“ดูท่าพ่อแม่เธอจะแจ้งตำรวจแล้วนะ”
“น่าจะใช่คะ งั้นเดี๋ยวดวงใจ กดกริ่งเรียกที่บ้านก่อนนะคะ”
“อืม”
ผมพยักหน้าเบาๆ แล้วพอดวงใจกดกริ่งซักพัก พวกคนงานก็วิ่งออกมาพอเห็นว่าเป็นดวงใจก็โวยวายกันใหญ่เลย ทำให้คนในบ้านต่างวิ่งกรูกันออกมา
“ดวงใจ ดวงใจ จริงๆด้วย หนูหายไปไหนมาลูก”
“ดวงใจโดนดักทำร้ายคะ”
“อะไรนะ ใครมันกล้าทำร้ายลูกสาวพ่อ พ่อจะไปฆ่ามัน”
ทุกคนดูหัวร้อนกันมากและดูเป็นห่วงดวงใจมากเช่นกัน แล้วซักพัก พ่อของดวงใจก็หันมามองผม ด้วยสายตาที่ไม่ค่อยเป็นมิตรซักเท่าไหร่ สายตาเขาไม่ได้ดูถูกผมนะ แต่เป็นสายตาไม่ไว้วางใจมากกว่า
“แล้วแกเป็นใครมากับลูกสาวฉันได้ยังไง”ถามผมได้ไพเราะมากเลยนะ ดูก็รู้ว่าโคตรหวงลูกสาว
“สวัสดีครับ ผมชื่อไวยลักษณ์ครับ
“แล้วไง”
“พ่อพฤกคะ พี่ไวยช่วยดวงใจไว้คะ ถ้าไม่ได้พี่เขาดวงใจคงแย่ไปแล้ว”
พ่อและแม่ของดวงใจเปลี่ยนสีหน้าทันทีก่อนที่ท่านจะจับไหล่ผมแล้วตบเบาๆ
“ขอบใจจะไอ้หนุ่ม ถ้ามีอะไรให้ฉันช่วยบอกฉันมาได้เลย บุญคุณครั้งนี้ฉันจะไม่ลืม”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ผมก็ช่วยไปตามหน้าที่”
“อืมขอบใจนายมันสุภาพบุรุษจริงๆ”ได้รับคำชมกันยกใหญ่เลยผม
“งั้นผมลาก่อนนะครับ พอดีต้องไปธุระต่อ”
“ได้ๆ”
ผมยกมือไหว้พวกท่านก่อนที่จะหันไปสบตากันดวงใจนิดนึง ผมรู้สึกใจหายนะที่คิดว่าจะได้เจอเธอแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวแล้ว แต่ทำไงได้ละครับ เธอเป็นถึงลูกคุณหนู ส่วนผม เป็นแค่เด็กเดินยาก็เท่านั้น
ผมขับรถกลับมาที่ห้อง ซึ่งตอนนี้พี่วิกำลังนั่งกระวนกระวายเหงื่อแตกเต็มไปหมด ผมจึงรีบเข้าไปกอดพี่วิเอาไว้
“พี่วิครับพี่วิ ไวยอยู่นี่แล้วพี่ ใจเย็นๆนะ”
“ไวย ไวยหายไปไหนมา ไวยจะทิ้งพี่ไปใช่มั้ย ไวย”
พี่วิกระวนกระวายหนักกว่าเดิม ผมจึงกอดพี่วิแน่นขึ้นพร้อมกับพยายามปลอบใจ ทำไมเจ๊เล้งมันถึงไม่มาบอกพี่วิว่าผมทำงานอยู่ ส่วนผมแม่งก็ลืมว่าพี่วิต้องเป็นห่วงด้วยเหมือนกัน
“ไม่ใช่พอดีไวยต้องทำงานที่ร้านเสี่ยมงคลทั้งคืนเลย ส่วนตอนเช้า ไวยก็ติดธุระช่วยคน ไวยไม่ได้เป็นอะไรเลยนะพี่วิ แล้วไวยก็ไม่ได้หนีพี่วิด้วย ดูซิ ไวยยังซื้อของกินมาเต็มเลย มีเสื้อผ้าพี่วิด้วยนะ”
พี่วิค่อยๆสงบลงก่อนจะมองไปยังถุงที่ผมถือมา ใช่ครับพี่วิเป็นโรควิตกกังวล ผลมาจากที่พี่วิเห็นพ่อกับแม่ฆ่าตัวตายตั้งแตกเด็ก พี่วิจะต้องกินยาระงับประสาททุกวัน และถ้าผมหายไปนานพี่วิก็จะมีอาการกำเริบแบบนี้ เพราะพี่วิกลัวที่ผมจะหายไปนั่นเอง
“ไวย ไวยอย่าทิ้งพี่ไปนะ”
พี่วิกอดรัดผมแน่น ส่วนมือก็แหวกเสื้อผม เพื่อถอดเสื้อผมออก ในตอนนี้ผมรู้ว่าสติพี่วิได้หายไปแล้ว พี่วิต้องการทำเรื่องอย่างว่ากับผม ผมจึงรีบเขย่าตัวพี่วิให้รู้สึกตัว แต่มันช้าไปครับ พี่วิไม่ได้กินยาระงับประสาทมันจึงทำให้พี่วิปิดกั้นการรับรู้ ผมถูกพี่วิลวนลามไปจนถึงกางเกง ผมพยายามจะจับพี่วิเอาไว้ แต่ก็ไม่อยากทำแรงเพราะกลัวว่าพี่วิจะเจ็บ มันเลยทำให้ผมห้ามพี่วิได้ลำบากมาก
“พี่วิ นี่ไวยน้องพี่นะ ใจเย็น พี่วิ”
พี่วิไม่ฟังเสียงใดๆทั้งสิ้นแถมยังเลื่อนหน้ามาจูบผมอีกต่างหาก การกระทำทั้งหมด มันเข้าข่ายทำแบบชู้สาวเลยซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เพราะเราเป็นพี่น้องกัน ผมจึงผลักพี่วิออกแล้ว พยายามหยิบขวดยาพี่วิมา ผมเทยาลงฝ่ามือในขณะที่ปากพี่วิค่อยๆเลื่อนลงไปที่ใต้สะดือของผม พอยามาอยู่ในมือ ผมก็จับมันทั้งหมดเข้าปาก ก่อนที่จะดึงพี่วิขึ้นมาจูบอีกครั้ง แต่คราวนี้ผมดันยาเข่าปากพี่วิอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ไม่นานจะเห็นว่าพี่วิกลืนยาลงไปแล้ว ซึ่งยาชนิดนี้มันจะออกผลเร็วมาก ไม่นานพี่วิก็ค่อยๆสงบสติลง ผมจึงจับพี่วิเบาๆเพื่อเรียกสติอีกครั้ง
“พี่วิ นี่ไวยนะ พี่วิจำไวยได้มั้ย”ผมแตะที่แขนพี่วิเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบผ้าเย็นที่ใส่ไว้ในกระติกมาเช็ดหน้าให้พี่วิ เพื่อพยายามเรียกสติทั้งหมดของพี่วิกลับมา
“อืม ได้ซิ ตกลง ไวยไม่ได้ทิ้งพี่จริงๆใช่มั้ย”
ค่อยโล่งอกหน่อย ที่สติพี่วิกลับมาแล้ว
“ไม่ทิ้งหรอกครับ ไวยจะอยู่กับพี่วิ ไวยสัญญา มาครับ เรามากินข้าวกันดีกว่า พี่วิน่าจะหิวแล้ว”
ผมลุกขึ้นพร้อมกับใส่กางเกงให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินเทข้าวใส่จานให้พี่วิ รวมถึงเตรียมยาอีกชุดให้พี่วิกินด้วย ช่วงนี้อาการพี่วิดูหนักขึ้น ผลพวงก็มาจากการที่พี่วิรับแขกหนัก และไม่ได้พักผ่อนนั่นเอง พอพี่วิกินข้าวกินยาเสร็จพี่วิก็เริ่มอารมณ์ดี และกลับมาปกติเหมือนกับเรื่องเมื่อกี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลย
เช้ามาพอดีผมมีเรียนช่วงเช้า ผมจึงรีบขับรถไป ม. ส่วนพี่วิก็ยังนอน เพื่อที่จะเก็บแรงเอาไว้ทำงานช่วงเย็น ผมขับรถมาที่ ม. เพื่อที่จะได้เข้าเรียน แต่ผมก็เห็นกาน ลงรถมากับ ไอ้แม็ค ลูกชายของท่านอธิบดีของมหาลัย กานหันมาสบตาผมพอดี สีหน้าของเธอดูเศร้ามากครับ ก่อนที่กานจะยืนจ้องผมด้วยท่าทีที่เว้าวอน ผมว่าเธอคงถูกพ่อแม่บังคับให้เลิกคบกับผม แล้วไปคบกับไอ้แม็คแน่นอน
“กาน ไปเรียนเหอะ อยู่ตรงนี้นานๆอากาศมันจะเป็นพิษนะ”ไอ้แม็คเอามือขึ้นไปโอบไหล่กานเอาไว้แน่น
“แม็ค พูดอะไรนะ”
“ก็เราพูดจริง”
มันหันมามองผมก่อนจะยิ้มมุมปาแนวเยาะเย้ยใส่ แบบนี้ใครจะยอมละครับ ผมเข้าไปกระชากคอเสื้อมันก่อนที่จะต่อยมันทันที ทำให้คนรอบข้างต่างฮือฮากันใหญ่
“ไวย หยุดก่อนไวย อย่าทำแบบนี้ กานขอนะไวย”กานเข้ามาห้ามทัพก่อนที่ไอ้แม็คมันจะลุกขึ้นมา ชี้หน้าด่าผม ได้ดิ มึงอยากโดนอีกก็ได้ ผมจึงวิ่งเข้าใส่มันอีกครั้ง แต่กานก็ยืนขวางหน้าผมเอาไว้พร้อมกับส่ายหัว
“กูจะให้พ่อกูไล่มึงออก มึงต้องไม่มีที่เรียนไอ้สัสไวย”
“เอาดิ มึงเอาเลย จะทำเหี้ยอะไรก็เชิญไอ้แม็ค มึงมันก็แค่ลูกแหง่ที่อยู่ใต้ร่มเงาพ่อมึง ใช้อิทธิพลของพ่อก็เท่านั้น ไอ้ส้นตีน”
“แล้วไง ก็ดีกว่าไอ้เด็กที่โตจากซ่องอย่างมึงก็แล้วกันไอ้ลูกกระหรี่”
“ไอ้สัส มึงอยากเจอตีนใช่มั้ย”
“พอเลยแม็ค หยุดเลยนะ ถ้าแม็คไม่หยุด กานจะเลิกยุ่งกับแม็คจริงๆนะ”
น้ำเสียงกานจริงจังจนไอ้แม็คต้องหยุดตามคำพูดของเธอ แล้วกานก็เดินหนีไปทันที ไอ้แม็คจึงรีบวิ่งตามกานก่อนที่จะหันมาอาฆาตมาตร้ายใส่ผม พอเลย ไม่ลงไม่เรียนมันละหมดอารมณ์ ผมขับรถออกจากม.มาทันที แล้วจะไปไหนละทีนี้ ผมก็มีที่ไปไม่เยอะนักหรอกเพราะผมไม่ค่อยจะมีเพื่อน อาจจะด้วยนิสัยผมก็ได้นะ มันเลยทำให้ผมเลือกที่จะอยู่คนเดียวมากกว่า แต่ถามว่าเพื่อนจริงๆนะมีมั้ยก็มีอยู่ แต่มัน 2 ตัวเป็นพวกเสือผู้หญิง ชอบเอามั่วซั่ว สวิงกลิ้งก็เคยมาละ ลากเด็กมาข่มขืนก็ยังทำ ผมเลยไม่ค่อยอะไรกับพวกมันเท่าไหร่ แต่วันนี้ไม่มีที่ไปจริงๆครับ จะกลับห้องก็กลัวว่าพี่วิจะอาละวาดหาว่าไม่ตั้งใจเรียน งั้นผมขอไปห้องพวกมันก็แล้วกัน
ปังๆๆๆๆๆ
เสียงรัวประตูจากฝีมือผมทำเอาคนด้านในโวยวายใหญ่เลย ก่อนที่มันจะลุกมาเปิดประตูให้ด้วยท่าทางที่ยังไม่ส่างยาเท่าไหร่
“อะไรวะเนี้ย เหี้ยอะไรวะ” ไอ้เดร็ก โวยวายลั่นหน้าห้องเลย พอมันลืมตามองดีๆมันก็เห็นว่าเป็นผมมันก็ยืนอึ้งไปเลย
“ลมอะไรหอบมึงมาเนี้ยไอ้ไวย”
“วันนี้ไม่รู้จะไปไหนวะ”
“เลยนึกถึงกูว่างั้น”
“เออ”
“เออ ดีนะไอ้สัส”
“จะยืนพูดอีกนานมั้ย กูจะได้เข้าไปซะที”ผมพยายามจะเข้ามาในห้อง แต่ไอ้เดร็กก็พยายามห้ามเอาไว้ แบบนี้ต้องมีเรื่องเหี้ยๆเกิดขึ้นด้านในแน่นอน
“กูว่าไปคุยข้างล่างกันดีกว่านะ”
“มึงมีอะไร กันแน่ไอ้เดร็ก”
“ไม่มีจริงๆ ไปๆ ไปคุยข้างล่าง”
“ถ้ามึงไม่ให้กูเข้า ต่อไปอย่ามาเอาของที่กูนะ”
ผมขู่มันแล้วไม่ใช่แค่ขู่ด้วยเพราะผมทำจริง ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ไอ้เดร็กถึงกับต้องรีบหลีกทางให้ผมเข้าไปอย่างว่าง่ายเลย และผมเข้ามาในห้อง ก็เห็นว่าพวกมันน่าจะกินเหล้ากันตั้งแต่เมื่อคืน เพราะขวดเหล้ากองเต็มห้องไปหมดอุปกรณ์ดูดยาพร้อม ส่วนในห้องนอน ผมก็ยังเห็นว่ามีสาวสวยนอนแก็ผ้าอยู่บนเตียง โดยมีไอ้ชิน นอนกอดอยู่
“เมื่อคืนมึงทำอะไรกันวะ”
“สวิง ทำไม มึงอยากแงะ”
“เหี้ย มึงทำอะไรก็เบาๆกันหน่อยดิวะ เมื่อคืนมึงเล่นยาใช่มั้ยไอ้เดร็ก”
ผมหันไปถามมัน สีหน้าไอ้เดร็กเซ็งทันทีที่โดนผมจับได้ แล้วคือมันก็พยายามหลบหน้าหลบตา ผมนี่อยากจะถีบแม่งให้กระเด็น
“ก็แค่นิดหน่อยป่าววะ”
“แต่กูว่าไม่นิดนะ เด็กนั่นมึงก็ไปวางยาเอามาใช่มั้ย”
“ป่าว”
“ไอ้เดร็ก”
“เออๆ ก็แค่ขำๆป่าววะ”
“แต่เด็กมันคงไม่ขำด้วยที่มึงทำเหี้ยอะไรแบบนี้”