ตอนที่1ไม่มีทางเลือก 2

2036 คำ
ลันลภัสไม่มีทางเลือกนอกจากยอมนั่งรถพวกมันไปยังบ้านหลังใหญ่ของเสี่ยภาคินเพื่อทำตามข้อตกลงที่เธอเองก็ยังไม่รู้ว่าคืออะไร รถค่อย ๆ ชะลอก่อนจะเลี้ยวเข้าไปในไร่ชาที่ปลูกบังหน้าแต่เบื้องหลังคือธุรกิจมืดค้ายานรก แม้คนแถบนี้จะรู้ดีแต่ก็ไม่มีใครกล้าท้าทายอำนาจเลยสักคน ร่างบางค่อย ๆ ก้าวลงจากรถอย่างไม่เต็มใจนัก ดวงตากลมตมองไปรอบ ๆ บ้านหลังใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นคล้ายกับบ้านทรงไทยในอดีตที่ผสมผสานความเป็นไทยและล้านนาได้อย่างลงตัว บรรดาลูกสมุนที่ยืนเฝ้าเวรยามอยู่ทุก ๆ ตารางเมตรของบ้าน มันยิ่งทำให้บ้านที่ดูสวยงามดูอึมครึมขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก “มาแล้วเหรอ เข้ามาสิ เสี่ยรออยู่ด้านในแล้ว” ร่างสูงใหญ่ใส่สูทสีดำเดินมาต้อนรับก่อนจะผายมือไปทางประตูเพื่อให้หญิงสาวและเตชิตเดินตามไป ยิ่งเข้ามาในบ้านมันก็ยิ่งทำให้ลันลภัสรู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที บ้านใหญ่โตโอ่อ่าอยู่ก็จริง แต่พอคิดว่าเป็นบ้านของเจ้าพ่อค้ายารายใหญ่มันกลับไม่น่าอยู่เลยสักนิด “มาเร็วดีนี่ นั่งก่อนสิ” ร่างสูงของชายวัยกลางคนที่ยืนรออยู่ในห้องรับแขกของบ้านคลี่ยิ้มทักทายอย่างเป็นมิตร จากนั้นจึงหันไปสั่งแม่บ้านเตรียมน้ำดื่มและของว่างมาเสิร์ฟให้ มองดูแล้วช่างเป็นการต้อนรับที่อบอุ่นมากกว่าตอนที่เธอไปบ้านเปมิกาเสียอีก “ว้าว ! ดูสิว่าใครมา พ่อนี้ช่างรู้ใจผมจริง ๆ เลย” ยังไม่ทันจะเข้าประเด็นเสียงที่แสนจะคุ้นหูก็ดังขึ้นจากบันไดชั้นสองของบ้านก่อนที่เจ้าตัวจะรีบถลาลงมานั่งเคียงข้างบิดา สายตาคมกริบยังจับจ้องไปที่ใบหน้าหวานอย่างหื่นกระหายไม่มีเปลี่ยน “นี่แกไม่เห็นรึไงว่าฉันกำลังคุยเรื่องงานอยู่ อย่าทำให้เสียเรื่องได้ไหม” “อ้าว ! พ่อไม่ได้เรียกลูกสาวลุงชิตมาให้...” “งานอะไร ! ” ลันลภัสรีบแทรกขึ้นก่อนที่คณินจะทันได้พูดจบ ทำให้เสี่ยภาคินต้องยกมือปรามให้ลูกชายนั่งเงียบ ๆ เพื่อที่เขาจะได้เปิดประเด็น “เห็นเตชิตบอกว่าหนูกำลังหาเงินรักษาแม่อยู่ สนใจมาทำงานกับฉันไหมล่ะ เงินดีแถมไม่ต้องเหนื่อยด้วย” “ไม่เหนื่อย แต่เสี่ยงคุกเสี่ยงตาราง ฉันไม่เอาด้วยหรอก” พูดจบจึงรีบลุกขึ้นทันที เตชิตที่นั่งอยู่ข้าง ๆ จึงรีบกระชากแขนเรียวให้หญิงสาวทรุดกายนั่งลงที่เดิม “มันก็ไม่ได้เสี่ยงขนาดนั้น แล้วต่อให้หนูเข้าไปจริง ๆ ฉันก็สามารถใช้เส้นสายพาหนูออกมาได้ ไม่เห็นยากเลย” “ไม่ ! ยังไงฉันก็ไม่ทำ” ลันลภัสยังยืนยันคำเดิมเสียงหนักแน่นก่อนจะลุกเดินจากไปอีกครั้ง “ไหนบอกจะหาเงินรักษาแม่ไง ถ้ามัวแต่เลือกงาน แม่หนูเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ นี่ฉันอุตส่าห์เมตตาช่วยหนูอยู่นะเนี่ย” “ถ้าแม่รู้ว่าเงินที่ได้มาจากการค้ายานรกนั่น แม่ก็คงไม่ยอมหรอก” เจ้าของใบหน้าหวานหันมาตวาดกร้าวอีกครั้ง แต่ไม่ทันจะได้ก้าวออกไป บรรดาลูกสมุนที่ยืนดูสถานการณ์อยู่ก็เข้ามาปิดล้อมประตูไว้ “นี่พวกแกทำบ้าอะไร หลีกไปนะ ฉันจะกลับบ้าน” “ฉันเองก็ไม่อยากจะบังคับฝืนใจใครหรอกนะ แต่ในเมื่อหนูมาถึงที่นี่แล้ว จะให้กลับไปตัวเปล่า ๆ ก็คงจะดูแล้งน้ำใจเกินไป” เสี่ยภาคินยืนขึ้นเต็มความสูงแล้วเดินมาประจันหน้ากับสาวน้อยที่ยืนตัวสั่นอยู่หน้าประตู “บ้านของฉันที่นี่ ไม่ใช่ว่าใครจะเข้าออกกันง่าย ๆ หรอกนะ” “นี่แกจะทำอะไร” ลันลภัสเอ่ยถามเสียงสั่น ลางสังหรณ์บางอย่างบอกว่าเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย เมื่อไร้ที่พึ่งดวงตากลมโตจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากเตชิตทันทีแต่ก็ได้กลับมาเพียงแค่สายตาที่ว่างเปล่าเท่านั้น ไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากช่วยแต่เพราะรู้ดีว่าหากขัดคำสั่งผู้เป็นเจ้านาย ตัวเองจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย “เอ่อ...เสี่ยครับ เดี๋ยวผมจะลองคุยกับมันอีกทีก็ได้ครับ” “ไม่ ! บอกแล้วไงว่ายังไงฉันก็ไม่ทำ” ลันลภัสปฏิเสธเสียงแข็ง “เด็ดขาดแบบนี้สิ...ฉันชอบ” ประมุขของบ้านอธิบายด้วยน้ำเสียงใจเย็นจ้องมองใบหน้าหวานด้วยแววตาเปล่งประกายเมื่อนึกถึงแผนการที่วางไว้ “ตอนนี้คนส่งของก็มีแต่ผู้ชาย จะขยับตัวแต่ละทีก็มีแต่จะตกเป็นเป้าสายตาของพวกตำรวจ ถ้าเกิดลองใช้ผู้หญิงดูบ้างบางทีมันอาจจะพอตบตาตำรวจได้” “ดีเลยครับพ่อ ผมสนับสนุนเต็มที่ ถ้าเกิดได้ร่วมงานกันจริง ๆ ผมยินดีดูแลน้องเป็นอย่างดีเลย” คณินเสริม รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่หญิงสาวแสนจะรังเกียจปรากฏขึ้นบนใบหน้าทันที เตชิตเห็นดังนั้นจึงช่วยโน้มน้าวด้วยอีกคน “แกลองคิดดูดี ๆ นะไอ้ลัน เงินดี แม่แกหายป่วย งานนี้มีแต่ได้กับได้นะเว้ย” “ไหนลุงบอกลุงหวังดีกับฉัน ไม่อยากให้ฉันโดนทำร้ายไง แล้วทำไมลุงต้องมาบังคับให้ฉันทำเรื่องบ้า ๆ แบบนี้ด้วย” “นี่ฉันหวังดีกับแกอยู่นะ แกไม่อยากให้แม่แกหายรึไง” “ไม่ ยังไงฉันก็ไม่ทำ” ดวงตากลมโตจ้องมองเจ้าของบ้านวูบหนึ่งแล้วจึงหันไปทางประตู เสี่ยภาคินจึงหันไปส่งสัญญาณกับลูกน้องที่ยืนอยู่ด้านหลัง “ไปเตรียมของ” “นี่แกจะทำอะไร ปล่อยฉันจะเว้ย ! ปล่อย” ลันลภัสสะดุ้งสุดตัวเมื่อร่างสูงใหญ่ของพวกมันเข้ามาหิ้วปีกทั้งซ้ายขวา ออกแรงเพียงเล็กน้อยร่างบางก็ลอยติดมือตามเสี่ยภาคินไปทางหลังบ้านอย่างง่ายดาย “ถ้าแม่รู้ว่าลุงทำกับฉันแบบนี้แม่ไม่ให้อภัยลุงแน่ ๆ ” “ก็แกมันดื้อด้านเองนี่ไอ้ลัน ถ้ายอมตั้งแต่แรกก็คงไม่เจ็บตัวหรอก” เจ้าของใบหน้าหวานตื่นตระหนกขึ้นมาทันที เมื่อเดินตามเสี่ยภาคินไปตามทางเดินเล็ก ๆ มาจนถึงห้องที่อยู่สุดทาง แม้ห้องมันจะดูกว้างขวาง แต่แสงสว่างที่ส่องเข้ามาแต่เพียงเล็กน้อยมันกลับทำให้รู้สึกอึดอัดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก “ไม่ต้องร้องนะคนเก่ง เจ็บนิดเดียว เดี๋ยวก็รู้สึกดี” มือหนายื่นเข้ามาจับพวงแก้มเนียนละเอียดของหญิงสาวเอาไว้ในขณะที่อีกคนถูกลูกน้องจับมือเรียวให้วางไว้บนโต๊ะกลางห้องลับหลังบ้าน รอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้ามันไม่ได้ทำให้คนตัวเล็กใจชื้นขึ้นมาสักนิด “ปล่อยฉันนะ ปล่อย ! ฉันบอกให้ปล่อยไงเล่า ไอ้พวกเลว ! ” “จัดการได้” ประมุขใหญ่ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงราบเรียบก่อนที่หนึ่งในนั้นจะก้มหน้ารับแล้วหันไปหยิบสายรัดแขนสีเข้มออกมาจากกล่องสีขาวซึ่งถูกเก็บไว้อย่างดี “อย่านะ นั่นแกจะทำอะไร ไม่...ปล่อยฉันนะเว้ย ! ” เสียงใสตวาดลั่น ต่อให้พยายามดิ้นหนีแค่ไหนก็ไม่สามารถสู้แรงของบุรุษเพศที่ช่วยกันจับแขนทั้งสองข้างเอาไว้ได้ ดวงตากลมโตเบิกกว้างทันทีที่พวกมันใช้สายเส้นนั้นรัดตรงต้นแขนจนแน่นก่อนจะหยิบเข็มฉีดยาขนาดเล็กออกมาเพื่อดูดเอาของเหลวสีขาวใสจากขวดแก้วเล็ก ๆ ขึ้นมาจนเกือบจะเต็มหลอด ใช้มือเคาะเบา ๆ เพื่อไล่ฟองอากาศ “ไม่ต้องกลัว บอกแล้วไงว่ามันเจ็บแค่นิดเดียว” คณินพยายามปลอบใจแต่ก็ยังช่วยจับไหล่เล็กเอาไว้ด้วยอีกแรง “ไม่ ไม่ ขอร้อง...อย่าทำแบบนี้ ปล่อยฉันนะ ปล่อย กรี๊ด ! ” เสียงร้องลั่นของหญิงสาวดังไปทั่วห้องเมื่อเข็มปลายแหลมถูกเจาะเข้าไปที่เส้นเลือดตรงข้อพับแขนก่อนที่ของเหลวในหลอดจะถูกส่งเข้าไปในร่างกาย ถึงตอนนั้นบรรดาลูกสมุนที่จับตัวเธอไว้จึงยอมปล่อยให้หญิงสาวเป็นอิสระ ทว่าเพียงแค่พยายามจะลุกหนีก็รู้สึกเหมือนกับว่าโลกทั้งใบจะหมุนเร็วขึ้นกว่าเดิมจนตวงตากลมโตเริ่มพร่าเลือน มองเห็นภาพตรงหน้าซ้อนทับกันจนแทบไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าใครเป็นใคร “นี่อย่าบอกนะครับว่ายาสูตรใหม่ ออกฤทธิ์เร็วดีแฮะ” เสียงคณินดังขึ้นมา แม้จะอยู่ใกล้ ๆ แต่ฟังดูก้องกังวานคล้ายกับตัวเองกำลังถูกขังอยู่ในโหลแก้วใบใหญ่ “แล้วแบบนี้ ไอ้ลันจะเป็นอะไรหรือเปล่าครับเสี่ย” “ใจเย็น ๆ ครั้งแรกมันก็แบบนี้แหละ ครั้งต่อไปฉันจะให้มันใช้วิธีอื่นแทน” เสี่ยอำนาจตอบพลางจ้องมองร่างที่กำลังคลานอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าที่กำลังพึงพอใจ “ถ้าอย่างนั้นก่อนกลับ ผมขอคุยกับลูกสาวลุงสักคืนได้ไหม พรุ่งนี้เช้าผมจะรีบไปส่งแถมรางวัลให้อีกชุดใหญ่เลย” ชายหนุ่มเสนอขึ้นเมื่อเห็นว่าหญิงสาวกำลังไร้ซึ่งสติควบคุมตัวเอง เพราะรู้ดีว่าเตชิตไม่กล้าจะขัดใจ เขาจึงรีบโน้มตัวลงเพื่อจะอุ้มร่างบางขึ้นไปบนห้องของตัวเองทันที “นี่แกจะมีอารมณ์อย่างว่าทุกเวลาแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ ดูท่าแล้วแกจะติดผู้หญิงมากกว่าติดยาเสียอีก” “แต่พ่อครับ ไหน ๆ ลันเขาก็ต้องมาร่วมงานกับเราอยู่แล้ว ให้ผมทำความรู้จักกันสักนิดจะเป็นไรไป” คณินโอดครวญ มือที่กำลังช้อนร่างลันลภัสชะงักนิ่งไปชั่วครู่ “จะทำให้เสียเรื่องล่ะสิไม่ว่า ออกไปทำงานได้แล้ว รอให้มันไว้ใจเราอีกหน่อยแกค่อยจัดการกับมันก็ได้ แต่ตอนนี้มันยังไม่ใช่เวลา” “ก็ได้ ๆ สั่งจังเลย” มือหนายกขึ้นเกาหัวแกรกเมื่อถูกขัดใจ พอเถียงไม่ได้ตัวเองจึงต้องเป็นฝ่ายออกไปทำงานตามคำสั่งของบิดาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ เสี่ยภาคินจึงหันไปสั่งลูกน้องที่เหลือให้ออกจากห้องไปด้วย ตอนนี้จึงเหลือเพียงแค่เขา เตชิต และลันลภัสที่ไร้ซึ่งสติเท่านั้น “ไอ้ลัน มันจะไม่เป็นอะไรจริง ๆ เหรอครับเสี่ย” ผู้เป็นพ่อเลี้ยงเอ่ยถามขึ้นทันที พอเห็นสภาพของหญิงสาวแล้วมันก็อดที่จะรู้สึกผิดขึ้นมาเสียไม่ได้ แต่ในเมื่อลันลภัสรู้แหล่งกบดานและที่ซ่อนของเสี่ยภาคินแล้ว วิธีนี้จึงเป็นวิธีเดียวที่ทำให้หญิงสาวปิดปาก “ไม่ต้องห่วง อาจจะเป็นเพราะว่ามันยังเด็ก แล้วก็เป็นครั้งแรกของมันด้วย ร่างกายมันเลยรับไม่ได้ แต่พรุ่งนี้เช้าอาการมันก็จะดีขึ้นเอง ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ไม่น่าจะเกินค่ำ อาการอยากยาของมันก็จะกำเริบ ถึงตอนนั้นแกต้องรีบพามันมาที่นี่ทันที” “ครับเสี่ย” เตชิตตกปากรับคำออกไปก่อนจะพาร่างของลันลภัสเดินทางกลับบ้านเพราะไม่อยากเดือดร้อนไปด้วย ตัวเขาเองก็อยู่ในวงการนี้มาหลายสิบปี เป็นสมุนมือขวาที่เสี่ยภาคินไว้ใจที่สุด รู้ดีว่าหากถอนตัวหรือขัดคำสั่งแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นการปิดหูปิดตา ทำตามคำสั่งของเสี่ยภาคินจึงเป็นทางรอดเดียวที่เขาต้องทำ แม้จะต้องผิดสัญญากับนวิยาผู้เป็นภรรยาก็ตาม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม