ตอนที่ 6

1147 คำ
ตอนที่ 6 รักแรก ร่างเล็กได้สัดส่วนทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนนุ่มในห้องส่วนตัวด้วยความเหนื่อยล้า ถึงแม้ของขวัญจะไม่ได้รับผิดชอบงานในส่วนของดราก้อนกรุ๊ป แต่กิจการมากมายของที่บ้านก็เล่นทำเอาเธอหมดแรงในแต่ละวัน ด้วยความเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของเดวิด เธอจึงถูกเลี้ยงดูมาตามแบบฉบับมาเฟีย ลูกคนรวยใครว่าไม่เหนื่อย... ระหว่างที่ปิดเปลือกตาลงพักกะว่าค่อยไปอาบน้ำ เรื่องของเฮียเสือที่่พี่ชายทั้งสองคนคอยเป่าหูอยู่ทุกวันก็เข้ามารบกวนจิตใจ ยิ่งกว่านั้นก็พาลทำให้นึกไปถึงผู้ชายคนที่อยู่ในใจของฉันมาตลอดตั้งแต่อายุ 16 ปี ซานฟา คือชื่อผู้ชายคนนั้น แต่ฉันมักจะเรียกเขาว่าครูซาน ย้อนไปตอนที่ฉันอายุ 16 ปี พึ่งขึ้น ม.4 ใหม่ ๆ ภายในห้องเรียนที่มีเสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็กนักเรียนวัยหัวเลี้ยวหัวต่อกว่า 20 คนดังอยู่ไม่ขาดสาย จนคุณครูประจำชั้นเข้ามาข้างในพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่ง "นักเรียน เงียบ ๆ หน่อย วันนี้ครูจะมาแนะนำคุณครูฝึกสอนคนใหม่ของพวกเรา ชื่อครูซานฟา ยังไงพวกเธอก็อย่าดื้อกับครูซานเขาให้มากนักเข้าใจไหม" "เข้าใจครับ/ค่ะ" เสียงขานรับของนักเรียนทุกคนดังขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง แต่สายตาของฉันยังจับจ้องอยู่ที่หน้าชั้นเรียนอย่างไม่วางตา ชายหนุ่มในชุดนักศึกษาที่จะมาทำหน้าที่เป็นครูฝึกสอน ดูจากหน้าตาน่าจะมีเชื้อสายจีน แต่นัยน์ตาเฉี่ยวของเขาทำเอาหัวใจของฉันละลาย ไหนจะหุ่นกำยำที่แทบจะไม่ต่างจากพี่ชายของฉันเท่าไหร่ ผู้ชายคนนี้ทำให้ฉันตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ทุกครั้งที่ถึงคาบเรียนของครูซานฉันจะนั่งเงียบสายตามองตรงไปยังหน้ากระดานตลอด ไม่ใช่ว่าตั้งใจเรียนหรอกนะ แต่กำลังจ้องมองคนที่กำลังสอนอยู่ต่างหาก "นี่ยัยขวัญ แกชอบครูซานเหรอ พวกฉันดูออกนะยะ" นาเดียร์เพื่อนสาวคนสนิทพูดขึ้นพร้อมกับฟ้าใสที่พยักหน้ารับกันเป็นปี่เป็นขลุ่ย "ก็ครูซานหน้าตาดี หุ่นก็ดี เสียงก็เพราะ หรือว่าพวกแกจะเถียงล่ะ" ไม่มีคำเถียงออกมาจากปากเพื่อนซี้ทั้งสองคน ทั้งคู่ต่างพยักหน้ายอมรับในสิ่งที่ฉันพูดออกไป "แกก็ไปสารภาพรักเลยดิขวัญ แกทั้งสวย ทั้งหุ่นดี ครูซานอาจจะชอบแกอยู่บ้างก็ได้" เพราะคำยุของเพื่อนนี่แหละเลยทำให้ฉันใจกล้าเดินเข้าไปหาครูซานเพื่อสารภาพรัก ในห้องพักครูช่วงเย็น ฉันรอจนคุณครูทุกคนออกไปจากห้องจนหมด เมื่อเหลือแค่เพียงครูซานคนเดียวฉันก็รวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีเดินเข้าไปหาเขา "ครูซานคะ ขวัญมีเรื่องจะพูดด้วยค่ะ คือขวัญชอบครูซานนะคะ ชอบมากด้วย ครูซานพอจะพิจารณาขวัญได้มั้ยคะ" ตั้งแต่เกิดจนอายุ 16 ปี ฉันไม่เคยตื่นเต้นอะไรเท่านี้มาก่อน ไม่รู้อะไรดลให้ทำให้หน้ามืดตามัวเชื่อคำยุของเพื่อนตัวดี "ขวัญ แต่ขวัญเป็นนักเรียนนะ แล้วครูกับนักเรียนจะคบกันได้ยังไง ขวัญเข้าใจใช่มั้ย" เสียงทุ้มลึกปฏิเสธอย่างรักษาน้ำใจ แต่มันเหมือนฟ้าผ่าลงมาที่ฉัน ตรง ๆ ความรักครั้งแรกก็อกหักตั้งแต่ยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ เพื่อนสนิทสองคนที่รู้เรื่องนี้ต่างคิดว่าฉันยอมแพ้ไปเรียบร้อย แต่เปล่าเลย ในเมื่อครูซานบอกว่าครูกับนักเรียนจะคบกันไม่ได้ ฉันก็รอจนถึงวันที่ตัวเองพ้นสภาพจากการเป็นนักเรียนของที่นี่ ในวันจบการศึกษาชั้น ม.6 หลังจากรับใบประกาศนียบัตรเรียบร้อย ฉันก็เดินเข้าไปหาครูซานอีกครั้ง คราวนี้เขาไม่ได้เป็นแค่ครูฝึกสอน ครูซานได้เข้ารับตำแหน่งเป็นคุณครูประจำที่โรงเรียนเรียบร้อยแล้ว และฉันก็ไม่ได้เป็นนักเรียนที่นี่อีกต่อไป "ครูซานคะ ขวัญเรียนจบแล้วนะคะ ไม่ได้เป็นนักเรียนที่นี่อีกแล้ว ตอนนี้ครูซานจะรับขวัญไปพิจารณาได้หรือยังคะ" พูดไปก็ก้มหน้ามองพื้นด้วยความอาย คิดวาดฝันภาพอนาคตต่าง ๆ ไว้อย่างสวยงาม "ขวัญ ครูขอโทษที่รับความรู้สึกของขวัญไม่ได้นะ ครูมีคู่หมั้นแล้ว กำลังจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้" ฉันเงยหน้าขึ้นมองคนที่กำลังพูดอยู่ ไม่แค่พูดแต่เขากลับยกมือข้างซ้ายขึ้นมาทำให้เห็นว่าบนนิ้วนางนั้นมีแหวนตีตราจองไว้เรียบร้อยแล้ว การสารภาพรักครั้งที่ 2 ก็พังไม่เป็นท่า เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกเจ็บอยู่ในหัวใจโดยไม่มีคำ ๆ ไหนมาอธิบายได้ ฉันไม่เคยผิดหวัง ไม่ว่าอยากได้อะไรก็จะได้ทุกอย่าง แต่กับความรักครั้งนี้ ไม่ว่าจะพยายามหรือรอคอยยังไง ฉันก็ไม่ได้รับความรักตอบแทนมา อาจจะด้วยความเป็นเด็กยังไม่ประสีประสาเรื่องความรักจึงทำให้ไม่เคยเผื่อใจว่าจะผิดหวัง อกหักจากการรักข้างเดียวเป็นครั้งที่ 2.... เฮ้อ...คิดไปคิดมาข้างในยังเจ็บจี๊ด ๆ อยู่เลย ไม่มีวันไหนที่ฉันจะลืมความรักในครั้งนั้น จนถึงทุกวันนี้ฉันยังลบครูซานออกไปจากหัวใจไม่ได้ป่านนี้แล้วเขาคงจะแต่งงานมีลูกเต็มบ้านแล้วมั้ง หลังจากคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยฉันก็พาร่างกายที่แสนเหนื่อยล้าเข้ามายังห้องอาบน้ำ สายน้ำอุ่นไหลลงรดร่างกายช่วยให้ผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี ร่างกายที่ไม่เคยมีใครได้สัมผัส พูดตามตรงฉันก็เหงาเหมือนกันนะ อยากจะมีใครสักคนมาอยู่ข้างกายเหมือนกัน อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จกำลังจะล้มตัวลงนอน เสียงข้อความจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เมื่อเปิดอ่านดูก็ทำให้ความเหนื่อยที่กำลังจะหายไปก็ย้ายมาที่ใจฉันแทน /ฝันดีนะคะ อย่าลืมฝันถึงเฮียเสือด้วยนะ/ เป็นใครไปไม่ได้นอกจากเฮียเสือ ผู้ชายที่สามารถทำให้ฉันถอนหายใจได้วันละพันรอบ /ถ้าฝันถึงเฮียเขาเรียกว่าฝันร้ายค่ะ/ ข้อความถูกส่งกลับไปแล้วฉันก็ตั้งโทรศัพท์ในโหมดปิดเสียงทันที ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าหลังจากนี้จะมีข้อความเข้ามาอีกนับสิบ แต่ช่างเถอะฉันไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว เฮียเสือก็เป็นแบบนี้จนฉันชินแล้วล่ะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม