พีรดาจอดรถหน้าบ้านหลังเล็กที่ปลูกท่ามกลางสวนผสมมีทั้งผลไม้พื้นเมืองที่ยังอนุรักษ์เอาไว้และแปลงพืชผักสวนครัว แปลงผักตามฤดูกาล หล่อนลดกระจกลงเล็กน้อยเมื่อมองเข้าไปด้านใน ก่อนจะหยิบโทรศัพท์เคลื่อนที่ขึ้นมาโทร แต่เสียงเคาะกระจกจากฝั่งตรงข้ามคนขับทำให้รีบหันไปมองพร้อมรอยยิ้มกว้างเมื่อเห็นคนเคาะชัด หล่อนรีบลดกระจกลง
“ขึ้นมาสิวินัย”
“ทำไมต้องไปที่อื่น ทำไมต้องหลบๆ ซ่อนๆ ครับคุณรดา”
“อีกแล้วนะ ขึ้นมาก่อนเถอะ” ทำเสียงกระเง้ากระงอดแล้วเอื้อมไปผลักประตูให้เปิดออก วินัยขึ้นมานั่งแล้วคาดเข็มขัดนิรภัยเหมือนอย่างคุ้นชิน พีรดาโน้มศีรษะเข้าไปใกล้แล้วหันมาหอมฟอดใหญ่ก่อนกดให้เขานอนหนุนตักหล่อน
วินัยรู้ว่าไม่ใช่หล่อนพิศวาสหรือคิดถึงเขาเสียเต็มประดา เพียงแต่หล่อนกลัวคนเห็นว่าเขานั่งรถไปกับหล่อนแม้ได้เสียเป็นเมียผัวกันมานานแล้ว แต่พีรดายังกลัวคนรู้เห็นอยู่ดี
“ทำไมครับคุณรดา ผมมันต่ำต้อยมากนักหรือถึงเปิดเผยไม่ได้ ผมพร้อมจะแต่งงานจะรับผิดชอบในตัวคุณรดานะครับ” วินัยถามอย่างคับแค้นใจและถามเช่นนี้ทุกครั้งเมื่อนัดเจอกัน
พีรดาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีอ่อนที่วันนี้วินัยสวมใส่ไปทำงานในออฟฟิศ แต่หลังจากเพียงออเข้าไปทำงานเต็มตัวแล้ววินัยจะเปลี่ยนไปเป็นฝ่ายบุคคลควบคุมคนงานทั้งหมดซึ่งเขายินดีและถนัดกว่างานตัวเลขมากนัก เชิ้ตสีอ่อนซึ่งพีรดาเป็นคนซื้อให้เนื่องในวันสำคัญวันหนึ่งถูกถอดด้วยมือหล่อนอย่างง่ายดาย เช่นเดียวกับที่วินัยกำลังปลดเปลื้องเสื้อผ้าให้พีรดาจนเหลือแต่ชุดชั้นในสีดำดูลึกลับน่าค้นหา แต่สำหรับเขามันไม่ลึกลับอีกต่อไปเพราะถอดทั้งสองชิ้นออกจากตัวหล่อนครั้งแล้วครั้งเล่า
พีรดาถอดเข็มขัดให้แล้วรูดกางเกงทั้งสองตัวลงไปกองที่ปลายเท้า วินัยยกเท้าขึ้นทีละข้างเพื่อสลัดอาภรณ์สองชิ้นสุดท้ายออกจากตัว แล้วรวบร่างพีรดามาอุ้มวางลงบนเตียง ก่อนจะตามลงไปเคล้าคลอเรือนร่างแล้วใช้ปากถอดชุดชั้นในทั้งสองชิ้นออกจากกายขาวโพลน แล้วครอบครองมันด้วยจังหวะรักที่ทำให้สาววัยสามสิบห้าครางกระเส่าฟังไม่ได้ศัพท์
“หรือเพราะผมอายุน้อยกว่าคุณรดาจึงไม่กล้าบอกคนอื่นว่าเรารักกัน” วินัยถามอีกครั้งเมื่อลงมานอนหอบกอดร่างชื้นเหงื่อของพีรดา หล่อนเหลียวมองเขาแล้วดึงเข้าไปจูบดูดดื่ม
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกวินัย ไม่ว่าเธอจะอายุน้อยกว่าหรือจนกว่าก็ไม่ใช่อุปสรรคความรักของเรา ดูสิรดายอมเป็นของเธอง่ายดายโดยไม่เรียกร้องอะไรเลยมันเพราะอะไรถ้าไม่ใช่ว่ารดารักเธอ แต่ที่ยังบอกใครไม่ได้เพราะรดาไม่มั่นใจว่าป้ากับน้องจะคิดยังไง คนอื่นๆ จะคิดยังไง ไม่มีใครว่ารดาแน่มีแต่จะว่าวินัยว่าตกถังข้าวสาร ปอกลอกสาวแก่อย่างรดา”
“ผมไม่แคร์เพราะไม่คิดจะปอกลอกอยู่แล้ว ผมมีงานมีเงินเก็บ ถึงแม้ไม่มากเท่าครอบครัวคุณรดา แต่ผมสามารถเลี้ยงดูคุณรดาให้สุขสบายได้ เราแต่งงานกันเถอะนะครับ”
“ไม่เอาไม่พูดเรื่องนี้ ทำอย่างนี้ดีกว่า” พีรดามักตัดบทเสียทุกครั้งที่วินัยพูดเรื่องแต่งงาน หล่อนพลิกมานั่งบนเอวเขา เคลื่อนสะโพกช้าๆ ให้เนื้อกายที่แนบชิดเสียดสี ปลุกเร้าให้เขาพร้อมสำหรับการร่วมรักอีกครั้ง และครานี้หล่อนจะเป็นคนควบคุมเกมนี้เอง การได้คุมเกมทั้งเชื่องช้าและเร่งเร้า จนร่างกายเร่าร้อนไปตามๆ กัน มันเป็นการปลดปล่อยพลังบางอย่างที่สุมอยู่ในตัวให้สลายไป
พีรดามองใบหน้าชื้นเหงื่อหายใจหอบเหนื่อยและครางกระเส่าขอให้ปลดปล่อยของวินัยอย่างผู้กำชัยชนะ ก่อนจะเคลื่อนสะโพกเบียดเนื้อกายรัวเร็วท่ามกลางเสียงคำรามต่ำในลำคอของคนเบื้องล่าง ก่อนจะแผดเสียงอย่างสุดกลั้นปลดปล่อยกระแสธารอุ่นจนร้อนเข้าตัวพีรดาจนรู้สึกได้ หล่อนเองก็เสียววาบตรงท้องจนตัวเกร็งขยับต่อไม่ไหว วินัยจึงยกสะโพกรัวๆ เพื่อช่วยให้หล่อนปลดปล่อยตามเขามา
ผ้าปูที่นอนข้างตัวถูกพีรดาขยุ้มจนยับย่น กัดริมฝีปากตนรู้สึกเจ็บยามกระสันเสียวจนต้องร้องครางยืดยาว
ความรู้สึกบอกเพียงออว่าที่นอนข้างตัวยุบยวบเพราะพีรวัสทิ้งตัวลงนอน แต่หล่อนยังคงตะแคงหันหลังให้เขาอยู่อย่างนั้น จนรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นจนร้อนรินรดหน้าผากจึงเอียงหน้ามอง ปลายจมูกแหลมๆ ของเขาลากเป็นทางตามแนวหน้าผากจนต้องหันกลับแต่พีรวัสจับคางหล่อนไว้แล้วจูบที่ริมฝีปาก บดเบียดรุนแรงจนรู้สึกแสบ เปลือกปากบางๆ ของหล่อนคงแตกซิบถ้าเขายังเบียดจูบรุนแรงขนาดนี้ จนต้องประท้วงด้วยการผลักออกเบาๆ
“หนีขึ้นมานอนทิ้งให้ผัวล้างจาน มันใช้ได้หรือยายหมาเน่า” พีรวัสพลิกตัวนอนหงายอย่างว่าง่าย
“ไม่ได้หนี ก็คุณพีล้างเองแล้ว จะให้ฉันทำอะไรอีก”
“คนช่วยทำงานเธอต้องขอบคุณ ต้องตอบแทนสิ ไม่ใช่หนีมานอนแบบนี้”
“ขอบคุณค่ะ” หล่อนรีบพูด
“แค่นี้เหรอ”
“ขอบคุณค่ะ” เพียงออพูดอีกครั้งพร้อมยกมือไหว้
“ไม่ใช่แบบนี้”
อะไรวะ แล้วแบบไหนถึงจะพอใจละ เพียงออแค่คิดในใจ แต่สายตาที่ตวัดมองคงทำให้พีรวัสพอเดาออกว่าหล่อนคิดอะไรอยู่ พีรวัสจิ้มที่ริมฝีปากตัวเองแล้วบอก
“จูบด้วย”
เอาจริงรึ อย่าคิดว่าเพี้ยงไม่กล้านะทูนหัว เพียงออกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ ก่อนจะพลิกตัวใช้ข้อศอกค้ำไว้บนที่นอน ก้มลงไปทาบริมฝีปากตนเองกับริมฝีปากสวยได้รูปของพีรวัส คนอะไรปากสวยน่าจูบที่สุดเพราะเขาไม่สูบบุหรี่ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงให้ริมฝีปากคล้ำและเหนือสิ่งอื่นใดเขาคือคนที่หล่อนรักมาตั้งนานแล้ว
แต่ริมฝีปากยังไม่ทาบสนิทพีรวัสก็ผลักหล่อนออกห่างเสียแล้ว
“ฉันไม่ใช่พี่พงศ์ แล้วก็ไม่ชอบกินเดนคนอื่น” แถมด้วยดันอีกฝ่ายให้ขยับออกไปห่างๆ แล้วดึงหมอนข้างมาวางกั้นตรงกลาง ก่อนออกคำสั่ง
“นอน”
เออค่ะ นอนก็นอน คนบ้าอะไรเอาใจยากชะมัด