“เมื่อกี้ คุณมิ้งค์พูดไม่ดีกับขวัญเลยค่ะ ขวัญไม่กล้าตอบโต้เธอ”
เสี่ยนัทพยักหน้า ระหว่างที่เขาไปนั่งคุยธุระอยู่อีกโต๊ะก็ดื่มไปไม่น้อย เริ่มรู้สึกเมา
“น้องขวัญอย่าไปสนใจเลยครับ คุณมิ้งค์ก็เป็นอย่างนี้ล่ะ เธอถือว่าตัวเองเป็นลูกอดีตอธิบดีไม่ค่อยเห็นใครในสายตาหรอก อีกอย่างเธอก็วนเวียนอยู่ใน แวดวงของพวกเฮียๆ ที่นี่ ทำให้เธอไม่ค่อยเห็นหัวคนอื่นเท่าไหร่”
“แต่...แต่ขวัญไม่สบายใจเลยนะคะ ที่มางานนี้แล้วถูกคนทำแบบนี้ใส่”
เสี่ยนัทคิดจะเอาใจดาราสาวเพราะเขาอยากขึ้นเตียงกับเธอ
“เอางี้ เดี๋ยวพี่จะไปบอกคุณมิ้งค์สักหน่อยให้เธอพูดจาระวังกับน้องขวัญให้มากกว่านี้”
เพียงขวัญทำหน้าเจื่อน พยักหน้าเบาๆ “ขอบคุณพี่นัทมากนะคะ”
เสี่ยนัทมองหามิ้งค์ไปทีละโต๊ะ เขาเดินเซออกไปในจังหวะเดียวกับที่เป็นเอกเดินกลับมา เพียงขวัญแสร้งนั่งก้มหน้าใช้นิ้วไล้ไปรอบๆ ขอบแก้วไวน์ทำเหมือนกำลังฟังเพลงและใช้ความคิดเพลินอยู่ลำพัง
เป็นเอกทรุดตัวลงนั่ง หลังจากปัสสาวะเสร็จเดินกลับมาถึงโต๊ะมองเห็นแก้วไวน์ก็รู้สึกกระหาย เขาหันไปหยิบขวดไวน์ในถังแช่ออกมารินเล็กน้อยแล้วยกขึ้นดื่ม เพียงขวัญปรายหางตามองแล้วรีบหันกลับไป
เสี่ยนัทดึงแขนมิ้งค์ออกไปหลบมุมเพื่อพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว แต่เสียงเพลงที่ดังอยู่ในงานก็ทำให้คนที่เมาและเริ่มมึนสองคนพูดคุยกันอย่างยากลำบาก
เพียงขวัญพลิกข้อมือดูนาฬิกา ยาที่เธอเหยาะลงในแก้วไวน์ของเป็นเอกน่าจะออกฤทธิ์ในยี่สิบนาที หญิงสาวแอบลุ้นให้เสี่ยนัทกับมิ้งค์พูดกันอยู่นานจนยาเริ่มออกฤทธิ์
“คุณเป็นเอกไหวไหมคะ?”
ชายหนุ่มที่พิงหลังไปกับโซฟาเริ่มรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งเนื้อทั้งตัว ความเมาและฤทธิ์ยาทำให้เขารู้สึกเลือดลมภายในพลุ่งพล่าน เป็นเอกรู้สึกว่าตนเองไม่ปกติแต่ยังหาสาเหตุไม่ได้ เพียงขวัญขยับเข้ามาประชิดที่โซฟาตัวเดียวกัน
“ให้ขวัญช่วยนะคะ ถ้าไม่ไหวขึ้นไปนอนพักก่อนน่าจะดี เดี๋ยวขวัญจะพาคุณไปส่งห้องที่ก็แล้วกัน”
เป็นเอกเริ่มสลึมสลือ เขารู้สึกว่าพฤติกรรมของผู้หญิงตรงหน้าไม่ค่อยชอบมาพากล ชายรู้สึกร้อนผ่าวที่ช่วงล่างเขากลอกตามองหาคนที่จะช่วยให้เขาหลุดพ้นจากเหตุคับขัน
“ไปกันเถอะค่ะ อย่ารอช้าเลย”
ดาราสาวรีบยกแขนของเป็นเอกขึ้นพาดบนคอตนเองแล้วทำท่าเหมือนกำลังโอบกอดกับเขาจะเดินออกจากห้องสังสรรค์ ยิ่งได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้หญิงความต้องการทางเพศของเป็นเอกก็เริ่มปะทุขึ้น
เนติที่คลอเคลียกับคู่ขานึกอยากเปลี่ยนบรรยากาศจึงไปนั่งหลบมุมกอดจูบลูบคลำกันอยู่พักใหญ่ที่โซฟาลับตาคน เขากระซิบกระซาบชวนเธอขึ้นห้องแต่เธอกลับบอกว่าวันนี้ลืมหยิบกล่องถุงยางอนามัยมาด้วย
“อ้าว! งั้นรอเดี๋ยวนะ เฮียไปเอาที่เคาน์เตอร์แป๊บ”
ชายหนุ่มดุ่มเดินไปเคาน์เตอร์ที่มีถุงยางอนามัยอย่างดีเอาไว้แจกแขกในปาร์ตี้ เป็นเอกมองเห็นน้องชายกำลังเดินสวนมาก็รีบยกขาขวางเอาไว้ เนติที่ไม่ได้สังเกตผวาไปข้างหน้า เคราะห์ดีที่ยังไม่ล้ม
“โอ๊ย!”
ร่างของเนติเซถลาไปชนด้านหลังของหญิงสาวผู้หนึ่ง
“อ๊ะ!”
ร่างบางในชุดแซคสีดำหันกลับมา “คุณเนติ เป็นไรคะ?”
เนติที่ใช้สองมือจับคนข้างหน้าเอาไว้รีบหันกลับมาคิดจะเอาเรื่องคนที่ใช้ขาขวางเขาอย่างเต็มที่
“อ้าวเฮีย!”
เพียงขวัญตกตะลึง คาดไม่ถึงว่าตนเองจะพลาดนาทีสุดท้าย เป็นเอกผละออกจากเธอโผเข้าไปกอดเนติด้วยอาการซวดเซแล้วกระซิบที่ข้างหูเขา
“พาเฮียกลับเดี๋ยวนี้”
น้ำเสียงจริงจังของพี่ชายทำให้เนติหันไปมองเพียงขวัญด้วยแววตาไม่ไว้ใจ “ขอบคุณนะครับน้องขวัญที่ช่วยพยุงเฮียเอกมา เดี๋ยวผมต้องพาพี่ชายของผมกลับบ้านก่อน”
เพียงขวัญจะอ้าปากค้านก็ไม่ทันแล้ว เนติรีบพยุงพี่ชายออกจากที่แห่งนั้นอย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงรถเขาจึงได้เอ่ยปากถาม
“เฮียเป็นอะไรครับ?”
“สงสัยจะถูกวางยา” คนเป็นพี่ตอบกระท่อนกระแท่น “กลับบ้านก่อนเถอะ”
“เฮียไหวไหม?”
“เออ...ยังไหว”
เกือบค่อนคืนแล้วบนทางด่วนมีรถวิ่งน้อยลงมาก แค่ขึ้นทางด่วนไม่นานนักก็ถึงคฤหาสน์สกุลเจียง เป็นเอกรู้สึกว่าตนเองเริ่มสะบัดร้อนสะบัดหนาว ท่อนล่างเริ่มมีปฏิกิริยา
เนติจอดรถหน้าประตูบ้านใหญ่ หนูแจ่มโผหน้าออกมาต้อนรับ
“ทำไมเป็นเธอล่ะ? พวกสาวใช้ไปไหนกัน?”
“เข้านอนกันหมดแล้วค่ะ ก็พวกเฮียบอกว่าจะไม่กลับนี่คะ”
หนูแจ่มอึกอัก เธอเองก็อาศัยตอนที่พวกเจ้านายไม่อยู่ออกมานอนโซฟาดูทีวีเครื่องใหญ่ที่ห้องโถง อาการมึนหัวของเธอยังคงมีอยู่ หลังจากที่กินยาแก้อักเสบและยาคลายกล้ามเนื้อที่หมอให้เธอจึงเผลอนอนหลับไปหลายชั่วโมง กระทั่งมีเสียงรถสปอร์ตคำรามอยู่หน้าประตูจึงได้เยี่ยมหน้าออกมาดู
“เอาเถอะๆ มาช่วยฉันประคองเฮียเอกขึ้นห้องก่อน”
รูปร่างของเป็นเอกสูงใหญ่กว่าเนติพอสมควร แม้เขาจะประคองเฮียคนเดียวได้แต่ก็ทุลักทุเล
“ค่ะๆ” หนูแจ่มเห็นอาการคอพับของเป็นเอกแล้วก็รีบเข้ามาช่วย
ทั้งสองพาเป็นเอกที่เหมือนจะก้าวขาไม่ออกขึ้นบันไดไปยังห้องนอนชั้นสอง เมื่อพาเป็นเอกนอนลงที่เตียงได้ เนติก็รู้สึกว่าเขาเองก็มึนเมาอยู่พอสมควร ดีที่ไม่เจอด่านตำรวจ ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องไปนอนอยู่ในคุกก่อนพาพี่ชายกลับมาบ้านได้อย่างปลอดภัย
“ฝากเฮียเอกหน่อยนะ ฉันขอไปอาบน้ำให้สร่างเมาก่อน”
“ได้ค่ะ”
แจ่มใสเริ่มรู้สึกมึนหัว ท้ายทอยมีอาการตื้อๆ เธอทรุดตัวลงนั่งริมเตียงเพราะกลัวว่าหากยืนอยู่ต่อไปตนเองก็อาจจะหัวทิ่ม
ร่างใหญ่บนเตียงสลึมสลือลืมตา โคมไฟหัวเตียงถูกเปิดสว่างทั้งด้านซ้ายและด้านขวา เป็นเอกมองเห็นหญิงสาวที่สวมเสื้อยืดตัวโคร่งกางเกงขาสั้นเหนือเข่านั่งเอียงข้างอยู่ใกล้ๆ
“หนูแจ่มเหรอ?”
หญิงสาวหันไปมอง “เฮียเอกเป็นไงบ้างคะ?”
*********************