเหล้าอย่างอ้อยอิ่ง ทำเอาคนมองลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ “สนใจจะไปท่องสวรรค์ด้วยกันไหมล่ะ ทูนหัว” การปรือตาเชิญชวนอย่างหยาดเยิ้มทำให้เลือดในกายหนุ่มเดือดพล่าน จนเขานึกอยากจะกระชากสาวเจ้าไปดับความร้อนรุ่ม “มาคนเดียวเหรอจ๊ะ ถึงได้มาชวนไปขึ้นสวรรค์ตั้งแต่หัววันเชียว” เห็นอีกฝ่ายเหมือนจะเล่นด้วย หญิงสาวก็ไม่รอช้าที่จะถามเพื่อความมั่นใจ เพราะคนอย่างหล่อนไม่ชอบแบ่งผู้ชายให้กับใคร ถึงแม้ผู้ชายคนนั้นจะเคยผ่านผู้หญิงมาเป็นร้อยแล้วก็ตาม “แล้วคุณเห็นใครมากับผมไหมล่ะคนสวย” ย้อนกลับด้วยน้ำเสียงร่าเริง “งั้นไปดิ้นกันหน่อยไหม ถือเป็นการเรียกน้ำย่อย” แม่สาวใจกล้าส่งแก้วเหล้าให้บริกรที่เดินผ่านมา แล้วถือวิสาสะคล้องแขนที่อุดมไปด้วยมัดกล้าม และตั้งใจว่าจะดึงเขาไปยังฟลอร์ด้านหน้า “ว้า…แย่จัง ผมไม่ชอบดิ้นบนฟลอร์เสียด้วยสิคนสวย” ชายหนุ่มขืนแรงรั้งเอาไว้ แล้วตอบด้วยท่าทางแสนสบาย แต่เน้นคำพูดเป็นเลศนัย “แล้วดิ้นที่อื่นล่ะ สนไหมพ่อสุดหล่อ” แขนเรียวเปลี่ยนมาโอบรอบลำคอแกร่งของพ่อหนุ่มนักรักที่มีชั้นเชิงขั้นเทพ ช้อนสายตาฉ่ำเยิ้มเชิญชวนพลางใช้ปลายเล็บสีสวยเขี่ยกระดุมเสื้อที่ปกคลุมร่างทรงพลังชวนลากขึ้นเตียง ก็สนนะ แต่ผมมีนัด คงอีกนานกว่าจะว่างไปดิ้นกับคุณ” ชายหนุ่มเผยยิ้มกระชากใจออกมา พร้อมคำพูดปฏิเสธแม่สาวเซ็กซี่ขยี้ใจอย่างกลายๆ “ว้า…น่าเสียดายจัง” หญิงสาวแสร้งอุทานเสียงดัง และปั้นสีหน้าเศร้าสลดได้อย่างแนบเนียน ก่อนจะวาดปลายนิ้วเรียวมาไล้วนที่หน้าอกกว้างเบาๆ เป็นการกระตุ้นเร้า “เอาเป็นว่า คุณไปหาเพื่อนดิ้นก่อนก็แล้วกัน หากผมเสร็จธุระแล้ว คุณยังไม่ลากใครไปดิ้นด้วย ผมก็พร้อมที่จะไปดิ้นกับคุณทุกที่ที่คุณต้องการ” กระซิบเสียงเซ็กซี่ขยี้ใจเล่นเอาสาวเจ้าแทบอ่อนระทวยและลงไปกองอยู่แทบเท้าของพ่อหนุ่มหล่อ ก่อนที่เขาจะขยิบตาให้ด้วยมาดทรงเสน่ห์  “นัดสาวไว้เหรอคะ” หญิงสาวเลิกคิ้วโก่งขึ้นถามไถ่ พลางสอดส่ายสายตาหาเป้าหมายที่พ่อยอดชายได้นัดหมายเอาไว้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม