3
สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเอกชนเซนต์บรอวโวรี่
Bachelor of Science Program in Computer Science Class.
“นี่... อีตุ่มดิน! อย่าบอกนะว่ามึงจะยกอาจารย์ฮอตเนิร์ดให้นาง? มึงเห็นแขนจานหล่อล่ำของพวกเราปะ กล้ามสุด น่าบีบ ต๊าซซ! ขุ่นแม่ปลื้ม”
“เอาไปเหอะไหว้ย่อ ใครอยากได้เอาไปโลด โหดขนาดนี้กูไม่เอาด้วย… ให้เกรดก็ย้ากกยาก ไม่รู้จะหวงไปทำไม เก็บไว้ใช้เองก็ไม่ได้”
“เออ ใช่ มึง! พวกเราเรียนวิทยาการคอมฯ นะเว้ย จบไปต้องได้อยู่บริษัทใหญ่ ๆ ไม่ใช่หาผัวรวยแล้วจะได้ดิบได้ดี ยิ่งอาจารย์นี่ลืมไปได้เลย เก็บไว้บูชาบนหิ้งค่ะ ขึ้นหิ้งไว้เลย”
“ถ้ามึงไม่รวยด้วยตัวเอง มึงจะโดนผัวด่าทุกวันว่าอีโง่! มึงมันโง่!”
“A+ A เท่านั้นที่จะทำให้เราได้งานดี ๆ พ่อมึงไม่ด่ามึงด้วยไอ้เปี๊ยก แต่ว่าบ้านกูรวยอยู่แล้วอันที่จริงกูก็ไม่แคร์นะว่าจะได้ A+ ไหมอะ แค่อยากสงเคราะห์พวกมึง...”
เสียงหนุ่มสาวกระซิบกระซาบพูดคุยกันด้วยภาษาแสนโบราณ ไร้ความเป็นสุภาพชนตรงข้ามเครื่องแบบของสถาบันที่ทำให้พวกเขาดูเป็นผู้ดี นักศึกษาชายผูกเน็กไทเสื้อเชิ้ตสีขาว นักศึกษาหญิงติดกระดุมตรามหา’ลัยปกติแต่กระโปรงสั้นเสมอต้นขา!
ไม่มีใครรู้ตัวเลยว่าอาจารย์หนุ่มได้ยินทุกคำตอนเดินผ่านโต๊ะนักศึกษาไปยืนบริเวณหน้าชั้นเรียน ทว่าพอเริ่มชั่วโมงการสอนต่างคนก็เริ่มที่จะเงียบเสียงลง
ชายร่างสูงใหญ่กำยำขยับเน็กไทลายขวางให้เข้าที่ด้วยท่าทางสุขุม ก่อนจะเริ่มเก็บงานจากแท็บเล็ต ใช้เวลาการบรรยายเพียงชั่วโมงกว่า ๆ รับงานผ่านอีเมลหลังหมดคาบสอนวิทยาศาสตร์ทางภาพถ่ายและเทคโนโลยีทางการพิมพ์
ถามว่าการย้ายมหาวิทยาลัยมาสอนที่นี่ดีไหม?
ก็คงดีด้วยความที่ใกล้บ้านเดินทางสะดวก แต่มาเจอหนุ่มสาวในวัยคึกคะนองไม่ตั้งใจเรียนคงไม่ใช่เรื่องน่าภิรมย์ใจนัก ป้ายชื่อปริ้นด้วยกระดาษที่ทำมาก็ยังเขียนชื่อผิดตั้งแต่วันแรกที่เขาเข้าสอน
‘ผศ. ดร. ป้องเกียรติ ศิลปะกานต์’
ตกสระไปตัว นามสกุลของอาจารย์ยังต้องเป็น ‘ศิลปการสกุล’
ก็นั่นแหละ... ไม่แปลกที่อาจารย์คนเก่าจะลาออก ส่วนตัวเขามาสอนได้เดือนกว่า ๆ แล้วคงไม่ถือสากันในบางเรื่อง
ด้วยบรรยากาศห้องเรียนเอกชนหรูหรา เครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำสบาย ระยะห่างการสอนต้องใช้ไมโครโฟนและจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ในการบรรยาย บางคนเลยนั่งเอนหลังหลับน้ำลายยืด ส่งเสียงกรนให้เพื่อนข้าง ๆ หัวเราะหยอกแกล้งเอาปากกาจิ้ม พออาจารย์บอกให้ปลุกเพื่อนไปล้างหน้าล้างตาก็ส่งเสียงแข่งกัน แซวเพื่อนว่าไปทำอะไรดึกหรือว่าจะหนีไปเที่ยวผับ
ไปห้องน้ำทีไรได้หายตัวไปเลย เวลาเรียนฟังบ้างไม่ฟังบ้าง บางคนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่น แต่พอถูกแววตาคมว้าบบเสียวสันหลังมองจ้องบอกว่าเขาไม่พอใจ ค่อยเก็บซ่อนลงบนหน้าตักไม่ให้เห็นว่าทำอะไร
ไม่นับเรื่องเทน้ำมันลงพื้นให้เจ้าของร้านเบเกอรี่สาวล้ม! ทำอาจารย์อย่างเขาขายขี้หน้าไปแล้วรอบหนึ่ง เพราะดันไปทำหน้าหื่นใส่สาวในดวงใจเสียภาพลักษณ์คนมีการศึกษา
ไม่มีใครเข้าใจว่าเขาก็แค่อยากกินเค้ก... ไม่ได้อยากเขมือบคนทำเค้กเข้าไป แต่ถ้าหากว่าเป็นผลพลอยได้เธอมีใจให้ก็เป็นเรื่องดี น่าเสียดายที่เขายังอยากตั้งใจกับการทำงาน อยากเคี่ยวเข็ญนักศึกษาให้ได้ดิบได้ดีก่อนเลยเถิดไปไกลกับเรื่องของความรัก
สำหรับป้องเกียรติการตื่นเช้ามาทำงานนั่งจิบกาแฟมองหญิงสาวจากที่ไกล ๆ แค่พอชื่นอกชื่นใจก็เพียงพอแล้ว
“งานผมขอพรุ่งนี้นะครับ ตั้งใจทำนะ ผมไม่อยากแก้เกรดบ่อย ๆ งานแก้จะได้คะแนนไม่ดีเท่างานครั้งแรกด้วย ที่ผมสอนไปพวกคุณได้ฟังกันใช่ไหม?”
“ฟังคร้าบบบ! / ฟังค่าอาจารย์!”
ทุกคนตอบอย่างพร้อมเพรียง ในรอยยิ้มใสซื่อบริสุทธิ์เสียยิ่งกว่าเด็กอนุบาลหมีน้อย แม้ในความเป็นจริง...
“วันนี้เราเรียนเรื่องอะไรกันบ้างครับ?”
เงียบกริบ...
อย่างน้อยก็มีผู้เข้าเส้นชัยรอบชิงชนะสักหนึ่ง... เป็นหญิงสาวในแว่นหนาเตอะ ผมหยิกฟู กระโปรงทรงพีทจีบรอบยาวถึงตาตุ่ม ยกมือด้วยหน้าตาเฉลียวฉลาด
“การเขียนโปรแกรมและซอฟต์แวร์ คำสั่ง JAVA ภาษา PHP ค่ะอาจารย์”
“มิสเกรนเจอร์... วันนี้บ้านเธอรับไปสิบแต้มนะ แล้วจะส่งลูกอมเวทย์ของร้านดิกกอรี่ไปให้เย็นนี้”
มุกตลกหน้านิ่งที่ฟังแล้วไม่ตลกดันเรียกเสียงหัวเราะดัง หลังเด็กท็อปของห้องช่วยชีวิตเพื่อเอาไว้ได้จึงไม่มีใครโดนอาจารย์ต่อว่า
อันที่จริงอาจารย์ป้องไม่ใช่คนดุมากมายถ้าหากว่าส่งงานครบ ฟังอาจารย์สอนบ้าง... ขนาดว่าลอกกันมาส่งเขาก็ยังไม่ว่าแต่ให้คะแนนไปตามความเป็นจริง
“งานกลุ่มก่อนสอบปลายภาค เอาเป็นวันศุกร์นะครับ ผมของานภายในวันศุกร์” เขาย้ำและถือว่าทุกคนรับรู้ ก่อนจะปรับน้ำเสียงเข้มขึ้นถาม
“แท็บเล็ตผม... หายไปไหนนะ? มีใครเห็นหรือเปล่าครับ”
“หนูเห็นอยู่ตรงหน้าต่างตรงนั้นไงคะ... อาจารย์วางลืมไว้หรือเปล่า?”
อาจารย์หนุ่มมองตามของที่ว่า ไม่รู้ว่ามันอันตรธานจากโต๊ะไปอยู่ตรงโต๊ะอีกตัวข้างหน้าต่างตอนไหน อาจเป็นตอนเขาไปเข้าห้องน้ำแล้ววางของไว้อย่างชะล่าใจ
คนกันเอง... เจอหน้ากันทุกวัน แต่พวกนี้แหละตัวดี!
“มีของอย่างอื่นหายไปด้วยครับ... หาไม่เจอ...” ในคำพูดเป็นกันเอง ตาคมใต้แว่นกรอบหนามองไปทางหนึ่งแก๊งหลังห้อง... ติดหน้าต่าง... แล้วข้างหน้า... หน้าตาเอาการเอางานใส่แว่นหนาเตอะแต่นิสัยคนละเรื่อง
ตัวอาจารย์ก็ไม่อยากปรักปรำนักศึกษา แต่ด้วยความที่เจอเรื่องแปลก ๆ ตลอดการมาทำงานที่นี่
“ไม่เห็นนะคะอาจารย์...”
“ไม่เห็นเลยครับ ไม่มีใครเห็นครับ? ของอะไรครับจาน...”
จาน... ชัดเจน ฟังแล้วเหมือนจานใส่เค้กน่ารัก ๆ กระจุ๋มกระจิ๋ม ยิ่งใกล้สอบปลายภาคเต็มที นักศึกษาดูออดอ้อนขอเกรดขอใบ้ข้อสอบกันไม่เว้นวัน
“เอาเป็นว่าเจอตัวเมื่อไร เจอดีแน่...” เสียงเข่นเขี้ยวขู่ฟ่อพูดลอย ๆ อาจารย์หนุ่มลุกขึ้นยืนสุดความสูง บอกหมดชั่วโมงการเรียนให้แต่ละคนกลับบ้านได้เลยด้วยใจไม่เป็นสุขนัก หลังจากที่ของสำคัญชิ้นหนึ่งหายไปเฉย ๆ ด้วยน้ำมือของพวกหิวเกรด!