Chapter 5 มาทำข้อ(บังคับ)ตกลง

1605 คำ
1 อาทิตย์ต่อมา มหาวิทยาลัย T คณะนาฏศิลป์ “วันนี้ไปไหนกันไหมมมม?” เสียงของเบนถามขึ้นเมื่อเราเรียนเสร็จแล้ว “จะชวนไปไหนพูดดดดไม่ต้องทำมาเป็นถามย่ะ!” วีวี่บอกมันถามแบบนี้แปลว่าจะชวนไปไหนน่ะสิ “ไปเดินเล่นกันอยากช๊อปปิ้งอะอยากใช้เงินนนน~” เบบนมันพูดเสียงร่าเริงส่วนฉันก็คิดว่าจะไปอยู่เหมือนกันเพราะว่าชุดสำหรับถ่ายลงทวิตเตอร์เริ่มหมดแล้วด้วย “ไปด้วย” ฉันบอกกับมัน “ดิวเลยไอ้เพื่อนรักส์!” หมับ! เบนเดินมากอดคอฉัน “ไปด้วยก็ได้อยากกลับบ้านช้าพอดี” “ทะเลาะกับพ่ออีกแล้วดิ?” ฉันถามควิกซ์เพราะว่าเมื่อไหร่ที่มันกลับบ้านช้านั่นแปลว่ามันทะเลาะกับพ่อแต่ไม่นานก็ดีกันนั่นแหละไม่มีหรอก ความจริงฉันก็แอบอิจฉามันนะที่มันพูดและระเบิดอารมณ์อธิบายสิ่งที่ต้องการกับพ่อมันได้อะ เพราะฉันกับพ่อแม่ไม่เคยทะเลาะกันเลยแต่ก็ไม่เคยมีการพูดคุยอะไรกันทั้งนั้นฉันแค่เออ ออตามไปเท่านั้นเพราะว่าเคยพูดแล้วแต่เหมือนฉันเป็นฝ่ายผิด เฮ้อออ!! “นิดหน่อยอะแต่เดี๋ยวก็จัดการได้” “ดีแล้วมึงอย่าทะเลาะกันบ่อยดิสงสารพ่อมึงเดี๋ยวก็ร้องไห้อีกหรอก” วีวี่แซวเพราะว่าควิกซ์มันเคยทะเลาะกับพ่อจนพ่อมันร้องไห้เพราะว่ารู้สึกผิดกับมันและขอโทษยกใหญ่ “เขาเรียกว่าทะเลาะเพื่อสร้างความเข้าใจเว้ย!” ก็จริงเพราะว่ามันได้ระบายสิ่งที่อยู่ในใจไม่เหมือนกับฉันที่ต้องเก็บเอาไว้ตลอดเวลา “จ้า ๆ แต่อย่าสร้างความเข้าใจบ่อยนะเพราะพวกกูขี้เกลียดกินเหล้ากับพ่อมึง” แปลกไหมแทนที่จะกินกับควิกซ์แต่ต้องมากินกับพ่อมันแทนแต่มันก็อยู่ด้วยนั่นแหละ “ก็ไม่ได้บ่อยนะอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง” “เขาเรียกบ่อย!!” พวกฉันพูดพร้อมกันเพราะว่ามันสร้างความเข้าใจกับพ่อมันบ่อยเกิน “เออ ๆ บ่อยก็บ่อยแต่ว่าบ้างอย่างมันปล่อยผ่านไม่ได้ไงไม่อยากนั้นพ่อกูอาจจะเคยตัวได้” ตอนนี้ฉันค่อนข้างสนสับว่าใครพ่อใครลูกกันแน่ “ไปกันเถอะไปกันหมดใช่ไหม?” ฉันถามเพื่อนที่มั่วแต่ยืนคุยกันไม่ยอมไปไหนสักที “ไปจ้า!!” และพวกเราก็พากันเดินออกจากคณะ พวกเราไม่ใช่พวกสาวสุดฮอตเพราะงั้นไม่ต้องคาดหวังว่าจะมีใครมาหาเรื่องหรือมีหนุ่มแซวพร้อมสายตาอิจฉาที่ส่งมานะ พวกฉันมันธรรมดาสุด ๆ หน้าตาพอไปวัดไปวาแค่นั้นแหละ...มั้ง^^ กึก!! และขณะที่กำลังเดินอยู่นั้นสายตาของฉันก็ไปเห็นธันเดอร์ทำไมเขามาอยู่ที่นี่ได้? คงไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันหรอกมั้งหลังจากวันดูตัวเราก็ไม่ได้เจอหรือว่าติดต่ออะไรกันอีกเลย ส่วนธันเดอร์สายเปย์คนนั้นฉันก็บล็อกไปแล้วเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ฉันไม่รู้นิว่าเขาเป็นคนแบบไหนเพราะงั้นอยู่ให้ห่างไว้จะดีกว่าและคงจะต้องงดอัพอะไรสักระยะแล้ว ส่วนตัวฉันไม่ได้อายหรือว่ากลัวใครจะรู้หรอกนะกล้าทำก็ต้องกล้ารับอยู่แล้วแต่อย่างที่รู้ครอบครัวฉันเป็นยังไงเพราะงั้นฉันจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด “ธันเดอร์ป่ะมาทำที่นี่วะ?” วีวี่ถามและมองธันเดอร์เหมือนกัน “ไม่รู้ดิไม่เกี่ยวกับเราหรอกไปกันเถอะ” ฉันพยายามบอกเพื่อนให้เดินไปได้แล้ว ไม่รู้หรอกว่าเขามาหาใครแต่ฉันควรเลี่ยงการพบเจอเขา “มาติดสาวที่นี่มั้งแต่ว่าใครวะนาฏศิลป์...” “ไม่เกี่ยวกับเราหรอกน่าไปกันเถอะฉันอยากช๊อปปี้แล้ว” ฉันพูดขัดพวกมันที่ขี้เสือกซะไม่มีและดันหลังให้พวกมันเดิน “เทียนหอม!!” กึก! เสียงเรียกชื่อของฉันดังสนั่นและมันออกมาจากปากผู้ชายคนนั้น!!! “เขาเรียกมึง?” เพื่อนหันมามองฉันอย่างพร้อมเพียง “ไม่ใช่หรอกน่ากูกับเขาไม่ได้รู้จักกันสักหน่อยคงคนอื่นละมั้ง...” “เทียนหอม!!หูตึงเหรอวะ?!” ไอ้เวรนี่! ฉันหันไปมองหน้าของเขาทันทีและเขาก็มองหน้าฉันอยู่เช่นกัน “สรุป...มาหามึง?” “ไหนว่าไม่รู้จัก?” “ไปเจอกันตอนไหนอะ?” นังเพื่อนตัวดีรีบหันมาถามฉันรัว ๆ ทันที “ไว้ค่อยเล่านะ” ฉันบอกเพื่อนก่อนจะรีบเดินไปหาธันเดอร์ทันทียืนกอดอกพิงรถให้สาวกรี๊ดภาคภูมิมากมั้ง! กึก!! ฉันมาหยุดตรงหน้าของเขาและมองหน้าอย่างไม่พอใจจะเรียกทำไมจะมาหาทำไมเราไม่มีเรื่องอะไรต้องกันกันนะ “บล็อกทำไม?” เขาถามฉันซึ่งนั่นทำให้ฉันรู้ทันทีเลยว่าเขาคือธันเดอร์คนนั้นนั่นเอง แต่ว่าฉันจะทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้นแหละ “พูดอะไรของนายไม่ทราบ?” แต่ว่าเขารู้ได้ยังไงนะว่าเป็นฉัน? ฉันทำงานนี้มาตั้งหลายปียังไม่เคยมีใครมาทักหรือว่าสงสัยเลยด้วยซ้ำแต่เขากลับพูดออกมาอย่างมั่นใจว่าเป็นฉันแน่นอนอะไรทำนองนั้น “เหอะ! ตีหน้าซื่อเก่งจังนะเอาเงินไปแสนแล้วยังหนีอีก” ฉันไม่ได้ขอไหมก็บอกแล้วว่าไม่ต้องโอน ๆ ไม่ฟังและทีนี้จะมาทวงรวยไม่จริงนี่หว่า “เงินอะไรของนายไม่ทราบ ถ้าโง่จนโดนผู้หญิงหลอกก็ไปแจ้งความไม่ใช่มากล่าวหาฉันสติเนอะ^^” ฉันพูดแค่นั้นและหันหลังจะเดินหนี “เทียน่า!” “0.0” อยู่ ๆ เขาก็ตะโกนเสียงดังจนคนรอบข้างเริ่มหันมองโดนเฉพาะผู้ชาย นั่นหมายความว่าแถวนี้อาจจะมีคนที่ติดตามฉันอยู่ก็ได้ “ไม่เดินต่อละ...” เขาเดินมายืนข้างหลังก่อนจะกระซิบ “ถ้าไม่อยากให้ใครรู้ตัวตนของเธอก็ตามมาเรามีเรื่องต้องคุยกัน” ขวับ! ฉันหันไปหาเขาแต่ว่าหน้าเขาใกล้มากจนฉันต้องหลบออกอย่างตกใจ “ว้ายย! เอาหน้านายเข้ามาใกล้ทำไมเนี่ย?!” “ทำเป็นรังเกียจไปได้ อ่อ รังเกียจหน้าฉันแต่ไม่รังเกียจอันนี้...ของฉันใช่ป่ะ?” เขาถามและก้มลงไปมองตรงเป้ากางเกง สายตาของฉันก็ดันเรื่อยมองตามไปด้วยแถมยังเผลอกลืนน้ำลายอีกภาพนั่นมันติดตา “อึก!” “ยัยกามเอ๊ย!” พรึ่บ! เขาผลักหัวของฉัน “ฉันไม่ได้กามย่ะ! นายมีเรื่องอะไรจะคุยไม่ทราบ?” ฉันถามเขาคุย ๆ ให้มันจบ ๆ ไปเถอะ “ยอมรับแล้วอ่อ?” ถามหน้ามึน “ยอมรับเรื่องอะไรไม่ทราบฉันไม่เข้าใจที่ยอมคุยด้วยเพราะว่านายมีธุระกับฉันไม่ใช่หรือไง?” เรื่องอะไรฉันต้องยอมรับง่าย ๆ ด้วยละ ไม่มีวันหรอกย่ะ “สงสัยต้องใช้จู๋งักปาก” “ไอ้ธันเดอร์!!ไอ้คนทรามเอ๊ย!!” หมับ! ฉันกำลังด่าเขาแต่เขาก็คว้ามือของฉันและลากให้เดินตามเขาไป “ตามมานี่พูดมาก!” “จะพาไปไหนธันเดอร์ฉันไม่ไป~~” พยายามขัดขืน “เทียนหอม! อย่าดื้อได้ป่ะวะฉันไม่อยากเป็นจุดสนใจ!” เขาหันมาดุฉันแต่ก็นะเขาเป็นนักแคสเกมชื่อดังจะมาลากผู้หญิงแบบนี้คงไม่ดี คนคงจะมองเขาไม่ดีสินะงั้น.... “กรี๊ดดด!!” เพี๊ยะ! “เจ็บนะ!” ฉันกำลังกรี๊ดเพื่อให้เขาปล่อยฉันแต่กลายเป็นว่าเขาตีปากฉันซะงั้น คนเลววว T^T “อย่าคิดทำอะไรโง่ ๆ ถ้าเธอเสียงดังฉันก็จะเธอว่าเทียน่าดัง ๆ เหมือนกันต่อให้เธอปฏิเสธแต่ก็จะมีคนเริ่มสงสัยเธอดีไหม?” อยากจะกรี๊ดใส่หน้าอยากจะตบสักที! “เฮอะ! ไปสิ!จะไปคุยที่ไหนก็นำไปเลย!” ไม่มีทางเลือกอยู่แล้วนิ สวนสาธารณะ เรามาอยู่ที่สวนสาธารณะในมหาวิทยาลัยนี่แหละตอนนี้ก็เย็นมากแล้วไม่มีผู้คนเท่าไหร่เขาคงไม่ได้เอาฉันมาฆ่าเพื่อเอาเงินคืนนะ “มีอะไรละเดินจนขาจะเป็นตะคริวอยู่แล้ว?” ไม่ยอมพูดอะไรสักที “เธอน่ะ...มาเป็นคู่หมั้นฉันซะ” “ฮะ?” “ฉันว่าเธอหูไม่ดีวะแคะบ้างเถอะอีหนู” ดูเขาพูดดิ -.- “ฉันได้ยินแต่แค่ไม่เข้าใจว่านายพูดเรื่องอะไรไหนต่อต้านนักหนาทำไมมาขอฉันเป็นคู่หมั้น?” ฉันถามอย่างสงสัยหรือว่าเขาจะ... “ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นฉันไม่ได้ชอบเธอ ไม่ได้พิศวาทอะไรด้วยแต่ฉันเบื่อการจับคู่ดูตัวเธอไม่เบื่อหรือไง?” “เบื่อ =_=” ฉันตอบทันทีอย่างไม่ต้องคิด “นั่นไงเพราะงั้นถ้าเธอกับฉันหมั้นกันพ่อแม่ก็จะได้เลิกหาคนมาให้เราดูตัวสักทีไง วินวินทั้งคู่” เขายักไหล่ “ถ้าฉันไม่ตกลงละ?” “ฉันก็จะบอกทุกคนว่าเธอคือเทียน่าแม่สาวน้อยดาวทวิตไง^^” นี่มันบังคับกันชัด ๆ -_-^^
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม