เวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์เต็มๆ แต่ลูกน้องของเขาก็ยังไม่มีความคืบหน้าของไอ้ณภัทรนั่นเลย ลูกน้องที่คอยเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของบ้านแฟนเก่ามันก็ไม่พบความผิดปกติอะไร จะมีก็แค่แฟนเก่ามันที่ชอบขับรถออกไปหาใครที่โรงแรมกลางค่ำกลางคืนบ่อยๆ เมื่อลูกน้องตามไปก็พบว่าเธอไปนอนกับผู้ชายคนอื่น ไม่ใช่ไอ้ณภัทรแต่อย่างใด
ตอนนี้จึงได้ส่งลูกน้องลงกระจายตามหาจนทั่วในอีสานใต้แล้ว ค่อยๆตามแกะรอยจนได้รู้ว่ามันข้ามชายแดนประเทศเพื่อนบ้านไปแล้วเรียบร้อย จึงให้สืบต่อจนรู้ว่ามันมีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ทำงานอยู่ที่นั่น เขาจึงให้ลูกน้องกระจายกำลังกันค้นหา และซุ่มตัวอยู่ละแวกบ้านของเพื่อนรักมันเรียบร้อย
เขาควรรีบจัดการเรื่องทุกอย่างให้มันเสร็จสิ้นโดยเร็ว เพราะเวลามันล่วงเลยมาเป็นอาทิตย์แล้ว อีกอย่าง อีกไม่เกินสองวัน เขาต้องเดินทางไปร่วมงานแต่งของพี่ชายคนที่สองที่กระบี่ ในที่สุด เรื่องวุ่นวายของพี่ชายก็ได้รับการคลี่คลายเสียที ตอนนี้ก็กลับมาอยู่กันพร้อมหน้าสามคนพ่อแม่ลูกอีกครั้ง แต่เขานี่สิ ได้แต่คอยเฝ้าตามเฝ้าดู ไม่มีวี่แววว่าเขาจะจับตัวมันได้ หรือได้เงินคืนมาเสียที สงสัย เขาควรใช้ไม้แข็งจริงๆเสียแล้ว
"โชค คืนนี้ไปเอาตัวน้องสาวมันมา ฉันจะรออยู่ที่ห้องพักที่ผับ"
"ครับ นาย"
ร่างงามในชุดนอนเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่สีขาวแขนยาวที่ชายกระโปรงสูงเลยเข่าขึ้นมาเป็นคืบ ถูกมัดมือและใช้ถุงผ้าสีดำคลุมหัว และยกอุ้มมาพาดไหล่ มาทิ้งบนที่นอนนุ่มอย่างไม่ค่อยเบามือนัก
"ว๊ายยยย"
หญิงสาวกรีดร้องเสียงดังลั่น เพราะตกใจที่จู่ๆก็โดนโยนลงมาจากที่สูง และถึงแม้จะตกลงบนที่นอนนุ่มๆ แต่ก็รู้สึกทั้งจุกและตกใจไม่น้อย
มือใหญ่ดึงผ้าคลุมสีดำออกจากศีรษะทุยของเธอ ทันทีที่เป็นอิสระจากผ้าคลุมสีดำที่มองไม่เห็นนั่น ใบหน้างามก็เงยขึ้นสบตากับคนตัวโตที่ยืนอยู่ตรงหน้าทันที
และทันทีที่ได้ประสานสายตากับคนตัวโตที่มีดวงตาคมกริบดุดัน เธอก็เหมือนตกอยู่ในภวังค์ มองเขาตาค้างซ้ำยังแอบสำรวจทุกอย่างบนใบหน้าเขาอย่างเงียบๆ ไม่ว่าจะเป็นคิ้วเข้มหนา ดวงตาคมกริบที่ยังคงดุดันไม่เลิก จมูกโด่งจัด รับกับริมฝีปากหยักได้รูปกำลังดีที่สีแดง สด ใบหน้าเรียว คางเหลี่ยมมนกำลังดี หน้าผากกว้างพอเหมาะ ทรงผมรองทรงสั้นที่จัดแต่งทรงสวยงามยิ่งมีเสน่ห์ ผิวพรรณของเขาขาวจัดจนผู้หญิงบางคนยังต้องอาย รูปร่างสูงใหญ่ในชุดสูทพอดีตัวสีดำสนิท ทั้งด้านนอกและด้านใน ยิ่งทำให้เขาดูเคร่งขรึมน่าเกรงขาม
ชายหนุ่มร่างใหญ่ที่เมื่อเปิดผ้าคลุมหัวของเธอออกมา และได้สบตากับสาวน้อยตรงหน้าก็ต้องตกตะลึงตาค้าง ในรูปว่าสวยงามบาดตาแล้ว มาเจอตัวจริงวันนี้ ถึงแม้ใบหน้าสาวจะไม่ได้มีเครื่องสำอางใดๆแต่งแต้มอยู่เลยก็ตาม แต่เธอกลับยิ่งดูสวยงามเย้ายวนกว่าในภาพนั้นอีกเป็นกอง โดยเฉพาะผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงของเธอในตอนนี้ ยิ่งส่งผลให้เธอดูเซ็กซี่กว่าเดิมไปอีกเป็นเท่าตัว ดวงตาคมกริบสำรวจใบหน้างามจนพอใจ ก็เลื่อนสายตาลงไปสำรวจเรือนร่างของสาวน้อยตรงหน้า ลำคอเรียวระหง หุ่นบอบบางสะโอดสะอง แต่กระนั้นภายใต้เสื้อเชิ้ตนอนตัวโตนั่น ก็ซ่อนหน้าอกอวบใหญ่โตเกินตัวเอาไว้ เมื่อไล่สายตามองลงมาที่ขาเรียวทั้งสองข้างที่พับอยู่บนที่นอน ก็ต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เมื่อชายเสื้อมันถลกขึ้นไปจนแทบจะเห็นไปถึงไหนๆของเธอ มันเผยให้เห็นต้นขาขาวผ่องนวลเนียนและเรียวสวย ในแบบที่เขาชอบ แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องหลุดออกจากภวังค์ เมื่อสาวน้อยตรงหน้า เอ่ยถามเขาเสียงดังแทบเป็นตวาด แต่ถึงอย่างนั้น เสียงของเธอมันก็ยังนุ่มนวลหวานหูอยู่ดี
"คุณเป็นใคร เราไม่เคยรู้จักกัน จับฉันมาทำไม ปล่อยฉันกลับบ้านเดี๋ยวนี้นะ"
"ปราณนต์ เรียกปราณต์ ก็ได้ ใช่ เราไม่เคยรู้จักกัน แต่พี่ชายเธอ มันรู้จักฉันดีเลยล่ะ ฉันเป็นเจ้าของกาสิโนที่ลาว ที่พี่ชายเธอไปเล่นอยู่บ่อยๆ ตอนนี้มันติดหนี้ฉันอยู่สิบล้าน บอกมา ว่าพี่ชายเธอมันไปมุดหัวอยู่ที่ไหน"
ดวงตาดุดันวาววาบขึ้นเพื่อข่มขู่และกดดันให้เธอกลัว ซึ่งแน่นอนว่ามันก็ได้ผล เธอกลัวจริงๆ ปากกระจับอวบอิ่มสั่นระริก ดวงตากลมโตมีน้ำตารื้นคลออยู่ แววตาสับสนตื่นกลัวอย่างน่าสงสาร จนใจของเขากระตุกวูบ แทบจะอยากล้มเลิกการทำแบบนี้เสียแล้ว
"มะ ไม่จริงอ่ะ พี่ฉันไม่ได้เล่นการพนัน จะไปติดหนี้คุณเป็นสิบๆล้านได้ไง ฉันไม่เชื่อ"
เขาว่าแล้วว่าเธอต้องไม่เชื่อ จึงโยนสัญญากู้ยืมเงินปึกหนึ่งออกมาให้เธอดู ในนั้นมันมีลายเซ็น และเอกสารส่วนตัวของพี่ชายที่ระบุด้วยลายมือของพี่ชายเธออย่างชัดเจน นี่เรื่องจริงหรือ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ
"ปะ เป็นไปไม่ได้ ทำไมพี่ภัทรทำแบบนี้ ไม่จริงอ่ะ คุณโกหกใช่ไหม"
ทั้งๆที่เห็นหลักฐานกับตา แต่เธอก็ยังไม่อยากจะเชื่ออยู่ดี เรื่องบ้าๆแบบนี้มันเกิดขึ้นกับครอบครัวของเธอได้อย่างไร ตั้งแต่ที่เสียพ่อกับแม่ไป โลกของเธอก็มีแค่เขาที่เป็นที่พึ่งพิงมาตลอด แต่ทำไมวันนี้ ที่พึ่งพิงของเธอกลับกลายมาเป็นแบบนี้ไปได้
"เธอก็เห็นหลักฐานแล้ว บอกมาดีกว่า ว่าพี่เธออยู่ที่ไหน"
"ฉันไม่รู้"
ถึงรู้เธอก็ไม่มีวันบอก เพราะพี่เธอหนีไปแบบนี้ แปลว่าไม่มีเงินจ่ายหนี้คืน และอาจถูกเขาตามฆ่าเหมือนในหนังมาเฟียก็ได้ ก็พวกเจ้าของกาสิโนก็เป็นพวกเจ้าพ่อมาเฟียกันอยู่แล้วนี่นา คิดไปถึงตรงนี้ สาวน้อยก็กลัวจนตัวสั่น แต่ก็ยังทำใจดีสู้เสือ
"มันติดต่อเธอมาบ้างไหม"
"ไม่"
"ฉันไม่เชื่อ"
"เรื่องของคุณ แต่ปล่อยฉันไปได้แล้ว ฉันไม่เกี่ยว ไปตามหากันเอาเองสิ จะจับฉันมาทำไม"
"หึ สาวน้อย หนี้ที่พี่เธอสร้างมา มันสิบล้านนะ ไม่ใช่สิบบาท ถ้ามันหนีไป ก็แปลว่าเธอต้องชดใช้แทนมัน เพราะเธอคือคนในครอบครัวของมัน"
"เงินตั้งสิบล้าน ฉันหามาให้คุณไม่ไหวหรอก คุณเอาบ้านฉันไป ที่เหลือฉันจะพยายามหามาคืนให้ แต่ตอนนี้ฉันยังเรียนไม่จบ คุณก็ร่างสัญญามาแล้วกัน"
"หึ นี่เธอไม่รู้เลยหรือไง ว่าบ้านนั่น พี่เธอมันเอาไปจำนองไว้กับธนาคารนานแล้ว แถมตอนนี้มันยังขาดส่งจนธนาคารกำลังจะยึดอยู่รอมร่อ"
"มะ ไม่จริงอ่ะ ทำไมพี่ภัทรทำแบบนี้"
สาวน้อยปล่อยน้ำตาให้ไหลรินออกมาอาบแก้มนวล ใจแกร่งที่เห็นดังนั้นก็กระตุกวูบ เขารู้สึกอึดอัดในอกจนเหมือนกับจะหายใจไม่ออก เมื่อได้เห็นน้ำตาและแววตาเศร้าสร้อยไร้ความหวังของเธอ
"ทั้งหมดนี้ ทำให้ฉันจำเป็นต้องพาตัวเธอมาที่นี่ เพราะเธอเป็นคนเดียวที่ต้องรู้ว่าพี่เธออยู่ที่ไหน ฉันจะได้ไปตามตัวมันกลับมารับผิดชอบหนี้ก้อนนี้"
"ก็บอกแล้วไงว่าไม่รู้ คุณไปตามหากันเอาเองสิ"
"ฉันตามหามันแน่ แต่จนกว่าที่จะตามหาตัวมันพบ หรือจนกว่ามันจะติดต่อมาหาเธอ เธอต้องอยู่กับฉันที่นี่ก่อน ฉันคงปล่อยตัวเธอไปไหนไม่ได้"
"คุณจะมากักขังฉันไว้แบบนี้ไม่ได้นะ ฉันไม่ยอม"
"สาวน้อย เธอไม่ได้มีสิทธิ์เลือกขนาดนั้น ยอมไม่ยอมก็ต้องอยู่ นอนได้แล้ว ฉันจะไปอาบน้ำก่อน"
เขาพูดจบก็ถอดเสื้อสูทแบรนด์ดังพาดไว้บนเก้าอี้ทำงาน ก่อนปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตแล้วถอดมันออกทิ้งอย่างไม่ไยดี เผยให้เห็นหน้าอกหนั่นแน่น มัดกล้ามเนื้อและลอนซิกแพคชัดแน่นทุกลูก บนต้นแขนมีรอยสักลายชนเผ่ายาวไปเกือบถึงข้อศอก ร่างงามเบิกตาค้างด้วยความตกใจ กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ นอกจากพ่อและพี่ชาย ก็ไม่เคยเห็นผู้ชายตัวเป็นๆที่ไหน ถอดเสื้อต่อหน้าต่อตาขนาดนี้
เขาปรายตามองเธอนิดหนึ่ง ก่อนเดินไปหยุดตรงหน้า ดวงตากลมโตยิ่งเบิกกว้างกว่าเดิมไปอีก เธอขยับถอยหลังหนีเขาอย่างอัตโนมัติ จนแผ่นหลังบอบบางติดกับหัวเตียงจนไม่สามารถถอยหนีไปไหนได้อีก
เขาก้าวขึ้นเตียง จับจ้องมองใบหน้าเธอนิ่งแล้วขยับเข้าหาเธอจนอยู่ในระยะที่เอื้อมมือถึง ก็ยื่นมือใหญ่ออกไปแก้เชือกที่มัดอยู่ที่ข้อมือทั้งสองข้างของเธอ เมื่อเชือกหลุดออกไปเขาก็เห็นข้อมือบอบบางของเธอแดงไปหมด จึงใช้มือใหญ่ลูบไล้เบาๆที่รอยนั้น เกินกว่าใครจะคาดคิด เขายกข้อมือทั้งสองข้างของเธอมาจรดริมฝีปากหยักได้รูป ก่อนเป่าลมร้อนๆออกมาแล้วกดริมฝีปากอุ่นนั่นจุมพิตบนรอยแดงนั้นอย่างแผ่วเบา
สาวน้อยที่ตกอยู่ในภวังค์ตาเบิกค้างได้สติทันใด เธอค่อยๆดึงมือกลับคืนและเขาก็ยอมปล่อยแต่โดยดี
"เจ็บไหม"
"มะ ไม่ค่ะ"
เธอหลบตาแพรวพราวคู่นั้น แต่เมื่อหลุบตาต่ำลง เธอกลับเจอกับซิกแพคแน่นๆของเขาเสียนี่ แก้มสาวแดงปลั่งทันทีจนเห็นได้ชัดและเขาก็อดที่จะรู้สึกดีไม่ได้ที่ทำเขินอายแบบนั้น
"เอาล่ะ ฉันไปอาบน้ำก่อน เธอนอนได้เลยนะ เดี๋ยวฉันออกมา"
"แล้ว คุณ นอนที่ไหนคะ"
"ที่นี่มีเตียงกี่เตียงกันล่ะ"
เธอมองไปรอบๆห้อง อย่าว่าแต่เตียงเลย โซฟาสักตัวก็ไม่มี มีแค่เตียงที่เธอกับเขากำลังนั่งอยู่ตรงนี้ กับโต๊ะทำงานตัวโตนั่นเท่านั้น
"เอ่อ เตียงเดียว"
"ใช่ เตียงเดียว เธอก็เห็นนี่ ไม่น่าต้องถามเลยว่าฉันจะนอนที่ไหน"
"แต่ว่าฉัน.."
"อย่าเรื่องมากน่า ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก เด็กสาวอย่างเธอ ไม่ใช่สเปคของฉัน"
เขาพูดจบก็ลงจากเตียงแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ปล่อยให้เธอนั่งตัวสั่นอยู่ที่เดิม จะให้เธอนอนเตียงเดียวกับเขาได้อย่างไร ผู้ชายหน้าไหนก็ไว้ใจไม่ได้ทั้งนั้น และเธอไม่ควรเสี่ยง คิดได้ดังนั้นจึงรีบลงจากเตียง คว้าโทรศัพท์มือถือของเธอ แล้วเปิดประตูห้องของเขาออกมาอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่ประตูเปิดออกมา เธอก็เจอเข้ากับชายร่างใหญ่สองคน นั่งเฝ้าอยู่หน้าประตู และมองมาที่เธอด้วยสายตาดุดัน
"จะไปไหนครับ"
"ฉันจะกลับบ้าน"
"นายอนุญาตแล้วหรอ"
"นายของพวกคุณไม่มีสิทธิ์มากักขังหน่วงเหนี่ยวฉันเอาไว้แบบนี้ ถอยออกไป ฉันจะกลับ"
"เห็นทีคงไม่ได้ เชิญคุณกลับเข้าไปดีกว่า อย่าให้นายของผมต้องโกรธ เพราะคุณจะจินตนาการไม่ออกเลยว่า นายของผมทำอะไรคุณได้บ้าง"
เธอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ไม่มีทางเลยที่เธอจะฝ่าด่านชายร่างใหญ่สองคนนี้ไป และถ้าเขารู้เข้า มีหวังเธอเละเป็นโจ๊กแน่ มาเฟียอย่างนั้น จะทำอะไรเธอก็ไม่รู้ เธอเลยยอมถอยหลังกลับเข้าห้องไป โดยมีสองหนุ่มนั่นบริการปิดประตูให้เธอเรียบร้อย