ลิขิตรัก แสนเสน่หา EP.13 รักมาก (ก็) เกลียดมาก (2)

1240 คำ
“ที่คุณตัดสินใจถอนหมั้นวิวง่ายๆ แบบนั้น เพราะคุณมีผู้หญิงอื่นใช่ไหมค่ะคุณจอม” “ผมว่าคุณกลับไปซะดีกว่า แล้วก็เลิกยุ่งกับชีวิตผมเสียที อย่าให้ผมต้องประจานถึงความส่ำส่อนของคุณ ต่อหน้าพ่อแม่ของคุณเลยดีกว่า ออกไปจากชีวิตผมได้แล้ว” “...” มรกตตกใจจนหน้าซีดเผือด “ละเอียดอยู่แถวนี้ไหม” จอมพลเรียกสาวใช้ที่ยืนเช็ดกระจกอยู่ไม่ไกลให้เข้ามาหา “ค่ะคุณจอม” ละเอียดขานรับเจ้านายหนุ่ม แล้วรีบเดินเข้ามาในห้องโถง ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ด้านหลังโซฟาที่คุณท่านกับอดีตคู่หมั้นของเจ้านายหนุ่มนั่งอยู่ “ไปบอกเชิด ให้มาลากผู้หญิงคนนี้ออกไปจากบ้านฉัน นับจากนี้เป็นต้นไป ห้ามผู้หญิงคนนี้เข้ามาในบ้านฉันอีก ถ้ายังหน้าด้านโผล่มาหาฉันที่นี่อีก ไม่ว่าจะเป็นละเอียด ดาวเรืองหรือใครก็ตามที่อยู่ในคฤหาสน์วรานนท์ สามารถโยนผู้หญิงคนนี้ออกไปจากบ้านฉันได้เลย” จอมพลประกาศออกมาเสียงกร้าว แล้วหันไปมองอดีตคู่หมั้นสาวที่ตอนนี้อ้าปากค้าง เบิกตากว้างด้วยความตกใจกับคำสั่งของเขา มรกตตกใจจนหน้าซีดเผือดเพราะคำสั่งของจอมพล เพราะเธอนึกไม่ถึงว่าชายหนุ่มจะทำเรื่องร้ายกาจแบบนี้กับเธอได้ สั่งห้ามเธอไปหาที่โรงแรมครั้งหนึ่งแล้ว นี่เขายังสั่งห้ามเธอมาหาที่คฤหาสน์วรานนท์อีก นี่เขาจะจงเกลียดจงชังเธอไปถึงไหน เรื่องที่เธอนอกใจเขาไปมีอะไรกับผู้ชายอื่น เธอก็ยอมรับผิดและยอมรับการถอนหมั้นจากเขาแล้ว แค่นั้นก็น่าจะเพียงพอแล้ว การที่เขาออกคำสั่งแบบนี้ ก็เหมือนกับฆ่าเธอให้ตายทั้งเป็นนั่นแหละ นอกจากเธอไม่สามารถทำให้เขากลับมารักเธอได้เหมือนเดิม อนาคตข้างหน้าอาจส่งผลกระทบถึงธุรกิจของครอบครัวของเธอด้วย คุณพรรณรายก็ตกใจไปกับคำประกาศของบุตรชายด้วยเช่นกัน ท่านไม่คิดว่าเขาจะออกคำสั่งอะไรแบบนี้ เห็นทีความสัมพันธ์ของสองตระกูล คงเลวร้ายสุดๆ ก็คราวนี้แหละ “เข้าใจที่ฉันสั่งไหมละเอียด” “ละเอียดเข้าใจค่ะคุณจอม ละเอียดจะปฏิบัติตามคำสั่งของคุณจอมอย่างเคร่งครัด คุณจอมไม่ต้องเป็นห่วงเลยค่ะ” ละเอียดตอบเจ้านายหนุ่ม แล้วรีบลุกไปตามเชิดตามคำสั่งทันที ยิ่งผู้เป็นนายอารมณ์ไม่ดีแบบนี้ ขืนชักช้า อาจเป็นเธอก็ได้ที่จะถูกหมายหัว เผลอๆ อาจถูกหักเงินเดือนหรือไล่ออกก็เป็นได้ “ผมขอตัวก่อนนะครับคุณแม่” จอมพลหันมาบอกมารดา หลังจากที่สั่งสาวใช้ให้ไปตามเชิดมาพาอดีตคู่หมั้นสาวออกไปจากคฤหาสน์วรานนท์ จากนั้นก็เดินออกมาจากห้อง ขึ้นบันไดตรงไปยังห้องนอนของตัวเอง มรกตยังนั่งอึ้งอยู่ที่เดิม กระทั้งมารดาของอดีตคู่หมั้นหนุ่มสะกิดนั่นแหละ เธอถึงได้รู้สึกตัว ทว่าใบหน้าคมสวยยังคงซีดเผือดเพราะคำประกาศตัดเยื่อใยของอดีตคู่หมั้น “ป้าว่าหนูวิวกลับไปก่อนเถอะนะ เอาไว้ให้ตาจอมใจเย็นกว่านี้อีกหน่อย ป้าจะช่วยพูดให้อีกที” “ก็ได้ค่ะคุณป้า แต่คุณป้าต้องสัญญานะคะ คุณป้าต้องช่วยให้วิวกลับมาคืนดีกับคุณจอมนะคะคุณป้า” “ป้าจะลองดู ป้าว่าตอนนี้หนูวิวกลับไปก่อนเถอะ ไม่งั้นนายเชิดคงทำตามคำสั่งของตาจอมเป็นแน่” คุณพรรณรายเตือนสติอดีตคู่หมั้นของลูกชาย ท่านรู้ว่าจอมพลเป็นคนนิสัยยังไง ถ้าบอกว่าไม่ก็คือไม่ และจะไม่มีใครเปลี่ยนใจเขาได้ด้วย ท่านก็ได้แต่หวังว่าจอมพลจะไม่ทำอะไรที่เลวร้ายไปกว่านี้ “ถ้างั้นวิวขอตัวกลับก่อนนะคะคุณป้า” “จ้ะ” “วิวลาล่ะคะคุณป้า” มรกตเอ่ยลามารดาของอดีตคู่หมั้นหนุ่มพร้อมกับยกมือไหว้ แล้วลุกเดินออกมาจากห้องโถง เดินออกไปจากตึกใหญ่ แล้วขึ้นรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว เพราะเธอเห็นนายเชิดกำลังเดินแกมวิ่งมาทางหน้าตึก ///////// ประมาณทุ่มครึ่ง จอมพลขยับกายลุกจากเตียงนอนไปเปิดประตูห้องเพราะเสียงเคาะประตูห้องของเขาดังขึ้น เมื่อเขาเปิดประตูห้อง ก็พบว่าอรพิมลยืนยิ้มหวานอยู่นั่นเอง “มีอะไรหนูอร” “คุณป้าให้อรมาพาคุณจอมลงไปทานข้าวค่ะ” “หนูอรไปบอกคุณแม่ด้วยละกันว่าฉันยังไม่หิว” “คุณจอมดื่มเหล้าอยู่หรือค่ะ” อรพิมลถาม เมื่อจมูกสัมผัสได้ถึงกลิ่นเหล้า ใบหน้าเล็กเงยขึ้นมองร่างสูงใหญ่ที่ยืนพิงประตูห้องอย่างพิจารณา “เปล่า?” จอมพลรีบปฏิเสธทันควัน “แต่อรได้กลิ่นนี่ค่ะ ดื่มเหล้าตอนท้องว่างๆ จะเมาเร็วนะคะคุณจอม อรว่าคุณจอมลงไปทานข้าวก่อนดีไหมค่ะ แล้วค่อยขึ้นมาดื่มเหล้า” อรพิมลยังคงพูดต่อ นั่นเพราะเธอได้กลิ่นเหล้าที่โซยออกมาจากปากของคนตรงหน้าจริงๆ “รู้ดีนักนะเรา” จอมพลบ่นแล้วยิ้มให้ร่างเล็กตรงหน้า พร้อมกับยื่นมือไปขยี้ผมบนศีรษะเล็กอย่างเอ็นดู “พี่หญิงเคยบอกอรนะคะ ถ้าดื่มเหล้าตอนท้องยังว่าง จะเมาเร็ว” “โอเค. รอแป๊บล่ะกัน เดี๋ยวฉันเข้าไปล้างหน้าก่อน หรือหนูอรจะลงไปก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวฉันตามลงไป” “อรยืนรอคุณจอมตรงนี้ดีกว่าค่ะ” “งั้นก็ได้” “ค่ะ” คุณพรรณรายยิ้มเมื่อเห็นลูกชายกับเด็กสาวที่ท่านตัดสินใจรับมาเป็นอุปการะเดินเข้ามาในห้องอาหาร “ทำไมลงมาช้านักล่ะตาจอม แม่ให้หนูอรขึ้นไปตามตั้งนานแล้วนะ” “ผมติดธุระนิดหน่อยนะครับคุณแม่” “ช่างเถอะ ทานข้าวกันเลยดีกว่า นี่ก็เลยเวลาอาหารมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว” “ครับคุณแม่/ค่ะคุณป้า” หนึ่งหนุ่มใหญ่กับหนึ่งสาวน้อยพยักหน้าตอบผู้ใหญ่เพียงคนเดียวในคฤหาสน์วรานนท์ แล้วแยกกันเดินไปนั่งประจำที่ของตน เมื่อจอมพลกับอรพิมลนั่งประจำที่เรียบร้อยแล้ว คุณพรรณรายก็หันมาสั่งสาวใช้ตักข้าวทันที “ตักข้าวเลยดาวเรือง” “ค่ะคุณท่าน” ดาวเรืองรับคำผู้เป็นนาย แล้วตักข้าวใส่จานของเจ้านายทั้งสามทันที จากนั้นก็ขยับออกมายืนอยู่ไม่ไกลจากโต๊ะอาหารนัก เกือบหนึ่งชั่วโมงที่ทั้งสามนั่งทานอาหารและสนทนากัน บ้างตามประสาแม่ลูกและสมาชิกใหม่ของตระกูลวรานนท์ และส่วนมากบทสนทนาจะเกิดจากคุณพรรณรายกับบุตรชายซะมากกว่า โดยมีสมาชิกใหม่อย่างอรพิมลเป็นผู้รับฟังอยู่เงียบๆ หลังจากทานอาหารเสร็จคุณพรรณราย จอมพลและอรพิมลก็แยกย้ายกันกลับห้อง เพราะทุกคนต่างก็มีธุระส่วนตัวที่ต้องไปจัดการ คุณพรรณรายต้องเข้าห้องพระเพื่อสวดมนต์ก่อนนอน ส่วนจอมพลกลับห้องไปดื่มเหล้าต่อ ในขณะที่อรพิมลกลับขึ้นห้องไปเพื่อทำการบ้านที่อาจารย์ให้มาในวันนี้ ////////// ...โปรดติดตามตอนต่อไป...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม