หลังเลิกงานธนากลับมาที่โรงแรมอีกครั้งพร้อมเลขาคนสนิท คราวนี้พวกเขาพบสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องเข้าผิดห้อง
“ผมว่าแล้วเชียว ผมจองห้องหนึ่งห้าหนึ่งศูนย์ ดูสิครับ ตอนที่ผมเดินเข้าห้องประชุมผมทำคีย์การ์ดหล่น ผู้หญิงคนนี้ก็เหมือนกัน” ณัฐวุฒิหันไปสั่งให้เจ้าหน้าที่ในห้องควบคุมภาพเปิดตอนที่ผู้หญิงที่ถือคีย์การ์ดหิ้วเหยื่อไปยังห้องพัก “เธอเอาผู้เคราะห์ร้ายไปที่ห้องหนึ่งห้าหนึ่งสี่ จากนั้นก็ลงมาคิดจะเอาคีย์การ์ดมาให้ผู้ชายแต่ชนกับผมก่อน จากนั้นพวกเราหยิบคีย์การ์ดสลับกัน บอสก็เลยเข้าใจว่าห้องพักของบอสคือหนึ่งห้าหนึ่งสี่”
“อืม ฉันก็ว่าฉันดูเลขหน้าห้องกับคีย์การ์ดตรงกันนะ แกเองก็ไม่ได้บอกฉันซะด้วยว่าห้องหมายเลขอะไร? ตอนนั้นแกแค่ชี้ว่าห้องอยู่ตรงนั้น”
ณัฐวุฒินิ่งไปครู่ ตอนนั้นเขาประคองเจ้านายขึ้นลิฟต์มาถึงชั้นสิบห้า พอ ธนารับคีย์การ์ดไปแล้วก็เดินไปที่ห้องพักเอง เขารีบกดลิฟต์ลงไปข้างล่าง
“จริงด้วยครับ ผมไม่ได้ย้ำกับบอสว่าห้องหนึ่งห้าหนึ่งศูนย์ ห้องพักทั้งหมดถูกจองในนามผู้จัดงาน ผมถามแล้ว พวกเขาก็บอกว่าแจกคีย์การ์ดไปโดยไม่ได้ระบุซะด้วยว่าห้องไหนเป็นของใคร”
ธนาหน้าเครียดยิ่งกว่าเดิม “ถ้างั้น ผู้หญิงที่อยู่บนเตียงฉันก็คือเหยื่อจริงๆ น่ะสิ บังเอิญจริงๆ ฉันกับเธอต่างคนก็ต่างซวย”
คืนนั้นหลังจากณัฐวุฒิส่งเขาออกจากลิฟต์ เลขานุการหนุ่มก็ลงไปกีดกันไม่ให้น้ำฟ้าตามหาตัวเจ้านายของตน พองานเลิกเขาก็ขึ้นไปพักที่ห้องคนละปีกตึกกับห้องพักของธนา
“ผมไปค้นในห้องพักหมดทุกซอกทุกมุมแล้วนะครับ ไม่มีร่องรอยการตั้งกล้องหรือจัดฉากอย่างแน่นอน”
เมื่อได้ข้อสรุปว่าผู้หญิงปริศนาบนเตียงไม่ใช่คนที่มีเจตนามาแบล็คเมล์และตัวเขาไม่ได้ถูกจัดฉาก ธนาก็โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง “แปลกมาก ฉันไม่ได้เป็นคนหาตัวยาก แต่เธอก็ไม่ยอมติดต่อกลับมา คงไม่ใช่จะรอให้ท้องแล้วค่อยโผล่มาหรอกนะ”
“ถ้าเป็นแบบนั้น บอสจะทำไงครับ?”
“แกคิดว่าฉันควรทำยังไงดี? ระหว่างจ้างเงินก้อนใหญ่ให้เธอทำแท้งกับจ้างให้เธอท้องจนคลอดแล้วซื้อตัวเด็กเอาไว้?”
“บอสบอกว่าเธอเองก็โดนมอมยา ผมกลัวเธอจะแจ้งความคดีข่มขืนมากกว่าครับ ถ้าเป็นแบบนั้นคงเป็นเรื่องใหญ่”
ธนาพยักหน้า “ฉันก็กลัวจะเป็นแบบนั้น”
“หากเธอจะเอาผิดบอสเรื่องนี้ก็คงยากนะครับเพราะบอสไม่ได้วางแผน ไม่ได้รู้จักกับผู้หญิงที่ลากเธอมาไว้ในห้องและยังไม่รู้จักเธออีกเธอ บางทีเธออาจจะกลัวเสียชื่อเสียงจึงไม่ออกมาเอาเรื่อง”
“แต่ฉันก็ทำเธอไปแล้ว คงปฏิเสธความรับผิดชอบได้ยาก ยกเว้นเราจะหาตัวเธอเจอก่อนแล้วตกลงกันให้จบ นี่ฉันก็นอนไม่หลับหลายวันแล้วนะ”
“ครับ ผมจะหาตัวเธอต่อไป”
รายการข่าวที่ถูกเปิดอยู่อยู่ในร้านอาหารทำให้ณัฐวุฒิเงยหน้าขึ้น ดูด้วยความสนใจ
“ยิงกันอีกแล้ว สังคมโหดร้ายขึ้นทุกวัน”
“สมควรโหดนะคะคุณณัฐ ภรรยาต้องลำบากไปดูแลพ่อสามีที่นอนป่วยอยู่โรงพยาบาลแต่สามีกลับมัวไประเริงกับเมียน้อย ที่พีคไปกว่านั้น เมียน้อยยังคอยหาผู้หญิงมาบำเรอสามีอีก” เนตรดาวทำหน้าเครียด
นอกจากภาพข่าวที่ภรรยาหลวงบุกยิงเมียน้อยจนบาดเจ็บสาหัสและยังยิงสามีจนอวัยวะเพศใช้การไม่ได้ นักข่าวตามไปสัมภาษณ์ผู้ใกล้ชิดจากครอบครัวผู้ลงมือและผู้บาดเจ็บเพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างถ่องแท้
“คุณณัฐดูสิ สามีมีเมียน้อยมาแล้วหลายคนนะคะ ฝ่ายภรรยาช่วยทั้งเรื่องเงินทั้งดูแลครอบครัวสามี แต่สามีก็ไม่เคยซื่อสัตย์กับเธอ แถมยังเอาเงินที่หาได้ไปใช้กับเมียน้อยอีก” เนตรดาวพูดด้วยความแค้นเคือง
ณัฐวุฒิจ้องมองภาพข่าวแล้วตกตะลึง “เฮ้ย!”
“ทำไมคะคุณณัฐ?”
“ผมต้องกลับออฟฟิศเดี๋ยวนี้ คุณกินต่อไปก็แล้วกัน ค่าอาหารส่งบิลไปให้ผม ผมจะจ่ายเงินเอง”
ณัฐวุฒิขึ้นลิฟต์ไปด้วยความรีบร้อน ดีที่ช่วงพักกลางวันวันนี้ธนาสั่งอาหารขึ้นไปรับประทานในห้องทำงาน พอได้รับอนุญาต ณัฐวุฒิก็เข้าไปด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“มีอะไร?”
“ผมเจอผู้หญิงคนนั้นแล้วครับ”
ธนาขยับเก้าอี้ขึ้นมานั่งตัวตรงด้วยความตื่นเต้น “เจอที่ไหน?”
“ในข่าวครับ เธอถูกเมียหลวงบุกไปยิงถึงบริษัท” ณัฐวุฒิก้มหน้าหาข่าวในโทรศัพท์แล้วยื่นให้ธนา “นี่ครับบอส”
ธนาขยายภาพข่าว เขาจ้องภาพผู้หญิงในจอแล้วพยักหน้า “ไม่ผิดตัวแน่ ติดต่อทนายพิพัฒน์ไปที คราวนี้คงต้องให้เขาช่วยแล้ว”
พิพัฒน์อยู่ในสำนักงานทนายความที่ดูแลปัญหาทางกฎหมายให้ครอบครัวของธนามาหลายสิบปี พอได้รับโทรศัพท์จากเลขานุการของเขาก็รีบหิ้วกระเป๋าไปพบประธานบริษัทหนุ่มทันที
“คุณธนา มีเรื่องให้ผมรับใช้เหรอครับ?”
“ใช่ สำคัญมากและเป็นความลับของผมด้วย”
ณัฐวุฒิเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดและจุดประสงค์ของธนาให้ทนายความฟัง
“ได้ครับ ผมจะไปพบผ่องพรรณและหาทางให้เธอเปิดปากเรื่องนี้ให้ได้”
“ช่วยผมทีเถอะ ผมนอนไม่หลับมาพักใหญ่แล้ว ไม่รู้ว่าผู้หญิงโชคร้ายคนนั้นเป็นร้ายตายดียังไง?”
พิพัฒน์เห็นสีหน้าไม่สู้ดีของผู้ว่าจ้างแล้วก็รู้ว่าธนาพูดความจริง ด้วยรูปร่างหน้าตาและฐานะ ธนาไม่จำเป็นต้องหลอกลวงหรือบังคับขืนใจผู้หญิงเลยสักนิด
“คุณธนาทำใจให้สบายไว้นะครับ ในเมื่อฝ่ายหญิงไม่ยอมติดต่อมานานขนาดนี้ เธอก็ไม่น่าจะแจ้งความว่าคุณข่มขืนแน่”
“พูดตามตรง ผมคิดว่าเธอคือเหยื่อ ผมกลัวเธอจะคิดสั้นหรือทุกข์ใจเพราะผมมากกว่า ยิ่งหาตัวไม่เจอผมก็ยิ่งกังวล”
แบงค์ชี้ไปที่คลิปรายการโทรทัศน์ในแท็บเล็ต “ในที่สุด กรรมก็ตามสนองหญิงโฉดชายชั่วแล้ว พวกเราหาหลักฐานได้ไม่เท่าไหร่ แต่ดูนักข่าวสิ เก่งจริงๆ ไปตามสืบจนรู้เรื่องฉาวๆ อีกตั้งหลายข่าว”
ลิลี่หันไปจับแขนกชอรด้วยความดีใจ “พี่แก้แค้นได้สำเร็จแล้วนะคะ”
“พี่แก้แค้นที่ไหนกัน? นี่เรียกว่าเร่งเวลาให้เวรกรรมมาถึงเร็วขึ้นต่างหาก หากเรื่องเปลี่ยนเป็นตรงกันข้าม คืนนั้นพี่ถูกไอ้สารเลวนี่ข่มขืนคงจะเหมือนตกนรกทั้งเป็น” สีหน้าของกชอรยังคงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “ถ้าเป็นแบบนั้น พี่รับรองเลยว่ามันสองคนต้องตายด้วยมือพี่”
แบงค์ที่นั่งอยู่อีกข้างยกมือจับบ่าของเพื่อนรักแล้วลูบปลอบใจ “ดีแล้วที่แกไม่ตกอยู่ในเงื้อมมือมัน”
“ฉันขอบใจแกกับลิลี่ด้วยที่ช่วยเหลือ”
“ไม่ต้องขอบใจ แกเดือดร้อน ฉันก็ต้องช่วยเหลืออยู่แล้ว พวกเราเป็นเพื่อนกันนะ ฉันเชื่อว่าถ้าฉันมีเรื่องเดือดร้อน แกเองก็ต้องช่วยฉันเหมือนกัน” แบงค์ใช้มือโยกร่างของกชอรไปมา “คราวนี้แกคงสบายใจขึ้นแล้ว”
“ยัง จนกว่าฉันจะแน่ใจว่าคนเลวสองคนนั้นจะไม่ลุกขึ้นมาสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นได้อีก”
ไม่กี่วันต่อจากนั้นก็มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความอีกหลายราย หลายคนเป็นพนักงานเก่าของบริษัทที่ถูกผ่องพรรณมอมยาแล้วนำตัวไปสังเวยบนเตียงให้กับนายทวี บางคนก็เป็นเพียงคนรู้จักที่ถูกผ่องพรรณหลอกไปวางยาแล้วเอาไปทิ้งไว้ในโรงแรมเพื่อให้นายทวีเข้าไปคร่าสวาท
เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตจนบริษัทของนายทวีประกาศไล่ออกผ่านสื่อมวลชน โรงพยาบาลก็แถลงข่าวที่นายทวีผู้บาดเจ็บกลายเป็นบุรุษพิการต้องนั่งรถเข็นและอวัยวะเพศที่ถูกยิงจนกระจุยไม่อาจจะกลับมาอยู่ในสภาพปกติได้ ส่วนผ่องพรรณเธอทนพิษบาดแผลไม่ไหว ทนอยู่ได้ไม่กี่วันก็เสียชีวิต
“เมียหลวงก็อาจจะติดคุกไม่กี่ปี แต่ไอ้ทวีจะต้องติดคุกด้วยพิการด้วย สะใจมากจริงๆ ไหนจะมีคดีแพ่งเรียกร้องค่าเสียหายตามมาอีก หลายคดีขนาดนี้มันต้องหมดตัวแน่นอน” ลิลี่หัวเราะออกมา
“ผัก แกพอใจหรือยัง?”
กชอรพยักหน้า “พอใจแล้ว”
********************