Aid & Kivi
7
หลายวันมานี้กีวี่ก็มาอยู่ที่คอนโดของอิฐ เพราะตอนนี้เขาได้จัดการให้ลูกน้องจัดตกแต่งห้องเล็กที่อยู่ด้านล่าง ซึ่งมันก็ไม่เล็กอะนะ เขาบอกว่าเป็นห้องเก่าของโชเวลาที่ทำงานเสร็จโชไม่อยากกลับบ้านก็มานอนที่นี่ แต่ตอนนี้โชคงต้องกลับบ้านเพราะมีภรรยาเด็กที่น่ารักอย่างเพคอยดูแลอยู่ กีวี่มาอยู่ที่คอนโดของอิฐได้เกือบอาทิตย์แล้ว เธอไปกลับที่ร้านด้วยเพราะมีงานที่ต้องทำ และอิฐก็มักจะอ้อนเธอโดยการขอไปด้วย ซึ่งแน่นอนเธอจะไม่ยอมให้เขาไป... ร่างเล็กตอนนี้กำลังยืนทำอาหารเช้าให้เขาเพราะว่าจะต้องไปตัดชุดต่อด้วย และใช่พอเธอมาอยู่ที่นี่เขาก็กลายเป็นคนขี้อ้อนมากจริงๆ จนเธอรู้สึกดีไปด้วย เขาดีมากจริงๆ นะ ดีซะจนเธอเผลอลืมอะไรไปเลย... ตอนนี้แขนที่เข้าเฝือกของเขาก็ถูกถอดออกแล้วเลือกก็แต่พันผ้าไว้เพื่อให้กระดูกเข้าที่
“รู้อะไรไหมว่า... ผมชอบผู้หญิงที่สวมผ้ากันเปื้อนมากที่สุด” เสียงเข้มดังขึ้น ทำให้กีวี่หันไปมองอิฐที่ยืนข้างๆ เธอก่อนจะหยิบผักไปหั่นทันทีจนเธอได้แต่ยิ้ม
“เหรอ ไม่ยักรู้นะว่าคุณจะชอบผ้ากันเปื้อน”
“ผมเปล่าชอบผ้ากันเปื้อนนะ”
“...”
“ผมหมายถึงคุณต่างหาก วี่”
“!!!” กีวี่อึ้งทันทีก่อนจะหน้าร้อนไปหมด แต่เธอคิดว่าอาจจะเป็นเพราะไอร้อนจากข้าวต้มที่เธอกำลังทำก็ได้... อิฐที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่ขำกับสิ่งที่ตัวเองพูด ให้ตายเหอะ กูกลายเป็นมนุษย์เลี่ยนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“พะ พูดอะไรแบบนี้อยู่เรื่อยเลยนะ!!”
“ก็ทำไมล่ะ? ผมพูดจริงก็ผิดเหรอ”
“มะ ไม่ใช่ คือ... ช่างเถอะทานข้าวได้แล้ว” อิฐมองดูกีวี่ก็รู้ทันทีว่าเธอกำลังไปไม่เป็นกับสิ่งที่เขาพูด ทั้งสองคนนั่งกินข้าวด้วยกันเป็นเวลานาน อิฐดีใจมากๆ ที่มีเธอมาอยู่ด้วยกันแบบนี้ ทุกครั้งที่เขาจะทำอะไรที่หนักเช่นยกของ หรือทำงานบ้าน กีวี่ก็จะเป็นฝ่ายทำให้เขาทั้งหมด แม้แต่เสื้อผ้าเธอก็เอาไปซักให้ แต่ยกเว้นกางเกงในและของส่วนตัวที่เธอจะไม่แตะเด็ดขาด ใบหน้าหล่อมองเธอพร้อมกับยิ้มให้ทันที แต่เขาหายแล้วเธอก็ต้องไปนะสิ? คิดถึงตอนนี้แล้วเขาก็รู้สึกใจหายทันที มือซ้ายยกขึ้นเกาหัวตัวเองก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้
“โอ๊ย คันหัวจริง!!”
“เป็นอะไรเหรอ?”
“ก็คันหัวครับ ไม่ได้สระหลายวันแล้วด้วยก็แขนเป็นแบบนี้” ร่างหนาทำหน้าเศร้าจนกีวี่อึ้งไป นั่นสิก็เห็นบ่อยๆ ว่าเขาคันหัวมากแค่ไหนแต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจ อิฐมองกีวี่ที่ทำหน้าไม่ถูกก็เลยได้แต่ตักข้าวกินอยู่แบบนั้น... พูดเลยกีวี่ พูดเลยว่าคุณจะสระให้ผม พูดเลยกีวี่ ผมรออยู่...
“งั้นเอางี้นะอิฐ”
“ครับ”
“เดี๋ยวฉันพาไปที่ร้านสระผมนะ”
“...”
“อะ อ้าวไงทำหน้าแบบนั้นล่ะ? ไม่อยากสระที่ร้านเหรอ” อิฐทำหน้าเซ็งทันทีก่อนจะส่ายหน้าไปมา ให้ตายเหอะ อ่อยแล้วนะเนี้ยทำไมถึงได้ไม่เข้าใจอะไรเลยเนี้ยกีวี่!! ร่างหนากินข้าวเสร็จก็ออกไปนั่งที่ริมระเบียงก่อนจะหยิบบุหรี่มาสูบทันทีอย่างนิ่งๆ เพราะกีวี่ล้างจานอยู่ ริมฝีปากแดงพ่นควันออกจากปากมองท้องฟ้าที่ตอนนี้มืดครึ้ม เหมือนฝนจะตกเลยแหะ? มือหนายกขึ้นสูบบุหรี่อีกครั้ง
“อิฐ คุณ... สูบบุหรี่ด้วยเหรอ?”
“อะ เออครับ ก็แค่เวลาไม่สบายใจหรือเครียด” ร่างเล็กเดินมานั่งที่เก้าอี้ข้างๆ เขาก่อนจะหยิบบุหรี่ที่มือเขามาถือไว้จนอิฐตกใจ จะคว้ามันกลับมาแต่กีวี่ก็มองค้อนเขา
“แล้วเวลาไม่สบายใจกับเครียด... หาวิธีอื่นที่ไม่ใช่การสูบบุหรี่ไม่ได้เหรอ?”
“ก็ผมสูบแค่ไม่กี่ครั้งเอง เอามาเถอะครับ” อิฐเอื้อมมือจะคว้าบุหรี่แต่กีวี่ก็ทิ้งลงพื้นและหยิบแก้วน้ำบนโต๊ะ ราดลงจนบุหรี่ดับไป อิฐมองตามด้วยสีหน้านิ่งๆ จนกีวี่ถอนหายใจออกมา
“คุณทำอะไร?”
“ก็ช่วยรักษาสุขภาพคุณไง นี่เป็นโชแต่ก่อนนะฉันยึดซองบุหรี่เลยล่ะ... แต่คุณฉันทำแค่นี้พอ ขอให้ฉันดูแลคุณจนหายก่อนแล้วกัน คุณจะสูบตอนไหนก็ตามสบาย” ดวงตาคมมองใบหน้าหวานที่ลุกขึ้นเดินเข้าข้างในไป จนเขาได้แต่อึ้งกับสิ่งที่กีวี่ทำ... เธอห่วงเขาเหรอ? จริงเหรอเนี้ย มโนเองเลยนะเนี้ย รอยยิ้มของอิฐผุดขึ้นทันทีก่อนจะตามร่างเล็กเข้ามา กีวี่กำลังจะเตรียมตัวไปที่ร้านแต่กลับหันมามองอิฐอย่างนิ่งๆ
“ถ้าไม่อยากไปสระผมที่ร้าน... วันนี้ฉันจะกลับมาสระให้ก็แล้วกัน”
“อะ ห๊ะ!! คะ คุณว่าไงนะครับ?”
“เห็นคุณไม่อยากไปสระผมที่ร้าน งั้นเย็นนี้ฉันปิดร้านแล้วฉันจะมาสระให้แล้วกัน โอเคไหมล่ะ?”
“อะ เออครับๆ ผมจะรอนะ”
“งั้นฉันไปก่อนนะ...”
“เดี๋ยวครับวี่” กีวี่หันไปมองอิฐที่เดินมาประชิดร่างเธอจนเธอเงยหน้าสบตาเขาที่ยิ้มให้ ใบหน้าหล่อก้มลงใกล้แก้มของเธอและบรรจงจูบลงไปที่แก้มนุ่มทันทีจนกีวี่ตกใจ ผลักอกแกร่งทันทีจนเขาเซนิดหน่อย
“กลับเร็วๆ นะครับ ผมจะรอ”
“อะ อืม” อิฐมองใบหน้าหวานที่แดงระเรื่อก่อนจะหมุนตัวเปิดประตูออกไป ร่างหนายิ้มไม่หุบกับสิ่งที่ตัวเองทำ เดินไปนั่งที่โซฟาทันทีก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ หยิบมือถือโทรสั่งลูกน้องให้ตามประกบร่างเล็กด้วย เพราะเขาไม่ไว้ใจไอ้ไฟนอลว่ามันคิดจะทำอะไรกีวี่อีกหรือเปล่า? อีกฝั่งกีวี่มาถึงร้านก็จัดการตัดชุดที่ลูกค้าสั่งทันที ก่อนจะเดินขึ้นไปที่ห้องของตัวเอง เงยหน้ามองรูปของแฟนซีขนาดใหญ่ที่แปะอยู่ ใบหน้าหวานเดินไปลูบภาพนั้นอย่างทะนุถนอม ตั้งแต่ที่เธอไปดูแลอิฐที่คอนโด เธอรู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้น ต่างจากที่อยู่ตัวคนเดียวเพราะไม่งั้น เธอจะมัวแต่นั่งร้องไห้และคิดถึงแต่แฟนซี แต่เมื่อได้อยู่กับเขา แน่นอนเขาทำให้เธอยิ้ม หัวเราะและลืมเรื่องราวที่ตัวเองไม่ควรคิดออกไป แต่สิ่งที่เธอยังคงไม่ลืมเลยคือแฟนซี... เขายังคงอยู่ในหัวใจของเธอ แต่ทำไมตอนนี้ความรู้สึกบางอย่างกำลังบดบังให้ความรู้สึกที่มีต่อแฟนซีเริ่มเลือนหายไปนะ กีวี่สับสนในใจตัวเอง
‘แฟนรักวี่นะ วี่ล่ะรักแฟนไหม?’
น้ำเสียงเข้มดังอยู่ข้างหูของกีวี่ ทำให้ร่างเล็กหันขวับไปทันทีก็พบแต่ความว่างเปล่า? เสียงที่สดใสและเข้มแบบนี้ แฟนซีชัดๆ ใช่... เสียงของแฟน ใบหน้าหวานถึงกับน้ำตาคลอทันที มองไปรอบๆ ห้องด้วยความว่างเปล่า ร่างเล็กทรุดตัวลงกับพื้นทันที
“แฟนใช่ไหม? วี่... รักแฟนนะ” เธอรักเขา แต่ทำไมหัวใจมันถึงได้รู้สึกแบบนี้กับ... อีกคนล่ะ? เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่นะ ร่างเล็กเช็ดน้ำตาของตัวเองก่อนจะลงไปทำงานต่อเพราะเย็นนี้เธอต้องกลับไปสระผมให้อิฐด้วย ซึ่งเขากลายเป็นคนแบบนี้ได้ไงก็ไม่รู้ ขี้งอนมากจนเธอต้องคอยง้อตลอด และมันก็เป็นทุกครั้งที่เธอจะต้องง้อ? เธอยังไม่เข้าใจตัวเองเลยว่า ทำไมจะต้องง้อเขาด้วย เฮ้อ
ด้านอิฐก็ใจจดใจจ่อตั้งหน้าตั้งตารอกีวี่ ที่เธอสัญญาว่าจะสระผมให้เขา... อีกอย่างเขาเองก็ต้องแกล้งเจ็บให้หนักด้วยเพราะว่าเธอจะได้อยู่กับเขา อิฐอยากให้เธออยู่กับเขานะ เพราะอย่างน้อยเธอก็จะได้ปลอดภัยด้วย ใบหน้าหล่อนั่งยิ้มอยู่ที่โซฟา พลางคิดถึงเวลาที่อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขจริงๆ แต่ไม่ทันที่อิฐจะเคลิ้มอะไรต่อ ประตูหน้าห้องก็ถูกเปิดเข้ามา โดยคนที่มาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน... แม่เขานั่นเอง
“อิฐ เป็นไงบ้างลูก?”
“พี่อิฐ เป็นไงบ้างคะ เจ็บไหม?” อิฐมองแม่ตัวเองและสิตาอย่างหงุดหงิดทันที ก่อนจะมองแม่ตัวเองที่จับแขนเขาดูไปมาอย่างเป็นห่วง
“แม่มาทำไม?”
“อ้าวไงพูดแบบนี้ล่ะอิฐ แม่เป็นห่วงแกนะ หนูสิตาก็ด้วยเนี้ย...” สิตายิ้มให้อิฐที่ถอนหายใจออกมา กลอกตาไปมาจนเธอรู้สึกว่าเขาจะไม่ชอบที่เธอมาแบบนี้ ทำไมกัน? เธอไม่เข้าใจว่าทำไมอิฐถึงต้องทำแบบนี้ด้วย ในเมื่อเธอก็เปิดเผยว่าชอบเขามากแค่ไหน อีกอย่างเรื่องของเราสองคนก็ต้องเป็นจริง เขาและเธอก็ต้องแต่งงานด้วยกันอยู่ดี... จะรังเกียจเธอได้ไงกัน!!
“ครับ ผมไม่เป็นอะไรมาก”
“แล้วทำไมถึงแขนหัก? ถ้าแม่ไม่เค้นถามลูกน้องเรา แม่จะรู้ไหมว่าแกเจ็บขนาดนี้”
“ก็ผมไม่ได้เป็นอะไรมาก แม่ไม่ต้องห่วงหรอกน่า” คุณหญิงอิสรามองลูกชายตัวเองที่ทำหน้าไม่พอใจที่เธอมา ลูกคนนี้มันยังไงกัน? แม่มาเยี่ยมแท้ๆ แถมยังพาคู่หมั้นอย่างสิตามาด้วย ยังจะมาทำหน้าแบบนี้อีก
“งั้น... ให้หนูสิตาอยู่ดูแล ดีไหม?”