Episode 5
AYJI TALK
"ฮึก ฮือออออ" เสียงหวานใสของหญิงสาวตรงหน้าผมร้องห่มร้องไห้ออกมาไม่หยุดหย่อนหลังจากที่เธอเข้ามานั่งอยู่ในห้องสมุด และเธอก็ยังนั่งร่วมโต๊ะกับผมเหมือนเดิม
นี่เป็นรอบที่สองที่ผมเห็นเธอร้องไห้แบบนี้ แต่ด้วยความที่ผมไม่ค่อยอยากจะยุ่งเกี่ยวเท่าไหร่ ผมเลยไม่ได้เอ่ยปากถามเธอเลยสักคำว่าทำไมเธอถึงร้องไห้แบบนี้ ทั้งๆที่เมื่อวานผมว่าเธอน่าจะมีความสุขเอามากๆ เพราะได้ไปเที่ยวกับแฟนสุดที่รัก (ประโยคสุดท้ายพูดแล้วกระดากปากชะมัดเลยแหะ)
"ฉันไม่ได้อยากจะทำตัวน่ารำคาญ ไม่ได้อยากจะงี่เง่า ฮึก... ฮืออออ" ร่างบางพึมพำกับตัวเอง ถึงแม้ว่าเธอจะพูดเสียงเบาแต่มันก็สร้างความรำคาญให้กับผมมากเลย
"ฮืออออออ ถ้าเลือกได้ฉันก็ไม่อยากจะมีแฟนเจ้าชู้เหรอก" เสียงหวานใสพึมพำออกมาอีกครั้ง ครั้งนี้เสียงดังมากกว่าเดิม เหมือนเธอจงใจพูดให้ผมได้ยิน และมันก็สำเร็จ ผมได้ยินชัดเจน ได้ยินจนไม่มีสมาธิที่จะอ่านหนังสือต่ออีกแล้วทำให้ผมต้องปิดหนังสือในมือทันที
"เธอเป็นอะไร ทำไมต้องมาร้องห่มร้องให้อีกด้วย" สุดท้ายผมก็พูดถามไถ่เธอออกไป เธอดูจะดีใจมากๆที่ได้ยินผมถามอาการของเธอ
"นึกว่านายจะไม่ถามซะแล้วซะอีก" ร่างบางเอ่ยบอกพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะใช้มือเล็กปาดน้ำตาที่เปอะเปื้อนออกจากใบหน้า ผมว่าเธอดูเป็นผู้หญิงที่แปลกจริงๆนั่นแหละ กล้าร้องไห้ต่อหน้าผู้ชายแบบนี้โดยไม่อายฟ้าอายดินเลยได้ยังไงกัน
"เหอะ... ฉันก็ไม่ได้อยากจะรู้เรื่องของเธอเหรอกนะ เชิญร้องไห้ต่อไปเถอะ" ด้วยความที่หมดความอดทนผมเลยตัดสินใจลุกออกจากเก้าอี้และเดินออกไป แต่แล้วร่างบางก็จับมือของผมเอาไว้พร้อมกับบังคับให้นั่งลงข้างๆ
"อย่าเพิ่งไปดิ ฟังฉันก่อน ฉันอยากระบาย " เสียงหวานใสเอ่ยอย่างหดหู่ พอผมมองแววตานั้นก็ไม่อาจจะละเลยไปได้ เฮ้อ... ช่างเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารจริงๆ
"ระบายอะไร ฉันไม่ใช่เพื่อนเธอสักหน่อย อยากไปบ่นเรื่องความรักก็ไปบ่นกับเพื่อนเธอนู่น" ผมบอกออกมาอย่างปฏิเสธและเหมือนจะทำให้ร่างบางร้องไห้อีกครั้ง
โถ่! ให้ตายสิ เมื่อกี้ผมพูดไม่ดีเหรอ ไม่ชอบน้ำตาของผู้หญิงเลย
"ฮึก... ก็ฉันคุยกับเพื่อนเรื่องนี้ไม่ได้นี่นา เพราะว่าถ้าฉันเอาไปพูดต้องถึงหูแฟนฉันแน่ๆ" ร่างบางเอ่ยพลางน้ำตาคลอ ทำให้ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้งด้วยความเหนื่อยใจ เอาก็เอาวะ... ลองเป็นที่ปรึกษาด้านความรักเพื่อเก็บประสบการณ์ก็ได้
"แล้วเธอมีเรื่องอะไร ทะเลาะกับแฟน?" ผมเอ่ยถามด้วยความสงสัยก่อนจะท้าวคางมองหญิงสาวตรงหน้า เธอทำหน้าลำบากใจเล็กน้อยเหมือนไม่อยากจะพูด แต่เธอเป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอวะว่าอยากจะระบาย
ผมไม่ค่อยจะเข้าใจผู้หญิงคนนี้เลย บอกได้คำเดียวว่าแปลก!
"ที่จริง...ก็ไม่เชิงทะเลาะเหรอก แต่ฉันเป็นฝ่ายชวนเขาทะเลาะเอง" เสียงหวานใสเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิด ผมได้แต่มองเธอเงียบๆใบหน้าหวานของเธอแปรเปลี่ยนเป็นโศกเศร้า เห็นแบบนั้นแล้วก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมาเลยแหะ
นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมรู้สึกรู้สากับอารมณ์ของฝ่ายตรงข้าม เพราะปกติผมไม่ได้สนใจคนรอบข้างอยู่แล้ว ผมสนใจแค่ตัวผมคนเดียวเท่านั้น
"อืม แล้วไงต่อ?" ผมเอ่ยถามเพื่อต่อบทสนทนา ไม่ได้อยากรู้เท่าไหร่เหรอก
"เมื่อวานตอนกลางคืน ฉันไปผับกับเขา ที่จริงอ่ะฉันเป็นคนไม่ชอบไปเที่ยวผับเลยสักนิด มันเสียงดังหนวกหู แถมฉันไม่ชอบกลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่ด้วย แต่ฉันก็ต้องไป เพราะว่าอยากจะอยู่ใกล้ชิดกับแฟนให้ได้มากที่สุด" ร่างบางเล่ารายละเอียดมากขึ้นเรื่อยๆ และผมก็เริ่มจะเข้าใจว่าเธอคบกับแฟนที่ไลฟ์สไตล์ต่างกันเลยทำให้เป็นแบบนี้
พูดถึงผับผมเองก็ไม่ชอบเหมือนกันนั่นแหละ อย่างที่เธอพูดเลยว่าเสียงเพลงดังหนวกหู เหม็นกลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่ ซึ่งผมไม่ชอบเอามากๆ เห้ย เห็นแบบนี้ผมก็เคยไปมาบ้างแล้วนะ ไม่ใช่ว่าไม่เคยไป
"แล้วไงต่อ?"
"นายจะเอาแต่พูดแล้วไงต่อเหรอ!"
"อ้าว แล้วจะให้ฉันพูดว่าไรอ่ะ? " ผมมองเธอด้วยแววตาที่เรียบนิ่ง สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจเล่าต่ออีกครั้ง
"ฉันไปผับกับเขาใช่ไหมละ แล้วก็เจอเพื่อนในชมรมของเขา พวกเรานั่งดื่มเหล้าด้วยกัน แต่ฉันไม่ดื่มเหรอกนะ ไม่ชอบแล้วก็ไม่อยากเมา แต่ตอนที่ฉันออกไปเข้าห้องน้ำแล้วกำลังเดินกับมาที่โต๊ะ ฉันก็เห็นแฟนของฉัน..." ร่างบางเอ่ยขึ้น เธอชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มบางๆ รอยยิ้มของเธอเป็นรอยยิ้มที่มันฝืนยิ้ม
ผมเกลียดรอยยิ้มแบบนี้จัง...
"ฉันเห็นแฟนของฉันจูบกับผู้หญิงที่เป็นนักร้องนำในชมรมดนตรี แถมจูบแบบดูดปากกันด้วย ไม่ใช่จูบธรรมดา" เสียงหวานใสเอ่ยบอกพร้อมกับหัวเราะในลำคออย่างน่าสมเพชตัวเองเบาๆ ผมได้แต่ฟังอย่างเงียบๆ
ผมไม่ค่อยเข้าใจความรักที่ซับซ้อนแบบนี้สักเท่าไหร่ แต่ที่ผมรู้อย่างหนึ่งก็คือเธอกำลังเศร้าอยู่ที่ต้องเจอเรื่องแฟนนอกใจแบบนี้ อืม... ถ้ารู้ว่านอกใจแล้วจะทนคบไปอีกทำไม ผมไม่เข้าใจผู้หญิงเลยจริงๆ
"เธอกำลังโดนแฟนนอกใจอยู่สินะ" ผมบอกออกมาตามตรง ร่างบางถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย
"มะ....ไม่ใช่สักหน่อย เขาก็บอกนะว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นแค่เพื่อน ไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น" ร่างบางเอ่ยขึ้นอย่างเข้าข้างตัวเอง เฮ้อ... ยิ่งฟังก็รู้สึกว่าเธอมันโง่ที่ไปหลงรักคนเจ้าชู้แบบนั้น
"หึ ถ้าเธอคบไปเรื่อยๆระวังจะเสียใจไปมากกว่านี้ ถ้าให้ดีเลิกไปได้ตอนนี้ก็ดี" ผมเอ่ยขึ้นอย่างเตือนเธอ แต่เธอก็เหมือนจะไม่ฟังเลยสักนิด
"ไม่มีทางอ่ะ ฉันรักเขา ไม่ว่ายังไงฉันก็จะไม่เลิกกับเขา นายจะไปรู้อะไร ช่วงเวลาที่เราคบกันมันมีความสุขมากแค่ไหน!" ร่างบางเอ่ยเถียงผมสุดฤทธิ์ อืม... พูดไปมันก็คงจะเปล่าประโยชน์ รู้งี้ไม่น่าพูดออกไปเลยซะก็ดี
"แล้วแต่เธอละกัน ถ้ามีความสุขก็คบต่อไป แต่ฉันบอกเลยว่าผู้ชายคนนั้นมันไม่ได้รักเธอแม้แต่น้อย" ผมบอกออกมาตามตรง ร่างบางชะงักเล็กน้อยและเหมือนเธอจะทำหน้าร้องไห้อีกครั้ง
เฮ้อ... นี่ผมต้องทนเห็นน้ำตาของผู้หญิงอีกครั้งเหรอ?
"ฉันอยากระบายกับนายเรื่องนี้ ไม่ใช่อยากให้นายพูดตอกย้ำฉัน!" เสียงหวานใสเอ่ยขึ้นด้วยความโมโห ผมได้แต่ยักไหล่เบาๆ
"ฉันก็ให้คำปรึกษาเธอไง หัดฉลาดบ้างดิวะ ดูยังไงหมอนั่นก็พยายามนอกใจเธออยู่ เลิกคิดเข้าข้างตัวเองได้แล้ว" เสียงทุ้มเข้มของผมเอ่ยขึ้นตามตรง และผมสังเกตุว่าเธอกำมือแน่นด้วยความโกรธ ใช่... เธอกำลังโกรธผมที่พูดแบบนี้ออกไป
ยอมรับความจริงบ้าง มันยากนักเหรอวะ?
"แต่เขาก็ยังบอกว่าเขารักฉัน!"
"ใครๆก็พูดได้ มันก็แค่คำโกหก" ผมบอกออกมาพร้อมกับหัวเราะในลำคอเบาๆ พูดไปยัยนี่ก็คงจะไม่ฟัง โง่ขนาดนี้คงจะไม่ฟังเสียงรอบข้างเหรอก เอาแต่คิดเข้าข้างตัวเอง
"เขารักฉันจริงๆ เขาไม่ได้โกหก ฉันเชื่อว่าแฟนของฉันไม่เคยนอกใจฉัน!"
"เธอนี่มันโง่..." ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบประโยคจู่ๆฝ่ายมือบางของอีกฝ่ายก็กระทบหน้าของผมอย่างแรงทำให้ผมได้ยินเสียงดัง
เพลี๊ยะ!
เธอตบหน้าผมอย่างแรง แถมผมยังสัมผัสได้ถึงความแสบร้อนที่กำลังปะทะอยู่ตรงแก้มของผม นี่เป็นครั้งแรกที่ผมโดนตบหน้าแบบนี้
"เธอตบหน้าฉันทำไม "
"ฉันไม่คุยกับผู้ชายเฮงซวยแบบนายอีกแล้ว!"