บัวบงกชเก็บโต๊ะเสร็จก็เดินไปหาเขาที่ห้องนอน ที่ตอนนี้อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายไว้รอเธอแล้ว เขานอนรอที่เตียงแล้วหันหน้ามามองเธอที่เดินเข้ามา
“พรุ่งนี้ฉันจะเอาเสื้อผ้ามาทิ้งไว้ที่นี่ เผื่อได้ค้าง” เขาบอก
“แสดงว่าคืนนี้คุณไม่ค้างงั้นหรือคะ” เธอถามเขา
“ไม่ล่ะ” ศรายุทธบอกแล้วเรียกเธอให้เข้ามาหาเขา
บัวบงกชยิ้ม เธอเดินไปพลางถอดเสื้อของเธอออกไป มาถึงขั้นนี้แล้วไม่มีอะไรต้องอาย เธอต้องเอาใจเขาเพื่อเงินก้อนใหญ่ที่เธอจำเป็นต้องใช้ในอีกไม่กี่วันนี้
ศรายุทธมองลีลาการเยื้องย่างของเธออย่างพอใจ แล้วก็จ้องเรือนร่างที่หยุดยืนแก้ผ้าตรงหน้าของเขาด้วยความปรารถนา
“วันนี้ปล่อยข้างในได้ใช่ไหม” เขาถามเธอ
“อยู่ในช่วงปลอดภัยพอดีค่ะ เดี๋ยวบัวก็จะเป็นประจำเดือนแล้ว ถ้าคุณอยากปล่อยข้างใน ต่อไปบัวจะทานยาคุมให้ค่ะ” เธอบอกเขาเสียงอ้อนอย่างเอาใจ
“ดีมาก” เขาบอกแล้วรั้งเอวบางเข้ามาหาตัวเขาแล้วเริ่มจูบเล้าโลมเธออย่างดูดดื่ม
ศรายุทธดึงเธอลงมาทับเขาไว้แล้วดันศีรษะเธอลงไปข้างล่างให้ใช้ปากให้เขา ซึ่งเธอก็ทำตามอย่างว่าง่ายแล้วปรนนิบัติเขาอย่างสุดความสามารถ
บัวบงกชเลื้อยตัวขึ้นมาแล้วพรมจูบหน้าท้องของเขาไล่มาจนจึงแผงอกกว้างนั้นแล้วเลียวนรอบฐานอกเขา ก่อนจะดูดเลียเม็ดทับทิมนั้นแล้วใช้มือรูดแท่งลำนั้นไปด้วยเพื่อกระตุ้นความปรารถนาของอีกฝ่าย ก่อนจะขึ้นไปอยู่ข้างบนตัวเขา แล้วกดสะโพกลงเข้าหาแท่งลำนั้นลงไปจนมิดลำ
ศรายุทธครางออกมาอย่างพอใจเมื่อเธอนั้นเป็นฝ่ายอยู่ด้านบน แล้วกำลังเริ่มยกตัวขย่มขึ้นลงอย่างเก้ๆ กังๆ เพื่อพยายามเอาใจเขาอยู่
บัวบงกชขย่มขึ้นลงสักพักก็เริ่มจับทางได้ เธอขย่มแรงและเร็วขึ้นเรื่อยๆ หวังจะให้เขานั้นถึงจุดหมายไปก่อนเธอ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอเองกลับเป็นฝ่ายที่แทบจะทนไม่ไหว พลางคิดว่าทำไมไม่เหมือนที่รุ่นพี่ในร้านเคยบอกมา ว่าผู้หญิงขึ้นทำแล้วผู้ชายจะเสร็จไวกว่า
เธอครางออกมาถี่ๆ แล้วขย่มขึ้นลงไม่หยุด ศรายุทธครางในลำคออย่างพอใจไม่คิดว่าเธอจะร้อนแรงถึงเพียงนี้
ในที่สุดบัวบงกชก็แพ้ภัยตัวเอง เธอถึงเส้นชัยไปก่อนเขาอย่างควบคุมไม่ได้ แล้วก็ตัวอ่อนลงไปฟุบที่หน้าอกของเขา
ศรายุทธยิ้มกริ่มอย่างเอ็นดูแล้วจับเธอนอนหงายลงไป มองใบหน้างามที่เหงื่อผุดเต็มหน้าแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ
“มีแรงแค่นี้นะหรือ” เขาถามเธอแล้วจัดการสอดใส่เข้าไปข้างในพรวดเดียวจนบัวบงกชสะดุ้งแล้วอุทานออกมา
ศรายุทธเริ่มแสดงให้เธอรู้ว่าเขาอึดกว่าที่เธอคิดแค่ไหน เขากระแทกเข้าไปถี่ๆ อยู่สักพักบัวบงกชก็เริ่มครางออกมา เธอกำผ้าปูที่นอนแน่นแล้วกัดริมฝีปากล่างพยายามกลั้นไม่ให้ครางออกมาอย่างสุดฤทธิ์
เขากระแทกอยู่นานจนในที่สุดบัวบงกชก็หลุดครางออดมาถี่ๆ สูดปากอย่างเสียวซ่านในบทรักที่แสนดุดันของเขาแล้วก็ตัวอ่อนไปอีกรอบ
ศรายุทธเองก็ทนไม่ไหว เขากระแทกแรงๆ อีกไม่กี่ทีก็ปลดปล่อยเข้าไปแล้วยกยิ้มอย่างพอใจกับความรู้สึกที่โล่งสบายตัวที่ได้ปลดปล่อยออกไปเต็มรัก
เขาเดินไปใส่เสื้อผ้าเพื่อที่จะเตรียมตัวกลับไป
“อยากได้เท่าไร” เขาถามเธอขณะที่กำลังใส่เสื้อยู่
“สองหมื่นค่ะ แล้วสัปดาห์หน้าอีกสองหมื่น” บัวบงกชบอกเขาเสียงเบากลัวโดนต่อว่าที่วันแรกก็ขอเขามากขนาดนี้แล้ว
ศรายุทธอึ้งไปนิดที่เธอขอเขาในจำนวนที่ถือว่ามากในครั้งแรก แต่นั่นมันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา เขาขอเลขที่บัญชีจากเธอแล้วโอนเงินให้ทันที
“ห้าหมื่นเลยหรือคะ” เธอถามเขาด้วยความตกใจเมื่อเห็นข้อความแจ้งยอดเงินในบัญชี
“ขี้เกียจโอนหลายครั้ง” เขาบอกแล้วเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้บัวบงกชนั่งยิ้มอย่างดีใจแบบงงๆ อยู่อย่างนั้นที่ได้เงินห้าหมื่นมาได้อย่างง่ายดายแค่ทอดกายให้เขาเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น
*********************
ศรายุทธขับรถมาจอดที่ลานจอดรถในบ้านของเขา คนขับรถมารับรถของเขาไปเก็บ แล้วศรายุทธก็เดินเข้าไปในบ้าน ทันทีที่เดินเข้าไป สินีนาถก็รีบเดินออกมาต้อนรับเขาทันที
“วันนี้กลับดึกจังเลยนะคะ จะรับอาหารเลยไหมคะ นาถจะให้เด็กอุ่นให้” สินีนาถถามด้วยน้ำเสียงที่ห่วงใย เธอเป็นน้องสาวของสิริพิชญ์ ภรรยาของเขาที่เสียชีวิตไป และดูเหมือนว่าเธอมีใจให้เขา
“ไม่ล่ะ พี่ทานมาจากข้างนอกแล้ว” ศรายุทธบอก
สำหรับเขา สินีนาถก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร เธอช่างเอาใจเหมือนพี่สาว แต่ติดที่ศรายุทธไม่อยากเป็นสมภารกินไก่วัด และไม่อยากคว้าคนใกล้ตัวของภรรยามาแทนที่เธอ มันรู้สึกเหมือนว่าเขาหักหลังเธอ ทั้งที่เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วในสังคมตอนนี้
“งั้นให้นาถบีบหลังให้ไหมคะ” สินีนาถถามเขา ศรายุทธมองเธอสบสายตาอย่างแปลกใจที่เธอเสนออะไรอย่างนี้ขึ้นมา
“เอ่อ นาถหมายถึงให้พี่ยุทธไปนั่งที่เก้าอี้ตัวนั้น ให้นาถบีบนวดให้ดีหรือเปล่าคะ” เธออธิบายเขาด้วยใบหน้าที่แดงเรื่อ
“ไม่ล่ะ พี่อยากนอนพัก ขอตัวนะ” ศรายุทธบอกแล้วรีบขึ้นห้องนอนไป
พอศรายุทธเดินขึ้นไปลับตา สินีนาถก็หน้าบึ้งขึ้นมาอย่างไม่พอใจ
ตอนที่สิริพิชญ์อยู่ เธอก็ทำตัวเรียบร้อยมาตลอดเพราะอยากอยู่ในบ้านหลังนี้ต่อไปในฐานะน้องเมียที่แสนดี แต่เมื่อสิริพิชญ์เสียชีวิตไป สินีนาถก็อยากเลื่อนขั้นขึ้นมา และพยายามอ่อยเขาเบาๆ มานานหลายเดือนแล้ว แต่ศรายุทธก็ไม่มีทีท่าว่าจะเล่นด้วย
‘รอให้เอาอยู่ที่บ้านดีๆ ไม่ชอบ อยากออกไปซื้อกิน คอยดูเถอะสักวันนาถจะทำให้พี่ต้องมาคุกเข่าอยู่แทบเท้านาถให้ได้’ สินีนาถบอกอย่างไม่พอใจแล้วสะบัดก้นเดินเข้าห้องของตัวเองไป
ศรายุทธอาบน้ำแล้วเดินไปนอนที่เตียงด้วยความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัวของเขา
สินีนาถก็เหมือนน้องสาวของเขาคนหนึ่ง เขาไม่คิดอยากได้เธอมาเป็นภรรยาอยู่แล้ว แต่เธอก็พยายามใกล้ชิดเขามาก จนเขาดูออกว่าเธอนั้นมีใจให้กับเขา หากเขาต้องแต่งงานใหม่คงจะทำให้เธอเสียใจมากๆ
เขาเคยคิดเอาไว้ว่าจะยกบ้านที่บัวบงกชอยู่ให้สินีนาถไปอยู่ที่นั่นหากเขาจะต้องแต่งงานใหม่ เพราะรู้ว่าเธอคงลำบากใจที่จะอยู่ต่อ ส่วนภรรยาใหม่ของเขา ซึ่งตอนนี้จริงๆ ก็ยังไม่มีใครในใจ แต่หากมีจริงๆ เธอก็คงรับไม่ได้ที่น้องสาวของอดีตภรรยาของเขาอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน
มันเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ศรายุทธยังไม่อยากมีใครมาแทนที่ภรรยาในตอนนี้ เพราะเขาไม่อยากคิดแก้ปัญหาเรื่องความรู้สึกของผู้หญิงที่เขาไม่มีวันเข้าใจ
การออกไปหาความสุขนอกบ้านตอนนี้จึงเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขาสามารถปลดปล่อยความต้องการออกไปได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องมานั่งคิดเล็กคิดน้อยถึงเรื่องอะไรแบบนี้
ศรายุทธนึกถึงหน้าของบัวบงกชขึ้นมาแล้วเขาก็นึกขึ้นได้ว่าขนาดตัวเธอพอๆ กับภรรยาของเขา จึงลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดกล่องเสื้อผ้าที่เขาซ่อนเอาไว้ใช้กับภรรยาออกมาแล้วยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ นึกถึงสิริพิชญ์ตอนที่ใส่ชุดต่างๆ เหล่านี้ก็อดคิดถึงเธอไม่ได้
สิริพิชญ์อ่อนหวาน บอบบาง แต่เธอตามใจเขาทุกอย่างถ้ามันเป็นความสุขของเขา ไม่ว่าจะเป็นยอมใส่ชุดอาชีพในจินตนาการต่างๆ ขณะร่วมรักกัน หรือแม้กระทั่งร่วมรักกับเขาในบทบาทสมมติที่เขาต้องการ
เขายกชุดเหล่านั้นขึ้นมากอดแล้วดมกลิ่นของภรรยาที่ติดอยู่ อย่างน้อยการส่งต่อชุดเหล่านี้ไปให้บัวบงกช มันก็จะทำให้เขารู้สึกว่าสิริพิชญ์ยังคงอยู่กับเขา ไม่ได้จากไปไหน
“ฉันจะให้เธอเป็นตัวแทนของพิชญ์ เธอจะต้องทำทุกอย่างแทนภรรยาของฉัน บัวบงกช” ศรายุทธพูดพึมพำขึ้นมาแล้วสูดดมเสื้อผ้าเหล่านั้นอีกครั้ง เพื่อลำรึกถึงภรรยาที่จากไป
*********************