“กรี๊ดดดดดดด”
ติ๊ดดดดด เสียงคัตซีนดังขึ้นขัดจังว่ะด้วยเสียงกรีดร้องของหญิงสาว
เสียงหวานใสในชุดเดรซรัดรูปสีดำสุดเซ็กซี่ มือบางกำลังเลื่อนโทรศัพท์ที่ใส่เคสโทรศัพท์กริตเตอร์วิบวับ เล็บยาวสวยถูกตกแต่งด้วยสีชมพูอ่อนสไตล์ผู้ดี อิงอิงใส่หูฟังแอร์พอตราคาแพงปรายสายเป็นเพื่อนสาวสนิทของนาง
“แกจะตะโกนแหกปากทำไมย้ะอิงอิง!” ปลายฟ้าเพื่อนสนิทของเธอแว้ดขึ้นมาเมื่อเสียงกรี๊ดของเพื่อนสาวนางดังจนหูนางแทบจะแตก แถมยังขัดอารมณ์ตอนกำลังเม้ามอยนิยายรักสุดดราม่าเรื่องนี้ที่เธอชอบด้วย!
“แกรรร ฉันขัดใจโว้ยยยย นางร้ายบทเปลืองตัวมากแม่!”
“อิงแกฟังที่ฉันเล่าให้แกฟังบ้างไหมเนี่ย!!”
“เอออ ฉันก็ฟังแกอยู่แต่ฉันก็อ่านบทเริ่มต้นไปด้วย นี่ได้กันตั้งแต่เริ่มเลยหรอแซ่บอ่ะกรี๊ด” อิงอิงยังคงกรีดอย่างต่อเนื่องเมื่อเรื่องมันถึงฉากเอ็นซีที่นางชอบอ่านอีกครั้ง อิงอิงหญิงสาวสวยเซ็กซี่และแข็งแกร่งเธอเป็นลูกสาวของนักธุรกิจชื่อดัง เห็นบอบบางน่าปกป้องแบบนี้เธอก็เป็นสาวแกร่งที่ทำเป็นเกือบทุกอย่างเพราะที่บ้านชอบบังคับมานั่นเอง
“อีอิง! ฉันเม้ากับแกจนถึงกลางเรื่องแล้วรู้ป่ะ แกไม่ฟังฉันเลยอ่ะ เสียใจนะ”
“ขอโทษค้า”
“แกไม่ต้องสนใจพระเอกหรอกไงพระเอกนางเอกก็รักกันอยู่ดี แต่แกดูสิพระรองของฉันน่าสงสารอ้ะ ทั้งแสนดี อ่อนโยน แต่นางเองกลับไปชอบคนที่ดิบเถื่อนอย่างพระเอกได้ไง บลาๆๆๆๆ!”
“อ้อ อ้อ”
อิงอิงยังคงเดินเลื่อนโทรศัพท์โดยไม่ได้ตั้งใจจะฟังเพื่อนของเธอแม้แต่น้อย เธอยังใจจดจ่อกับฉากถัดไปที่พระเอกจะปู้ยี้ปู้ยำนางร้ายแม้จะสงสารนางร้ายอยู่นิดหน่อยแต่ก็สมควรแล้วก็นางคิดทำร้ายคนอื่นนี่เนอะ แต่ถ้าเธอเป็นนางร้ายเธอคงจะหนีไปเอาพระรองแล้วเพราะนางชอบผู้ชาย อ่อนโยนเหมือนหมาน้อยน่ารัก
“แต่ว่าถ้าฉันโดนลงโทษแบบนี้ก็ดีเหมือนกันเนอะ อิอิ” สาวโสดสนิทเช่นเธอทำได้แต่นั่งอ่านนิยายรักอิโรติกไปวันๆ ร่างบางยังคงเดินต่อไปโดยไม่สนใจสายตาและเสียงเรียกร้องจากคนรอบข้างบวกกับเสียงเม้ามอยจากยัยเพื่อนสนิทที่ยังดังกลบเสียงไม่ขาดสาย
“น้อง ระ”
“เห้ย น้ ท”
ฟึบ!
ภาพทุกอย่างตัดไปดำมืดอย่างรวดเร็วความเจ็บปวดนั้นแล่นไปทั่วทั้งตัวภาพสุดท้ายเหมือนเธอจะวูบหล่นไปที่ไหนสักที่ แต่อิงอิงกลับต้องแปลกใจเมื่อเธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นยังมีลมหายใจอยู่ อิงอิงพยายามลืมตาขึ้นมาความเจ็บปวดสายหนึ่งแล่นเข้ามาระหว่างกลางกายของเธอ ความรู้สึกคับแน่นทำให้เธอต้องโพล่งตาของตัวเองขึ้นมา
“หึ เจ้ายังไม่ตายหรอกรึ”
เสียงแหบพร่าดังขึ้นท่ามกลางความมืด อิงอิงพยายามปรับสายตาให้ชิน แสงไฟจากแสงเทียนอ่อนๆ กระทบลงบนใบหน้าของผู้ชายที่อยู่บนตัวของเธอ ใบหน้าหล่อเหลาราวกับประติมากรรมแกะสลัก ใบหน้าที่ใครเห็นก็ต้องตายด้วยดาเมจความหล่อนี้ ดวงตาคมเฉี่ยวแฝงไว้ด้วยความเร่าร้อน จมูกโด่งเป็นสันราวกับทำศัลยกรรมมา ริมฝีปากหยักอมชมพูได้รูป ใบหน้าคมเข้มเห็นสันกรามชัดเจน ลำคอหนาดูน่ากัด ร่างกายกำยำแข็งแกร่ง ซิกแพ็กทั้งหักลูก และ
“เห้ยยย!” ไอ้หนอนยักษ์! อิงอิงตกใจตะโกนร้องเสียงดัง
ฟุบ
“อื้อ อื้อ”
ลู่เฉิงรีบเอามือปิดปากของนางโดยพลัน เมื่อไม่กี่ชั่วยามก่อนนางยังร้องครางอยู่ภายใต้ร่างของเขาแต่ช่วงประเดี๋ยวเดียวนางกลับนิ่งเงียบไปจนเขาคิดว่านางตายคาอกเขาไปแล้ว แต่แล้วนางกลับเบิกตาโพล่งขึ้นมาซึ่งนั่นก็ทำให้เขาตกใจอยู่เล็กน้อย จนเกือบจะหยุดกลางคันแต่ด้วยความที่เขาต้องคงความชายชาตรีผู้นิ่งขรึมไว้ เขาจึงไม่ได้หยุดการกระทำของเขาต่อ
เอี๊ยด เอี๊ยด เสียงเสียดสีของเตียงยังคงดังอยู่ต่อเนื่อง ความรู้สึกร้อนวูบวาบและความเจ็บแล่นเข้ามาภายในตัวของเธอ เธอรู้สึกแปลกใหม่กับสัมผัสแบบนี้ แน่นอนเธอยังซิงและโสดแต่ตื่นมาอีกทีกำลังโดนผู้ชายมาดหล่อผมยาวกำลังขย่มเธออยู่!
“อ๊ะ อื้อ หยุดนะ อ๊า”
“เจ้าบอกให้ข้าหยุดช้าไปหรือไม่ อืมม”
ปัก ปัก ปัก ปัก
“อ้าส์”
ลู่เฉิงกระแทกกระทั้นแก่นกายของเขาเข้าสุดออกสุด เต้าคู่อวบของเธอขยับไปมาอย่างรุนแรงตามจังหวะของคนบนตัวเธอ อกคู่สวยล่อสายตาของลู่เฉิงจนเขาอดไม่ได้ที่จะขยำจนหน้าอกของนางนั้นปริ้นออกมา ร่างสูงยังคงตอกย้ำลงไปในกายเธออย่างไม่ลดละ ความเจ็บปวดและความเสียวทำให้เธอแทบลืมหายใจ
ลู่เฉิงจับนางพลิกนอนคว่ำ เขากดตัวของนางจนตัวนางจมลงไปกับเตียง แก่นกายที่ใหญ่และแข็งยังคงคาอยู่ที่กลางกายของนาง
“อ๊า นี่มันท่าหมาหรอ อื้อจุก”
“เจ้าพูดสิ่งใดข้ามิใช่สัตว์!”
ปัก ปัก ปัก
“แอร๊ย อื้ออออ”
ลู่เฉิงได้ยินคำพูดดูถูกดูแคลนจากนาง จึงยิ่งกระแทกแก่นกายเข้าไปจนอิงอิงรู้สึกจุกไปทั่วทั้งท้อง มือหยาบจับเอวคอดของนางไว้มั่นก่อนจะยัดตัวตนของเขาเข้าไปจนสุดลำและดึงออกมาจากร่างของนาง ก่อนจะยัดเข้าไปจนสุดลำอีกครั้ง
“กรี๊ดด มันแสบนะ! อ่อนโยนเป็นไหมหะ! อร๊า”
“ข้าบอกเจ้าแล้วว่าอย่าถามหาความอ่อนโยนจากข้า!”
ความคับแน่นของนางยังคงบีบรัดรอบแก่นกายของเขา แม้นี่จะเป็นรอบที่สามในการร่วมรักกับนางในค่ำคืนนี้แล้วก็ตาม อิงอิงที่ไม่เคยถูกชายใดถูกเนื้อต้องตัวมาก่อนกลับเจอ การกระทำของเขาทำให้เธอไม่มีเรี่ยวแรงมากพอที่จะดันร่างเขาออกไปได้ เธอจึงจำต้องยอมรับความกระสันที่เขามอบให้เธออย่างจำนน
แต่อย่างน้อยเธอก็ขอแบบอ่อนโยนได้ไหม!
ลู่เฉิงจับบั้นท้ายกลมกลึงของนางไว้มั่น ก่อนจะแยกมันออกจนเห็นกลีบงามสีแดงสด ยามนางกลืนกินแก่นกายของเขาไปมาทำให้ความกำหนัดของเขารุนแรงมากยิ่งขึ้น เขาฉีกมันออกจนกว้างก่อนจะกระแทกเข้าไปอย่างรุนแรงสายตาก็พลางจับจ้องไปที่กลีบแดงของนางอย่างไม่ละสายตา
“อ๊า อย่าแหกมันแบบนั้นมันเข้ามาลึกกกอ๊า” ยิ่งเขาแหกบั้นท้ายเธอเท่าไหร่ดูเหมือนว่าเขาจะยิ่งเข้ามาลึกในร่างกายเธอมากขึ้นเท่านั้น ความคับแน่นและจุกทำให้เธอกรีดร้องด้วยความเสียวกระสัน
“ซี๊ดดด อย่าตอดข้ารุนแรงนักข้าจะเสร็จ อื้มม”
“อ๊า มันเสียวมาก อื้อออ”
ลู่เฉิงแม้จะแปลกใจกับท่าทีของนางที่ปกติจะนิ่งเงียบยามอยู่กับเขาแต่ยามนี้นางกลับกรีดร้องโหยหวนเสียงดังลั่นไปทั่วทั้งตำหนัก ผิดแผกไปจากคราแรกที่ร่วมรักกันนางนั้นเพียงส่งเสียงครวญครางแต่ไม่ได้แสดงอาการและพูดมากความถึงเพียงนี้
แต่เป็นเช่นนี้ก็ดีเหมือนกันดีกว่าเป็นท่อนไม้แข็งทื่อชวนให้หมดอารมณ์
ลู่เฉิงกระชากผมนางขึ้นมาจนใบหน้าสวยคิ้วขมวดมุ่นด้วยความเจ็บ แต่กลับพูดไม่ออกร้องครางเสียงหลงเมื่อมืออีกข้างกำลังบีบหน้าอกคู่อวบของนางอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับเร่งกระแทกเข้ามาในร่างกายเธออย่างดุดันและถี่เร็ว
ปัก ปัก ปัก ปัก ปัก ปัก
“ซี๊ดด ข้าจะเสร็จแล้ว”
“อ๊ะ อ๊าอะ อย่าแตก ข้างใน อื้ออออ”
อิงอิงแม้จะเจ็บที่ศีรษะแต่การกระทำรุนแรงนี้กลับกระตุ้นให้เธอรู้สึกเร่าร้อนมากขึ้น หน้าอกข้างที่ไม่ได้ถูกเขากอบกุมกระเด้งไปมาจนเธอเจ็บ
“อ๊า ข้าไม่สนใจ ภายในของเจ้าจะต้องเต็มไปด้วยน้ำรักของข้า”
“อื้อออ”
เขาบดขยี้แก่นกายไปจนสุดก่อนจะกระตุกถี่หลายครั้งก่อนที่น้ำขุนขาวจะถูกฉีดพ้นเข้าไปเต็มร่องสวาทของนาง อิงอิงกระตุกด้วยความเสียววาบเมื่อภายในของเธอรู้สึกถึงน้ำอุ่นร้อนที่ยังคงไหลทะลักเข้ามาในตัวเธอไม่หยุด
บ๊วบ
ทันทีที่ลู่เฉิงถอนแก่นกายของเขาออกมา น้ำขาวขุ่นก็ไหลทะลักออกมาเต็มร่องขารวยสวยของนาง ร่องสวาทของนางเป็นสีแดงฉ่ำ บริเวณกลีบช้ำแดงและบวมเป่ง เขาจ้องร่างกายที่แสนจะเย้ายวนของนางไม่วางตา ก่อนจะรู้สึกได้ว่าของเขาแข็งขื่นขึ้นมาอีกครั้งอย่างห้ามไม่ได้
อิงอิงหมดแรงฟุบลงไปกับเตียง แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้พักหายใจขาของเธอก็ถูกดึงกระชากอย่างแรง
“อ๊ะ จะทำอะไรหนะ!”
“อย่าพูดมาก”
ลู่เฉิงจับนางแหกขาออกก่อนจะพยายามใส่แก่นกายใหญ่และยาวของเขาเข้ามาอีกครั้ง แต่แล้วสตรีร่างเล็กบนเตียงกลับถอยกรูดไปชิดติดหัวเตียงพร้อมกับหยิบผ้าขึ้นมาปิดบังร่างเปลือยเปล่าของตัวเอง
“ยะ หยุดนะคุณเป็นใครคะ”
“เจ้าขึ้นเตียงข้าจนเสียสติไปแล้วหรืออย่างไร”
ลู่เฉิงหัวเสียเมื่อเห็นท่าทีที่ไม่ยินยอมของนาง อิงอิงฟังคำพูดแปลกประหลาดของเขาก่อนจะเริ่มหันไปมองรอบๆ ตัวเองอีกครั้ง บรรยากาศที่แปลกไปไม่มีทั้งแอร์ไม่มีทั้งพัดลมแต่กลับเย็นสบายได้อย่างน่าประหลาด เครื่องใช้ที่ราวกับฉากหนังจีนที่เธอเคยเห็น อะไรอ่ะ เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง
ลู่เฉิงมองนางที่กำลังหันซ้ายหันขวาราวกับคนตื่นตระหนกตกใจ แต่หาใช่เรื่องที่เขาจะสนใจ ในเมื่อตอนนี้แก่นกายของเขายังไม่สามารถสงบลงได้ก็อย่าหวังว่านางจะได้พักเลย ร่างสูงตรงเข้าไปกระชากขานางเข้ามาใกล้อีกครั้ง ก่อนจะจับขานางแหวกออกกว้างแล้วยัดแก่นกายเข้ามาจนสุดอย่างไม่ทันให้นางตั้งตัว
อิงอิงไม่ทันระวังดันเสียท่าให้กับเขาอีกครั้ง เธอกรีดร้องเสียงดังลั่นด้วยความแสบ ภายในเธอรู้สึกช้ำไปหมด
“กรี๊ดดด หยุดนะๆๆๆๆ มันแสบนะ!”
พลัก พลัก!
อิงอิงไม่ยอมแพ้ความเจ็บทำให้เธอไม่รู้สึกเสียวเหมือนก่อนหน้านั้นอีกต่อไป มืออันบอบบางทุบตีไปที่หัวของลู่เฉิงอย่างแรงและหลายที แต่ไม่คิดเลยว่ามือของเธอจะบอบบางถึงขนาดนี้แค่ตีไปไม่ถึงสามทีกลับรู้สึกชาไปทั้งมือแล้ว เธอจึงพยายามดิ้นออกจากเขาแทน
“หัวคุณทำจากอะไรเนี่ยแข็งจังเจ็บงะ!”
ลู่เฉิงรวบมือนางไว้ด้วยแขนข้างเดียวพร้อมกับขยับไปใกล้นางมากขึ้นเมื่อคนตัวเล็กใต้ร่างเขาพยายามดิ้นให้หลุดจากแก่นกายของเขา ลู่เฉิงกัดสันกรามจนบวมปูด ใบหน้าบิดเบี้ยวไปด้วยความโกรธถึงขีดสุด
“หลันฟู่อิง! สตรีร้ายกาจกล้าดูหมิ่นข้างั้นรึ หากข้าไม่ได้ลงโทษเจ้าข้าคงตายตาไม่หลับแน่!”
“หะ หลันฟู่อิง เมื่อกี้คุณเรียกฉันว่าหลันฟู่อิงหรอ เห้ยยยยยยยย”
“เจ้าก็คือหลันฟู่อิง นอกจากจะร้ายกาจแล้วยังสมองพิการอีกงั้นรึ! เสร็จกิจจากนี้เจ้าโดนข้าลงโทษแน่”
“อ้ะ”
ลู่เฉิงกดมือทั้งสองข้างของนางแนบกับหัวเตียงก่อนจะเริ่มขยับกายอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้สนใจเลยว่าบุปผางามของนางจะบวมช้ำเพียงใด อิงอิงที่นอนอึ้งไปก็เริ่มได้สติเมื่อคนบนกายเธอเริ่มขยับอีกครั้ง นี่เธอหลุดเข้ามาในร่างของนางร้าย เอาจริงดิ!
แม้เธอจะยังสับสนแต่การกระทำของลู่เฉิงทำให้เธอคิดอะไรต่อไปไม่ออกอีกแล้ว ด้วยความแค้นที่นางกล้าฟาดหัวเขาลู่เฉิงจึงไม่ปรานีเธออีกต่อไป เขาทำนางจนไม่ได้หยุดพัก ส่วนอิงอิงเธอได้แต่ร้องครางอยู่ใต้ร่างของเขาจนเกือบรุ่งเช้าเขาถึงยอมปล่อยเธอไป